Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 317
ตอนที่ 317 พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติ
กว้ากกกก!
กองทัพวานรปีศาจร้องคํารามออกมาเสียงดังสนั่น เกาะลอยนทั้งหมดสั่นสะเทือน ในขณะที่ออร่าและเสียงคํารามของพวกมันระเบิดดังผ่านอากาศ
หวังเสียนหรี่ตาลงเล็กน้อยในขณะที่เขากําลังมุ่งหน้าไปยังใจกลางของเกาะในสวนยาจิตวิญญาณ ตรงจุดที่กลุ่มของโม่ชิงหลงอยู่
ที่ด้านหลังของเขา อ๋าวฉีเทียน ถือกระบองทองขนาดยาว 5-6 เมตรวางอยู่บนไหล่ เดินตามหวังเสียนมาด้วยท่าทางที่ดุร้าย
“นั่นมันเสียงอะไร!”
ในสวนยาจิตวิญญาณ ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณจากตระกูลเล่ย สํานักพายุเทพและสํานักเฟิงเฉิน รู้สึกตกใจกันเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าของพวกเขานั้นเปลี่ยนสีไปในทันที เมื่อได้ยินเสียงคํารามของเหล่ากองทัพวานรปีศาจ
พวกเขาค่อนข้างที่จะรู้สึกวิตกกังวลและหันมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังตัว
“ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเสียงคํารามของสัตว์อสูร! และพวกมันยังมีเป็นจํานวนมากอีกด้วย!” ชายชราคนหนึ่งพูดออกมาอย่างตื่นตระหนก
“อะไรนะ? อย่าบอกนะว่ามีสัตว์อสูรเข้ามาบนเกาะลอยน้ําแห่งนี้แล้ว!” “พวกมันอาจจะร้องคํารามอยู่กลางทะเลก็ได้! มันจะขึ้นมาบนเกาะได้อย่างไร!”
“แล้วพวกเจ้าคิดว่ารอยเท้าที่อยู่บนเกาะแห่งนี้เล่า… มันเป็นรอยเท้าของมนุษย์หรืออย่างไร!”
“ถ้าอย่างนั้น…มัน…มันจะเป็นสัตว์อสูรตัวเดียวกันกับที่มันทําลายล้างสํานักโบราณแห่งนี้จริงๆอย่างนั้นเหรอ?”
เนื่องจากในเวลานี้นั้นเป็นยามวิกาลนอกเหนือจากแสงสว่างของดวงจันทร์ที่สาดส่องทะลุก้อนเมฆมายังพื้นที่บางส่วนแล้ว บริเวณโดยรอบก็ยังมืดมิด ยิ่งในท้องทะเลด้วยแล้วยิ่งมืดจนดําสนิท
เกาะลอยน้ําที่อยู่โดดเดี่ยวกลางท้องทะเลท่ามกลางราตรีกาลที่เงียบเชียบเช่นนี้ ทําให้บรรยากาศดูวังเวงจนน่าขนลุกเลยทีเดียว
เมื่อมองออกไปบริเวณโดยรอบที่ไม่มีแสงจันทร์สาดส่องลงมาเพราะถูกก้อนเมฆบดบัง ทําให้พวกเขารู้สึกอยู่ท่ามกลางเหวลึกอันมืดมิด โดยเฉพาะเมื่อมีสายลมพัดผ่านร่างกายเบาๆ ทําให้ชาวยุทธหลายคนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวและหนาวสั่นสะท้านกันขึ้นมาในทันที
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเสียงคํารามของกลุ่มสัตว์อสูรในก่อนหน้านี้ จึงทําให้จอมยุทธหนุ่มหลายคนนั้นรู้สึกตัวแข็งค้างจนแทบจะกลายเป็นหินไปเลยทีเดียว
“ขะ…ข้ารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกําลังใกล้เข้ามา!” ผู้อาวุโสระดับก่อกําเนิดลมปราณคนหนึ่ง ตะโกนออกมาด้วยน้ําเสียงตะกุกตะกัก พร้อมกับรีบหันมองไปทางด้านหลังของเขาในทันที
“มัน!…พวกมัน! ไม่ได้มากันเพียงแค่ตัวเดียว! แรงสั่นสะเทือนขนาดนี้อย่างน้อยต้องมีหลายร้อยตัวอย่างแน่นอน!” ชายชราคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทางวิตกกังวล
“อะไรน้าา..!?” เหล่าสาวกที่เหลือร้องตะโกนกันออกมาด้วยความตกใจพวกเขาต่างหันไปมองทางทิศเดียวกันด้วยความตื่นตระหนก
มันไม่ใช่ว่าพวกเขานั้นขี้ขลาดตาขาวหรือเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอ แต่เพราะประสบการณ์ที่พวกเขาได้พบเจอมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นยักษ์มัจฉาหลายสิบตัวที่พวกเขานั้นได้เห็น แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวที่อยู่ใต้ท้องทะเลก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาที่เกาะ และแม้แต่รอยเท้าสัตว์อสูรขนาดยักษ์ที่ถล่มกวาดล้างสํานักโบราณบนเกาะลอยน้ําแห่งนี้จนพินาศย่อยยับ เมื่อรวมกับหลายปัจจัยที่พวกเขาได้รับรู้มาก่อนหน้านี้แล้วนั้น มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะต้องรู้สึกหวาดกลัวกันมากกว่าปกติ
แล้วยิ่งในตอนนี้เสียงร้องคํารามอันน่าหวาดกลัวนั้นเขายังดังขึ้นมาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนของบางสิ่งบางอย่างที่กําลังมุ่งตรงมาทางพวกเขา!
แล้วมันจะไม่ทําให้พวกเขานั้นเกิดความหวาดกลัวได้อย่างไร!
“ฮ่าๆๆ! อย่างที่ข้าได้พูดเอาไว้! ว่าพวกเจ้าทุกคนจะต้องตายยยย! ฮ่าๆๆ!” เสียงของโม่ชิงหลง, โม่หยวนและอสูรที่ 15 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและกําลังนอนอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มของทั้งสามกองกําลัง หัวเราะกันออกมาอย่างอื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงร้องคํารามที่คุ้นเคยเหล่านั้น
ในขณะนี้พวกเขาพยายามฝืนทนแบกรับความเจ็บปวด พยุงร่างกายของพวกเขาลุกขึ้นนั่งอย่างอ่อนแรง
ขณะที่พวกเขากวาดสายตามองไปยังทั้งสามกองกําลังด้วยสายตาเย็นชา และยิ้มเยาะออกมาพร้อมกับเลือดที่ยังไหลออกมาจากปากของพวกเขาเนื่องจากอาการบาดเจ็บอย่างสาหัส
“ไอ้พวกลูกเต่า! หุบปากซะ!” ชายชราผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณตะโกนออกมาด้วยความโมโห เขาแกว่งแขนพร้อมกับส่งพลังเป็นลูกฝ่ามือกระแทกไปยังกลุ่มของโม่ชิงหลง อย่างรุนแรง
ตูมมมม!ตูมมมม!
อ๊อกกก! พร็วดดด!
กลุ่มของโม่ชิงหลงกระเด็นออกไปไกล 7-8 เมตร พร้อมกับมีเลือดพุ่งออกมาจากปากของพวกเขาเหมือนกับน้ําพุ ก่อนที่พวกเขาจะล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ
หากว่าพวกเขานั้นไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งและอัตราการฟื้นตัวที่ค่อนข้างสูงของสายเลือดมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกร พวกเขาทั้งสามคนคงจะเสียชีวิตกันไปนานแล้ว!
“ฮึ! ไอ้พวกสวะ! แกคิดว่าพวกข้านั้นกลัวสัตว์อสูรพวกนั้นมากอย่างนั้นรึ? ต่อให้สัตว์อสูรทะเล พวกนั้นจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่เมื่ออยู่บนบกความสามารถของพวกมันก็ต้องลดลงไปมากอย่างแน่นอน!” ชายชราระดับก่อกําเนิดลมปราณขั้นสูงสุด ชักดาบยาวที่ส่องแสงสว่างเหมือนกับดาบเลเซอร์ของเขาออกมาอย่างมั่นใจ
เมื่อกลุ่มผู้นาของพวกเขานั้นแสดงความมั่นใจออกมา เหล่าสาวกที่เหลือของทั้งสามกองกําลังต่างก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก พวกเขาต่างชักอาวุธของพวกเขาออกมาและเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ที่กําลังจะเกิดขึ้น
กว๊ากกกกก!
เสียงร้องคํารามอันน่าหวาดกลัวดังขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้เสียงนั้นอยู่ใกล้กับกลุ่มของพวกเขาเป็นอย่างมาก
แรงสั่นสะเทือนของสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
เหล่าสาวกหลายร้อยคนจากทั้ง 3 กองกําลัง ต่างกําอาวุธในมือของพวกเขาแน่นและจ้องมองไปยังทิศทางที่สิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่กําลังมุ่งตรงมาทางพวกเขาด้วยความวิตกกังวล
ตึงงตึงงตึงง!
” พวกมันมาแล้ว!”
“เตรียมตัวป้องกันเอาไว้ให้ดี! พวกมันกําลังจะมาถึงแล้ว!”
กลุ่มชาวยุทธหลายคนตะโกนกันออกมาเสียงดัง ในขณะที่แรงสั่นสะเทือนของสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่กําลังจะโผล่มาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
เหล่าชาวยุทธจ้องมองฝ่าความมืดออกไป ในทันใดนั้นเบื้องหน้าของพวกเขาก็ปรากฏเงาดําขนาดใหญ่กําลังตรงเข้ามาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ฟู่วว!
ชายชราระดับก่อกําเนิดลมปราณคนหนึ่งโบกแขนและส่งเปลวเพลิงไปที่อากาศตรงเบื้องหน้าของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น
บรึ้มมม!
เปลวไฟระเบิดขึ้นกลางอากาศเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจน
เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่หลายร้อยตัวอยู่ตรงหน้า ดวงตาของพวกเขานั้นต่างเบิกกว้างด้วยความตกใจและตื่นตระหนก
ภายใต้การส่องสว่างของเปลวไฟ สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์แต่ตัวของพวกมันนั้นใหญ่กว่ามาก พวกมันอยู่ห่างจากพวกเขาประมาณ 500 เมตร และเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้าๆ
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้นั้นมีส่วนสูงเกินกว่า 2 เมตรกันทุกตัว และตัวที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าสุดมีส่วนสูงประมาณ 6 เมตร
ร่างกายของพวกมันทั้งหมดมีเปลวไฟสีดําทมิฬลุกโชนออกมาอยู่รอบๆตัว
ดวงตาสีแดงเหมือนเปลวไฟ ปากที่อ้ากว้างจนเหมือนกับปีศาจจากขุมนรกที่กําลังแสยะยิ้มมีเขียวขาวยาวใหญ่โผล่ออกมา กรงเล็บของพวกมันแต่ละตัวนั้นยาวเกือบ 1 เมตร และในขณะนี้พวกมันยืนอยู่กันอย่างเป็นระเบียบเหมือนกับกองทัพทหารที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี
สิ่งนี้ทําให้เหล่าสาวกทั้งสามกองกําลังต่างตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“อะ..อะไร!…พวก..พวกมันคือตัวอะไร?” ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกําเนิดลมปราณคนหนึ่งปากสั่นดวงตาเหม่อลอย และพูดพึมพําออกมาเหมือนคนเสียสติ
สิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวพวกนี้มีจํานวนมากกว่าพวกเขาทั้งสามกองกําลังรวมกันเกือบ 3 เท่า
“สัตว์อสูรพวกนี้นั้นเหมือนกับลิงเป็นอย่างมาก!” ชายชราระดับก่อกําเนิดลมปราณคนหนึ่ง แสดงความคิดเห็นออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวพร้อมกับกําอาวุธในมือจนแน่นด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
“อย่าเพิ่งตื่นตกใจกันไป! ตั้งสติกันเอาไว้ให้ดี สัตว์อสูรพวกนี้น่าจะเป็นวานรทะเล!” ชายชราผู้นำตระกูลเล่ย พยายามพูดปลุกปลอบขวัญและเตือนสติเหล่าสาวกของทั้งสามกองกําลัง
ในขณะที่หวังเสียนเดินนํากลุ่มกองทัพวานรปีศาจของเขาเข้ามาใกล้ในระยะ 200 เมตร เขา ก็สังเกตเห็นโม่ชิงหลง, โม่หยวนและอสูรที่ 15 นอนหายใจรวยรินอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มเหล่าชาวยุทธพวกนั้น
“อิ่มมม! เป็นพวกเจ้าใช่หรือไม่ที่ทําร้ายคนของข้า!” หวังเสียน ถามกลุ่มกองกําลังทั้งสามด้วยน้ําเสียงที่หนาวเย็น
ในขณะนี้เหล่าชาวยุทธทั้งสามกองกําลัง เพิ่งจะสังเกตุเห็นหวังเสียนที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มของเหล่าวานรปีศาจ พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“มี…มีคนอยู่ตรงนั้นด้วย?”
“คนผู้นี้นั้นเป็นผู้นําของสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ยังนั้นรึ?”
สิ่งที่ไม่รู้จักและไม่สามารถคาดเดาได้นั้นย่อมน่ากลัวเสมอ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่สามารถควบคุมสัตว์อสูรกลุ่มใหญ่ให้คอยทําตามคําสั่งของเขาได้เช่นนี้
ชายชราผู้นําตระกูลเล่ย กวาดสายตามองกองทัพวานรปีศาจอย่างหวาดกลัว ก่อนที่เขาจะหันไปมองหวังเสียน พร้อมกับประสานมือคารวะทักทายเขาอย่างเป็นมิตร
“คารวะท่านจอมยุทธหนุ่ม ข้าคือผู้นําของตระกูลเล่ย ไม่ทราบว่าพวกข้านั้นได้กระทําสิ่งใดให้ท่านจอมยุทธได้เกิดความขุ่นข้องหมองใจด้วยเหตุอันใด แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็แล้วแต่ พวกข้าคงต้องขออภัยท่านจอมยุทธหนุ่มเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย แต่ข้านั้นเชื่อว่ามันต้องเกิดความเข้าใจผิดระหว่างพวกเราอย่างแน่นอน!” ชายชราพูดกับหวังเสียน ด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม
“ฮึ: ข้าถามว่าใครเป็นคนทําร้ายคนของข้า!” หวังเสียน ถามขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่สนใจชายชราจากตระกูลเล่ย เลยแม้แต่น้อย คราวนี้เขาพูดด้วยน้ําเสียงที่ต่ําพร้อมกลิ่นอายสังหารที่แผ่ออกมาจนน่าขนลุก
ด้วยคําสั่งที่ส่งผ่านไปทางจิตวิญญาณวานรปีศาจ 3 ตัวก็กระโดดไปยังกลุ่มของโม่ชิงหลงและอุ้มพวกเขากลับมาหาหวังเสียนอย่างรวดเร็วจนแทบจะมองตามไม่ทัน
“แค่กๆ..แค่กๆๆ! นายท่านคนพวกนี้นั้นได้รวมกําลังก่อตั้งเป็นพันธมิตรกันขึ้นมา และได้ช่วยกันรุมโจมตีพวกเราขอรับ!” โม่ชิงหลงรายงานกับหวังเสียนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว พร้อมกับกระอักเลือดออกมา ส่วนโม่หยวนและอสูรที่ 15 ในตอนนี้พวกเขานั้นบาดเจ็บหนักจนหมดสติกันไปแล้ว
“อืม!” หวังเสียน พยักหน้ารับอย่างเคร่งขรึม เขายกมือขึ้นและส่งพลังชีวิตแห่งธาตุไม้ เข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บของทั้งสามคนในทันที
อาการบาดเจ็บของโม่ชิงหลง, โม่หยวนและอสูรที่ 15 ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด
“ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าเคยพูดเอาไว้ว่าจะแบ่งปันทรัพยากรที่ได้มาตามความแข็งแกร่งใช่หรือ ไม่?” หวังเสียน พูดออกมาในขณะที่เขาจ้องมองไปยังทั้งสามกองกําลังนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา
“แต่ดูเหมือนว่าพวกเจ้านั้นจะเปลี่ยนกฎเล็กน้อยใช่หรือไม่? ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะปฏิบัติตามกฎของพวกเจ้าดีหรือไม่?” หวังเสียน พูดเสริมออกมา
“ห้ะ?…เอ่อ!” เหล่าชาวยุทธทั้งสามกองกําลังขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที
ผู้อาวุโสของสํานักพายุเทพครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพยายามตีสีหน้ายิ้มแย้มและพูดออกไปว่า “ท่านจอมยุทธนั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มีคุณสมบัติมากพอที่จะแบ่งปันทรัพยากรทั้งหมดนี้อย่างเท่าเทียมกับพวกเราอีกสามกองกําลัง!”
“ถูกต้อง! ท่านจอมยุทธหนุ่ม ท่านสามารถแบ่งปันทรัพยากรทั้งหมดนี้กับพวกเราได้อย่างเท่าเทียม!” ผู้อาวุโสในกลุ่มกองกําลังต่างพูดเสริมออกมา
“ใช่! พวกเราทั้งสามกองกําลังยินดีที่จะให้ท่านจอมยุทธหนุ่มได้เป็นฝ่ายเลือกทรัพยากรในส่วนของท่านได้ก่อน!” เหล่าผู้อาวุโสที่เป็นตัวแทนของทั้งสามกองกําลังต่างพูดจาสนับสนุนออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ฮึ! พวกเจ้าพูดได้ถูกต้องที่ว่าข้านั้นมีความสามารถมากพอที่จะได้รับสมบัติบนเกาะ ลอยน้ําแห่งนี้! แต่ว่า…พวกเจ้านั้นไม่มีคุณสมบัติ!” หวังเสียน พูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา ก่อนที่เขาจะยกมือและสั่งกองทัพวานรปีศาจในทันที “ฆ่าพวกมันให้หมด!”
โออ๊กกกกก!
หลังจากที่หวังเสียนพูดจบประโยค อ๋าวฉีเทียน ก็เงยหน้าขึ้นฟ้าและร้องคํารามออกมาเสียงดังกระบองโลหะสีทองที่อยู่บนไหล่ของมันกระแทกลงบนพื้นจนพื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนกับแผ่นดินไหว
ตูมมมม!
ด้วยเสียงคํารามและเสียงกระบองโลหะกระแทกลงพื้น มันเป็นเหมือนกับเสียงสัญญาณการออกรบ ดวงตาของเหล่ากองทัพวานรปีศาจเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเลือดในทันที พวกมันคํารามเสียงต่ําๆออกมาพร้อมกันเป็นภาษามนุษย์ “ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
หลังจากนั้นเปลวไฟนรกก็ลุกโชนออกมาจากร่างกายของพวกมันพร้อมกับกลิ่นอายสังหารอันเข้มข้น
บรูมมมม!
เงาสีดํานับร้อยพุ่งทะยานตรงเข้าไปโจมตีทั้งสามกองกําลังอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้าแสบ!
จบบท