Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 291

ตอนที่ 291 ความหวาดกลัวของเหล่าชาวยุทธ!

.

สำนักหลอมวิญญาณ รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมากพวกเขากำลังจะสามารถจับสุนัขอสูรจิตวิญญาณได้อยู่แล้ว

แต่ในฉับพลันกลุ่มคนพวกนี้ก็โผล่ออกมาจากก้นทะเลสาบในจุดที่กลุ่มสาวกของสำนักหลอมวิญญาณกำลังวางกรอบโอบล้อมสุนัขอสูรจิตวิญญาณตัวนี้อยู่จึงทำให้มันสามารถหลบหนีออกไปได้

กลุ่มคนที่โผล่ออกมาในครั้งนี้มีมากถึงสิบคนด้วยกัน

ในตอนนี้เหล่าสาวกของสำนักหลอมวิญญาณรู้สึกขุ่นเคืองและเดือดดาลกลุ่มคนทั้งสิบเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะสังหารคนกลุ่มนี้ในทันที

ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณของสำนักจ้องมองไปยังคนทั้งสิบด้วยสายตาที่เย็นชา กลิ่นอายสังหารแผ่กระจายออกมาจากรอบๆตัวของเขา “พวกเจ้ากล้าต่อต้านสำนักหลอมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา! พวกเจ้าทุกคนจะต้องถูกลงโทษ!”

คนทั้งสิบที่สวมหน้ากากสีดำทมิฬดูแล้วอันตรายและกระหายเลือดเป็นอย่างมาก กลิ่นคาวเลือดยังคงคละคลุ้งออกมาจากตัวของพวกเขา

แต่คนของสำนักหลอมวิญญาณก็ไม่ได้หวาดกลัวพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากกลุ่มชายสวมหน้ากากเหล่านี้นั้นมีกันเพียงแค่สิบคนเท่านั้น

“เฮ้! เพื่อนชาวยุทธที่สวมหน้ากากและไม่กล้าเปิดเผยใบหน้า พวกเจ้าต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเจ้า หากว่าพวกเจ้าไม่มีคำอธิบายที่ดีพอทะเลสาบตงหลิงแห่งนี้จะเป็นหลุมฝังศพของพวกเจ้า!” ชายชราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ชายชราคนนั้นถือลูกแก้วจิตวิญญาณเอาไว้ในมือพร้อมกับจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังเสียน ด้วยท่าทีที่คุกคาม

เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราจากสำนักหลอมวิญญาณ หวังเสียน, โม่ชิงหลง, โม่หยวนและเหล่านักรบมังกรทั้งเจ็ด จ้องเขม็งมองไปยังกลุ่มคนของสำนักหลอมวิญญาณกันในทันที

“พวกเจ้าทั้งหมดทุกคนจงถอดหน้ากากออกให้พวกเราได้เห็นใบหน้าและยอมรับการลงโทษจากพวกเราเสียโดยดี!” สาวกของสำนักหลอมวิญญาณตะโกนออกมา พร้อมกับตรงเข้าไปหมายโจมตีกลุ่มของหวังเสียน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การที่เข้าไปโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนนั้นถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎเกณฑ์ของโลกยุทธภพเป็นอย่างมาก

“ผู้ที่สร้างปัญหาให้กับสำนักหลอมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราจะต้องถูกลงโทษ!” เหล่าสาวกของสำนักหลอมวิญญาณตะโกนออกมา

“สำนักหลอมวิญญาณตั้งใจจะโจมตีกลุ่มชายสวมหน้ากาก! พวกเรารีบถอยกันออกไปก่อนเถอะ!” เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบ เริ่มแตกตื่นเนื่องจากพวกเขากลัวได้รับลูกหลงจากการต่อสู้

ตูมม! ตูมม! ตูมม!

แต่ในทันใดนั้นเองเงาสีดำอีกประมาณยี่สิบร่างก็พุ่งทะยานออกมาจากก้นทะเลสาบอย่างรวดเร็ว

เหล่าชาวยุทธสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันหนาวเย็นและสิ้นหวังที่เกิดจากกลุ่มคนที่พึ่งพุ่งทะยานขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ สภาพของหญิงชราที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มนั้นค่อนข้างจะดูน่าอนาถเป็นอย่างมาก

แต่แรงกดดันอันทรงพลังของพวกเขานั้นก็แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวมากเลยทีเดียว

“กลุ่มมือสังหารแห่งองค์กรอเวจีทมิฬ ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้านั้นต้องพบกับความวิบัติ ต่อให้ในวันนี้องค์กรมือสังหารมนต์ดำของพวกข้าจะถึงคราวต้องล่มสลายลงไป และต่อให้เป็นผีในนรกข้าก็จะจองเวรพวกเจ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!”

เสียงกรีดร้องและคำสาปแช่งของหญิงชราดังออกมาอย่างเคืองแค้น น้ำเสียงและท่าทางของเธอนั้นทำให้เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบรู้สึกหวาดกลัวและหนาวสั่นจนไปถึงไขกระดูก

ก่อนหน้านี้วงเวทย์อาคมที่คอยปกป้องฐานที่ตั้งขององค์กรมือสังหารมนต์ดำได้เสียหายทำให้น้ำในทะเลสาบไหลท่วมฐานที่ตั้งองค์กรมือสังหารมนต์ดำจนพังยับเยิน

และในขณะเดียวกันโม่ชิงหลง, โม่หยวนและเหล่านักรบมังกร ก็ได้ทำการไล่ล่าสังหารและกวาดล้างคนขององค์กรมือสังหารมนต์ดำที่อยู่ใต้น้ำจนเกือบจะหมดทั้งองค์กร

ในเวลาภายในไม่กี่นาทีเหลือเหล่าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำเพียงแค่ยี่สิบคนเพียงเท่านั้น

นี่จึงถือได้ว่าเป็นจุดจบขององค์กรมือสังหารมนต์ดำของพวกเขาอย่างแท้จริง

ในบรรดาชายสวมหน้ากากทมิฬทั้งสิบคน คนที่แข็งแกร่งมากที่สุดนั่นก็คือหวังเสียน ความแข็งแกร่งของเขานั้นสามารถจัดการกับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งขององค์กรมือสังหารมนต์ดำที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว!

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะไม่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้อย่างไร

หลังจากที่สถานที่ตั้งของกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำพังทลายลง กลุ่มชายสวมหน้ากากทั้งสิบคนก็ยังสังหารคนขององค์กรมือสังหารมนต์ดำไปอย่างมากมาย

ก่อนที่ชายสวมหน้ากากทั้งสิบคนจะออกมายังด้านนอกของทะเลสาบ

กลุ่มมือสังหารขององค์กรมนต์ดำที่สูญเสียฐานที่ตั้งและเหลือสมาชิกเพียงแค่ยี่สิบคน พวกเขาไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกต่อไป จึงต้องรีบหลบหนีออกมาจากด้วยเช่นเดียวกัน

“ใครก็ตามที่บังอาจยั่วยุและล่วงเกินคนของพวกเราจะต้องถูกทำลาย พวกเจ้าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำทั้งหมดที่เหลือก็จะต้องถูกส่งไปที่นรกด้วยเช่นเดียวกัน!” โม่หยวนหันไปพูดกับเหล่าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำพร้อมกับรังสีฆ่าฟัน

กลุ่มมือสังหารทั้งยี่สิบคนที่เหลือขององค์กรมือสังหารมนต์ดำมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสี่คน ที่เหลือคือระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ

“ฮ่าๆๆ! ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าองค์กรมือสังหารมนต์ดำของพวกเราที่มีชื่อเสียงมากว่าครึ่งศตวรรษจะถูกทำลายลงโดยองค์กรมือสังหารอเวจีที่เพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นานมานี้ ฮ่าๆๆ !” เหล่าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำพูดและหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันในโชคชะตาของพวกตน

“พวกข้าจะส่งพวกเจ้าไปที่นรก!” กลุ่มนักรบมังกรพุ่งตัวออกมาด้วยความเร็ว พร้อมกับโม่ชิงหลงและโม่หยวน

เหล่าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำที่รอดชีวิต ไม่แสดงอาการต่อต้านใดๆ พวกเขายอมแพ้และไม่ต้องการที่จะต่อสู้ พวกเขารู้ว่ากลุ่มชายสวมหน้ากากพวกนี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ยิ่งพวกเขาต่อสู้และดิ้นรนพวกเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งทุกข์ทรมานเพิ่มมากขึ้นมากเท่านั้น

ฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขานั่นก็คือยืนรอรับความตายอย่างสงบ เพื่อที่จะได้ตายไปอย่างรวดเร็ว!

บางคนในกลุ่มเขาพวกเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า และหัวเราะออกมาเหมือนคนวิกลจริต

“ฮ่าๆๆ! ถึงแม้ว่าพวกข้านั้นจะต้องตาย ข้าก็จะจองเวรพวกเจ้าตลอดไป!” เหล่าสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำร้องตะโกนกันออกมา

พวกเขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความกระหายเลือดและแรงอาฆาตของพวกเขาแผ่กระจายไปทั่วบริเวณจนน่าขนลุก

จนทำให้เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบรู้สึกเสียวสันหลังกันขึ้นมาในทันที

บรูมมมมม!

ในไม่ช้าเราสาวกขององค์กรมือสังหารมนต์ดำ ก็ถูกสังหารอย่างรวดเร็ว เลือดและเศษซากศพของพวกเขากระจัดกระจายและลอยอยู่ทั่วทะเลสาบดูแล้วน่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง

“นี่!…มันยังไงกันแน่?” กลุ่มชาวยุทธรู้สึกตกใจและสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันเป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่น่าหวาดกลัวทั้งยี่สิบคน ถูกกลุ่มชายสวมหน้ากากทั้งสิบคนสังหารลงอย่างง่ายดาย….

พวกเขายังสังเกตเห็นว่ากลุ่มคนทั้งยี่สิบคน มีความสิ้นหวังและเครียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าเพราะพวกเขานั้นเต็มใจที่จะตาย แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกลุ่มชายสวมหน้ากาก ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณและระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณอยู่เป็นจำนวนมากก็ตามที

กลุ่มคนที่น่าหวาดกลัวพวกนี้นั้นเป็นใครกัน? ถึงสามารถทำให้องค์กรมือสังหารมนต์ดำเหล่านี้ ยอมรับความตายโดยที่ไม่คิดจะต่อสู้เลยแม้แต่น้อย!

อึก!

เหล่าสาวกและผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณของสำนักหลอม วิญญาณ กลืนน้ำลายลงคอกันอย่างยากลำบาก ในตอนนี้พวกเขารู้สึกค่อนข้างที่จะหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก

พวกเขาสามารถรับรู้ได้ว่ากลุ่มคนทั้งยี่สิบคนที่พึ่งถูกสังหารลงไปนั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน กลุ่มคนพวกนั้นสามารถสังหารคนของสำนักหลอมวิญญาณของพวกเขาได้อย่างไม่ยากเย็น

เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบทั้งหมดต่างมองไปยังกลุ่มชายสวมหน้ากากทั้งสิบ ด้วยความตกตะลึง

“เอ่อ!…ก่อนนี้…ก่อนหน้านี้…ดูเหมือนว่าหญิงชราคนนั้นจะบอกว่าพวกเขานั้นคือกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำ…ใช่หรือไม่?” ชาวยุทธบางคนพูดออกมา

“อือ!…น่าจะใช่! คนพวกนั้นน่าจะต้องเป็นกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำอย่างแน่นอน!’

“จากที่ข้าได้ยินพวกเขาพูดคุยกันเมื่อสักครู่นี้! รู้สึกว่ากลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำของพวกเขาเพิ่งจะถูกกวาดล้างโดยชายสวมหน้ากากกลุ่มนี้นะ!”

“องค์กรมือสังหารมนต์ดำถูกกวาดล้าง!….มัน…มันจะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาคือองค์กรมือสังหารระดับต้นๆของโลกยุทธภพเลยนะนั่น! แม้แต่สำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ยังไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เลย!” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดออกมาด้วยเสียงสูง

เมื่อทุกคนต่างได้ข้อสรุปในใจกันแล้ว ใบหน้าของชาวยุทธทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างแสดงออกถึงความตื่นตระหนกตกใจกันอย่างถ้วนหน้า

องค์กรมือสังหารมนต์ดำถูกทำลายลงแล้ว!

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทุกสายตาจ้องมองและมุ่งความสนใจไปยังกลุ่มชายสวมหน้ากากทั้งสิบ

“หน้ากากสีดำทมิฬ!….ข้าจะส่งพวกเจ้าไปที่นรก! พวกเขาเป็นนักฆ่าแห่งอเวจีไม่ใช่เหรอ? คนพวกนี้นั่นคือทูตอเวจีแห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ!”

“ไม่ผิดแน่! ชายสวมหน้ากากเหล่านี้นั้นเป็นคนของกลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬอย่างแน่นอน พวกเขาเพิ่งสร้างชื่อเสียงอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาในโลกยุทธภพเมื่อไม่นานมานี้!”

“ช่างแข็งแรงจนน่าหวาดกลัวเสียจริงๆ! พวกเขาเพียงแค่สิบคนก็สามารถกวาดล้างทำลายฐานที่ตั้ง ของกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำที่มีชื่อเสียงมานานกว่าครึ่งศตวรรษได้!”

“คราวนี้สำนักหลอมวิญญาณท่าจะลำบากเสียแล้วล่ะ พวกเขาเพิ่งพูดจาคุกคามกลุ่มชายสวมหน้ากากไปเมื่อครู่นี้เอง!” ชาวยุทธบางคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

การกวาดทำลายล้างกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำที่เป็นมือสังหารระดับโลกได้โดยใช้เพียงกลุ่มคนเพียงแค่สิบคน ย่อมแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา

ในตอนนี้กลุ่มชาวยุทธที่อยู่โดยรอบนั้นรู้สึกหวาดกลัวกลุ่มของหวังเสียน กันอย่างแท้จริง

“ในตอนแรกข้าคิดว่าเสื้อผ้าและร่างกายของพวกเขาเป็นคราบสกปรก แต่เมื่อมองให้ดีๆแล้วนั่นคือคราบเลือดสดๆที่เกิดจากการฆ่าคนมาเป็นจำนวนมากนั่นเอง!” ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณของสำนักเสียงสวรรค์พูดออกด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“พวกเจ้าบอกว่าทะเลสาบตงหลิงแห่งนี้จะเป็นที่ฝังศพของพวกเราอย่างนั้นรึ?” โม่ชิงหลงที่สวมหน้ากากทมิฬอยู่หันไปพูดกับเหล่สสาวกของสำนักหลอมวิญญาณ

คลืนนนน!

บรึมมมม!

ในขณะนั้นเองฐานที่ตั้งของกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำที่อยู่ใต้ก้นทะเลสาบก็ระเบิดและพังทลายลงจนเกิดเสียงดังสนั่น

ซากศพจำนวนมากก็ค่อยๆลอยขึ้นมาบนผิวน้ำจากทางด้านล่าง

เฮื้อกก!

อึกก!

เอื้อกก!

เหล่าชาวยุทธ์ที่อยู่บริเวณโดยรอบ หายใจกันไม่ทั่วท้อง บางคนสำลักน้ำลายตัวเองออกมา แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะว่ากลัวกลุ่มของหวังเสียน จะได้ยิน

ในตอนนี้ซากศพนับพันก็ลอยอยู่จนทั่วทั้งผืนน้ำของทะเลสาบตงหลิง!

………

จบบท