Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 285
ตอนที่ 285 เห่าฟ้า
.
มันเป็นสุนัขตัวสูงใหญ่ประมาณครึ่งเมตรมีลักษณะคล้ายกับสุนัขล่าเนื้อ
หางของมันนั่นยาวมากโดยเฉพาะขนหางสีเหลืองประกายทองของมันนั้นมีความยาวกว่าสิบเซนติเมตร
ขาทั้ง 4 ข้างของมันนั้นค่อนข้างจะแข็งแรงเหมือนกับสัตว์นักล่าเช่นเสือหรือสิงโต
เมื่อมองที่ขนสีเหลืองประกายทองทั้งตัวของมันบวกกับร่างกายที่แข็งแรงกำยำของมันแล้วทำให้มันดูสง่างามและทรงพลังเป็นอย่างมาก
และในตอนนี้ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียวของมัน มันสามารถพุ่งออกไปไกลได้กว่าร้อยเมตร
สุนัขขนสีทองเงยหน้าเห่าหอนออกมาคล้ายกับหมาป่า ดวงตาคมกล้าจับจ้องมองไปยังตำแหน่งหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังของมัน
“ที่นั่น! มันอยู่ตรงนั้น!” ได้ยินเสียงตะโกนโวกเวกโวยวายดังขึ้นมา
หวังเสียน หันมองไปตามเสียงเขาเห็นคนกลุ่มใหญ่ประมาณร้อยคน กำลังวิ่งตรงไปยังสุนัขล่าเนื้อขนสีทอง
คนเหล่านี้มาจากกองกำลังที่แตกต่างกัน ในหมู่พวกเขามีคนกลุ่มหนึ่งที่บนชุดคลุมของพวกเขามีตัวอักษร ‘ 圣 [ศักดิ์สิทธิ์] ‘ ขนาดใหญ่ปักอยู่ตรงกลางหลัง
นี่เป็นสัญลักษณ์ของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับของกำลังที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ พวกเขาจึงเต็มใจที่จะประกาศว่าสำนักของพวกเขานั้นอยู่ในระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์
แต่ในขณะเดียวกันชายหนุ่มกลุ่มนี้นั้นกลับดูมีอาการไม่ค่อยดีมากนัก ผิวหนังทั่วร่างกายของพวกเขาเป็นจ้ำๆสีม่วงคล้ายกับถูกพิษ
หวังเสียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็นึกถึงคำพูดของคนจากสำนักดาบกวงซานในก่อนหน้านี้ได้
พวกเขามากันที่นี่เพื่อจับสัตว์อสูรจิตวิญญาณ และดูเหมือนว่ามันจะเป็นสุนัขขนสีเหลืองตัวที่อยู่ข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์อสูรจิตวิญญาณที่ดูแล้วทรงพลังมากเลยทีเดียว อย่างน้อยๆความสามารถของมันน่าจะเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ
แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่หวังเสียน กวาดสายตามองไปยังกลุ่มกองกำลังต่างๆ เขาก็สามารถสังเกตเห็นได้ถึงผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณหลายคนรวมอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย พวกเขาเหล่านั้นมีความแข็งแกร่งมากพอควรเลยทีเดียว
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีตัวอักษร 圣 ปักอยู่ข้างหลัง เขามองไปยังสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ตัวนั้นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“ยังจะพยายามหนีอยู่อีกอย่างนั้นรึ ถ้าเจ้ายังขัดขืนอยู่อีกต่อไปข้าจะจับเจ้าทำซุปเนื้อสุนัข!” ชายหนุ่มมองไปที่สุนัขขนสีเหลืองด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง
ในทันใดนั้นชายชราคนหนึ่งก็เดินออกมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มกองกำลังต่างๆและพูดออกมาว่า “สัตว์อสูรจิตวิญญาณตัวนี้เป็นของสำนักเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าทุกคนจงถอยออกไปให้หมด!”
ชายชรากวาดสายตาจ้องมองไปยังกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้พร้อมกับปล่อยแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณออกมา
“เจ้าจะพูดอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกต้องนัก สัตว์อสูรจิตวิญญาณตัวนี้พวกข้าก็ตามมันมานานแล้วเช่นเดียวกัน มิหนำซ้ำคนของข้าก็บาดเจ็บจากการตามล่ามันไม่ใช่น้อย หากเจ้าอ้างสิทธิ์เช่นนี้ก็ไม่เท่ากับพวกข้าลงทุนอยากสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ? ข้าว่าพวกเราควรแข่งขันกันอย่างยุติธรรมจะดีกว่า!” ชายชราในกลุ่มคนเดินออกมาแล้วพูดตอบชายชราจากสำนักเสียงสวรรค์
ที่ด้านหลังของเขามีชายหนุ่มหลายคนที่ถูกพิษยืนอยู่ และบางคนก็มีร่องรอยบาดแผลอยู่ทั่วตัว
“ถูกต้องแล้ว! พวกเราควรแข่งขันกันอย่างยุติธรรม หากสำนักของพวกท่านชนะ พวกเราก็สามารถยอมรับได้ แต่หากว่าพวกท่านนั้นพ่ายแพ้พวกท่านก็ควรจะยอมรับด้วยเช่นเดียวกัน!” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งในกลุ่มคนพูดออกมา
ชาวยุทธเหล่านี้ต่างล้วนใช้ความพยายามกันเป็นอย่างมากในการติดตามสัตว์อสูรจิตวิญญาณตัวนี้ พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ถ้าหากว่าถูกบังคับให้ต้องวางมือจากการเข้าร่วมรับผลประโยชน์ในครั้งนี้
ชายชราที่เป็นคนของสำนักเสียงสวรรค์มองไปที่กองกำลังหลากหลายกลุ่ม ใบหน้าของเขานั้นก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ดี! พวกเจ้าทุกคนต้องการแบบนี้ใช่ไหม!” ชายชราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ทุ่มกำลังทั้งหมดของสำนัก! แล้วจับ ‘เห่าฟ้า’กลับไปที่สำนักของพวกเราให้ได้!” [ชื่อเหมือนกับสุนัขสวรรค์ของเทพสามตาเอ้อหลางเสินเลย]
เมื่อเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ได้ยินคำสั่งผู้อาวุโสของสำนัก พวกเขาก็พุ่งตรงไปที่ เห่าฟ้า ที่ยืนอยู่ใกล้กับทะเลสาบกันอย่างรวดเร็ว
“ไปเร็ว! พวกเราก็ต้องรีบด้วยเช่นกัน!” เสียงกลุ่มคนทั้งหมดดังขึ้นมา พวกเขาต่างรีบพุ่งทะยานเข้าไปแย่งชิงกันจับเห่าฟ้าในทันที
เมื่อได้ยินเสียงของกลุ่มคนดังขึ้นมาพร้อมกับเกิดความชุลมุนวุ่นวายตรงหน้า หวังเสียน ก็ใคร่ครวญพร้อมกับคิดตามคำพูดของกลุ่มคนอย่างช้าๆ ‘เห่าฟ้า? อสูรจิตวิญญาณตัวนี้เรียกว่าเห่าฟ้าอย่างนั้นรึ?’
ในเวลาเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่างูพิษสีดำที่นำทางพวกเขามานั้น ขณะนี้มันว่ายน้ำไปที่ทะเลสาบแล้ว
หวังเสียน หันไปมองทางสุนัขตัวใหญ่สีเหลืองที่เรียกว่าเห่าฟ้าเพียงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเลิกสนใจมันและรีบตามงูพิษสีดำตัวนั้นไปที่ทะเลสาบ “ไปกันเถอะ! รีบตามงูพิษตัวนั้นไปกัน!” เขาออกคำสั่งกับเหล่านักรบมังกรในทันที
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังเดินลงไปที่ทะเลสาบ ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เห่าฟ้ายืนอยู่ “ไสหัวไปให้พ้น!” กลุ่มคนที่ที่อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มของหวังเสียน ตะโกนออกมาเสียงดัง
“พวกเจ้ารีบไสหัวไปอย่ามาขวางทาง พวกเราสำนักเสียงสวรรค์!” กลุ่มคนของสำนักเสียงสวรรค์ยังคงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับตั้งท่าเตรียมโจมตีไปทางพวกเขา
“หืออ” หวังเสียน หันไปชำเลืองมองพวกเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะหยุดยืนอยู่อย่างนิ่งเฉย
“รนหาที่ตาย!” โม่ชิงหลงและโม่หยวน ตะโกนออกมาพร้อมกัน ดวงตาของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ในขณะที่พวกเขามองไปยังเหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์
เหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์นั้นต้องการไล่ตามจับ เห่าฟ้า ที่อยู่ตรงริมทะเลสาบ แต่กลุ่มของหวังเสียน นั้นยืนขวางทางพวกเขาอยู่พอดี พวกเขาจึงตั้งใจจะโจมตีพร้อมกับขับไล่กลุ่มของหวังเสียน ให้ออกไปพ้นทางของพวกเขา
“หลบไปให้พ้นเจ้าพวกขี้ขลาดที่ชอบใส่หน้ากาก! ใบหน้าของตัวเองยังไม่กล้าแสดงออกมา ยังคิดจะกล้ามาแย่งชิงสัตว์อสูรจิตวิญญาณตัวนี้กับพวกข้าอีกอย่างนั้นหรือ!”
ชายชราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสามคนจากสำนักเสียงสวรรค์ พุ่งตรงมาจากท้องฟ้าพวกเขามาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ และนักรบระดับขั้นที่ 9 ก็ตามพวกเขามาอย่างใกล้ชิด
กลุ่มของพวกเขานั้นทำหน้าถมึงทึง ใส่กลุ่มของหวังเสียน ที่ยืนนิ่งอยู่และไม่ขยับเขยื้อนหลบทางให้กับพวกเขา
หวังเสียน ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไปที่ทะเลสาบกันก่อนเถอะ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา!” เขาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง โดยไม่ให้ความสนใจกับกลุ่มคนที่กำลังตรงเข้ามาทางพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
หวังเสียน รีบพุ่งตรงตามงูพิษสีดำตัวนั้นลงไปที่ทะเลสาบอย่างรวดเร็ว โม่ชิงหลง, โม่หยวนและเหล่านักรบมังกรที่เหลือก็รีบตามหวังเสียน ไปอย่างใกล้ชิด พวกเขาเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับกลุ่มคนดังกล่าวตามที่หวังเสียนสั่ง
พวกเขาทั้งหมดสิบคน ดำลงไปยังก้นทะเลสาบกันในทันที
เหล่าสาวกของสำนักเสียงสวรรค์ต่างหันจ้องมองไปทางกลุ่มของหวังเสียน ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อไป และรีบตั้งสมาธิจดจ่อไปกับการไล่ตามจับสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่โดยตรง
เมื่อกลุ่มของหวังเสียน ลงกันไปในน้ำยังก้นทะเลสาบแล้ว พวกเขาทุกคนต่างหายใจในน้ำกันได้อย่างสบาย เนื่องจากพวกเขาทุกคนมีสายเลือดของมังกรศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
แม้แต่กำลังการต่อสู้และความเร็วของพวกเขาก็ไม่ได้ถูกปิดกั้นเลยแม้แต่น้อย หากพวกเขาต้องต่อสู้อยู่ที่ใต้น้ำ
หวังเสียน รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่างูพิษเหล่านั้นว่ายน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ
“ไม่คิดเลยว่าที่ซ่อนขององค์กรมือสังหารมนต์ดำนั้นจะตั้งอยู่ที่ก้นทะเลสาบลึกเช่นนี้!” หวังเสียน แสดงความคิดเห็นออกมา
ที่ก้นทะเลสาบมีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร เมื่อมองดูแล้วพื้นที่นี้ค่อนข้างที่จะมีขนาดใหญ่พอสมควร
แต่งูพิษสีดำตัวนั้นไม่ได้ว่ายเข้าหาจุดศูนย์กลางของพื้นที่ราบเรียบนั้น แต่พวกมันกลับว่ายตรงไปยังทิศทางที่มีเทือกเขาที่อยู่ใต้ทะเลสาบ
“หือ? นั่น!..” หวังเสียน รู้สึกแปลกใจในทันทีเมื่อเขามองไปเห็นประตูหินขนาดใหญ่ประมาณ 3 เมตรที่อยู่ใต้พื้นทะเลสาบ
ทางด้านหลังของประตูหินนั้นมีภูเขาใต้ทะเลสาบขวางกั้นเอาไว้อยู่ หวังเสียนสังเกตดูอย่างถี่ถ้วน เขาแน่ใจแล้วว่าองค์กรมือสังหารมนต์ดำนั้นต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเหล่าชาวยุทธที่มีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำจึงไม่สามารถหาแหล่งที่ตั้งของพวกเขาได้
หวังเสียน หันไปมองที่โม่ชิงหลงและคนอื่นๆ พร้อมกับส่งสัญญาณมือให้กับพวกเขา
เหล่านักรบมังกรต่างพยักหน้ารับทราบและตรงเข้าไปที่ประตูหินบานนั้นทันที
หวังเสียน ก็ตามลงไปอย่างใกล้ชิดเขามองไปที่ประตูหินซึ่งถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างสมบูรณ์ เขายื่นแขนออกไปก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะกลายเป็นโลหะสีทอง
ตูมมมม!
แคร๊กกก!
ฝ่ามือของหวังเสียน กระแทกลงไปยังประตูหินจนมันแหลกละเอียดคามือ
ประตูหินถูกเปิดออก ก็มีแสงสว่างเรืองรองอยู่อีกทางด้านหนึ่งของประตู
หวังเสียน โบกแขนของเขาเบาๆ ก่อนที่ผลึกแก้วมังกรเพลิงโลกันตร์ ของเขาจะเปล่งแสงออกมาพร้อมกับปิดกั้นสายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำสามารถเข้ามาที่ด้านหลังของประตูได้
“เข้าไปกันเถอะ!” หวังเสียน โบกมือเบาๆสั่งกลุ่มนักรบมังกรของเขา ก่อนที่พวกเขาจะรีบตรงเข้าไปข้างในกันอย่างรวดเร็ว
ทางที่ด้านหลังของประตูหินนั้นค่อนข้างจะคดเคี้ยวและยังมีบันไดขนาดใหญ่ คล้ายกับบันไดของหอคอยที่หมุนวน เพื่อเดินลงไปยังด้านล่าง
ตลอดเส้นทางนั้นไม่มีทหารยามยืนเฝ้าตามทางเลยแม้แต่คนเดียว ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นจะต้องมีคนคอยเฝ้า เนื่องจากสถานที่ตั้งของพวกเขานั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก
กลุ่มของหวังเสียน เดินลงตามบันไดไป เมื่อพวกเขาลงมาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทาง พวกเขาก็รู้สึกตกใจกับภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะเกินความคาดหมาย และเหนือความเป็นจริงอยู่บ้างเล็กน้อย
พื้นผิวที่ด้านล่างของใต้ทะเลสาบแห่งนี้คล้ายกับอุทยานสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล มันมีผนึกคล้ายกับแก้วใสเป็นตัวขวางกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากทะเลสาบที่อยู่ด้านบนไหลลงเข้ามายังเบื้องล่าง และในที่แห่งนี้แสงแดดยังสามารถส่องสว่างลงมาได้ ซึ่งไม่รู้ว่าจุดรวมแสงที่นำแสงแดดลอดลงมายังพื้นเบื้องล่างนั้นเข้ามาได้ที่ทางไหน
ภายในสถานที่ตั้งของกลุ่มองค์กรมือสังหารมนต์ดำนั้น มีบ้านพักที่ค่อนข้างสวยงามจัดตั้งเป็นแถวยาวเรียงราย มันไม่ต่างจากหมู่บ้านจัดสรรหรือวิวล่าระดับสูงที่อยู่บนพื้นดินมากนัก
“ช่างเป็นสถานที่ซ่อนตัวที่ดีมากเลยจริงๆ!” หวังเสียน ค่อนข้างจะประทับใจกับความสามารถในการจัดสร้างฐานที่ตั้งขององค์กรมนต์ดำแห่งนี้
ฐานที่ตั้งของพวกเขานั้นอยู่ใต้เทือกเขาตงหลิน และยังอยู่ใต้ทะเลสาบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นปราการทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยม และสถานที่นี้น่าจะเชื่อมต่อกับแม่น้ำตงหลิงอีกด้วย
สถานที่ตั้งขององค์กรมือสังหารมนต์ดำแห่งนี้ช่างยอดเยี่ยมและปลอดภัยอย่างมากจริงๆ!
………
จบบท