Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 282
ตอนที่ 282 สิบทูตอเวจี
.
“ถังหยินซวง ช่วงนี้ผมจะจัดหาสถานที่ปลอดภัยไว้ให้กับคุณ ตอนนี้พวกเรามีธุระด่วนบางเรื่องที่จะต้องรีบจัดการ!”
หวังเสียน เดินกลับไปที่ริมทะเลสาบ เขาพูดกับถังหยินซวง ที่กำลังยืนกอดพิณ 7 สายที่แตกหักของเธอด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุข
“คุณไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก! ฉันจะกลับไปที่สำนักเสียงสวรรค์ เพราะที่นั่นน่าจะปลอดภัยมากที่สุด!”
ถังหยินซวง มองไปที่หวังเสียน ก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกว่า “ส่วนเรื่องภารกิจในครั้งนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกต่อไป ฉันจะบอกพ่อว่าภารกิจของพวกคุณนั้นเสร็จสิ้นลงแล้ว พวกคุณได้ขจัดปัญหาเกี่ยวกับมือสังหารทั้งหมดได้เป็นอย่างดี!”
“อืมมม…โอเค! ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามที่คุณพูดก็แล้วกัน!” หวังเสียน พยักหน้ารับและกลุ่มของพวกเขาก็มุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรมในใจกลางเมือง
ในเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาทั้งสี่คนนั่งเครื่องบินไปยังเมืองหนิง ที่นี่คืออาณาเขตของสำนักเสียงสวรรค์ ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักพวกเขาเลยก็ว่าได้
หลังจากส่งถังหยินซวง กลับไปที่สำนักของเธออย่างปลอดภัยแล้ว หวังเสียน มองไปที่โม่ชิงหลงและโม่หยวน พร้อมกับถามพวกเขาขึ้นมา “พวกเรามาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ? ใช่ที่นี่หรือไม่!”
“ยังขอรับ! พวกเขากำลังรอเราอยู่ที่เทือกเขาตงหลิงขอรับ!” โม่ซิงหลงตอบกลับด้วยความเคารพ
เขตเทือกเขาตงหลิง เป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและมีความยาวมากกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร มีระยะความกว้างมากกว่าสามร้อยกิโลเมตร นอกจากนี้อาณาเขตของเทือกเขาตงหลิง ยังถือได้ว่าเป็นเขตป่าโบราณอันเก่าแก่และดึกดำบรรพ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย
ภายในเทือกเขาและผืนป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้มีสัตว์ป่านานาชนิดมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ท่ามกลางเทือกเขามีแม่น้ำตงหลิงที่มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรตัดผ่านระหว่างกึ่งกลางของเทือกเขา
เขตเทือกเขาแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มันเป็นเขตป่าดึกดำบรรพ์และยังมีแม่น้ำขนาดใหญ่ไหลผ่าน จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และสรวงสวรรค์ของสัตว์ร้ายและสัตว์อสูรเลยทีเดียว
ณ ขอบเขตเทือกเขาตงหลิง คนสามคนปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ หวังเสียน, โม่ชิงหลงและโม่หยวน พวกเขาหยุดยืนหันมองดูทิศทางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะเดินหายไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
สถานที่แห่งนี้นั้นอยู่นอกเส้นทางหลักโดยทั่วไป บริเวณแถบนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นสนแดง ต้นเบิร์ชสีขาว ต้นป็อปลาร์และพืชชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ต้นไม้ทุกต้นมีขนาดใหญ่และสูงมากกว่าสิบเมตร
ระหว่างต้นไม้มีเส้นทางเล็ก ๆ ที่นำไปสู่บนเทือกเขา
และในขณะนี้แทบจะไม่มีใครใช้เส้นทางเล็กๆเส้นทางนี้
“องค์ราชาขอรับ! พวกเขาน่าจะอยู่บนยอดเขาลูกที่อยู่ตรงข้างหน้านั่นอย่างแน่นอนเลยขอรับ!”
โม่ชิงหลงชี้ไปที่ยอดเขาที่สูงที่สุดที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก
หวังเสียน พยักหน้า ก่อนที่เขาจะทะยานออกไปใกล้หลายสิบเมตรด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว โม่ชิงหลงและโม่หยวนก็ตามหลังเขามาอย่างใกล้ชิด
“คารวะองค์ราชามังกร!”
บนยอดภูเขาลูกหนึ่ง กลุ่มชายในชุดสีดำเจ็ดคนยืนอยู่บนต้นไม้ขนาดใหญ่ เมื่อพวกเขาเห็นหวังเสียน มาถึงแล้ว พวกเขาต่างรีบลงมาคุกเข่ากับพื้นในทันที
“ไม่เลว! ระดับการบ่มเพาะของพวกเจ้าก้าวหน้ารวดเร็วดีมาก!”
หวังเสียน สังเกตดูระดับการบ่มเพาะของนักรบมังกรทั้งเจ็ดคน เขายิ้มและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ มีสามคนอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ และอีกสี่คนอยู่ในระดับนักรบขั้นที่ 9
ถือได้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขานั้นรวดเร็วจนน่าทึ่งเลยทีเดียว
“ไปยังที่ซ่อนขององค์กรมือสังหารมนต์ดำกันเถอะ!”
“ขอรับองค์ราชา!”
ทั้งเจ็ดคนเงยหน้าขึ้น พร้อมกับหยิบหน้ากากของพวกเขาออกมาใส่
มันเป็นหน้ากากโลหะสีดำทมิฬมองดูแล้วคล้ายกับปีศาจร้ายที่ออกมาจากขุมนรก
ที่ตำแหน่งบนหน้าผากของหน้ากากทมิฬมีอักษรสีแดงสลากอยู่ว่า ‘ ฆ่า ‘ เมื่อหน้ากากสวมใส่ลงบนใบหน้ารวมกับชุดสีดำสนิทของพวกเขาแล้วทำให้ดูน่ากลัวและอันตรายเป็นอย่างยิ่ง!
“เท่มาก! มันดูยอดเยี่ยมมากเลยจริงๆ!” หวังเสียน ยิ้มออกมาในขณะที่เขามองไปยังหน้ากากสีดำทมิฬของนักรบมังกรทั้งเจ็ด
“พวกเรายังมีหน้ากากอีก 3 อัน เตรียมไว้ให้กับองค์ราชาและผู้อาวุโสทั้งสองด้วยเช่นเดียวกันขอรับ!”
นักรบมังกรคนหนึ่งหยิบหน้ากากออกมาและส่งไปยัง หวังเสียน, โม่ชิงหลงและโม่หยวนตามลำดับ
“ฮ่าๆๆ! ยอดเยี่ยมไปเลย พวกเราคือทูตอเวจีทั้งสิบ แห่งองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬ !” หวังเสียน หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี เขารู้สึกตื่นเต้นและดีใจเหมือนกับเด็กชายตัวน้อยที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่
หน้ากากที่เขาสวมใส่ให้ความรู้สึกเย็นเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างที่จะสบายและการหายใจก็ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด เขาค่อนข้างจะประทับใจกับหน้ากากทมิฬชิ้นนี้มาก เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้นั้นทำมาจากวัสดุอะไร
เมื่อรวมกับชุดสีดำที่เขาสวมใส่อยู่ในตอนนี้มันเข้ากันได้ดีเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้ทั้งโม่ชิงหลงและโม่หยวน ต่างก็ใส่หน้ากากทมิฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อกลุ่มคนทั้งสิบยืนอยู่ด้วยกันความน่ากลัวและกลิ่นอายสังหารจากพวกเขาก็ทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดต่ำลง จนต้นหญ้าเล็กๆที่อยู่บริเวณโดยรอบก็พลันเหี่ยวเฉาลงไปทันที
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อหวังเสียน ขยับแขนของเขางูพิษสีดำก็โผล่หัวออกมา พร้อมกับชูคอส่งเสียงบอกทิศทางให้กับเขา
พวกเขาทั้งสิบคนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วบนยอดเขาที่สูงห้าถึงหกร้อยเมตร
การเคลื่อนที่ของพวกเขานั้นเหมือนกับเทพเซียนในนิยายที่สามารถไปไกลได้ถึงหลายร้อยเมตรโดยการก้าวกระโดดเพียงแค่ครั้งเดียว
“เป็นป่าโบราณที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมากจริงๆ!”
หวังเสียน โฉบร่อนลงบนยอดไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง เขามองดูทิวทัศน์บนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์พร้อมกับสูดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าเต็มปอดด้วยความรู้สึกที่สดชื่น
ภายในเขตเทือกเขาของป่าโบราณแห่งนี้นั้น มีสัตว์ป่าน้อยใหญ่อาศัยอยู่อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น เก้งกวางบ่างชะนีหมูป่ากระต่ายและนก สัตว์พวกนี้สามารถมองเห็นได้โดยทั่วไปในป่าแห่งนี้
เนื่องจากงูพิษที่หวังเสียนใช้ในการนำทางไม่ได้มีความเฉลียวฉลาดมากนักพวกมันจึงไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ ดังนั้นกลุ่มของหวังเสียน จึงทำได้แค่กำหนดสถานที่ที่ใกล้เคียงมากที่สุดเพียงเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากความเร็วของพวกเขานั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขานั้นประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซ่าาาาา!ซ่าาาา!
หลังจากที่พวกเขาเดินทางกันมากว่าสี่ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงของน้ำตกขนาดใหญ่ดังสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขา เมื่อมองไปยังภาพอันสวยงามตระการตาตรงหน้าของพวกเขา ม่านหมอกไอน้ำที่สาดกระเซ็นจากน้ำตกกระทบกับก้อนหิน เป็นเหมือนกับสวนสวรรค์ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาเลยทีเดียว
กระแสน้ำของน้ำตกตกไหลไปรวมกันกับแม่น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง
‘นี่คงจะต้องเป็นแม่น้ำตงหลิง อย่างแน่นอน!’ หวังเสียน คิดกับตัวเองขณะที่เขามองไปยังแม่น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
“หาจุดที่พักกันก่อน! แล้วก็แบ่งคนออกไปล่าสัตว์ป่ามาทำอาหารกลางวัน!”
“ขอรับองค์ราชา!”
เหล่านักรบมังกรต่างรับคำสั่งและแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตนเอง
หวังเสียน เดินเลาะไปที่ริมแม่น้ำและไปหยุดยืนอยู่ที่ก้อนหินก้อนหนึ่งที่ริมน้ำตก เขาเหม่อมองออกไปที่สายน้ำพร้อมกับปลดปล่อยความคิดของเขาให้ล่องลอยออกไปอย่างอิสระตามกระแสน้ำอย่างผ่อนคลาย
หลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักรบมังกรก็กลับมาพร้อมกับไก่ป่ากระต่ายและปลาบางชนิด
หวังเสียน เปิดปากของเขาพร้อมกับส่งผลึกแก้วมังกรออกไปลอยอยู่ที่เหนือพื้นดินเล็กน้อย เขาใช้มันเป็นกองไฟสำหรับการประกอบอาหาร
เนื้อของสัตว์ป่าที่นี่นั้นอร่อยและมีกลิ่นหอมมากกว่าเนื้อสัตว์ที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มปศุสัตว์มาก กลิ่นหอมของมันสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี
หวังเสียนนั่งอยู่บนก้อนหิน และสังเกตสภาพแวดล้อมขณะกำลังรอกินอาหารด้วยรอยยิ้มบางๆ
ซอกแซ่กๆ!กร๊บแกรบๆ!
“โอ้ในที่สุดเราก็พบแหล่งน้ำกันเสียที! ตัวข้าสกปรกเลอะเทอะมาทั้งวันแล้ว ข้าจะได้อาบน้ำล้างตัวให้สดชื่นแล้วทำอาหารเที่ยงกินกันเสียที!”
“ข้าสงสัยจริงๆว่าครั้งนี้พวกเราจะสามารถหายาจิตวิญญาณดีๆได้บ้างหรือไม่? หืมม? ตรงนั้นมีคนอยู่ด้วย!”
ในขณะนั้นเองมีกลุ่มคนสิบกว่าคนเดินออกมาจากแนวป่า คนกลุ่มนี้นั้นประกอบด้วยผู้ชายที่มืออายุค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน
ข้างเอวของพวกเขานั้นมีดาบยาวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งหมด และชุดของพวกเขานั้นก็เป็นชุดสีเหลืองแบบเดียวกัน
คนกลุ่มนี้นั้นเดินออกมาจากป่าของเทือกเขาทางทิศตะวันตก พวกเขาหันมามองและสังเกตกลุ่มของหวังเสียน อย่างระมัดระวังและมีความสงสัยปนอยู่ด้วยเล็กน้อย
เมื่อพวกเขาเห็นคนทั้งสิบคนในกลุ่มของหวังเสียน สวมหน้ากากสีดำทมิฬที่มีลวดลายแปลกๆ พวกเขาก็รู้สึกมึนงงและสับสน
“คนกลุ่มนี้แปลกมากจริงๆ!’
“พวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มชาวยุทธอย่างแน่นอน!”
พวกเขาหันมากระซิบและพูดคุยกันเบาๆ ก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังจุดหนึ่งของริมแม่น้ำ
“เสี่ยวหยวนเจ้าและอีกสามคนไปล่าสัตว์มาเพื่อทำเป็นอาหาร ส่วนคนที่เหลือก่อกองไฟและเตรียมทำอาหารกัน พวกเราจะหยุดพักกันที่นี่!” ชายวัยกลางคนจัดสรรหน้าที่ให้กับชายหนุ่มในกลุ่ม
“ครับหัวหน้า!”
ชายหนุ่มกลุ่มนั้นพยักหน้ารับก่อนที่จะแยกย้ายกันไป บางคนเข้าไปในป่าในขณะที่คนอื่น ๆ ลงไปในแม่น้ำเพื่อจับปลา
“ข้าเดาว่าคนกลุ่มนั้นจะต้องมาจับสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณตัวนั้นเช่นเดียวกันกับพวกเราแน่ๆ! ดูเหมือนว่าในครั้งนี้จะมีสำนักและตระกูลที่มีอิทธิพลมาหลายกลุ่มเลยทีเดียว!”
ชายวัยกลางคนมองไปที่กลุ่มของหวังเสียน ก่อนที่จะกระซิบพูดเบาๆกับชายชราสองคนที่อยู่ข้างๆเขา
“ฮึฮึ! ในครั้งนี้พวกเราจะต้องได้รับสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณตัวนั้นอย่างแน่นอน พวกเราวางแผนและศึกษาพฤติกรรมของมันมานานมากแล้ว และบางทีพวกเราอาจจะได้รับสมบัติจิตวิญญาณอย่างอื่นติดมือมาด้วยอีกก็ได้!” ชายชราแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างมั่นใจ ในขณะที่เขาสังเกตสภาพแวดล้อม รอบๆตัวไปด้วย
ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆตัวเขาก็ยิ้มออกมาและเผยให้เห็นท่าทางที่มั่นใจไม่แพ้กัน
“หวางตง! เอาดาบของเจ้ามายืมใช้เพื่อจุดไฟหน่อยสิ!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดกับชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างๆเขา
“ทำไมต้องใช้ดาบของข้าด้วยล่ะ? เจ้าก็ใช้ดาบของเจ้าเองสิ หรือไม่ก็ไปขอจุดไฟต่อจากคนกลุ่มนั้นก็ได้!”
ชายหนุ่มคนที่ชื่อหวางตงมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันไปจ้องมองและบุ้ยปากไปทางกลุ่มของหวังเสียน
“แต่คนกลุ่มนั้นดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรมากสักเท่าไหร่!” ชายหนุ่มคนที่กำลังจะก่อไฟมองไปทางกลุ่มของหวังเสียน ที่ใส่หน้ากากทมิฬ เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ! เจ้ามันขี้ขลาดตาขาวเสียจริงๆ เราก็แค่ไปขอยืมไฟจากพวกเขาแค่นั้น แล้วอีกอย่างพวกเขาก็เป็นคนเช่นเดียวกันกับพวกเราเจ้าจะกลัวอะไรนักหนา อีกเดี๋ยวพวกเขาก็ต้องถอดหน้ากากออกเพื่อจะกินอาหารกันแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะต้องหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อกินมันผ่านทางหน้ากาก ฮึฮึ!”
ชายหนุ่มคนที่ชื่อหวางตง ส่ายหัวเบาๆและหัวเราะออกมา ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปหากลุ่มของหวังเสียน
………
จบบท