Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 278
ตอนที่ 278 ดึงงูออกจากรู
.
ฉากที่น่าตกใจปรากฏขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ตในสนามกีฬาที่สามารถบรรจุผู้คนได้มากถึงแปดหมื่นคนในเมืองเหลียน
สาวงามคนหนึ่งขึ้นไปบนเวทีและร้องเพลงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลสดใสดังก้องกังวาล นิ้วเรียวยาวของเธอกำลังเล่นอยู่บนพิณ 7 สาย สอดประสานกับเสียงร้องเพลงของเธอ มันทำให้ผู้ที่ชมคอนเสิร์ตอยู่ในตอนนี้รู้สึกมึนเมาจนหัวใจของพวกเขานั้นแทบจะหยุดเต้น
คนหลายหมื่นคนเผลอลืมตัวยืนขึ้นมองไปที่เวทีคอนเสิร์ตอย่าเงียบๆ บทเพลงอันไพเราะซาบซึ้งตราตรึงจนถึงจิตวิญญาณของพวกเขา ดั่งสายน้ำชุ่มฉ่ำไหลเย็นเข้ามาชโลมจิตใจของพวกเขาให้รู้สึกผ่อนคลายจนลืมความทุกข์ความโศกทั้งหมดที่เคยได้เผชิญมาในช่วงชีวิตของพวกเขา
ในมุมหนึ่งของโซนผู้ชมมีกลุ่มคน 2-3 คน มองไปที่บนเวทีด้วยความตกใจ
“เสียงจิตวิญญาณแห่งดนตรีครอบคลุมกว้างไกลมากถึง 1,000 เมตร ความลึกซึ้งของพลังในการครอบงำจิตวิญญาณนั้นสูงมาก นักรบที่ต่ำกว่าระดับ 9 ลงไปคงไม่สามารถต้านทานเสียงดนตรีของเธอได้! ครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ! เธอบรรลุถึงระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแล้ว!”
“แย่มากจริงๆ! ชักจะลำบากมากขึ้นซะแล้วสิ การบ่มเพาะของถังหยินซวง ได้ก้าวมาถึงระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแล้ว เรื่องนี้ยุ่งยากมากจริงๆ เวลาก็เหลืออีกเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นเอง!”
“และในครั้งนี้ผู้คุ้มกันของเธอก็เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ มิหนำซ้ำยังมีถึงสองคนอีกด้วย คราวนี้คงต้องใช้หินจิตวิญญาณมากถึง 500 ก้อนเพื่อจ้างกลุ่มคนจากองค์กรลอบสังหารมนต์ดำ เพื่อมาสังหารเธอ ครั้งนี้เธอทำให้เราต้องสูญเสียหินจิตวิญญาณมากถึง 500 ก้อนเลยทีเดียว!”
“พวกเราควรพูดถึงแผนการของพวกเรากันอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณหนูของพวกเราก็จะต้องได้เป็นธิดาสวรรค์แห่งสำนักเสียงสวรรค์ให้ได้ งานนี้พวกเราไม่สามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆขึ้นมาได้ไม่เช่นนั้นพวกเราคง!…”
กลุ่มคน 2-3 คนกระซิบพูดคุยกันเบาๆ ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆออกไปจากบริเวณนั้นอย่างเงียบๆ
ในงานคอนเสิร์ตที่คนหลายหมื่นคนกำลังตกตะลึงและหันจ้องมองไปบนเวทีอยู่นั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นการจากไปของพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียว
หวังเสียน ยืนอยู่หลังเวทีและกำลังดูการแสดงของถังหยินซวงด้วยรอยยิ้มพร้อมกับมีความคิดบางอย่างอยู่ในหัวของเขา
ในความคิดของเขานี่คือสิ่งที่นักร้องมืออาชีพควรจะเป็น! เสียงร้องเพลงและฝีมือการเล่นเครื่องดนตรีของเธอนั้นอยู่ในระดับปรมาจารย์อย่างแท้จริง!
‘แล้วถ้าเธอร้องครวญครางด้วยเสียงแบบนี้มันจะไพเราะมากขนาดไหนกันนะ….ฮิฮิ!’ (-_-;)・・・
หวังเสียน อดไม่ได้ที่จะคิดอย่างเป็นจริงเป็นจังอยู่ครู่นึง หลังจากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มอันโง่เง่าของเขาออกมา
ไม่นานหลังจากนั้นคอนเสิร์ตก็จบลงหลังจากที่เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ถังหยินซวง เดินกลับเข้าไปที่หลังเวทีด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ถ้ามีชาวยุทธที่แข็งแกร่งอยู่ร่วมในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย พวกเขาก็คงจะสามารถรับรู้ได้ถึงระดับของการฝึกฝนระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณของฉันได้ และหากพวกเขานั้นเป็นคนกลุ่มเดิมที่เคยลอบทำร้ายฉันในครั้งก่อน ฉันว่าพวกเขาก็น่าจะลงมือภายในไม่กี่วันนี้อย่างแน่นอน!” ถังหยินซวง ยิ้มออกมาในขณะที่พูด
“ขอบคุณมากนะ!” หวังเสียน ยิ้มและพยักหน้าให้กับเธอ
“หยินซวง การแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตของคุณวันนี้ช่างสมบูรณ์แบบมากเลยจริงๆ มันช่างน่าประทับใจมาก คุณเป็นเหมือนกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์เลยทีเดียว คุณสามารถดึงดูดใจและสะกดผู้คนนับหมื่นให้ฟังเพลงของคุณอย่างเงียบๆได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากวันนี้เป็นต้นไปชื่อเสียงของคุณจะโด่งดังไปทั่วประเทศอย่างแน่นอน!”
ในขณะนั้นเองเสียงของผู้จัดการส่วนตัวของถังหยินซวง ก็ดังแทรกขึ้นมา เขาพูดชมเชยเธอออกมาอย่างลื่นไหลพร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาเธอในทันที
เมื่อได้ยินคำชมจากเขา ถังหยินซวง ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ เธอมองไปที่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมกับพูดออกมาว่า “นี่จะเป็นงานคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของฉัน ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่เปิดงานแสดงและปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนในฐานะนักร้องอีกแล้ว!”
“อะไรกัน! หยินซวง คุณกำลังพูดอะไรอยู่ อย่าพูดล้อเล่นแบบนี้สิ!” ผู้จัดการส่วนตัวของเธอรู้สึกสับสนเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูดออกมา
“แล้วจากนี้ไปคุณก็ไม่ใช่ผู้จัดการส่วนตัวของฉันอีกต่อไปแล้ว!”
ถังหยินซวง มองไปที่เขาแล้วส่ายหัวเบาๆ การเป็นดารานักร้องนั้นเป็นแค่เพียงการทดลองสำหรับตัวเธอเพียงเท่านั้น มันเป็นการฝึกเพื่อให้เธอสามารถยืนต่อหน้าผู้ชมนับหมื่นได้อย่างไม่ประหม่า เป็นการฝึกฝนการครอบงำจิตใจด้วยเสียงดนตรี การทดลองที่ต้องการผู้คนเป็นจำนวนมากในการฝึกฝนแบบนี้ ไม่มีสถานะไหนที่จะดีไปกว่าการเป็นดารานักร้องที่มีชื่อเสียงอีกแล้ว
เมื่อบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว เธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นนักร้องอีกต่อไป
ใบหน้าของผู้จัดการส่วนตัวคนนั้นมืดมนลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขารู้ว่าถังหยินซวงจะไม่เปลี่ยนความคิดและการตัดสินใจในครั้งนี้ของเธออย่างแน่นอน
“ฉันคิดว่าพวกเราควรจะอยู่ที่เมืองนี้อีกสัก 2-3 วัน ฉันชื่อว่าพวกเขาน่าจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างในช่วงเวลานี้เป็นแน่!”
ถังหยินซวง ไม่ได้สนใจมองไปที่ชายหนุ่มคนที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธออีกต่อไป เธอหันไปมองที่หวังเสียน ในขณะที่เธอพูด
“อืม! ตกลง เอาล่ะถ้าเช่นนั้นพวกเราก็จะอยู่ที่เมืองเหลียน อีกสักสองวัน!” หวังเสียน พยักหน้า
…
ทะเลสาบเหลียนเฟิงเป็นสถานที่สวยงามที่มีชื่อเสียงในเมืองเหลียน ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่ที่ทอดยาวหลายสิบกิโลเมตรและไหลผ่านภูเขาขนาดใหญ่หลายสิบลูก ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก มีเส้นทางเดินป่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจและจัดกิจกรรมแค้มปิ้ง เส้นทางเดินป่าสำหรับท่องเที่ยวเส้นทางนี้สามารถเดินได้จนไปถึงบนยอดของภูเขาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีลำธารสายเล็กๆที่สวยงามอยู่ที่ด้านล่างของยอดเขาเพิ่มความสวยงามให้กับทิวทัศน์ตามธรรมชาติแห่งนี้ขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
และเนื่องจากในช่วงเวลานี้ไม่ใช่วันหยุดของคนส่วนใหญ่ จึงทำให้มีผู้คนที่อยู่ในบริเวณนี้ไม่มากนัก
หวังเสียน, โม่ชิงหลงและโม่หยวน มาถึงสถานที่พักผ่อนและจุดชมวิวทางด้านล่างของยอดเขาพร้อมกับถังหยินซวง
สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างที่จะเงียบและห่างไกลจากจุดที่ผู้คนมาท่องเที่ยวค่อนข้างมาก มีม้านั่งหินอ่อนกระจายตัวอยู่บริเวณโดยรอบ ดังนั้นกลุ่มของพวกเขาจึงเดินไปนั่งลงเพื่อพักผ่อนเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ถังหยินซวง วางพิณของเธอลงบนโต๊ะหิน เธอมองไปยังหวังเสียน ที่อยู่ข้างๆเธอ
“หมอเทวะหวังคะ! ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณนั้นจะเป็นผู้บ่มเพาะที่มีความสามารถแห่งธาตุน้ำ ฉันเชื่อว่าความแข็งแกร่งของคุณนั้นน่าจะต้องอยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมคะ?” ถังหยินซวง ถามพร้อมกับแสดงความคิดเห็นของเธอออกมาอย่างเปิดเผย
เธอนั้นมีอายุได้เกือบจะสามสิบปีแล้ว และในที่สุดระดับการฝึกฝนและบ่มเพาะของเธอก็มาถึงระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ หากเปรียบเทียบความสามารถของเธอในสำนักเสียงสวรรค์แล้วถือได้ว่าเป็นสาวกที่โดดเด่นมากคนหนึ่งเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามหมอเทวะหวังคนนี้ สามารถเป็นหมอเทวะอันดับที่ 8 ในการจัดอันดับหมอเทวะศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกยุทธภพ และยังเป็นผู้ฝึกยุทธในระดับก่อกำเนิดลมปราณ ทั้งๆที่มีอายุเพียงแค่ 20 ปี ในความคิดของถังหยินซวง พรสวรรค์ระดับนี้ยอดเยี่ยมและร้ายกาจเหมือนกับปีศาจร้ายเลยทีเดียว
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เธอนั้นรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขามากขึ้นเช่นเดียวกัน
หวังเสียน ส่ายหัวและยิ้มพร้อมกับตอบว่า “ไม่ใช่หรอกครับ! ในตอนนี้ผมอยู่ในระดับขั้นที่ 7 เพียงเท่านั้น!” เขานั้นไม่ได้โกหกเธอเลยแม้แต่น้อย เขาอยู่ในระดับขั้นที่ 7 จริงๆ แต่เป็นขั้นที่ 7 ของราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์
“นักรบระดับขั้นที่ 7?” ถังหยินซวง ค่อนข้างที่จะตกใจพอสมควร ความสามารถและสิ่งต่างๆที่เขาแสดงออกมาให้เห็นเมื่อวันก่อนนั้นจะเป็นระดับนักรบขั้นที่ 7 ได้อย่างไร?
แต่เมื่อเธอคิดใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่แล้วเธอก็จำได้ว่าหมอเทวะที่มีความสามารถบางคน มีความสามารถพิเศษที่สามารถช่วยเพิ่มความก้าวหน้าให้แก่ผู้ฝึกยุทธคนอื่นได้
“ถ้าเช่นนั้นหากมือสังหารได้ลงมือจริงๆแล้ว หมอเทวะหวังคุณต้องระวังตัวให้มากๆนะคะ!”
ถังหยินซวง มองไปที่หวังเสียน และกล่าวเตือนเขาด้วยรอยยิ้ม ที่ดูมีความห่วงใยในตัวเขาเป็นพิเศษ
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอกครับสบายใจได้เลย! พวกเขาทั้งสองคนสามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้ 4-5 คนพร้อมกันได้อย่างสบาย!”
หวังเสียน ยิ้มให้กับเธอ เขาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาออกมา ในเมื่อเธอมีความคิดและเข้าใจเช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ พวกเขานั่งพูดคุยกันอย่างสบายใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็จับปลาในลำธารนำมาย่างกินกัน มันจึงดูเหมือนกับว่าพวกเขานั้นมาท่องเที่ยวและปิกนิกกันอย่างแท้จริง
ถังหยินซวง กำลังพูดคุยกับ หวังเสียน อย่างสนุกสนาน เธอรู้สึกว่าหวังเสียน เป็นคนที่คุยสนุกและเข้าถึงได้ง่าย ที่สำคัญเขานั้นหล่อเหลามากเลยทีเดียว พวกเขาคุยกันจนถึงเที่ยงวัน
เสียงพิณ 7 สายและเสียงร้องเพลงของถังหยินซวง ดังไพเราะก้องกังวานอยู่ที่ด้านล่างของยอดเขา หวังเสียน นั่งยิ้มเอามือท้าวคางพร้อมกับมองดูสาวงามตรงหน้าของเขาเล่นดนตรีและร้องเพลงด้วยความสุข
ถังหยินซวง ก็ยิ้มให้กับเขาเช่นเดียวกัน
เสียงน้ำไหลเป็นท่วงทำนองที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับเสียงร้องเพลงและเสียงดนตรีจากพิณส่งเธอ การได้ยินท่วงทำนองเพลงที่สมบูรณ์แบบ ทำให้อารมณ์ของผู้คนที่ได้ฟังดีขึ้นมาในทันที สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นการเยียวยาจิตใจที่ดีชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้
“ฮิๆๆ! เธอกล้ามาเล่นดนตรีในสถานที่ห่างไกลและเงียบสงบเช่นนี้เธอไม่กลัวเลยอย่างนั้นเหรอ? หรือเธอไม่กลัวความตายกันแน่!”
“ไม่ใช่ว่าเธอไม่กลัวความตายหรอก! แต่ดูเหมือนว่าเธอนั้นค่อนข้างที่จะมั่นใจในผู้คุ้มครองที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณทั้งสองคนของเธอ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับนี้ก็น่ากลัวมากอย่างแท้จริง!”
“ดูพระอาทิตย์ยามเย็นที่ฉายแสงบนยอดเขาจนเป็นสีแดงอันสวยงามนั่นสิ! ช่างงดงามจับตาเสียจริงๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเพิ่มสีสันให้กับธรรมชาติแห่งนี้ด้วยสีแดงเลือดของพวกมันกันเถอะ!”
ในขณะนี้นั้นมีคนแปดคน ยืนอยู่ที่ขอบบนของภูเขา ในระยะไกลพวกเขามองเห็นคนทั้งสี่คนที่มีขนาดเล็กกำลังนั่งพูดคุยและฟังดนตรีกันอยู่ที่ด้านล่างของภูเขา
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคนรึ ฮิๆๆ! ปล่อยพวกเขาทั้งสองคนให้พวกเราทั้งสี่คนจัดการเอง พวกเจ้าสี่คนไปสังหาร ถังหยินซวง เมื่อเสร็จงานแล้วพวกเราจะได้กลับบ้านกันเสียที!”
“สำหรับชายหนุ่มคนนั้นก็ให้สังหารเขาทิ้งเสียด้วย มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บเขาไว้!” ชายชราหนึ่งในกลุ่มคนทั้งแปดพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
บนท่อนแขนของเขามีตะขาบลำตัวยาวประมาณ 20 เซนติเมตรเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
“ฮึๆ! หินจิตวิญญาณ 500 ก้อนอย่างนั้นเหรอ? งานนี้ช่างง่ายดายเสียจริงๆ!”
ชายชราที่มีใบหน้าเป็นแผลเป็นและพุพองจนน่าขยะแขยง แสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
…
เสียงดังกรอบแกรบแปลกๆดังมาจากทุกทิศทาง หากสังเกตดีๆบนพื้นดินและใต้ใบไม้จะมองเห็นแมลงและสัตว์มีพิษหลากหลายชนิดจำนวนนับไม่ถ้วนค่อยๆคืบคลานและปรากฏขึ้นอยู่บริเวณโดยรอบ
“ฮิๆๆ! ในตอนนี้พวกเราได้ทำการปิดล้อมไว้หมดแล้ว เริ่มลงมือล่าสังหารกันเถอะ!”
ชายชราอีกคนหนึ่งส่งเสียงอันแหบพร่าของเขาออกมา เขาปลดปล่อยออร่าสีเขียวปนดำอันแปลกประหลาดฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ งูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากยอดเขาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
คนทั้งแปดคน ที่อยู่บนยอดเขากระโดดลงมาพร้อมๆกัน ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะไม่สนใจความสูงมากกว่า 100 เมตรเลยแม้แต่น้อย
ที่ด้านล่างของภูเขาหวังเสียน ที่กำลังนั่งดูถังหนินซวง เล่นพิณอยู่ด้วยความเพลิดเพลิน พลันรู้สึกได้ถึงบางอย่างเขาเงยหน้าขึ้นมองในทันที
โม่ชิงหลงและโม่หยวน ก็เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับหรี่ตาลงเล็กน้อย
ถังหยินซวง หยุดเล่นเพลงของเธอในทันที ใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นเฉยเมยและเย็นชาเหมือนกับเทพธิดาสวรรค์ผู้สูงศักดิ์
“ใช่คนพวกนี้หรือไม่?” หวังเสียน ถาม ถังหยินซวง เพื่อความแน่ใจ
“หากดูจากเสื้อผ้าของพวกเขาแล้วดูเหมือนว่าน่าจะตรงกัน แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนพวกนี้หรือเปล่า!”
ถังหยินซวง ที่กำลังมองไปยังบุคคลทั้งแปดที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา เธอสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของคนพวกนี้ เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“สถานการณ์ค่อนข้างที่จะแย่มากเลยจริงๆ พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมาด้วยถึงสี่คน!”
………
จบบท