Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 272
ตอนที่ 272 ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคน!
.
“พวกเจ้าทุกคนที่นี่ก็ไม่ต่างจากเศษขยะ!”
เมื่อชายวัยกลางคนคนนั้นพูดจบเหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบ ก็รู้สึกไม่พอใจคำพูดของเขากันเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน! ถึงได้กล้าสบประมาทดูถูกพวกเราถึงขนาดนี้!”
“เพื่อนชาวยุทธ! ข้าคิดว่าเจ้านั้นอวดดีมากเกินไป เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับพวกเราที่อยู่ทั้งหมดนี่จริงๆอย่างนั้นหรือ?”
“ฮึ! พวกเจ้ายิ่งใหญ่มาจากไหนกัน ถึงได้กล้าดูถูกพวกเราอย่างนี้ พวกเจ้าก็เหมือนกับพวกเราที่ต้องการรับภารกิจเพื่อเงินรางวัล หากว่าพวกเจ้ามีความสามารถมากจริงๆ พวกเจ้าจะมาทำงานนี้เพื่ออะไร?”
“ใช่! หากพวกเจ้ามีความสามารถมากจริงๆ พวกเจ้าจะมารับภารกิจนี้เพื่ออะไร หากความแข็งแกร่งของพวกเจ้านั้นมากมายจนดูถูกว่าพวกเรานั้นเป็นเศษขยะ พวกเจ้าก็คงจะต้องร่ำรวยมหาศาลอย่างแน่นอน ทำเป็นพูดจาอวดดีที่แท้ก็ต้องการเงินรางวัลจากภารกิจไม่ต่างจากพวกเรา!”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบมองไปที่กลุ่มของชายชราพร้อมกับพูดจาวิพากษ์วิจารณ์กันออกมาด้วยความดูถูก
ชายชรายิ้มออกมาบางๆ เมื่อเห็นคนจำนวนมากแสดงความโกรธออกมา
“ถึงแม้ว่าสิ่งที่พวกข้านั้นพูดจะดูหยาบคายไปบ้าง แต่พวกเจ้าก็เป็นเศษขยะในสายตาของข้าจริงๆ!” ชายชราพูดออกมาด้วยความเย่อหยิ่ง
“ผู้เฒ่า! ในเมื่อเจ้ากล้าพูดออกมาเช่นนี้ เจ้าก็แสดงให้พวกเราเห็นหน่อยสิว่าเจ้านั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน!”
คำพูดของชายชรา ได้เพิ่มความรู้สึกโกรธแค้นให้กับบรรดาชาวยุทธขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาต่างจ้องมองไปยังกลุ่มของชายชราด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
“หุบปากซะ!”
ชายชราตะโกนเสียงดังพร้อมกับปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังของเขาออกมาในทันที
คลืนนน!
ออร่าและแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ ได้ปะทุขึ้นมาและกวาดเข้าหากลุ่มชาวยุทธที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ
“เขาเป็น!…ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ!”
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ!…ชายชราคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่ทรงพลังมาก!”
“ไม่น่าแปลกใจเลย ที่พวกเขากล้าพูดจาดูถูกพวกเราว่าเป็นเศษขยะ ในเมื่อเขามีความสามารถระดับก่อกำเนิดลมปราณ พวกเราก็คงจะเป็นเศษขยะในสายตาของพวกเขาจริงๆ!”
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าภารกิจนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณให้มาเข้าร่วมรับภารกิจได้เช่นนี้!”
เหล่าชาวยุทธต่างมองไปที่ชายชราด้วยความตกใจกลัว!
เมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ เข้าร่วมรับภารกิจแบบนี้ พวกเขาที่เป็นเพียงครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ก็ไม่มีความคิดที่จะกล้าท้าทายคนกลุ่มนี้อีกต่อไป!
ชายชรากวาดสายตามองไปยังทุกๆคนด้วยความภาคภูมิใจก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “มีใครต้องการแสดงความคิดเห็นอีกหรือไม่? หากข้าต้องการสิทธิ์ในการรับภารกิจนี้สามตำแหน่ง!” แรงกดดันของเขายังคงส่งผลกระทบต่อเหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง
“ยังมีใครต้องการคัดค้านอยู่อีกไหม?” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆชายชรายิ้มเยาะและพูดออกมา “เนื่องจากว่าไม่มีใครคัดค้านฉะนั้นพวกเราก็ยังยินดีที่จะยก สิทธิ์ที่เหลืออีกหนึ่งสิทธิ์ให้กับพวกเจ้า เพราะพวกเรานั้นต้องการเพียงแค่สามตำแหน่ง อีกหนึ่งตำแหน่งที่เหลือพวกเจ้าต้องตกลงกันเอาเอง พวกข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย!”
ในเมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณอยู่ในที่นี้ด้วย เหล่าชาวยุทธที่เป็นเพียงระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ก็ไม่มีความหวังเหลืออีกมากนัก พวกเขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับ และหวังว่าตำแหน่งภารกิจสุดท้ายจะเป็นของพวกเขา
“ข้าเชื่อว่าตำแหน่งสุดท้ายควรจะเป็นของชายผู้นี้ เขามีความแข็งแกร่งที่ดีมากและคู่ควรจะทำงานร่วมกันกับพวกเรา!” ชายวัยกลางคนอีกคนแสดงความคิดเห็นในขณะที่เขามองไปที่โม่หยวน
“ฮึๆๆ!” โม่หยวนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหันไปมองยังหวังเสียน
หวังเสียนพยักหน้าตอบกลับ
ในตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะปกปิดความสามารถเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามมีคนบางคนที่ไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดมัน… !
“ข้าว่าพวกเจ้าทั้งสามคนไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำงานร่วมกับข้า!” โม่หยวนมองไปที่ชายวัยกลางคนและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“หือ?” ชายชราและชายวัยกลางคนสองคนหันไปมองที่โม่หยวนด้วยสายตาที่เย็นชา พวกเขาต่างรู้สึกแปลกใจกับคำตอบของโม่หยวน
เหล่าบรรดาชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ยังมองไปที่โม่หยวนด้วยความตกตะลึง
เขากล้าพูดกับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างนี้ ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะอวดดีมากเกินไป!
“ข้าขอเดาว่าเจ้าคงจะอยากตายมากเลยสินะ!” ชายชราพูดออกมาด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ในขณะที่เขาเหยียดแขนออกมาอย่างช้าๆ
เขาหายไปจากตรงที่เดิมจนเหลือแต่ภาพติดตา ก่อนที่ตัวเขานั้นจะไปยืนอยู่ตรงด้านหน้าของโม่หยวนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“เฮ้อ! มันจบแล้วล่ะ ชายคนนี้ช่างโง่เขลาเสียจริงๆ เขาถึงกับกล้าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ!”
“คนผู้นี้คิดอะไรอยู่กันแน่! เขาไม่รู้ตัวอย่างนั้นหรือว่าตัวเขานั้นไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้!”
“ฮึ! คนที่อยากตายนั้นคงจะเป็นเจ้าเสียมากกว่า!” โม่หยวนพูดออกมาอย่างเย็นชา คำพูดของเขานั้นได้สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่อยู่บริเวณโดยรอบอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อพูดจบ โม่หยวนก็เคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน ฝ่ามือของเขากลายเป็นกรงเล็บในขณะที่เขาคว้าไปข้างหน้าก่อนที่จะปะทะกับหมัดของชายชราที่ชกออกมา
“ไปตายซะ!” ชายชราตะโกนเสียงดัง
เขาจ้องมองไปที่โม่หยวนด้วยสายตาที่ดุร้าย และหมัดของเขาก็พลันทวีความรุนแรงขึ้นมาในทันที
ตู้มมมม!
เมื่อหมัดและกรงเล็บเริ่มปะทะกัน โม่หยวนยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง เขาจ้องมองไปยังชายชราอย่างไร้ความรู้สึก
ออร่าสีดำเริ่มหมุนวนรอบร่างกายของเขา มันเป็นออร่าที่ทรงพลังของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ
ชายชราตกตะลึงจนรูม่านตาของเขาขยายขึ้น เขาจ้องมองไปยังโม่หยวนด้วยความตกใจกลัว
“ฮึฮึ! เพียงแค่พึ่งก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณ แต่กลับใจกล้าหยิ่งยโสอวดดีมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”
โม่หยวนไม่ได้เป็นผู้ที่พูดออกมา แต่เสียงนี้นั้นมาจากผู้อื่น หลังจากนั้นทุกคนเห็นเพียงแค่ภาพเงาติดตาไปปรากฏอยู่ตรงด้านข้างชายชรา
หลังจากนั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนนั้นต้องตกตะลึงนั่นก็คือ ชายคนนั้นยกขาขึ้นเตะชายชราอย่างเต็มแรง
ชายชรารู้สึกได้ถึงการโจมตี แต่เพราะการเตะนั้นรวดเร็วมากเกินไป ชายชราจึงไม่สามารถป้องกันตัวได้เลยแม้แต่น้อย
ตู้มมมม!
ชายชราโดนแรงเตะส่งจนกระเด็นพลิกตลบตีลังกาออกไปไกล เหมือนกับถูกชนด้วยรถสิบล้อ
โครมมม!
ชายชราปลิวกระเด็นไปปะทะเข้ากับกำแพงอย่างเต็มแรง
ทุกคนอ้าปากค้างและจ้องมองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง และไม่สามารถพูดอะไรกันออกมาได้เป็นเวลานาน
คลึกก!
ตุบบ!
ชายชราเดินโซเซออกมาจากเศษซากกำแพงที่หักพังพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง ร่างกายเขาสั่นสะท้านในขณะที่เขาจ้องมองไปยังโม่ชิงหลงและโม่หยวน
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคน!”
เสียงอันแหบแห้งและสั่นเครือดังขึ้นมาจากลำคอของชายชรา ในตอนนี้สีหน้าของเขานั้นซีดเซียวลงเป็นอย่างมาก
“แท้ที่จริงแล้วพวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างนั้นหรอกหรือ?”
“น่าตกใจมากจริงๆ! ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นพูดว่าตำแหน่งภารกิจทั้งสามตำแหน่งนั้นต้องเป็นของพวกเขา!”
“มันจบแล้วล่ะ! ภารกิจในครั้งนี้คงไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากข้ารู้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมาเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ด้วยหลายคน ข้าก็คงจะไม่มาให้เสียเวลาอย่างแน่นอน!”
เหล่าชาวยุทธที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างรู้สึกหดหู่ใจ การสมัครเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้เป็นการเสียเวลาเปล่าอย่างแท้จริง
แม้แต่ถังจิ่วเฉาและถังหยินซวง ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชายชราที่มีแผลเป็นชำเลืองมองไปยังโม่ชิงหลงและโม่หยวน ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ในก่อนหน้านี้โม่ชิงหลงได้โจมตีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณด้วยการเตะธรรมดาทั่วๆไป จนชายชราผู้นั้นได้รับบาดเจ็บ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณโดยทั่วไปสามารถทำได้อย่างแน่นอน
โม่ชิงหลงน่าจะแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเป็นอย่างมาก
“ในตอนนี้ผมได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ตำแหน่งภารกิจทั้งสามตำแหน่งจะเป็นของพวกท่าน และเงินรางวัล 2,000 ล้านหยวนก็จะเป็นของพวกท่านด้วยเช่นเดียวกัน!”
ถังจิ่วเฉา ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขารีบประกาศตำแหน่งภารกิจออกมาอย่างรวดเร็ว
การสูญเสียเงินเพียงแค่ 2,000 ล้านหยวน แต่สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ เพื่อมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวได้ถึงสองคนนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและคุ้มค่ามาก
หากให้พูดกันตามตรงแล้วผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคนนี้ เทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณหลายสิบคนเลยทีเดียว
“ด้วยความยินดี!” โม่ชิงหลง ตอบกลับพร้อมกับพยักหน้าให้ถังจิ่วเฉา
ถังหยินซวง มองไปยังกลุ่มของหวังเสียน พร้อมกับเริ่มสังเกตพวกเขาทีละคน
“ในเมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ผมก็ต้องขอขอบคุณผู้เชี่ยวชาญทุกๆท่านที่สละเวลาอันมีค่าของพวกท่าน มาเข้าร่วมการคัดเลือกภารกิจในครั้งนี้ด้วย!”
ถังจิ่วเฉา ประสานมือพร้อมกับโค้งคารวะไปยังกลุ่มชาวยุทธที่อยู่ในลานกว้างอย่างนอบน้อม
“ไป!กลับกันเถอะ!”
“ภารกิจที่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเข้าร่วมแบบนี้ มันช่างเสียเวลาของพวกเราจริงๆ!”
“ใช่! มันคงจะไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเรานั้นจะอยู่ต่อไปอีก ต่อให้ตำแหน่งของภารกิจยังว่างอยู่อีกหนึ่งตำแหน่ง ข้าก็แน่ใจว่าพวกเขานั้นคงจะไม่ยินดีหารเงินรางวัลให้กับพวกเราอย่างแน่นอน!”
เหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ที่ลงชื่อเข้าร่วมภารกิจต่างแสดงความคิดเห็นกันออกมาพร้อมกับส่ายหัวอย่างช้าๆ ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆทยอยแยกย้ายกันกลับออกไป
ชาวยุทธบางคนมองไปยังชายวัยกลางคนสองคนที่มาพร้อมกับชายชรา ด้วยสายตาที่เยาะเย้ย
พวกเขายังคงตกตะลึงและยืนแข็งค้างอยู่กับที่ โดยที่ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน
พวกเขาคงคิดว่าอาจารย์ของพวกเขาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณนั้นคงจะแข็งแกร่งมากที่สุดในที่นี้แล้ว แต่กระนั้นอาจารย์ของพวกเขาก็พ่ายแพ้ให้กับคนอื่นอย่างง่ายดาย
“ไปกันเถอะ!” ชายชราลุกขึ้นยืนและซวนเซเล็กน้อย เขาพูดกับลูกศิษย์ทั้งสองคนของเขา และหันไปมองทางโม่ชิงหลง ก่อนที่จะเดินออกไปด้วยความขมขื่น
ชายวัยกลางคนสองคนก้มหน้าลงพร้อมกับรีบเดินตามหลังชายชราออกไป
“ฮ่าๆๆ! พวกท่านทั้งสามคนได้โปรดตามผมมา!”
เมื่อเห็นว่ากลุ่มชาวยุทธได้กลับไปหมดแล้ว ถังจิ่วเฉา ก็เดินตรงไปยังกลุ่มของหวังเสียน พร้อมกับพูดจาเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าไปในวิลล่า ด้วยความกระตือรือร้น
……..
จบบท