Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 269
ตอนที่ 269 เข้าร่วมรับภารกิจ
.
หวังเสียน ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการสอนเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ตัวเขามีระบบการสืบทอดมรดกของราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ซึ่งแตกต่างจากการบ่มเพาะของมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสอนได้ ต่อให้ตัวเขาต้องการจะทำก็ตาม
เนื่องจากมีชายชราที่ทรงพลังอยู่ที่นี่ แม้แต่หวังเสียนเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ หากอยู่ในร่างของมนุษย์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่หวังเสียน สั่งให้ เสี่ยวหรัน ขอคำปรึกษาจากชายชรา หรือไม่ก็ฝึกฝนตาม กวนชูชิง พร้อมกับเธอไปเลย
เขาเชื่อว่ามันจะดีกว่าการที่เขาจะสอนเสี่ยวหรัน ด้วยตัวเอง
หลังจากช่วงบ่ายที่ผ่อนคลาย โม่ชิงหลงและโม่หยวน ก็รีบกลับมาถึงในตอนเย็น
“มีความคืบหน้าหรือไม่?” หวังเสียน ยิงคำถามในทันทีเมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา
“มีเรื่องที่ยุ่งยากเกิดขึ้นนิดหน่อยขอรับองค์ราชา!”
โม่ชิงหลงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตามที่หน่วยข่าวกรองของเราได้แจ้งเข้ามา ลูกสาวของ ถังจิ่วเฉา ที่ต้องการบอดี้การ์ดในการปกป้องและคุ้มครองนั้นดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลูกศิษย์ของสำนักเสียงสวรรค์ซึ่งเป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้สำนักของพวกเขากำลังคัดเลือกธิดาสวรรค์และโอรสสวรรค์เพื่อเป็นทายาท และเป็นว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไป ในฐานะผู้สมัครเป็นทายาทสายตรงของสำนักเสียงสวรรค์ผู้ที่เข้าร่วมในการคัดเลือกครั้งนี้ต้องออกมาสัมผัสกับโลกภายนอกเพื่อสะสมความแข็งแกร่งและประสบการณ์ให้เพียงพอ หนึ่งในพวกเขาจึงจะได้รับการพิจารณาให้เป็นธิดาสวรรค์หรือโอรสสวรรค์แห่งสำนักเสียงสวรรค์!”
“ขณะที่ลูกสาวของ ถังจิ่วเฉา กำลังท่องเที่ยวอยู่นั้นมีคนพยายามจะลอบสังหารเธอ มันอาจจะเป็นคำสั่งจากคู่แข่งของคนในสำนักเดียวกันกับเธอ หรืออาจจะเป็นตัวของ ถังจิ่วเฉา เองก็ได้ เพื่อจะได้เพิ่มประสบการณ์และเครดิตให้กับลูกสาวของตัวเขาเอง!”
“มีความน่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ?”
หวังเสียน ขมวดคิ้วเพราะมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมากทีเดียวเมื่อเกี่ยวกับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์
สำนักเสียงสวรรค์เป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมานานหลายทศวรรษ ในสำนักของพวกเขานั้นมีระดับผู้เชี่ยวชาญอันทรงพลังอยู่อย่างมากมาย แตกต่างจากสำนักวังเปลวไฟที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แม้แต่โม่ชิงหลงและโม่หยวน ก็ยังคงต้องระมัดระวังเมื่อต้องหาข้อมูลของสำนักเสียงสวรรค์แห่งนี้
“มือสังหารอาจจะไม่ได้มาจากสำนักเสียงสวรรค์เองก็ได้ พวกเขาอาจจะถูกว่าจ้างมาจากองค์กรลอบสังหารบางแห่ง!” โม่ชิงหลงพูดเสริมออกมาอย่างมีเหตุผล “หากพวกเรานั้นต้องการที่จะแก้แค้นเราจำเป็นต้องได้รับข่าวสารโดยตรงจากลูกสาวของถังจิ่วเฉา มิฉะนั้นก็ยากที่จะลงความเห็นได้ว่าใครเป็นศัตรูตัวจริงของพวกเรา!”
แววตาของหวังเสียน สาดประกายออกมาอย่างแน่วแน่พร้อมกับพูดออกมาว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ เราต้องล้างแค้นให้กับพี่น้องของพวกเราให้ได้!”
“องค์ราชาขอรับกระผมพอจะมีวิธีอยู่บ้าง ในตอนนี้กระผมและโม่หยวน ตกลงจะเข้ารับภารกิจของ ถังจิ่วเฉา เมื่อเราได้รับภารกิจแล้วเราจะสามารถเข้าใกล้ตัวลูกสาวของเขาเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้!” โม่ชิงหลง รายงานต่อหวังเสียน
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย!”
หวังเสียน คิดใคร่ครวญอยู่ครู่นึงก่อนที่เขาจะพูดออกมาอีกว่า “แจ้งเหล่านักรบมังกรของพวกเราทั้งหมดให้ระมัดระวังตัวอย่าให้เกิดเหตุร้ายใดๆขึ้นมาอีก หากเกินกำลังไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถอนตัวออกมาจากสถานการณ์นั้นได้ในทันที!”
“ขอรับองค์ราชา! กระผมจะลงทะเบียนรับภารกิจบนเว็บไซต์ของโลกยุทธภพในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ไปที่จังหวัดกุ้ยกันทันที” โม่ชิงหลง โค้งตัวลงเพื่อรับคำกับหวังเสียน
“ดีมาก!” หวังเสียน พยักหน้ารับอย่างช้าๆ “เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าพร้อมกัน!”
“ขอรับ!”
โมชิงหลงและโม่หยวน เดินจากไปในขณะที่หวังเสียน นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจอย่างเงียบๆ
ในตอนกลางคืนหวังเสียน ได้บอกกับเสี่ยวหยูและกวนชูชิง ว่าเขานั้นต้องไปทำธุระที่สำคัญบางอย่างและต้องใช้เวลานานพอสมควร เขาทิ้งหน้าที่การสอนวิชายุทธของเสี่ยวหรัน ให้กับชายชราอย่างไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นซุยหวางจึงไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก “เจ้าเด็กเหม็นคนนี้เห็นฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรืออย่างไรกัน!”
แต่หลังจากที่เขาคิดถึงระดับความสามารถและพรสวรรค์ของทั้ง กวนชูชิงและเสี่ยวหรัน เขาก็บ่นพึมพำออกมาเพียงไม่กี่คำแล้วก็หยุดบ่นไปในที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้นหวังเสียน, โม่ชิงหลงและโม่หยวน ขึ้นเครื่องบินไปจังหวัดกุ้ย
ซุนหลิงซิ่ว พร้อมด้วยหมอโลหิตเองก็ได้เริ่มต้นธุรกิจอย่างเป็นทางการในศูนย์การแพทย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ ของหวังเสียน แล้วเช่นเดียวกัน
จังหวัดกุ้ยอยู่ห่างจากเมืองเจียงเฉิงประมาณหนึ่งพันกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่ค่อนข้างห่างไกลและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน้อย
พื้นที่ส่วนมากในจังหวัดกุ้ยนั้นเป็นเทือกเขา แต่ในแง่มุมที่ตั้งของทางภูมิศาสตร์การที่มีภูเขาล้อมรอบนั้นถือได้ว่าเป็นชัยภูมิที่สำคัญมากเลยทีเดียว
ถังจิ่วเฉา เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในจังหวัดกุ้ย และค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในมณฑลกวางสี เมืองหลวงของจังหวัดกุ้ยคือเมืองอู่ซาน ซึ่งเป็นเมืองระดับสองที่ไม่ค่อยจะเจริญรุ่งเรืองมากนัก
ถึงแม้ว่าเมืองแห่งนี้จะไม่ค่อยคึกคัก แต่ก็เป็นเมืองที่สวยงามมากเมืองหนึ่งเลยทีเดียว
“นายท่านขอรับ! ตามคำสั่งของภารกิจเราจะต้องไปที่บ้านพักของถังจิ่วเฉา เพื่อทำการทดสอบเพื่อรับภารกิจ!” โม่ชิงหลงหันไปพูดกับหวังเสียน
“เรายังต้องเข้ารับการทดสอบอีกอย่างนั้นหรือ?” นี่เป็นครั้งแรกสำหรับหวังเสียน ที่ได้เข้าร่วมการรับภารกิจเขาจึงไม่ค่อยเข้าใจขั้นตอนมากมายนัก
“ใช่แล้วขอรับนายท่าน! เราต้องทำการทดสอบว่าเรามีความสามารถในการทำภารกิจได้หรือไม่ หลังการทดสอบยังมีการคัดเลือกอีกขั้นตอนหนึ่งด้วย!”
โม่ชิงหลงอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า “เงินค่าจ้างสำหรับภารกิจนี้คือ 500 ล้านหยวนสำหรับผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกแต่ละคน พวกเขานั้นรับแค่จำนวน 4 คนเพียงเท่านั้น รวมแล้วเป็นเงินจำนวน 2,000 ล้านหยวน เงินจำนวนมากขนาดนี้สามารถล่อลวงกองกำลังระดับชั้น 1 ได้เลยทีเดียว!”
“บางทีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณก็คงจะเข้าร่วมในการคัดเลือกด้วยเช่นเดียวกัน!”
ค่าจ้างภารกิจ 500 ล้านหยวนไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยสำหรับนักรบระดับขั้นที่ 9 หรือผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ ดังนั้นมันจึงคุ้มค่ามากสำหรับกลุ่มกองกำลังที่จะมอบหมายภารกิจเหล่านี้ให้กับสาวกของพวกเขา
หวังเสียน พยักหน้าเล็กน้อย และทั้งสามคนก็นั่งรถแท็กซี่ไปที่เขตบ้านพักในเมืองอู่ซาน
เมืองอู่ซาน ตั้งชื่อตามภูมิประเทศของเทือกเขา ในเขตบริเวณเทือกเขาถูกล้อมรอบด้วยโซนบ้านพักสุดหรู
ถังจิ่วเฉา อาศัยอยู่ในโซนวิลล่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง พื้นที่โดยรอบมีต้นไม้เขียวชอุ่มและทิวทัศน์ที่สวยงาม
เขตของวิลล่าครอบครองครึ่งนึงของยอดเขาและอาจถือได้ว่าเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่เลยก็ว่าได้
ทั้งสามคนมาถึงทางเข้าวิลล่าและระบุตัวตนของพวกเขาที่ได้ลงทะเบียนรับภารกิจในเว็บไซต์เอาไว้
ที่ประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 7-8 คนแต่งกายอยู่ในชุดสูทสีดำ กำลังตรวจตาทุกคนด้วยความระมัดระวัง
พวกเขาต่างพกอาวุธปืนสั้นประจำตัวกันทุกคน
อาวุธร้อนประเภทปืนยังคงเป็นภัยคุกคามต่อเหล่าผู้ฝึกฝนวิชายุทธทั่วๆไป แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณก็ยังไม่สามารถ สกัดกั้นการระดมยิงของปืนที่มีอานุภาพในการทะลุทะลวงสูงได้
มีแค่เพียงผู้ที่ไปถึงขอบเขตเม็ดยาเซียนเท่านั้นที่สามารถเพิกเฉยต่ออาวุธเหล่านี้ได้
แต่ถ้าเป็นระดับปืนใหญ่ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงหรือระดับระเบิดปรมาณู ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตเม็ดยาเซียนก็คงจะตายอย่างไม่เหลือซากเช่นเดียวกัน
เมื่อเข้าไปในขอบเขตของวิลล่า จำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มีจำนวนมากขึ้น วิลล่าหลังนี้มีขนาดใหญ่และอาณาเขตที่กว้างขวางมากกว่าวิลล่าริมทะเลของหวังเสียน 7-8 เท่า
“มีแต่คนรวยระดับจังหวัดแบบนี้เท่านั้นที่จะสามารถครอบครองคฤหาสน์หรูแบบนี้ได้!”
หวังเสียน หันไปมองพื้นที่ของวิลล่าหรูแห่งนี้ด้วยความสนใจ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้ร่ำรวยมากขนาดไหน
“ผู้สมัครทุกๆท่านกรุณาตามผมมา!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชุดสูทสีดำ พูดพร้อมกับเดินนำทุกคนเข้าไปที่หน้าวิลล่า
มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และมีพื้นที่เปิดโล่งอยู่ตรงด้านหน้าของวิลล่า
ในเวลานี้มีคนประมาณ 20-30 คนรวมตัวกันอยู่ที่พื้นที่เปิดโล่งของวิลล่า
“กรุณารออยู่ที่นี่เมื่อคนที่สมัครคัดเลือกมากันครบแล้ว เราจะดำเนินการต่อในทันที!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชุดสูทสีดำบอกกับพวกเขาก่อนที่จะเดินจากไป
“คนทั้งหมดพวกนี้อยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ!”
โม่ชิงหลงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการถูกล่อรวมด้วยเงินที่มากมายขนาดนี้ได้
หวังเสียนยิ้มและรออยู่อย่างเงียบ ๆ ที่มุมหนึ่ง
“มีคนเยอะมากจริงๆ!”
ทันใดนั้นชายอีกสี่คนก็เดินเข้ามา
พวกเขามองไปที่กลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้างหน้าวิลล่าด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน
“พวกเจ้าทั้งหมดกลับไปได้แล้วอย่ามาเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกเลย ภารกิจนี้พวกเราทั้งสี่คนจะเป็นผู้ที่รับเอาไว้เอง!”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาทั้งสี่คน ต่างถือดาบไว้ในมือกันทุกคน การแต่งตัวของพวกเขานั้นเหมือนกับชนกลุ่มน้อยทางภาคเหนือ แรงกดดันจากพวกเขานั้นดูทรงพลังและเกี้ยวกราดมากทีเดียว
แต่คำพูดและท่าทางอันอวดดีของพวกเขาก็สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่
ถึงแม้ว่าคนส่วนมากที่อยู่ในที่นี้จะเป็นเพียงครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ แต่จำนวนของพวกเขานั้นมากกว่า 30 คนพวกเขาจะกลัวคนทั้งสี่คนนี้ได้อย่างไร
“สี่ดาบแห่งสวรรค์!”
ชายชราคนหนึ่งในกลุ่มคนพูดออกมาในขณะที่เขามองไปยังคนทั้งสี่ ด้วยความตกตะลึง
“อะไรนะ! พวกเขาทั้งสี่คนนี้คือสี่ดาบแห่งสวรรค์อย่างนั้นหรือ?”
“พวกเขาคือสี่ดาบแห่งสวรรค์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จากจังหวัดเป่ยเฟิงที่อยู่ใกล้ๆนี้งั้นรึ?”
กลุ่มคนที่อยู่ในลานกว้างทั้งหมดต่างมองไปยังคนทั้งสี่ ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด!
……….
จบบท