Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 256
ตอนที่ 256 สับสนอลหม่านไปทั่วทั้งสำนัก
.
อ๊าก!
“แข็งแกร่งมาก! คนกลุ่มนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ!”
“อุณหภูมิและความร้อนที่ปล่อยออกมาจากเปลวไฟสีน้ำเงินนั้นช่างน่ากลัวมาก!”
“พระเจ้าช่วย! ผู้อาวุโสหลิวกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
“พวกเรา!…ควรจะหนีดีหรือไม่?!”
ภูเขาหินเพลิงที่อยู่ในเขตของสำนักวังเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้ไฟได้ไหม้และลุกลามไปทั่วบริเวณเหมือนกับอยู่ท่ามกลางภัยพิบัติ
บนท้องฟ้าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด เปลวไฟโหมกระหน่ำและร้อนแรงสว่างไสวไปทั่วทั้งท้องฟ้า
คลื่นความร้อนและคลื่นแห่งพลังงานจากการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณส่งผลกระทบต่อสำนักวังเปลวไฟทั้งหมด ประกายไฟและกลุ่มลูกไฟขนาดใหญ่กระจายไปทั่วบริเวณ
เปลวไฟที่ร้อนแรงแผดเผาจนหินที่ถูกความร้อนสูงเริ่มหลอมละลายและไหลไปตามพื้นเหมือนกับลาวา แม้แต่นักรบระดับขั้นที่ 7 และขั้นที่ 8 ก็ยังต้องรีบหลบหนีกันด้วยความระมัดระวัง
เปลวไฟสีน้ำเงินถูกยิงออกมาจากกลุ่มคนของสำนักเทพอัคคี อย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้ในอากาศครั้งนี้ เหล่าผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟเริ่มได้รับบาดเจ็บกันทีละคน ลูกศิษย์ที่ยืนมองกันอยู่ทางด้านล่างต่างตกใจและหวาดกลัวจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
พวกเขามาจากสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ สำนักของพวกเขานั้นพึ่งจะเริ่มสวมมงกุฎแห่งราชา ตอนนี้พวกเขานั้นสมควรจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด ในเขตมณฑลทางตอนใต้นี้
แต่อย่างไรก็ตามชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาและเริ่มทำลายล้างพวกเขาอย่างช้าๆ
นี่ … มันเกิดขึ้นได้ยังไง!
“สำนักเทพอัคคี! พวกเจ้าจงออกไปจากสำนักวังเปลวไฟซะ หาไม่แล้วพวกเจ้าทั้งสิบคน จะไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่!” เจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟจ้องมองไปที่กลุ่มคนของสำนักเทพอัคคี พร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง ดวงตาของเขานั้นแดงก่ำด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟเริ่มล้มลงทีละคน
“ฮั่วตู่! ในครั้งนี้เจ้าต้องจ่ายราคาสำหรับการขโมยสมบัติจิตวิญญาณของสำนักเทพอัคคีเรา!” ชายชราจากสำนักเทพอัคคีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าสำนักแห่งวังเปลวไฟพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครในสำนักไวไฟของเจ้ารอดชีวิตไปได้!”
อ๊ากกกก!
ในขณะที่ชายชรากำลังพูดเสียงแห่งความเจ็บปวดก็ดังขึ้นมาจากทางด้านข้าง
เจ้าสำนักแห่งวังเปลวไฟ เหลือบไปมองตามเสียงด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“ไอ้พวกบัดซบ!”
ใบหน้าของเจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อเขาเห็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักวังเปลวไฟถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปต่อหน้าต่อตา
ในเวลาเพียงสิบนาทีผู้อาวุโสสามคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและหนึ่งคนเสียชีวิต
หากยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปสำนักวังเปลวไฟของเขาอาจถูกทำลายลงไปทั้งหมดก็เป็นได้
เจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟกัดฟันพร้อมกับกำชับหอกเพลิงในมือของเขาเอาไว้แน่น “ในเมื่อพวกเจ้าอยากจะตายกันมากนัก ข้าจะให้พวกเจ้าสมความปรารถนา!”
ฟูมมมม!
ลูกบอลเปลวไฟขนาดเท่าศีรษะมนุษย์บินออกมาจากสำนักวังเปลวไฟ ท้องฟ้ายามค่ำคืนพลันสว่างเจิดจ้า เหมือนกับว่ามีดวงอาทิตย์ขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา
“พวกเจ้าทุกคนต้องตายอยู่ที่นี่ และจะไม่มีใครสามารถออกไปได้ทั้งนั้น!”
ลูกบอลเปลวไฟขนาดเท่าศีรษะของมนุษย์บินอยู่เหนือหัวของเขาพร้อมกับเปล่งประกายความร้อนแรงออกมา
“เปลวไฟแห่งจิตวิญญาณ! มันคือลูกบอลเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณ!”
กลุ่มคนจากสำนักเทพอัคคีจ้องมองไปที่ลูกบอลเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณที่ลอยอยู่เหนือหัวของเจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟ
“ลูกบอลเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณสามารถปรับแต่งร่างกายของผู้ฝึกตนที่ต้องการสร้างธาตุไฟในแกนลมปราณ เพื่อก่อกำเนิดพลังงานแห่งธาตุไฟประจำกายได้! ฮั่วตู่นั้นคือสมบัติจิตวิญญาณที่เจ้าขโมยมาจากสำนักเทพอัคคีของข้า!” ชายชราที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเจ้าสำนักแห่งวังเปลวไฟจ้องมองไปที่เขาอย่างโกรธแค้น
“ฮ่าๆๆ! สมบัติทางจิตวิญญาณชิ้นนี้ข้าครอบครองโดยใช้ความสามารถของข้าเอง ต่อให้ก่อนหน้านี้มันเป็นของพวกเจ้าแต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่สามารถเก็บรักษามันไว้ได้ตอนนี้มันก็คือของของข้า!” เจ้าสำนักแห่งวังเปลวไฟหัวเราะออกมาเสียงเย็น
“สังหารผู้อาวุโสของสำนักเราแล้วแอบขโมยลูกบอลเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณมา…เจ้ามันช่างต่ำช้าเสียจริงๆ เมื่อพวกข้ามาถึงที่นี่กันแล้วเจ้าคิดว่าพวกเรายังจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอดอยู่อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ?” ชายชราที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟที่มีรูปร่างคล้ายกับเทพอสูรขนาดใหญ่ แสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว “เจ้าคิดว่าพวกเรามาครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวใดๆมาเลยอย่างนั้นหรือ?”
“ฮ่าๆๆ! สำนักศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าร้อยปีของพวกเรา ไม่ใช่สำนักกระจอกๆ อย่างสำนักวังเปลวไฟของพวกเจ้า ฮ่าๆๆ!” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์หัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนที่เขาจะพลิกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมกับมีลูกบอลขนาดเท่ากำปั้นลอยออกมาจากขวามือของเขา
ลูกบอลดูเหมือนจะถูกปิดผนึกด้วยวัตถุที่คล้ายกับลาวา
เปลวไฟหนาแน่นท่วมเข้าไปในลูกบอลรอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นที่ชั้นนอกของลูกบอล ออร่าที่รุนแรงเริ่มเล็ดลอดกระจายตัวออกมาจากลูกบอล
“นี่คือลูกบอลลาวาที่ก่อตัวอยู่ใต้ชั้นลาวาที่ร้อนแรงกว่า 100 เมตร วันนี้ข้าจะนำมาใช้เพื่อเผาศพของพวกเจ้า!”
เหิงหวัง แสดงความตื่นเต้นออกมาหลังจากที่ลูกบอลลาวาในมือของเขา เริ่มปลดปล่อยอุณหภูมิที่ร้อนแรงออกมาทั่วบริเวณ
โชคดีที่ทุกคนรอบตัวของเขาเป็นผู้ฝึกฝนวิชาเกี่ยวกับธาตุไฟ ถ้ามีคนธรรมดาอยู่บริเวณนี้พวกเขาจะถูกแผดเผาจนตายด้วยคลื่นความร้อนที่รุนแรง
“ตาย!”
เหิงหวัง ขว้างบอลลาวาไปที่เจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟอย่างรวดเร็ว
“อ่ะ?!”
เมื่อเจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟเห็นลูกบอลลาวาที่ปลดปล่อยคลื่นความร้อนออกมาอย่างรุนแรงพุ่งตรงเข้ามาหาเขาด้วยความเร็ว ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาในทันที
“ฮึ่ม!”
เขาร้องคำรามออกมาเสียงต่ำพร้อมกับร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน เปลวไฟจากลูกบอลไฟแห่งจิตวิญญาณเริ่มไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เปลวไฟไหลเวียนเข้าไปอยู่ในร่างกายของเขา ดวงตาของเขานั้นลุกไหม้เป็นเปลวไฟ เขายกมือขึ้นอย่างช้าๆ เสาเปลวไฟหนาสี่ถึงห้าเมตรพุ่งตรงเข้าไปหาลูกบอลลาวาอย่างรวดเร็ว
“ฆ่ามัน!”
ในทันทีที่เจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟกำลังหยุดลูกบอลลาวา ชายชราแห่งสำนักเทพอัคคีก็เข้าโจมตีเขาในทันที
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
กลุ่มคนจากสำนักเทพอัคคี ปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง ความรุนแรงและความแข็งแกร่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้นทำให้ท้องฟ้าแดงฉานราวกับลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ
เปลวไฟที่รุนแรงโหมกระหน่ำและมีอันตรายอยู่ทั่วบริเวณ
“หนีเร็ว! พวกเรารีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุด!”
“ไปเร็ว! ไปๆๆ!”
“สำนัก!..สำนักของพวกเรา!..สำนักวังเปลวไฟของพวกเราจะจบสิ้นแล้วจริงๆอย่างนั้นรึ?”
เหล่าลูกศิษย์ของสำนักวังเปลวไฟที่อยู่บนพื้นดิน ต่างวิ่งหนีกันด้วยความชุลมุนวุ่นวาย ใบหน้าของพวกเขานั้นซีดขาวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
อ๊ากกก!
“ไม่ๆๆ…ม่ายยย!”
อ๊ากกก!
เสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดและโหยหวนดังออกมาจากบนท้องฟ้าอย่างน่ากลัว
หมอเทวะเซิ่งหัว และผู้อาวุโสร่างใหญ่คนหนึ่งถูกสังหารไปพร้อมกัน
ผู้อาวุโสสี่คนได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้จะเสียชีวิต ในขณะที่อีกสามคนก็ถูกสังหารลงไป สถานการณ์ของสำนักวังเปลวไฟในตอนนี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ถ้าไม่ใช่เพราะลูกบอลเปลวไฟแห่งวิญญาณที่ลอยอยู่เหนือหัวของเจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟ ที่ส่งพลังให้กับเขาอย่างต่อเนื่อง เขาคงจะไม่สามารถต้านทานชายชราสามคนของสำนักเทพอัคคี ที่กำลังต่อสู้กับเขาอยู่ในตอนนี้ได้
“ท่านเจ้าสำนักฮั่วตู่ คงไม่สามารถต้านทานไปได้นานมากกว่านี้อีกแล้วล่ะ!”
เหล่าสาวกและผู้ดูแลของสำนักวังเปลวไฟต่างตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นว่าเจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟของพวกเขากำลังถูกปิดล้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณหลายคน
“พวกเรารีบหนีกันให้เร็วที่สุด!”
“วิ่งงง!”
เสียงกรีดร้องที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวดังออกมาจากบริเวณโดยรอบของสำนักวังเปลวไฟ
เมื่อมีคนแรกที่เริ่มหนี คนอื่นๆก็เริ่มวิ่งหนีตามกันอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกในตอนนี้ของผู้อาวุโสบางคนของสำนักวังเปลวไฟรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้ การต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ ไม่ใช่สิ่งที่ลูกศิษย์และผู้ดูแลของสำนักวังเปลวไฟจะเข้าไปแทรกแซงได้
“ฮ่าๆๆ!”
บนท้องฟ้าผู้เชี่ยวชาญจากสำนักเทพอัคคี กระพือปีกเปลวไฟของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ลูกศรแห่งเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากปีของพวกเขา พุ่งตรงไปยังเหล่าสาวกของสำนักวังเปลวไฟที่กำลังหลบหนี
อ๊ากกก!
ในไม่ช้าสาวกมากกว่าหนึ่งโหลก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรง พวกเขาร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา
สำนักวังเปลวไฟทั้งหมดตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน ทุกคนต่างพยายามหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดได้ยินออกมาจากทุกพื้นที่ราวกับว่านี่คือจุดจบของโลก
ในท้องฟ้าผู้อาวุโสแห่งสำนักวังเปลวไฟสั่นสะท้านด้วยความกลัว
พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้เลย!
“ท่านเจ้าสำนักฮั่วตู่! ท่านไปสร้างศัตรูในระดับไหนเอาไว้กันแน่?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักวังเปลวไฟที่บาดเจ็บตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง
“ท่านเจ้าสำนักฮั่วตู่ พวกเราเข้าร่วมสำนักวังเปลวไฟเพื่อหวังพัฒนาไปพร้อมกัน แต่ไม่ใช่เพื่อเข้าสำนักของท่านเพื่อมาตาย พวกเราขอโทษด้วยที่ไม่สามารถอยู่กับสำนักวังเปลวไฟของท่านได้อีกต่อไปแล้ว!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคนตะโกนออกมาพร้อมกับเริ่มวิ่งหนีออกไปในทันที
“ไอ้พวกขี้ขลาดตาขาว!”
เจ้าสำนักแห่งสำนักวังเปลวไฟกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณสองคนที่เข้าร่วมกับพวกเขาก่อนหน้านี้ รีบหลบหนีกันออกไปอย่างหวาดกลัว
“สำนักวังเปลวไฟจบสิ้นแล้ว!”
……..
จบบท