Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 234
ตอนที่ 234 สำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์!
.
“อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นพี่หวังเสียน!”
“อรุณสวัสดิ์หวังเสียน!”
” อรุณสวัสดิ์ค่ะรุ่นพี่ รุ่นพี่หล่อมากๆเลยค่ะ!”
เมื่อ หวังเสียน และ เสี่ยวหยู มาถึงมหาวิทยาลัยในตอนเช้า พวกเขาได้รับการต้อนรับและทักทายจากนักศึกษาระหว่างทางอย่างกระตือรือร้น
“อรุณสวัสดิ์!” หวังเสียน พยักหน้าและตอบกลับทุกคนด้วยรอยยิ้ม
“พี่ชาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้คนทั้งมหาวิทยาลัย นั้นตกใจกันมากจริงๆ แม้แต่ตัวฉันเองยังไม่เคยคาดคิดเลยว่าพี่จะน่าทึ่งมากขนาดนี้!”
เมื่อเห็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างเข้ามาทักทาย หวังเสียน กันมากมาย เสี่ยวหยู ก็มองพี่ชายของเธอด้วยความชื่นชม
“ไม่ว่ายังไงพี่ก็ยังเป็นพี่ชายของเธอ!” หวังเสียยิ้มและพูดเสริมว่า “พี่จะไปเข้าเรียนแล้ว เอาไว้เจอกันนะเสี่ยวหยู!”
“ค่ะพี่ชาย ไว้เจอกัน!” เสี่ยวหยู ยิ้มและโบกมือให้กับพี่ชายของเธอ
“อรุณสวัสดิ์หวังเสียน!”
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะเสียน!”
เมื่อหวังเสียนมาถึงห้องเรียนทุกคนก็หันมามองและมุ่งความสนใจมาที่เขา มีความอยากรู้อยากเห็นปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขาและพวกเขาก็ทักทายหวังเสียนกันด้วยรอยยิ้ม
“อรุณสวัสดิ์!” หวังเสียน พยักหน้าและตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“หวังเสียน นายถ่อมตัวลึกมากเกินไปแล้วนะ ฉันตกใจมากเลยในตอนแรกที่ได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้! และในตอนนี้ฟอรัมของมหาวิทยาลัย ก็มีแต่เรื่องของนายเต็มไปหมดเลย!”
“เพื่อน! นายคือไอดอลของฉันจริงๆว่ะ ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเพื่อนในห้องของฉันนั้นจะมีอิทธิพลถึงขนาดคนใหญ่คนโตของเมืองเจียงเฉิงยังต้องเกรงใจ!”
เพื่อนผู้ชายบางคนที่ค่อนข้างจะสนิทกับหวังเสียน ฉันต่างเข้ามาพูดคุยกับหวังเสียน กันด้วยความตื่นเต้น พวกเขาบางคนถึงกับขนาดพยายามประจบเอาใจหวังเสียน อย่างออกหน้าออกตาเลยทีเดียว
หวังเสียนยิ้มและคุยกับพวกเขาตามปกติของเขาอยู่ครู่หนึ่ง กริ่งสัญญาณเริ่มคราสเรียนก็ดังขึ้น
แต่โดยมากตามปกติแล้วก่อนชั่วโมงเรียนคราสแรก ทางมหาวิทยาลัยก็จะประกาศข่าวสารที่ค่อนข้างจะสำคัญทางระบบกระจายเสียง ให้กลุ่มนักศึกษาทั่วทั้งมหาวิทยาลัยได้รับทราบกัน
♪~♩♪♩..ประกาศๆ!..นี่คือข่าวสารประจำวันของทางมหาวิทยาลัย..♪~♩♪♩
“นักศึกษาหวังเสียน นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจสาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ได้บริจาคเงินจำนวน 51 ล้านหยวนเพื่อนำเข้าโครงการช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 50 ล้านหยวน ส่วนอีก 1 ล้านนำไปเพื่อบริจาคให้แก่นักศึกษา หวู่เจี่ยเจี๋ยน เพื่อช่วยเธอในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และในขณะนี้มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อบริหารและจัดการเงินกองทุนเพื่อความโปร่งใสเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งให้นักศึกษาทุกท่านได้ทราบและทางมหาวิทยาลัยได้ขอขอบคุณนักศึกษาหวังเสียนเป็นอย่างยิ่ง!”
เมื่อมีการประกาศข่าวดังกล่าวของมหาวิทยาลัย ความร้อนระอุของทั่วทั้งมหาวิทยาลัยก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
หวังเสียน! หวังเสียนอีกแล้ว!
เมื่อรวมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันวานนี้ ข่าวดังกล่าวก็ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ชื่อของหวังเสียน ก็ได้เป็นที่รู้จักของทุกคนในมหาลัยเจียงเฉิง ไม่เว้นแม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดของมหาวิทยาลัยก็ยังรู้จักชื่อของเขา
[ขอบคุณ หวังเสียน สำหรับการบริจาคให้มหาวิทยาลัยขอบคุณ หวังเสียน ที่ช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลน!]
[อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาหาฉันในวันนี้และแจ้งให้ฉันทราบว่า หวังเสียน ได้บริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ยากไร้ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ยกเว้นค่าเล่าเรียนของฉันเป็นเวลาหนึ่งปีฉันรู้สึกขอบคุณ หวังเสียน อย่างสุดซึ้ง!]
[ฉันรู้สึกรักมหาวิทยาลัยของเรามากจริงๆ! หวังเสียนบริจาคเงิน 50 ล้านหยวนและสิ่งนี้สามารถช่วยผู้คนได้มากมายขอบคุณหวังเสียน!]
[หวังเสียน ช่างมีเกียรติสมกับนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงของเราจริงๆ เขาบริจาคเงิน 50 ล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ยากไร้! ขอบคุณ หวังเสียน!]
มหาวิทยาลัยยังโพสต์ประกาศบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกันก็ประชาสัมพันธ์เร่งแผนการให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาที่ขาดทุนทรัพย์
ในส่วนความคิดเห็นของนักศึกษาจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างกำลังคุยกันเรื่องการบริจาคเงินของหวังเสียน พวกเขาส่วนใหญ่ขอบคุณ หวังเสียน กันจากใจจริงๆ
ในท้ายที่สุดคำสี่คำ [ขอบคุณ หวังเสียน] ก็ได้รับการโหวตมากที่สุดและในไม่ช้าก็มีจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นคนแล้วในขณะนี้
หลังจากเห็นข้อความในฟอรัมของมหาวิทยาลัยและได้ยินการออกอากาศของมหาวิทยาลัย หวังเสียน ก็ยิ้มและออกจากห้องเรียนเพื่อไปยังศูนย์การแพทย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาด้วยความสุข
มีเพียงสองคลาสเรียนในตอนเช้า และเวลาในตอนนี้เพิ่งจะแค่ 10.00 น.
เมื่อเขาไปถึงหน้าประตูของศูนย์การแพทย์ฯ ซุนหลิงซิ่วซึ่งสวมชุดสีขาวก็ยืนอยู่ที่นั่นแล้ว
เธอยืนรออยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ และมียิ้มที่อ่อนโยนปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ สิ่งนี้ดึงดูดสายตาและความสนใจของผู้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก
“เสี่ยวเสียน!”
เมื่อซุนหลิงซิ่วเห็นหวังเสียนเดินเข้ามาหาเธอ เธอก็รีบเดินไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มที่สวยงาม
“คุณรอผมนานไหม” หวังเสียน ถามเธออย่างอ่อนโยนในขณะที่เขายิ้มให้เธอพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปยังศูนย์การแพทย์มังกรศักดิ์สิทธิ์
“ไม่ค่ะ! ฉันก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน!” ซุนหลิงซิ่วตอบและยิ้มให้เขาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
เมื่อซุนหลิงซิ่วเข้ามาในศูนย์การแพทย์ฯ เธอก็หันไปมองรอบๆอย่างตั้งใจ “เสี่ยวเสียน คุณอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่เมื่อก่อนตอนฉันส่งผู้ป่วยมาที่นี่เพื่อส่งต่อการรักษาให้กับคุณ ในตอนนั้นฉันเคยจินตนาการว่าตัวเองอาจจะกลายเป็นหมอเทวะได้สักวันหนึ่ง และในตอนนี้ฉันนั้นสามารถช่วยเหลือผู้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยให้พวกเขานั้นหายทุกข์ทรมานได้ ฉันนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว! ถึงแม้ว่าความสามารถของฉันนั้นอาจจะไม่ดีเท่ากับคุณ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังสามารถรักษาผู้ป่วยและแบ่งเบาภาระของคุณได้บ้าง สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว!”
เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข นี่คือความฝันส่วนหนึ่งของเธอที่เธอตั้งความหวังเอาไว้มานานแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปผมจะยกที่นี่ให้กับคุณ ผมอาจจะแวะมาบ้างเป็นบางครั้ง แต่อาจจะไม่ได้ช่วยเหลือคุณมากสักเท่าไหร่!” หวังเสียน หันมาพูดและยิ้มให้กับเธอ
“มั่นใจได้เลยค่ะ เสี่ยวเสียน! ตอนนี้คุณสามารถยกหน้าที่นี้ให้ฉันดูแลได้อย่างสบายใจ ตอนนี้คุณก็เปรียบเหมือนกับเป็น!…เป็นเจ้านายของฉัน ฉันจะตั้งใจหาเงินให้กับคุณอย่างดีทีเดียวเลยนะค่ะ!” ซุนหลิงซิ่ว ยิ้มในขณะที่เธอพูดพร้อมกับมีใบหน้าที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อย และเธอก็เดินไปต้มน้ำร้อนเพื่อเตรียมชงชาให้กับเขา
“อืม! วันนี้ผมพาคุณมาเพื่อดูสถานที่ก่อน และคุณสามารถเริ่มรับผู้ป่วยได้ในวันพรุ่งนี้ หากว่าวันพรุ่งนี้ผมไม่มีธุระที่ไหนผมก็จะมาอยู่กับคุณที่นี่ด้วย!” หวังเสียน พูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
“โอเคค่ะ เสี่ยวเสียน แต่อย่างไรก็ตามฉันต้องขออนุญาตคุณเอาไว้ล่วงหน้าสักเล็กน้อย เพราะฉันมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนกฎบางอย่างของศูนย์การแพทย์ที่นี่จะได้หรือไม่?” ซุนหลิงซิ่วถามเขาอย่างจริงจัง
ในขณะที่เธอเริ่มชงชาและเช็ดถ้วยชาเตรียมไว้ให้กับเขา
“กฎเหรอ? ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามใจอย่างที่คุณต้องการได้เลย เพราะผมก็ไม่ค่อยจะซีเรียสกับมันมากสักเท่าไหร่ กฎที่ผมตั้งเอามาไว้ตั้งแต่ตอนแรกนั้นเพราะผมเป็นคนค่อนข้างที่จะขี้รำคาญสักเล็กน้อย แต่ผมต้องย้ำคุณสักเล็กน้อยว่าถ้าเป็นไปได้ผมนั้นต้องการรวบรวมหินจิตวิญญาณแทนค่ารักษา และถ้าเป็นไปได้อย่างนั้นมันจะดีมากเลยทีเดียว!” หวังเสียน ตอบเธอพร้อมกับยิ้มให้ และเขาก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากมายนักกับการที่จะต้องได้รับหินจิตวิญญาณแทนเงินสดในการรักษาพยาบาล
“ได้ค่ะ บอสเสี่ยวเสียน ฉันจะทำตามคำสั่งของคุณค่ะ!” ซุนหลิงซิ่วตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใส ในขณะที่เธอยกถ้วยชาและวางไว้ตรงหน้าหวังเสียนด้วยมือทั้งสองข้าง
หวังเสียนไม่เคยชินกับการที่เธอทำตัวแบบนี้สักเท่าไหร่
ทำให้ด้านชั่วร้ายของเขานั้นปรากฏขึ้นมาทันที ภาพของหนัง AV ที่นางเอกแต่งคอสเพลย์พยาบาลหรือชุดแม่บ้านเข้ามาบริการเจ้านายของเธออย่างถึงใจ ปรากฏขึ้นมาในหัวเขาอย่างชัดเจน
“เฮ้!..ที่นี่คือศูนย์การแพทย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ของหมอเทวะหวังที่อยู่ในรายชื่อหมอเทวะศักดิ์สิทธิ์อันดับ 8 ใช่หรือไม่?”
เมื่อหวังเสียนและซุนหลิงซิ่วกำลังพูดคุยกันชายชราและชายหนุ่ม ก็มาถึงที่หน้าประตูทางเข้าของศูนย์การแพทย์ฯ พร้อมกับพูดขึ้นมาได้เสียงที่ค่อนข้างดัง
“อาจารย์เขาจะยอมเข้าร่วมกับสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ของเราหรือไม่?” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัยเมื่อเขามองเข้าไปในศูนย์การแพทย์ฯ
“มั่นใจได้เลยว่าเขาจะเห็นด้วย!” ชายชราพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “สำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ของเราเป็นสำนักศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งได้รับการยกระดับขึ้นมา และเรานั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนที่กำลังสรรหาผู้เชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นให้กับสำนักเขาพวกเราอย่างมากมาย และในเวลานี้เป็นเวลาดีที่สุดที่บุคคลที่มีความสามารถต่างๆอยากจะเข้าร่วมสำนักของพวกเรา!”
“หมอเทวะหวังนั้นเป็นหมอไร้สังกัด ถึงแม้ว่าเขานั้นจะอยู่ในอันดับที่ 8 ของการจัดอันดับหมอเทวะศักดิ์สิทธิ์ แต่เขานั้นก็ยังเป็นหมอที่ไม่มีผู้ที่ให้การหนุนหลัง ฉะนั้นจึงมีโอกาสเป็นอย่างมากที่เขานั้นจะร่วมกับสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา!”
“และฉันคิดว่าเขาก็คงจะตกลงเข้าร่วมอย่างแน่นอนเพราะถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสำนักของพวกเรานั้นยังไม่มีหมอเทวะประจำสำนัก หากเขาเข้าร่วมในตอนนี้เขาจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในระดับผู้อาวุโสของสำนักเลยทีเดียว และหากว่าเขานั้นเข้าร่วมกับสำนักอื่นเขาจะไม่ได้รับโอกาสแบบเดียวกับที่สำนักของเรานั้นหยิบยื่นข้อเสนอให้กับเขา!’ ชายชราพูดออกมาอย่างมั่นใจในขณะที่เขาเดินเข้าไปพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นสูงอย่างภาคภูมิใจ
ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยและรีบเดินตามไปข้างหลัง
” นี่ไงพวกนายเป็นใคร…?”
ซุนหลิงซิ่วกำลังจัดเก็บสิ่งของในห้องโถงของศูนย์การแพทย์ เธอมองไปที่ชายชราและชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา พร้อมกับถามพวกเขาขึ้นมาทันทีด้วยความสับสน เพราะในวันนี้ศูนย์การแพทย์มังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิดให้บริการ
“โอว้าวว! เธอสวยมากเลยทีเดียว!” ชายหนุ่มอุทานขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นซุนซิ่วหลิง
ชายชรายิ้มและมองไปที่ลูกศิษย์ของเขาก่อนที่จะหันไปมองยัง หวังเสียน ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังและถามว่า “คุณต้องเป็นหมอเทวะหวังใช่หรือไม่?”
“ฮ๊ะ?” หวังเสียนเงยหน้าขึ้นและเห็นชายชราและชายหนุ่ม “ใช่! คุณมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า?”
“โอ้ว! หมอเทวะหวังคุณนั้นยังเด็กมากอย่างคำบอกเล่าจริงๆ ผมนั้นเป็นผู้อาวุโสของสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ผมนั้นอยากเชิญหมอเทวะหวังเข้าร่วมกับสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราในฐานะผู้อาวุโสของสำนัก หมอเทวะหวังมีความคิดเห็นเป็นเช่นไร?” ชายชราพูดออกมาอย่างจริงใจ
” สำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์?” หวังเสียนรู้สึกค่อนข้างงุนงง “มีสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบริเวณมณฑลแถวนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ!”
ชายชราตกใจเมื่อได้ยินคำถามของ หวังเสียน และความไม่พอใจก็ฉายขึ้นมาในดวงตาของเขา ถึงแม้ว่าสำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ จะเพิ่งยกระดับเป็นสำนักศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม แต่อย่างน้อยสำนักของเขานั้นก็มีชื่อเสียงมากพอดูเลยทีเดียว
“สำนักเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ของเรานั้นเพิ่งยกระดับกลายเป็นสำนักศักดิ์สิทธิ์ เราหวังว่าหมอเทวะหวังจะเข้าร่วมสำนักกับเราในฐานะผู้อาวุโสของสำนักเรา!” ชายชรากล่าวคำเชิญซ้ำอีกครั้ง
“ผมขอโทษ! ผมไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกองกำลังใดๆ!”
……..
จบบท