Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 232
ตอนที่ 232 ลูกชายของคุณมีปัญหา!
.
“คุณชายหวัง คุณพึงพอใจกับรถนำเข้า MAN 8×8 จากเยอรมันไหมขอรับ? มันโดดเด่นและงามสง่าเหมาะกับคุณชายมากเลยทีเดียวเชียวขอรับ! ดูสิขอรับ มันสามารถบดขยี้รถซุปเปอร์คาร์กระจอกๆ ทั้งสี่คันนี้ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว! คุณชายหวังขอรับ ได้โปรดให้ผมและทีมงานช่วยตรวจสอบรถของคุณสักเล็กน้อยดีไหมขอรับ เผื่ออาจจะมีรอยขีดข่วนและคราบสกปรกของรถทั้งสี่คันนั้นมาสร้างความรำคาญลูกนัยน์ตาให้คุณชายหวังได้ พวกผมจะได้จัดการดูแลทำความสะอาดรถให้กับคุณชายหวังให้สวยสดงดงามอย่างเรียบร้อยเหมือนเดิมดีไหมขอรับ? “
เสียงของผู้จัดการฉู่ทำให้บริเวณโดยรอบเกิดความเงียบและทำให้ทุกคนตกใจ
สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร? เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อครู่ที่ผ่านมาผู้จัดการฉู่ ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกับ หลัวจื่อหยู เกี่ยวกับรถยนต์ที่ต้องนำไปซ่อมทั้งสี่คัน แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงพูดแบบนั้น? และยิ่งไปกว่านั้นท่าทางเขาในตอนนี้ไม่มีความเคารพและให้ความสนใจกับกลุ่มของหลัวจื่อหยูเลยแม้แต่น้อย
การกระทำที่ทำให้เกิดความงงงวยของผู้จัดการฉู่ ทำให้ทุกคนในบริเวณโดยรอบต่างตกใจ
หลัวจื่อหยู ที่ยืนอยู่ที่นั่นและเรียกร้องเงินค่าชดเชยสิบเท่าในก่อนหน้านี้ก็ยังต้องตกตะลึง
เมื่อเห็นผู้จัดการฉู่ ขอให้พนักงานซ่อมบำรุงสองคนตรวจสอบรถ RV ที่เพิ่งบดขยี้รถของพวกเขาจนกลายเป็นเศษเหล็ก ใบหน้าของหลัวจื่อหยู ก็มืดมนลง
“เฮ้ย!! พวกแกกำลังทำอะไรกันอยู่? เหรินจื่ออัน สั่งให้พวกแกมาจัดการธุระให้กับฉันอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ!” หลัวจื่อหยู จ้องมองไปที่ผู้จัดการฉู่ ด้วยสายตาที่ดุร้ายและตะโกนออกมาเสียงดั
“ผมรู้ว่าผมมาทำอะไรที่นี่! และคุณไม่จำเป็นต้องมาพูดเตือนผม มันไม่ใช่เรื่องของคุณ!”
เมื่อผู้จัดการฉู่ ได้ยิน หลัวจื่อหยู ตะโกนพูดกับเขาอย่างไม่สุภาพ เขาก็เชิดใบหน้าขึ้นมองและตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะดูถูก ในตอนนี้เขาไม่มีทัศนะคติที่ดีและให้ความเคารพกับ หลัวจื่อหยู อีกเลย
สายตาของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
คุณชายเหรินได้สั่งให้เขามาจัดการเรื่องนี้ที่นี่ และได้ย้ำกับเขาว่าต้องให้ความเคารพและดูแลคุณชายหลัวจื่อหยู คนนี้อย่างดี
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นหวังเสียน และรถ RV รุ่นดัดแปลงพิเศษที่นำเข้าจากเยอรมัน เขาก็รู้ว่าตัวเขานั้นสมควรจะต้องทำอะไรมากที่สุดในตอนนี้
ในฐานะที่เป็นคนสนิทของเหรินจื่ออัน เขาได้รู้เรื่องเบื้องหลังของเมืองเจียงเฉิง มาบ้างพอสมควร
รวมถึงการที่เหรินจื่ออัน ให้ความเคารพกับหวังเสียน เหมือนกับเป็นบรรพบุรุษของเขาเลยทีเดียว
และแม้แต่ผู้นำตระกูลเหริน พ่อของเหรินจื่ออัน ก็ยังต้องให้ความเคารพและนอบน้อมอย่างที่สุด เมื่อพบเจอกับหวังเสียน
สิ่งนี้รวมถึงความจริงที่ว่าเขานั้นได้รับรู้ถึงวีรกรรมของ หวังเสียน ที่ได้กวาดล้างตระกูลหยานและตระกูลหลิว จนในสายตาของเขาหวังเสียน เปรียบได้กับจอมปีศาจร้ายตนหนึ่งเลยทีเดียว!
ภายในแวดวงชั้นสูงของผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลในเมืองเจียงเฉิง ทุกๆคนต่างรู้กันดีว่าพวกเขานั้นสามารถขัดแย้งหรือมีปัญหากันเองได้ ถ้าหากพวกเขานั้นเกิดการขัดแย้งผลประโยชน์ของกันและกันเนื่องจากบุคคลชั้นสูงเหล่านี้มีอิทธิพลและความสามารถพอๆกัน แต่จะไม่มีใครในเขตเมืองเจียงเฉิงและมณฑลทางตอนใต้ ที่จะกล้ายั่วยุหรือก่อความขุ่นเคืองให้กับหวังเสียน หรือหมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิงได้
เขานั้นเป็นคนที่น่ากลัวมากที่สุดในเมืองเจียงเฉิงอย่างแท้จริง
และผู้จัดการฉู่เชื่อว่าต่อให้ในวันนี้เหรินจื่ออัน มาด้วยตัวเองเขาก็เลือกที่จะเป็นศัตรูกับหลัวจื่อหยู แทนที่จะกล้าสร้างความขุ่นเคืองให้กับหวังเสียน
ถ้าคุณชายเหรินจื่ออัน รู้ถึงการกระทำของเขาในวันนี้ไม่เพียงแต่คุณชายเหรินจื่ออัน จะไม่โกรธเขาแต่น่าจะประเมินและเพิ่มตำแหน่งที่สำคัญให้กับตัวเขานั้นอีกด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆขึ้นมาบนใบหน้าของผู้จัดการฉู่
เขาเหลือบมองไปที่ซูเปอร์คาร์ทั้งสี่คันที่ถูกบดขยี้จนกลายเป็นเศษเหล็กและยิ้มก่อนที่เขาจะพูดเบาๆออกมาว่า “นั่นนับเป็นเกียรติของพวกคุณมากเลยทีเดียว ที่ถูกทำลายรถโดยคุณชายหวังเสียน!”
“กะ..แก…!”
หลัวจื่อหยู โกรธจนตัวสั่นเขาจ้องมองไปที่ผู้จัดการฉู่ ด้วยแววตาที่ดุร้าย
“มันยังไงกันแน่!… สถานการณ์ในตอนนี้มันคืออะไรกัน!”
“ฉันสับสนไปหมดแล้ว! เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ? ผู้จัดการฉู่ไม่ใช่คนที่ หลัวจื่อหยู โทรเรียกมาหรอกเหรอ?”
“ชายวัยกลางคนคนนั้นพูดกับ หวังเสียน ว่าคุณชายหวังอย่างเคารพนอบน้อมเลยทีเดียว! นี่ไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน!”
กลุ่มนักศึกษาที่มุงดูเหตุการณ์อยู่บริเวณโดยรอบต่างตกใจและสับสน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นอย่างมาก พวกเขาเริ่มพูดคุยและกระซิบกระซาบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในทันที
บรืนนน!บรืนนน!
เอี๊ยดดดดด!
แต่ในขณะนั้นเองรถยนต์หรูหรามากมายหลายคันได้ขับมาจอดที่หน้ามหาวิทยาลัยอย่างเร่งรีบ
นักศึกษาหลายคนต่างหันไปมองด้วยความตกตะลึง และรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านั้นคือคนที่ ฮัวเจ๋อหมิงและเพื่อน ๆ ของเขาโทรเรียกตัวมา
“มีรถเบนซ์สิบคัน! ยิ่งไปกว่านั้นเลขทะเบียนรถของพวกเขานั้นคือเลขทะเบียนรถของระดับกลุ่มชนชั้นสูงแห่งเมืองเจียงเฉิง
เมื่อบรรดานักศึกษาโดยรอบเห็นรถเบนซ์สีดำสิบคันจอดเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ พวกเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกกันขึ้นมาในทันที
“ดูนั่น!!..ที่ด้านหลังนั้นยังมีรถหรูเข้ามาอีกหลายคัน!”
ในตอนนี้ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับชี้นิ้วของเขาไปยังถนนที่มีรถหลายคันกำลังขับตรงเข้ามาทางพวกเขา
“แลนด์โรเวอร์! มันคือรถแลนด์โรเวอร์แปดคันโอ้พระเจ้า! พวกมันเป็นรุ่นเดียวกันทั้งหมดเลย!”
“นี่คือรถจาก บริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์เอเดรียนซีเคียวริตี้กรุ๊ป โอ้พระเจ้า! บริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์เอเดรียนซีเคียวริตี้กรุ๊ป เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ ว่ากันว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งนี้นั้นเป็นผู้ฝึกยุทธที่มีความสามารถกันทุกคน!”
รถยนต์ขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆทีละคันมีทั้งหมดสามสิบถึงสี่สิบคัน
“นั่น!มีคนลงมาจากรถแล้ว?”
ในตอนนี้เกือบจะทุกคนต่างหันไปจ้องมองบุคคลที่กำลังลงมาจากรถด้วยความสนใจ
มีเหล่าชายฉกรรจ์สวมชุดสูทสีดำพร้อมกับสวมถุงมือสีขาว เดินออกมาตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบ และมีชายวัยกลางคนที่แต่งชุดคล้ายๆกันกับเหล่าชายฉกรรจ์เดินไปเปิดประตูรถด้วยความเคารพ
หลังจากนั้นมีชายชราคนนึงที่ถือไม้เท้าเดินลงมาจากรถ ลักษณะท่าทางของชายชราคนนี้แสดงออกให้เห็นว่าเขานั้นเป็นผู้มีความประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง
“เฉินหู่! ชายชราคนนั้นน่าจะเป็นเฉินหู่!” นักศึกษาบางคนตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความไม่อยากเชื่อ
“เฉินหู่คือใครวะไอ้สอง?”
“เฉินหู่เป็นประธานบริษัทเอิร์ธซิตี้กรุ๊ป เขาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของเมืองเจียงเฉิง คนหลายคนในแวดวงชั้นสูงยังต้องเรียกเขาว่าอาจารย์หู่ เมื่อได้พบกับเขา!”
“มหาเศรษฐี?”
“โอ้วว! มีเหล่าชายฉกรรจ์ในชุดสูทดำมากกว่า 20 คนเดินตามหลังของเฉินหู่มาด้วย ช่างน่าเกรงขามมากจริงๆ!”
“ดูนั่นสิ! คนที่กำลังลงจากรถแลนด์โรเวอร์คันนั้นเขาเป็นใครกัน?”
“โอ้พระเจ้า! นั่นคือประธานบริษัทบริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์เอเดรียนซีเคียวริตี้กรุ๊ป เขามาที่นี่ด้วยตัวเองจริงๆอย่างนั้นเหรอเนี่ย?”
“นั่น! ยังมีคนที่ดูมีอิทธิพลมาอีกหลายคนเลยทีเดียว!”
“ฮัวเจ๋อหมิง, ฮันจุนหมิงและเพื่อนๆของพวกเขา แค่โทรศัพท์ออกเพียงสายเดียวเท่านั้น ก็มีผู้คนมาอย่างมากมาย ยิ่งกว่านั้นพวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเมืองเจียงเฉิง…”
บุคคลโดยรอบแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ที่ตรงด้านหน้าของกลุ่มคนที่พึ่งมาถึง พวกเขานั้นเป็นประธานของบริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์เอเดรียนซีเคียวริตี้กรุ๊ป ,
บริษัทเอิร์ธซิตี้กรุ๊ป และชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่มองไปแล้วน่าเกรงขามและดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้นักศึกษาโดยรอบต่างหันไปมองที่หวังเสียน และกลุ่มของฮัวเจ๋อหมิง สลับไปมา
“ฮึฮึฮึ! ในตอนนี้คนที่ฉันได้โทรตามก็มาถึงกันหมดแล้ว ฉันอยากจะดูน้ำหน้าแกสักหน่อยสิว่า แกจะทำยังไงต่อไป!”
ฮันจุนหมิงมองไปที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่กำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เยาะเย้ยในขณะที่เขาจ้องมองไปยังหวังเสียนอย่างเย็นชา
“เรากำลังเริ่มเกมกันในตอนนี้! ฉันหวังว่าแกคงจะสร้างความบันเทิงให้กับพวกเราได้มากพอนะ ฮ่าๆๆ!”
ฮัวเจ๋อหมิง หัวเราะออกมาอย่างเย็นยะเยือก
“จบแล้ว! มันจบแล้ว! รุ่นพี่หวังเสียน จบแล้ว! “
“ไอ้บ้าเอ้ย! ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฮั่วเจ๋อหมิงและฮันจุนหมิงจะมีอิทธิพลที่น่ากลัวมากขนาดนี้ พวกเขาสามารถเรียกบุคคลที่มีอิทธิพลเหล่านี้ มาได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว!”
“ลุงหู!”
“ผู้อาวุโสเฉินหู่!”
“อาหวู่!”
ฮัวเจ๋อหมิง, ฮันจุนหมิงและเพื่อนๆของเขา ต่างยิ้มทักทายกลุ่มคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามา
“ใครมันกล้ามารังแกเจ๋อหมิง ลุงหู จะสอนบทเรียนให้มันเอง ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวใครทั้งนั้น!”
“หลานชายฮันใครกันที่มันไม่มีตา กล้ามายั่วยุหลานชาย ปล่อยให้อาหวู่จัดการมันเอง!”
“หลานชายโจว ฉันหวังว่าฉันคงจะไม่ได้มาสายเกินไปนะ!”
ชายวัยกลางคนประธานบริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์เอเดรียนซีเคียวริตี้กรุ๊ป ชายชราประธานบริษัทเอิร์ธซิตี้กรุ๊ป เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและรับคำทักทายจากกลุ่มของฮัวเจ๋อหมิงและเพื่อนของเขาอย่างเป็นกันเอง
“โอ้!!.. นี่ … !”
กลุ่มนักศึกษาที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างได้ยินคำทักทายของกลุ่มชายชราที่พูดคุยกับกลุ่มของฮัวเจ๋อหมิง พวกเขาได้แต่ตกตะลึงไปตามๆกัน
พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งแต่ เฉินหู่ ที่เป็นประธานกลุ่มของบริษัทใหญ่หลายแห่งเขานั้นมีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านหยวน และชายสูงวัยอีกคนก็เป็นผู้ที่มีอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้นกลุ่มคนพวกนี้ก็ยังมีความเกรงใจ ชายหนุ่มทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาพอสมควรเลยทีเดียว
“มากันหมดแล้วหรือยัง? ยังมีคนที่ตามมาได้อีกไหม?” หวังเสียน มองไปยังกลุ่มชายที่มีอำนาจทั้งสามคนที่เดินมาพร้อมกับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาหลายสิบคน พร้อมกับมีรอยยิ้มที่มุมปาก
“ไอ้ขยะ! แกนี่มันอวดดีไม่เลิกเสียจริงๆ ความตายมาเยือนอยู่ตรงหน้าแล้วก็ยังจะกล้าปากดีหยิ่งผยองอยู่อีกหรือ!” สองสาวฝาแฝด พูดจาเยาะเย้ยออกมาอย่างเย็นชา
“หืมมม!!?”
“โอ๊ะ!!!..”
“นะ!!..นั่นคือ…?”
อย่างไรก็ตามเมื่อหูเฟย, เฉินหู่ และ กงหวู่ เห็น หวังเสียน ร่างกายของพวกเขาก็แข็งทื่อเหมือนกับโดนสาปให้เป็นหินกันไปเลยทีเดียว
ถึงร่างกายของพวกเขานั้นจะแข็งทื่อจนแทบจะขยับไม่ได้ แต่ในทางกลับกันขาของพวกเขานั้นอ่อนแรงและสั่นสะท้านจนแทบจะทรงตัวกันไม่อยู่
ในเวลาเดียวกันพวกเขาทั้งสามคนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและรีบโทรออกกันในทันที
“พี่ฮั้วลูกชายของคุณกำลังมีปัญหา!”
“ผู้กำกับฮันลูกชายของคุณประสบปัญหาแล้วล่ะ!”
“ปรมาจารย์โจวลูกชายของคุณได้ก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมาเสียแล้วล่ะ!”
……..
จบบท