Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 121
Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม – ตอนที่ 121
ICSS บทที่ 121: ไม่มีวิชาเอกในตงกวน
“คือ…เอิ่ม…เอิ่ม…”
เสียงเย้ายวนน่าฟังจากปากของอาซิ ทำให้ผู้คนอ่อนระทวยแต่หลังจากโทรมาไม่ถึงห้าวินาที เธอก็หยุดแล้วพูดกับโทรศัพท์มือถือ “สุดหล่อเป็นไงบ้าง?”
“ช่างดีจริงๆ! เหมือนน้ำพริกถ้วยเก่าเลย! มันเลวร้ายยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญในตงกวนอีก!” ตอนที่หนิงเทียนหลินไปที่ตงกวนและรับบริการดังกล่าวเมื่อเขารู้ชื่อมันถูกบล็อกไว้แล้วที่นั่น? ไม่มีโอกาสไป
แต่เพื่อที่จะเปิดอาซินี้ เขายังคงแสร้งทำเป็นเป็นมืออาชีพมาก
“ฮ่าฮ่า แมวแก่! อาซิ เขาบอกว่าเสียงเธอเหมือนแมวแก่เลย! ฮ่าฮ่า! ไม่ใช่แมวธรรมดาด้วยนะ ก่อนหน้านี้ฉันสงสัยว่าเธอเป็นมืออาชีพหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าเธอเป็นมืออาชีพเลย เป็นมืออาชีพสุดๆ! ช่วยพาฉันลงสนามหน่อยเถอะ!”
“อีกอย่างนะตงกวน! อาซิ เขาบอกว่าเธอไม่มืออาชีพเหมือนที่ตงกวน ฮ่าฮ่า! ไปเรียนมาเพิ่มซะนะ!”
“ป้าของฉันกลับกลายเป็นว่า **** ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ถูกฆ่าตายจากตงกวน ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเงียบ! นับถือเลย!”
ข้อความคอมเม้นเลื่อนขึ้นมามากมายในทันที ทำให้สีหน้าของอาซิเปลี่ยนไปเลย แมวแก่เหรอ เธอถึงขนาดบอกไปว่าเธอจะโทรมา เรื่องบนเตียงเหมือนแมวแก่งั้นเหรอ แมวแก่อะไรจะเต้งตึงขนาดนี้! อีกอย่างทั้งตัวฉันได้มาจากแม่หมดเลย ตงกวน โอเค เป็นมืออาชีพโดยไม่ต้องไปที่ตงกวนเลย!
เมื่อคิดไปถึงเรื่องนี้ ฉันยังได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ!
“จริงเหรอ?” มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? อาซิแย่ขนาดนั้นเลย! “แต่เพื่อประโยชน์ของความนิยม, เพื่อการถ่ายทอดสด, เพื่อเป้าหมายใหญ่ เธอไม่ย่อท้อ! เธอเริ่มที่จะกดโทรศัพท์อีกรอบและดวงตาก็เป็นประกาย” เนื่องจากอาซิ ไม่ได้กรี๊ดกราดหนุ่มหล่อจึงโทรมาสองครั้ง ฉันชอบผู้ชายหล่อที่โทรมาด้วย!
“555! อาซิสวยมากเลยนะ”
“อาซิ เธอไม่มีเหตุผลเลย พวกผู้ชายอย่างเราไม่อยากจะฟังอะไรมากหรอก เธอต้องโทรอีกสองครั้งเพื่อชดเชยเรา!”
“ใช่แล้ว บวกอีกเสียง เธอต้องโทรหาเราอีก 2 ครั้งเพื่อชดเชยให้เรา! เราไม่อยากที่จะฟังเรื่องโม้อะไรเยอะแยะ!”
แต่ในครั้งนี้ อาซิไม่ได้สนใจเรื่องคอมเม้นมากนัก แต่กลั้นลมหายใจของเธอและดูว่าอีกฝ่ายตกลงหรือไม่ ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าเธอดูเหมือนจะได้พบกับคู่ต่อสู้แล้ว
“การโทรหาเธอทำให้ฉันหมดอารมณ์จริงๆ! และปากฉันก็มีค่ามากกว่าที่จะมาคุยกับเธออีกนะ!” หนิงเทียนหลินไม่ได้เปิดกล้องให้อีกฝ่ายเห็นซึ่งๆหน้า
“เธอโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวไม่ใช่เหรอ แล้วที่วางอยู่ข้างๆโต๊ะคอมพิวเตอร์คือแตงกวาใช่ไหม?”
“งั้นก็ใช้แตงกวากับตัวเองไปก่อนสิ! ข้างล่างเธอมันจะได้ไม่เหงาเปล่าเปลี่ยว!”
ทุกการกระทำของอีกฝ่ายปรากฎอยู่ต่อหน้าเขาคมชัดเหมือนกล้องความละเอียดสูงและถึงขนาดปรับมุมได้ 360 องศาอีกต่างหาก เหมือนได้เห็นเองซึ่งๆหน้า ทำให้หนิงเทียนหลินเห็นแตงกวาที่วางอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ของเธอได้อย่างชัดเจน
และแตงกวานี้เป็นเพียงอุปกรณ์แระกอบฉากของอาซิสำหรับการถ่ายทอดสดนี้เท่านั้น
“นาย! นายรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์? และมีแตงกวาวางอยู่บนโต๊ะคอมด้วย!”
ตอนแรกที่อีกฝ่ายพูดว่า “การที่เธอโทรมาทำให้ฉันหมดอารมณ์จริงๆ” ทำให้อาซิรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที แต่แล้วคำพูดต่อๆมาของอีกฝ่ายก็ต้องทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที คือเธอเพิ่งบอกอีกฝ่ายไปว่าเธอนอนอยู่บนเตียง! ไม่ใช่โต๊ะคอมพิวเตอร์!
และอีกอย่างมันมีแตงกวาวางอยู่อยู่ด้วย เขารู้ได้ยังไงว่ามันวางอยู่ที่ด้านขวาของเธอ!
“นาย…นายกำลังดูถ่ายทอดสดอยู่!”
อาซิคิดเรื่องความเป็นไปได้นี้ขึ้นมาทันที ไม่งั้นอีกฝ่ายจะกล้าพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำแบบนี้ได้ยังไง นี่มันน่ากลัวจริงๆ!
และก็เหมือนกับเธอ พวกคนดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอ
“คุณอา อีกฝ่ายกำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ด้วยแน่ๆ เป็น 1 ใน 1,132 คนในห้องของเรางั้นเหรอ?” คนดูคนหนึ่งแสดงความประหลาดใจออกมาที่หน้าจอ
“เป็นไปไม่ได้ อีกฝ่ายแค่เดาหรือเปล่า?” อีกคนสงสัย
“เดาบ้าอะไรเล่า ถ้าเดาว่าอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่เดาว่ามีแตงกวาวางอยู่ที่ด้านขวาเนี่ยนะ จะเป็นไปได้ยังไง! ทำไมเขาไม่เดาว่าเป็นอย่างอื่นล่ะ อย่างมะเขือม่วงน่ะ!” อีกคนก็พูดมีประเด็น
“นั่นสิ ไม่ใช่การเดาแน่ๆ! เขาจะรู้ได้ยังไงว่าแตงกวาจะทำให้อาซิพอใจได้!” ในเวลานี้ บางคนก็พยายามที่จะราดน้ำมันลงไปอีก
“กำลังดูถ่ายทอดสดงั้นเหรอ? เธอกำลังถ่ายทอดสดงั้นเหรอ? เธอแสดงงั้นเหรอ! เธอมาแกล้งฉันงั้นเหรอ!” หนิงเทียนหลินแค่อยากจะไล่อีกฝ่ายไป เขาจะยอมรับได้ยังไง จึงพูดเย้ยเธอออกไปอีกรอบ
“ฮ่ะ? ไม่ใช่เหรอ?” ไม่เพียงอาซิที่งง แต่ผู้ชมคนอื่นก็ด้วย “อีกฝ่ายไม่ได้กำลังดูถ่ายทอดสดจริงๆงั้นเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้สุดๆ! ไม่งั้นจะเดาเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน!” อาซิไม่อยากจะเชื่อ “นายกำลังถ่ายทอดสดฉันอยู่แน่ๆ!”
“งี่เง่า ไร้สาระ จะเอาคนแบบเธอมาเทียบกับฉันเนี่ยนะ? ถ้าเธอเดาไม่ถูกก็แปลว่าฉันจะเดาไม่ได้งั้นเหรอ? จะเชื่อหรือไม่ก็ตามนะแต่ฉันเดาได้เลยว่าเธอใส่ชุดชั้นในสีชมพู ลายพิคาชูด้วย!”
หลังจากที่หนิงเทียนหลินพูดจบ อาซิก็ต้องตกตะลึงเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมามันถูกต้องทั้งหมด ตอนนี้เธอใส่ชุดชั้นในสีชมพูที่มีลายพิคาชูอยู่จริงๆ!
“ไม่นะอาซิ อีกฝ่ายพูดถูกหรือเปล่า? เธอใส่ชุดชั้นในสีชมพูลายพิคาชูจริงๆเหรอ?” เมื่อได้เห็นท่าทางน่าขำของอาซิแล้วผู้ชมที่หน้าจอของเธอจะไม่รู้ได้ยังไง? คำพูดของอีกฝ่ายจะต้องถูกต้องแน่ๆ!
“อาซิ ฉันอยากเห็นจัง ฉันอยากจะเห็นพคาชู!” ในเวลานี้ มีหลายคนที่เริ่มแซวออกมาแล้ว
“อาซิ เร็วสิ ถอดเสื้อผ้าเลย เราอยากจะเห็น! ว่าอีกฝ่ายพูดถูกไหม!”
อาซิใส่กางเกงสีกากีเลยมองไม่เห็นสีกางเกงในที่ใส่อยู่ ไม่ต้องพูดถึงลสยเลยด้วยไม่เห็นแน่ๆ แต่เรื่องนี้กลับทำให้ผู้ชมของเธออยากจะเห็นขึ้นมาทันที ในโลกนี้มีคนแบบนี้จริงๆเหรอ? คนที่มีไอคิวสูงๆขนาดนี้?
หลังจากนั้นสักพัก อยู่ดีๆอาซิก็ตะโกนออกมาและเสียงก็เงียบไป
“ฉันรู้ว่านายต้องดูถ่ายทอดสดของฉันอยู่แน่ๆ นายต้องเป็นแฟนรายงานฉันแน่ๆและอาจจะเคยเห็นฉันใส่ชุดชั้นในลายนี้ตอนที่ฉันใส่กระโปรงแล้วก็เลยเอามาเดาอีกแน่ๆ!”
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ดวงตาของอาซิก้เปล่งประกายขึ้นมาอีกและต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นถึงจะอธิบายเรื่องนี้ได้อ่างชัดเจน
แต่คำพูดของเธอเป็นการดูถูกหนิงเทียนหลินชัดๆ
“คนแบบเธอนี่น่าไม่อายจริงๆนะ! ดูเธอถ่ายทอดสดหรือเป็นแฟน
รายงานเธอเนี่ยนะ! เธอพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง ฉันดูเหมือนคนที่สนใจเธอขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?”
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าคนแบบฉันไม่ลดตัวลงไปหาคนแบบเธอหรอกนะ! เธอนี่มันหน้าไม่อายจริงๆนะ! ไร้สาระจริงๆ”
กับคนแบบนี้ หนิงเทียนหลินไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วย คนแบบไหนกันที่กล้าโทรมาหาเขากลางดึกแบบนี้? ถ้าเขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ บางทีเขาอาจจะหลงเชื่อและก็คงจะนอนไม่หลับไปทั้งคืน! แต่เวลานี้ ในนามของผู้ชายส่วนใหญ่ ผู้หญิงแบบนี้ก็เหมือนโรคร้ายเลย!