Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม - ตอนที่ 109
Invincible Combat Strength System ระบบสงคราม – ตอนที่ 109
ICSS บทที่ 109: เจ้านาย มีคนไม่ชอบนายอยู่นะ!
“สกปรกอย่างกับหมูเลย! นี่พึ่งเปิดเทอมมาได้แค่ 3 วันเองแล้วยังไม่ได้อาบน้ำมาตั้ง 2 วันแล้ว แถมยังมาหลับทันทีที่เดินเข้ามาอีก นี่ก็หลับอย่างกับตายเลย!”
เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินที่ฟุบลงไปนอนกับโต๊ะอีกรอบ ชายอ้วนที่นั่งข้างหลังเขาก็พูดประชดออกมา
ชายอ้วนคนนี้ก็ไม่อ้วนเท่าไรแต่เขามีหน้าที่กลมและพุงใหญ่ๆ ตัวเขาเต็มไปด้วยไขมันพร้อมดวงตาที่ตี่เล็ก ผิวที่ขาวอย่างมากและผมที่ยาวรุ่มร่ามเหมือนผู้หญิงอ้วนๆ โดยเฉพาะไขมัน 2 ก้อนที่อยู่ตรงหน้าอกที่นูนออกมาด้านหน้าและบางคนก็คิดว่าเป็นผู้หญิง เลยมีฉายาที่ถูกเรียกว่า “นมใหญ่”
และเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเพื่อนร่วมหอเดียวกับหนิงเทียนหลินเอง ตอนที่เปิดเรียนปีหนึ่งใหม่ๆ หวังน่านใส่ร้ายหนิงเทียนหลินว่าขโมยเงินเขาไป 3,000 หยวน! ความสัมพันธ์ของชายทั้ง 2 ก็ต้องจบลงตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ปีหนึ่งแล้ว เขาทั้ง 2 ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย
“เจ้านาย มีบางคนแอบเรียกนายว่าเป็นหมูอยู่ในใจ! เขาเกลียดนายมากเลยจริงๆ!”
หนิงเทียนหลินที่กำลังฟุบนอนที่โต๊ะแต่ไม่ได้หลับ ถึงแม้เขาจะไม่ได้นอนมามากกว่า 2 วันแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ง่วงอะไรมาก คุณลักษณะทางจิตของเขาตอนนี้สามารถประคองให้เขาตื่นอยู่ได้มากกว่าครึ่งเดือนโดยที่ไม่ต้องพักเลย
ที่มากกว่านั้นเขากำลังคิดถึงเรื่องต่างๆมากมายโดยที่ตาไม่ได้ปิด คิดถึงว่าเขาจะไปไหนต่อ
เมื่อมีระบบการต่อสู้ มันก็เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะใช้ชีวิตแบบทีละก้าวเหมือนแต่ก่อน
“ใครเหรอ?”
หนิงเทียนหลินยังฟุบลงอยู่กับโต๊ะ โดยไม่ต้องลืมตา การที่ด่าเขาในเรื่องแบบนี้แถมยังด่าเขาในใจอีกเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจ คนพวกนี้ในชั้นเรียนไม่มีใครอยู่ในระดับเดียวกับเขาเลย เขาและพวกนั้นจะต้องแยกเป็น 2 โลกในที่สุด และเขาเดาว่าถ้าวันหนึ่งที่เขาขึ้นไปยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกและเป็นที่เปิดเผยกับทุกคน บางคนจะต้องสรรเสริญเขาแต่แน่นอนว่าจะต้องมีคนนับไม่ถ้วนที่เกลียดเขาผสมปะปนกันไปเพราะเส้นทางของเขาจะต้องเหยียบข้ามศพไปมากมาย ศพพวกนี้รวมถึงนก, สัตว์, ปลาและแม้แต่มนุษย์นับไม่ถ้วน!
ในเวลานั้นจะต้องมีคำวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับตัวเขา แต่เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอีกแล้วเพราะเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็คงจะออกจากโลกนี้ไปแล้ว! เมื่อมองดูสิ่งมีชีวิตทั้งมวลจากนอกโลกแล้วเริ่มการเดินทางระหว่างดวงดาวก็ปล่อยให้โลกพูดเกี่ยวกับเขาไป
“หวังน่าน”
“คนที่ด่านายบอกว่านายขโมยเงินเขาไป 3,000 หยวน” ระบบการต่อสู้ล้อเล่นออกมา
“อืม ไอ้ขยะคนนี้นี่เอง”
หนิงเทียนหลินเย้ยอยู่ในใจ ในเวลานั้นเขาไม่ได้ทำอะไร ถึงแม้ครอบครัวเขาจะไม่ได้ร่ำรวยแต่เขาไม่มีทางทำอะไรแบบการขโมยแบบนี้แน่ๆ คนแบบนี้ที่เดาสุ่มๆโดยไม่มีหลักฐานมีจิตใจที่สกปรกมากกว่าหมูอีก!
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานั้นเหตุการณ์นี้ก็ค่อนข้างจะดัง แถมเรื่องยังถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัยด้วย ทั้งชั้นได้รับรู้ว่า “โจร” ในเงามืดคนนั้นก็คือหนิงเทียนหลินมาตลอดทั้งปี ผลของเรื่องนี้ทำให้หนิงเทียนหลินไม่มีเพื่อนเลยมาเป็นปี ยกเว้นแต่ก็รูมเมทของเขา ชิเซียวจุนเท่านั้น ส่วนคนอื่นก็มองเขาเหมือนเป็นอากาศธาตุ
แม้แต่สิ่งที่หนิงเทียนหลินจำได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือเขาไปที่หอพักอื่นเพื่อเยี่ยมเยียน แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่นและตอนที่เขากำลังจะกลับก็
เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกันตะกร้าผ้าและถามว่าเขามาทำอะไร แล้วมานานแค่ไหนแล้ว นั่นเหมือนกับโจรมากๆ เขายังจำมันได้อย่างชัดเจน!
“สตาร์วอร์ส เกิดอะไรขึ้นกับเงินที่หายไปวันนั้น!”
ทันใดนั้นหนิงเทียนหลินก็คิดถึงระบบการต่อสู้ กลายเป็นว่าเขาไม่รู้อะไรเลยและทำได้เพียงพึ่งพาจินตนาการของตัวเองเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อระบบการต่อสู้เคยบอกว่าไม่มีอะไรในจักรวาลที่เขาไม่รู้ บางทีเขาอาจจะเคลียร์เรื่องนี้ได้!
“ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย”
ระบบการต่อสู้พูด “หวังน่านคนนี้ไม่ได้เสียเงิน 3,000 หยวนเลยสักนิด! เขาคิดว่าเงินถูกขโมยแต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็เจอมันอยู่ในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง”
“มันเกิดขึ้นหลังจากที่เขารายงานเรื่องนี้กับที่ปรึกษาของนายแล้วและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้รับแจ้งไปแล้วด้วยแต่เขาก็ยืนยันที่จะไม่บอกใครเรื่องนี้! พร้อมทั้งยังยืนยันว่านายเป็นคนขโมยเงินเขาไปด้วย!”
“ไอ้เลว!” เมื่อได้ยินคำอธิบายของระบบการต่อสู้ หนิงเทียนหลินก็ถึงกับตะลึงแล้วความโกรธแค้นก็ก่อตัวขึ้นมาเต็มร่างกายไปหมด คนแบบนี้เรียกว่าไอ้เลวยังน้อยไปเลย ในเมื่อเจอเงินแล้วทำไมถึงยังไม่พูดอะไรอีก! ทำให้เขาเป็นคนผิดในสายตาคนอื่นมาเป็นปี!
ถึงแม้ว่าหนิงเทียนหลินจะไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นตราบใดที่ยังมีคนหรือ 2 คนที่ยังเข้าใจเขา แต่มันก็น่าอึดอัดที่จะต้องถูกเข้าใจแบบผิดๆ
“ชู หยิชานมาแล้ว! ดูสิ ชู หยิชานมาแล้ว!”
ทันทีที่หนิงเทียนหลินกำลังคิดว่าจะตอบโต้หรือสู้กลับยังไง ก็มีเด็กผู้ชายหลายคนตะโกนโวยวายทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลังของเขาด้วยความตื่นเต้น ชูหยิชานเทพธิดาและดอกไม้งามของชั้น
หลายวันที่ผ่านมามีแต่คนพูดกันว่าสาวสวยคนนี้หายไปไหนและทำไมถึงยังไม่มาเรียน
“สุดที่รักของฉัน สวยอีกแล้ว!”
ในเวลานี้ ไอ้ “นมใหญ่” หวังน่านที่อยู่ข้างหลังหนิงเทียนหลินพูดขึ้นมาอย่างเบิกบานใจ อาการของเขาก็ช่างปิติยินดีเหลือเกิน เขาเป็นลูกชายเจ้าของถ่านหินชานซี ถึงแม้เขาจะเป็นลูกชายของเจ้าของเหมืองถ่านหินส่วนตัวขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าอยู่ประมาณล้านหรืออาจจะหลายสิบล้าน
ดังนั้นชูหยิชานจึงถูกมองว่าเป็นของตายสำหรับเขา แถมยังคุยโวไปกับคนมากมายว่าในอนาคตชูหยิชานจะต้องมาเป็นแฟนของเขาแน่ๆแต่ก็เพียงแค่รอให้ถึงเวลาเท่านั้น
แต่ตอนปีหนึ่งเขาก็ไม่ได้ทำอะไรอุกอาจมากนัก
ก็เป็นเพราะชูหยิชานไม่ได้ตอบกลับอะไรเขาและของขวัญทุกชิ้นที่เขาส่งไปก็ถูกตีกลับ
“ใช่ สวยเหมือนเดิมเลย”
ในเวลานี้ ในระหว่างเบรคและคนที่นั่งข้างๆเขาก็พยักหน้าและพูดย้ำออกมา
“ว่าไงนะ?”
“เธอกำลังมองหาอะไร!”
“เธอมองมาทางนี้แล้ว!”
“เธอมาหาเรา!”
หนิงเทียนหลินที่กำลังฟุบอยู่กับโต๊ะแกล้งทำเป็นหลับ ตอนที่เขาได้ยินว่าชูหยิชานกำลังมาเขาคิดที่จะลุกขึ้นมาแต่เขา “หลับ” มามากกว่าชั่วโมงแล้วและมันคงจะชัดเกิดไปที่อยู่ดีๆจะตื่นขึ้นมาเพราะสาวสวยเข้ามา
งั้นนิ่งไว้ ฟุบลงกับโต๊ะแกล้งทำเป็นหลับ
แค่ได้ยินเสียงความตื่นเต้นของคน 2-3 คนที่อยู่ข้างหลังเขา เขาก็ตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยเพราะเขารู้สึกว่าชูหยิชานน่าจะกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขา! ยังไงซะเมื่อ 2 วันที่แล้วก็เพิ่งจะเกิดเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไป
“หยิชานนั่งนี่ก่อนสิ! ไม่เจอกันนานเลยนะ”
แต่ในเวลานี้เสียงของ”นมใหญ่” หวังน่านก็ดังขึ้นมาอยู่ด้านหลัง ทำให้หนิงเทียนหลินต้องขมวดคิ้ว นั่นหมายความว่าชูหยิชานกำลังนั่งอยู่ข้างๆหวังน่านงั้นเหรอ?
“ลุกขึ้น! ลุกเลยไอ้ตัวแสบ! ไปนั่งข้างไอ้โจรเลย!”
“ยกที่นั่งให้หยิชาน”
รอบๆหวังน่านไม่มีเก้าอี้ว่างเลยมีเพียงหนิงเทียนหลินที่นอนอยู่คนเดียวตรงโต๊ะ เพื่อนรักคนเดียวของเขาชิเซียวจุนง่วงเกินไปเลยกลับไปนอนที่หอเพราะเขาต้องนอนบนเก้าอี้มา 2 คืนแล้ว
หวังน่านบอกให้พี่สะใภ้ไปนั่งข้างๆหนิงเทียนหลินเพื่อเว้นที่ว่างให้ชูหยิชาน
เขาเพิ่งจะพูดถึงหนิงเทียนหลินเพียงแต่ว่าไม่ได้เรียกชื่อออกมาแต่ใช่คำว่า “โจร” แทน