Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 333
ตอนที่ 333 คิดว่าจะสู้กับข้าได้งั้นหรอ?
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ยิ้มบางออกมาเมื่อได้ยินลูไคถามถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา “แล้วท่านคิดว่าตอนนี้ข้าแข็งแกร่งขนาดใหนหล่ะ?”
ลูไคนั้นก็พึมพําสักครู่แล้วพูดว่า “ไอ้เด็กสารเลวอย่างเจ้าคงใช้สามัญสํานึกพิจารณาไม่ได้หรอก ในปีนั้น ในตอนที่เจ้าเข้าร่วมการประลองเมืองจักรพรรดิ เจ้าก็พึ่งจะทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนเอง และตอนนี้บางทีเจ้าอาจจะคงพึ่งทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียน 4 สินะ?”ลูไคก็หรี่ตาจ้องมองใบหน้าของหวงเสี่ยวหลงเพื่อรอดูว่า หวงเสี่ยวหลงจะตอบเขาอย่างไร
ระดับเซียนเทียน 4!! พอครุ่นคิดได้ว่าระดับเซียนเทียน 4 นั้นมันคืออะไรแล้ว ลูไคนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตั๋วสั่นสะท้านอย่างลับๆ ระดับเซียนเทียน 4 นั้น ก็คือระดับเซียนเทียนชั้นกลาง ในอาณาจักรลั่วถางนั้นไม่มีคนใครที่สามารถจะมีความแข็งแกร่งในระดับนั้นได้เลย!!
ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรลั่วถาง แม้กระทั่งอาณาจักรเพื่อนบ้านหลายอาณาจักรก็ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน 4 เลยสักคนเดียว!! แล้วหวงเสี่ยวหลงอายุเท่าไหร่? เขายังไม่ถึง 23 เลยด้วยซ้ํา?!
ในขณะจ้องมองลูไคที่จ้องมองเขาด้วยดวงตาเบิกกว่าง หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ส่ายหัวเล็กน้อยอย่าเหนื่อยใจ การตอบสนองของหวงเสี่ยวหลงนั้นทําให้ลูไคตกตะลึง
ขึ้นมาเลย และเขานั้นจึงหายใจออกอย่างโล่งอกแล้วยิ้มขึ้น “เห็นใหม อย่างที่ข้าบอก ไม่ว่าเจ้าจะอัจฉริยะขนาดใหน เจ้าจะทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นกลางได้เร็วขนาดนั้นได้ไงกัน!!”
เมื่อได้ยิน หลงเสียวหลงนั้นก็รู้สึกพูดไม่ออกกับสหายของเขา
“แล้วตอนนี้ เจ้าก็คงจะอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นที่ 3 สูงสุดแล้วสินะ?”ลูไคก็รีบถามขึ้น
ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 3 สูงสุด? หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ทําได้เพียงยิ้มอย่างขมขึ้นแล้วส่ายหัวตอบ
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ลู่ไคจึงพูดต่อ “งั้นก็ขั้นที่ 3 ปลาย?”
หวงเสี่ยวหลงก็ส่ายหัว
“ขั้นที่ 3 กลางสูงสุด?”ลูไคก็พยายามคาดเดา
แต่เขาก็ได้รับการตอบสนองแบบเดิมจากหวงเสี่ยวหลง
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ใบหน้าของลูไคจึงเต็มไปด้วยความสับสน “เป็นไปไม่ได้ งั้นก็คงเป็นขั้นที่ 3 กลางสินะ? ด้วยความเร็วในการฝึกของเจ้า เจ้าไม่น่าจะเป็นแค่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 3 กลางเป็นแน่?”
หวงเสี่ยวหลงก็หัวเราะออกมา “จริงๆแล้วข้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนระดับเซียนขั้นที่ 3 กลาง”
ไม่ใช่ขั้นที่ 3 กลาง? ลูไคนั้นก็อึ้งไปแล้วจากนั้นความตื่นตกใจก็ได้เข้าปกคลุมร่างกายของเขา “หรือว่าจะ… เหนือกว่าระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4?!”
หวงเสี่ยวหลงนั้นจึงพยักหน้าตอบ
ลู่ไคจึงหัวเราะออกมาในขณะพูดว่า “ไอ้เด็กนี่ เจ้ามันสัตว์ประหลาดจริงๆ เจ้ากลับทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4ได้เร็วขนาดนี้”เมื่อได้ยินการยืนยันจากหวงเสี่ยวหลงว่าทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4ได้ ลู่ไคจึงรู้สึกยินดีกับสหายของเขามาก
“งั้นตอนนี้เจ้าอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4 กลางหรือปลายหล่ะ?”ลู่ไคถาม
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ครุ่นคิดคําตอบสักครู่ “ก็คงจะนับได้ว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสูง”แม้ว่าหวงเสี่ยว หลงนั้นจะสามารถเอาชนะผู้ฝึกตนระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์ จ้าวเฉินได้ แต่เขานั้นก็ยังอยู่แค่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 สูงสุด ดังนั้นเขาจึงนับได้ว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสูง
ลูไคนั้นก็ตกตะลึงกับคําตอบอันขอไปที่ของหวงเสี่ยวหลงมาก ตาของเขานั้นเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาเลยและสายตาที่จ้องมองหวงเสี่ยวหลงนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างจากสายตาที่จ้องมองสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถอธิบายได้
นับได้ว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสูง!?
ลู่ไคนั้นก็สูดหายใจเข้าอย่างหนาวเหน็บ เขานั้นคิดไว้ว่าไม่ว่าหวงเสี่ยวหลงนั้นจะมีพรสวรรค์ขนาดใหน ภายในเวลาสองสามปี การทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4 นั้นก็เรียกได้ว่าเหนือปกติแล้วแต่ตอนนี้กลับ….!!
“ขั้นที่ 6 สูงสุด?”ลูไคนั้นก็พยายามจะคาดเดาอีก เขานั้นคิดว่าคําว่า นับได้ว่าที่หวงเสี่ยวหลงจะสื่อนั้น หมายความว่าหวงเส่ายวหลงนั้นยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 แต่อีกเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 แล้ว
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็แค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับการคาดเดาของไคโดยไม่ยอมรับหรือปฏิเสธและปล่อยให้ลู่ไคนั้นคิดว่าเขานั้นแค่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 6 สูงสุด
ในตอนนี้ เจ้าของโรงเตี้ยมนั้นก็เร่งรีบเดินมาที่โต๊ะของพวกเขาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย ต่อหน้าหวงเสี่ยว หลงและลูไค เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “นายน้อยหวง องค์ชายลู่ไค พวกท่านรีบหนีเร็วขอรับ! ตอนนี้ นายกรัฐมน ตรีหวูเฟิงได้สั่งการให้ปิดการเข้าออกเมืองหลวงแถมทหารองครักษ์ทุกนายต่างก็มุ่งหน้ามาที่นี่แล้วขอรับ!!”
หวงเสี่ยวจึงพยักหน้าตอบ
ในขณะคุยกับลูไค หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้รู้แล้วว่าหวูเฟิงและข้าราชการในอาณาจักรลั่วถางแทบทั้งหม ดนั้นได้สนับสนุนลู่วิ่ง ส่วนหวูเฟิงคนนั้นก็ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของนิกายเทพวายุด้วยซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่หวง เสี่ยวหลงยังคงใจเย็นอยู่ แล้วจากนั้นเขาก็ยกสุราในแก้มขึ้นดื่มจนหมดภายในตึกเดียว
ในขณะมองท่าที่อันไม่รีบร้อนของหวงเสี่ยวหลงและลู่ไค เจ้าของโรงเตี้ยมจึงพูดเร่งพวกเขาในทันที “นาย น้อยหวง องค์ชายลู่ไค พวกท่านรีบหนีเร็วขอรับ มิฉะนั้นมันอาจจะไม่ทันการ ข้าได้ยินว่าผู้นํานิกายเทพวายุและ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของนิกายเทพวายุกําลังมุ่งหน้ามายังที่นี่ บางทีตอนนี้พวกนั้นอาจจะอยู่ที่ด้านหน้าประตูเมืองแล้วก็เป็นได้!!”
เมื่อเสียงของเจ้าของโรงเตี้ยมสิ้นสุดลง เมืองลั่วถางนั้นก็ได้ถูกแรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นเข้าปกคลุมราวกับห่าทัณฑ์สวรรค์ที่พรั่งพรูลงมาจากสวรรค์
เหล่าคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นต่างก็หวาดกลัวและรู้สึกสิ้นหวังอย่างฉับพลันกับหายนะที่จู่ๆบังเกิดขึ้น แม้กระทั่งไคที่แต่เดิมใจเย็นนั้นก็ได้รับผลในขณะที่ความกังวลปรากฏขึ้นในสายตาของเขา แรงกดดันนี้มันราวกับภูเขาอันยิ่งใหญ่ที่กดทับวิญญาณของเขาซึ่งทําให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก
แต่ทว่าหวงเสี่ยวหลงนั้นกลับประหลาดใจ ระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ? นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเลย ได้มาพบกับระดับนักบุญศักดิ์สิทธิในที่เล็กๆแบบนี้ หรือว่าจะเป็นคนจากนิกายเทพวายุกัน? แต่เหมือนจะไม่ใช่เพราะนิกายเล็กๆอย่างนิกายเพทวายุไม่น่าจะมีตัวตนแบบนี้ งั้นแสดงว่าเป็นคนจากนิกายเทพนักรบเป็นแน่
ในเวลาเดียวกันที่ด้านนอก อ่าวไปเสวียที่ปลดปล่อยกลิ่นอายของระดับนักบุญศักดิ์สิทธินั้นก็ได้บินไปยังโรงเตี้ยมเลิศรสด้วยความความเร็วเหนือสายลม ในพริบตา อ่าวไปเสวีย ฟานอวี่หมิงและผู้เชี่ยวชาญเทพวายุนั้นก็ได้มาหยุดลงที่ด้านบนของโรงเตี้ยมเลิศรส
“ยินดีที่ได้พบ ผู้อาวุโสอ่าว ท่านประมุขฟาน”นายกรัฐมนตรีหวูเฟิงที่ได้พาทหารองครักษ์มาล้อมกรอบร้านอาหารเลิซรสนั้นก็ได้เร่งรีบมาคุกเข่าทําความเคารพอ่าวไปเสวียและฟานอวหมิงพร้อมกับเหล่าข้าราชของอาณาจักรลั่วถาง
อ่าวไปเสวียจึงอนุญาตให้พวกนั้นได้ลุกขึ้น ในขณะที่เขากระจายสัมผัสวิญญาณออกไป เขาก็ได้ล็อคเป้าไว้ที่กลุ่มของหวงเสี่ยวหลง
“หวงเสี่ยวหลง ลู่ไค พวกเจ้าถูกล้อมกรอบหมดแล้ว รีบๆกลิ้งออกมาคุกเข่าให้กับผู้อาวุโสอ่าวเสีย!!”ฟานอวี่หมิงนั้นก็ก้าวงออกมาแล้วคํารามเสียงดัง
ตอนนี้รอบข้างต่างก็เงียบไปหมด หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ประตูโรงเตี้ยมก็ได้ถูกเปิดออก หวงเสี่ยวหลงนั้นจึง เดินออกมาพร้อมกับลูไคและผียักษ์เฟิงหยาง จากนั้นสายตาอันของหวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้ไปสอดประสานกับ สายตาของอ่าวไปเสวียที่รอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับพายุล่องหนที่พัดปลิวสไวไปมา
ฟานอวหมิงนั้นก็เย้ยหยันออกมาอย่างเย็นชาเมื่อเขาเห็นหวงเสี่ยวหลงปรากฏตัวออกมา “เจ้าคือหวงเสี่ยว หลงสินะ? ไอ้สารเลว ต่อหน้าผู้อาวุโสอ่าว ทําไมไม่คุกเข่าขอความเมตตาหล่ะ?! ข้ามั่นใจว่าเจ้าเองก็คงจะรู้แล้ว สินะว่าผู้อาวุโสอ่าวของเราหน่ะเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์ การฆ่าเจ้ามันก็แค่การเล่นสนุกเท่านั้น”
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็แค่เหลือบมองอ่าวไปเสวีย “จริงรึ?”
แต่ลูไคนั้นกลับหน้าซีดเป็นไก่ต้มเมื่อได้เห็นอ่าวไปเสวีย ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ?! ที่แท้ ชายหนุ่มคนนี้ก็คือผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ!! ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธินี่มันเป็นตัวตนที่สูงส่งที่อยู่เหนือตัวตนในตํานานเสียอีก!!
หลังจากหายตกใจ ลูไคนั้นก็หันหน้ามามองหวงเสี่ยวหลง “น้องชาย ข้าต้องขอโทษด้วยที่ลากเจ้ามาเกี่ยวข้อง!!”ในสายตาของเขา สัตว์ประหลาดอัจฉริยะอย่างหงเสวี่ยวหลงนั้นเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 6 สูงสุด ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชียวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์
ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 1 หรือ 6 สูงสุด ผลลัพธ์มันก็ไม่แตกต่างกัน นั่นก็คือตกตายภายในกระบวนท่าเดียว
หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองไคพร้อมกับส่งสายตาให้วางใจแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป”
“ไม่ต้องกังวลงั้นเรอะ?”อ่าวไปเสวียนั่นก็หัวเราะออกมา “หวงเสี่ยวหลง จําวขู่และจางฟูนั้นอยู่ในเมืองจักรพรรดิในตอนนี้ เจ้าคิดว่าพวกนั้นจะสามารถเดินทามาถึงที่นี่เพื่อช่วยเจ้าได้ทันงั้นเรอะ?”
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็หันหน้ามองอ่าวไปเสียอย่างไม่แยแส “เจ้าคิดว่าจะยังทําให้ข้าบาดเจ็บเหมือนเมื่อปีนั้นได้อยู่งั้นเรอะ?”เมื่อปีนั้น อ่าวไปเสวียนั้นได้ทําให้หวงเสี่ยวหลงบาดเจ็บต่อหน้าหลี่ลู่ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่มีวันลืม
อ่าวไปเสวียนั้นก็หัวเราะออกมาหนักขึ้น เมื่อได้ยินคําพูดของหวงเสี่ยวหลงและสายตาของเขานั้นก็เฝ้ามองหวงเสี่ยวหลงจากบนลงล่าง “เจ้าจะบอกว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้ เจ้าสามารถต่อกรกับข้า ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญศักดิ์สิทธิขั้นที่ 1 กลางสูงสุดได้งั้นหรือ?”น้ําเสียงของอ่าวไปเสวียนั้นก็เต็มไปด้วยความดูถูก