Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 168
บทที่ 168 – วิกฤติซ้ำซ้อน (4)
หลังจากที่เคลียร์บียอนชั้นที่ 4 ฉันก็ได้ไปชั้นที่ 55 ของดันเจี้ยนที่หนึ่งในทันที ในขณะที่ฉันต้องการจะใช้นระยะเวลาของธาเลเรียให้หมดลง ในตอนนี้ฉันกำลังจะเข้าไปในชั้นนั้น ฉันก็ได้รับข้อความจากเพื่อนของฉันหลังจากที่ไม่ได้รับมานาน
[เจ้าชายรัชทายาได้ยินไหม?]
“อ่า เร็น สักพักแล้วสินะ”
[ในที่สุดนายก็ตอบกลับ มีอะไรเกิดขึ้นหรอ?]
มันดูเหมือนว่าเขาจะส่งข้อความมาหาฉันหลายครั้งแล้วในตอนที่ฉันยุ่งอยู่กับการเคลียร์เหตการณ์ดันเจี้ยน ฉันคงจะยุ่งจนลืมสังเกตุไป ฉันได้พูดกลับไปด้วรอยยิ้มขมขื่นทันที
“ใช่แล้ว เมื่อเร็วๆนี้มีเรื่องยุ่งๆที่โลกนะ”
[เข้าใจแล้ว เอาล่ะฉันแน่ใจได้เลยว่านักสำรวจทุกคนต่างก็ยุ่งอยู่กับอะไรสักอย่าง… ดังนั้นตอนนี้นายอยู่ชั้นไหนแล้วล่ะ?]
“ฉันกำลังจะท้าทายชั้นที่ 55”
[…. ชั้นที่ 55?]
เร็นได้ผงะทันที
[นายยุ่งแค่ไหนกันนะ? ในตอนนี้ฉันกำลังล่าอิลิกเซอร์ชั้นที่ 55 อยู่]
“อืม นั่นก็ส่วนหนึ่งแหละ แต่ว่าฉันได้เข้าไปในดันเจี้ยนที่เหนือกว่าดันเจี้ยนที่หนึ่งนะ”
[นายหมายถึงบียอน?]
ฉันอดที่จะตกใจไม่ได้ที่เร็นรู้เกี่ยวกับบียอน
“เร็นนายรู้ได้ยังไง?”
[นั่นมันคือความทะเยอทะยานของฉัน ฮะ ฮีโร่ในทวีปของฉันเป็นนักสำรวจบียอน ฉันเข้าใจ เมื่อพวกเราได้เจอกันครั้งแรกและนายบอกฉันว่านายได้เอาชนะอัศวินลิซาร์ดแมนเพียงลำพัง ฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะ…]
“เร็น..”
หืมม เดี๋ยวนะ
“เร็นนายก็ยังคงเอาชนะบอสทั้งหมดเพียงลำพังจนถึงตอนนี้ใช่ไหม? ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะทำแบบนั้น”
[แน่นอนสิ นั่นมันเป็นเหตุผลที่ฉันใช้เวลานานในการผ่านดันเจี้ยน… ฮีโร่ได้พูดว่าฉันจะต้องเอาชนะบอสดันเจี้นเพียวลำพัง ดังนั้นฉันเลยได้เอาชนะออร์คลอร์ดและราชินีวิญญาณเพียงลำพังด้วย มันเพียงแต่ว่าฉันไม่ได้เค้นอิลิกเซอร์จนถึงขีดสุดเท่านั้น]
“เข้าใจแล้ว”
เพราะเขาถึงมีความสุขเมื่อเขาเอาชนะอัศวินลิซาร์ดแมนเพียงลำพังฉันเลยคิดว่ามันเป็นครั้งแรกที่เขาเอาชนะบอสเพียงลำพังซะอีก แต่มันดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขเพียงเพราะความเขาประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ตายเลยต่างหาก
[ฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับนายหรอ? ไม่ว่ายังไงก็ตามการได้พบกับเจ้าชายได้เพิ่มความเร็วในการเคลียร์ดันเจี้ยนให้กับฉันตั้งหลายเท่า ฉันไม่คิดว่าแค่คำขอบคุณมันจะพอเลยจริงๆ]
ความจริงที่เร็นไม่เคยบอกฉันจนกระทั่งตอนนี้ เร็นคือใครกันนะ? ลูกชายของฮีโร่และอัศวินที่แข็งแกร่งงั้นหรอ… เร็นเป็นเจ้าชายรัชทายาทหรืออะไรในทวีปของเขางั้นหรอ?
เดี๋ยวนะ บียอนในปัจจุบันมีนักสำรวจเพียง 3 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงและอีกหนึ่งคือฉัน ถ้างั้นอีกคนคือพ่อของเร็น!? ฉันรู้สึกสงสัยในทันที แต่ฉันก็ไม่ได้ถามเร็นเพราะรู้สึกไม่สบายใจ
แต่น่าแปลกที่เร็นดูเหมือนจะรู้ในสิ่งที่ฉันคิดอยู่
[มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าชายคิดหรอก ฮีโร่ของทวีปฉันตายแล้ว]
ฉันรู้สึกเครียดทันที
“เข้าใจแล้ว”
[มันไม่มีเวลาที่จะย้ายตำแหน่งฮีโร่มาให้ฉัน พวกศัตรูมือปีศาจนั้นได้เข้ามาถึงกองกำลังระดับสูงของเราและไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถจะทำได้]
ตำแหน่งของฮีโร่สามารถจะเปลื่ยนได้ โรเล็ตต้าก็ได้บอกกับฉันแบบนี้เหมือนกัน ยังไงก็ตามมันไม่ใช่สิ่งที่จะเปลื่ยนได้ง่ายๆ ทั้งผู้ที่รับและผู้ที่มอบให้จะต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่างและใช้เวลาที่ยาวนาน ดังนั้นการที่ฮีโร่จะส่งตำแหน่งให้คนอื่นๆมันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ
“เร็นถ้างั้น…”
[ฉันบอกนายแล้วนี่ ฉันเป็นเพียงนักสำรวจคนเดียวในทวีปพาแนน รวมไปถึงดันเจี้ยนที่สอง และดันเจี้ยนที่สามและสีด้วย แน่นอนว่าตอนนี้เราก็ไม่มีนักสำรวจบียอนอีกแล้วด้วย]
“เร็น….”
ฉันไม่อยากจะเชื่อเรื่องว่าเขาจะพูดมันออกมาโดยไม่รู้สึกอะไร การที่ฮีโร่ตายนั่นหมายความว่าโลกของเขาก็ไม่สามารถจะเอาพลังคืนมาได้ ฉันเข้าใจได้ว่าทำไปเลอบิคถึงหนีจากพาแนน ในกรณี.. ทำไม…
“ทำไมนายถึงยังอยู่ในโลกนั่นล่ะเร็น?”
เร็นได้เงียบไปครู่นึ่งจากนั้นเขาก็พูดออกมา แทนที่จะเรียกว่าพูดมันน่าจะเป็นการปฏิญาณตนเองมากกว่า
[เพราะว่า… ยังมีสิ่งที่ฉันจะต้องปกป้องเอาไว้อยู่นั่นแหละคือเหตุผล]
คำพูดนี้ของเขาฉันจะจำไปตลอดชีวิต
ด้วยหัวใจที่แน่วแน่นนั่นได้แสดงออกมาว่าเขาไม่ทมีความสงสัยในการตัดสินใจและกระทำมันซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกเคารพเขา ฉันได้คิดว่าฉันจะไม่มีวันลืมในวันนี้ ฉันได้พูดออกไป
“ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกนะ”
หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกเล็กน้อยและแยกกัน ฉันรู้สึกเหมือนกับได้มีความกล้าหาญใหม่อยู่เต็มในหัวใจของฉัน เมื่อคิดเกี่ยวกับเร็นและฉันจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่พิเศษสิ่งแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ฉันได้หยุดยืนอยู่หน้าห้องบอสชั้นที่ 55
บอสชั้นที่ 55 เป็นโอเกอร์ มันมีขนาดที่ใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวสีสนิมและมันได้รับการกล่าวว่าเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแรงที่สุด
น่าแปลกที่มันมีอยู่สองหัวซึ่งจะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า ฉันสงสัยว่าการเพิ่มขึ้นสองเท่าของสองหัวนี้เป็นยังไง แต่ฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าจะมีใครมาตอบฉัน
ตามที่เร็นได้บอกมาเขาได้เอาชนะมันด้วยพลังความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาตายไปสองครั้งก่อนที่จะเอาชนะสำเร็จก็ตาม ดังนั้นฉันจึงเปิดประตูด้วยความรู้สึกเคร่งเครียด
“มาสู้กัน”
[ก๊าฮ่าๆๆๆๆๆ]
ตามที่คาดเอาไว้มีเพียงแค่โอเกอร์ยักษ์ตัวเดียวยืนอยู่ในดินแดนที่กว้างใหญ่ ในวินาทีที่นั้นฉันได้เห็นมันร้องออกมาแปลกๆและพุ่งเข้าหาฉัน ทุกๆครั้งที่มันเหยียบพื้น พื้นก็จะสั่นสะเทือน ฉันอดที่จะตกใจไม่ได้เมื่อฉันรู้สึกได้ถึงพลังของมันที่ทำให้พื้นสะเทือน
“พระเจ้า…”
มันอ่อนแอกว่าออร์คลอร์ดที่เสริมด้วยวอคลาย 7 ครั้ง รวมๆแล้วเจ้านี่มันอ่อนแอ
[ก๊าฮ่าาๆๆๆๆๆ]
“ไพก้าแสดงรูปธรรม”
“ฉันกำลังรออยู่เลยเจ้านาย”
ตอนนั้นเองไพก้าก็ปรากกตัวออกมาในรูปแบบของมังกร ฉันได้กระโดดไปบนหลังของเธอและหยิบหอกโกลาหลออกมา ส่วนคนที่เข้าไปในหอกไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชาราน่า เธอนั้นได้เสริมพลังของเพลิงโกลาหลขึ้นมาอย่างมหาศาล
เพลิงโกลาหลได้ลุกอย่างวุนวายและลุกตามในวังวนวายุที่รุนแรงของไต้ฝุ่นคลั่ง ฉันได้สูดหายใจเข้าและบีบไพก้าด้วยขาของฉัน มันคือสัญญาณที่บอกให้เธอพุ่งเข้าไป
[อุหุหุหุ]
“ไพก้า อย่าทำเสียงแปลกสิและก็พุ่งไปได้แล้ว! นี้คือเหตุผลที่ฉันให้เธอแสดงรูปธรรม!”
[การต่อสู้ระยะสั้นใช่ไหม? โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนีเแหละ!]
[ก๊าฮ่าๆๆๆ]
ฉันไม่รู้ว่ามันหัวเราะอะไร แต่ว่าหัวทั้งสองของมันก็ยังคงหัวเราะต่อไปในขณะที่เข้ามาหาฉัน ถ้ามันจะเปรียบเป็นคำพูดก็คง ‘เจ้าโง่นั่นเข้ามาให้เราเหยียบล่ะ’ ประมาณนี้มั้ง แต่ว่าเมื่อนำมันมาเทียบกับออร์คลอร์ดสำหรับฉันแล้วมันไม่แม้แต่จะเร็วกว่าเลย
“กินนี้ไปซะ”
[ก๊าฮ่าๆๆๆ]
เมื่อไพก้าพุ่งออกไปเหมือนลูกธนูและยิงศรสายฟ้าออกไป มันก็ได้ยกแขนของมันเพื่อกัน ผิวของโอเกอร์นั้นมีชื่อเสียงในความยดหยุ่นสูงและเจ้านี้ก็ยังเป็นบอสประจำชั้น ฉันสงสัยว่ามันจะสามารถสามารถป้องกันสายฟ้าของไพก้าได้อย่างง่ายดายไหม แต่มันกลับดูเหมือนว่าสายฟ้าของไพก้าที่ถูกปลดผนึกจะต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง มันได้เจาะผ่านความต้านทานของผิวหนังและช็อตโอเกอร์ในทันที
[ก๊าซซซซซซ]
“นี้แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการจะได้ยิน เท็มเพรส”
เมื่อมันได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและก้าวถอยหลัง ฉันก็ได้ยิงวังวนพายุเพลิงที่ห่อหุ้มหอกออกไปข้างหน้า มันได้ป้องกันเท็มเพรสที่ฉันเล็งไปที่หัวซ้ายของมันด้วยแขน แต่ว่าเพลิงโกลาหลได้กลืนกินแขนขวาทั้งข้างของมันไปและเริ่มหายไป
[ก๊าซซซซซซ]
“ไพก้า”
[ไว้ใจได้เลย]
โอเกอร์ได้ร้องออกมาและเหวี่ยงแขนใส่พวกเรา แม้ว่ามันจะไม่มีทางที่ฉันจะโดนมัน แต่เมื่อกรงเล็บที่น่ากลัวของมันแหวกผ่านอากาศ กรงเล็งนั่นก็ได้มีร่องรอยของออร่าสีดำซึ่งพุ่งเข้ามาใส่ฉันและไพก้า จากนั้นไพก้าก็ใช้ทักษะกายกรรมของร่างกายเธอและหลบการโจมตีนี้ก่อนที่จะพ่นบอลสายฟ้าไปอีกอันหนึ่ง
[ก๊าฮ่าฮ่าฮ่า]
“ยังไม่พอ”
ฉันยังคงมีมานาเหลืออยู่อีกมาก ฉันได้จับหอกแน่นและหมุนวนวงจรเพรูต้าเพื่อให้เกิดการปั่นขึ้นที่ได้ยินเสียงแม้ตายภายนอก ในไม่ช้าวังวนแห่งเพลิงก็ได้ถูกยิงออกไปจากหอกอีกครั้ง
[นายท่านกรงเล็บนั้นจะมาอีกแล้ว]
“อะไรนะ ให้ตายสิ”
[ก๊าซซซซซซซซ]
มันดูเหมือนว่าจะไม่สนเพลิงที่กลืนแขนขาของมันในขณะที่มันเหวี่ยงแขนอย่างรุนแรง ด้วยการเหวี่ยงแต่ละครั้งจะมีออร่าห้าออร่าถูกยิงมาทางฉัน ในตอนท้ายออร่าหลายสิบเส้นได้พรุ่งมาหาฉัน ไพก้าได้รีบบินขึ้นไปเพื่อหลบมัน แต่ครู่หนึ่งเธอก็เดาะลิ้น
[นายท่านออร่านั่นกำลังเปลื่ยนทิศทางและไล่ตามพวกเรา]
“หันไปและพุ่งไปหาเขา”
ไม่ใช่ว่าควรจะมีความแข็งแกร่งทางกายาพหรอ? แล้วยังไง? เขาเพิ่งจะเล่นกับฉันด้วยออร่า! ฉันได้กัดฟันแน่นและล็อคขาไปกับไพก้าเพื่อที่จะยึดตัวเองเอาไว้
[เอเฮะ ตอนนี้ฉันสามารถตายได้อย่างมีความสุขแล้ว]
“เธอตายไม่ได้ ไพก้า”
ร่างกายไพก้าได้ส่องแสงสีทองและปล่อยสายฟ้าออกมา บอลสายฟ้านับไม่ถ้วนได้กระพริบและสร้างความเสียหายให้กับโอเกอร์ ซึ่งทำให้มันเป็นอัมพาต
[ก๊าาาาาา]
“อึก”
ถึงอย่างนั้นมันก็ได้ยกแขนซ้ายขึ้นเพื่อโจมตีฉัน ฉันได้เบิกตาขึ้นในทันทีและควบคุมไพก้าเพื่่อให้หลบแขนหนาๆนั่น แม้ว่ามันจะอ่อนแอกว่าออร์คลอร์ด แต่ว่ามันก็ยังคงเป็นความจริงที่ว่ามันแข็งแกร่งกว่าฉันในแง่ของพลังเพียวๆ ถ้าฉันรับมือกับการโจมตีนี้ด้วยหอก ฉันก็ไม่สามารถจะรับประกับความปลอดภัยของไหล่ฉัน โชคดีที่ไต้ฝุ่นคลั่งสามารถที่จะทำลายศัตรูของฉันได้โดยที่ไม่แม้แต่จะต้องสัมผัสมัน
[ก๊าซซซซซซ]
เมื่อรู้ว่าโจมตีพลาด มันก็ได้หันหัวซ้ายมาทางฉันและเหวี่ยงแขนอีกครั้งหนึ่ง ยังไงก็ตามท่ายืนของมันได้พังไปแล้ว ฉันได้กระโดดไปข้างหน้าอย่างรุนแรงและแหงหอกออกไปอย่างเต็มกำลัง เพลิงโกลาหลได้ห่อหุ้มหอกเอาไว้อยู่ได้กวาดออกมาราวกับว่ามันจะกลืนกินทุกสิ่ง
“ฉันจะเผาแขนของแกออกเอง”
หลังจากที่พวกเราประสบความสำเร็จในการตัดแขนซ้ายออก พวกเราก็ได้ไปเผาร่างกายของมัน จากนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงสายออร่าที่ลอยเข้ามาและระเบิดออก ไพก้าได้หันไปในทันทีและพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
[เจ้านายโจมตี]
“ฉันพร้อมแล้ว”
เมื่อฉันได้ใส่ออร่าทั้งหมดของฉันไปที่หอกแล้ว ชาร่าน่าก็ได้เสริมพลังให้กับเพลิงโกลาหลให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เปลวเพลิงสีแดงดำได้ห่อหุ้มอยู่รอบๆหอกของฉันเหมือนกับมังกรเพลิง
ยังไงก็ตามโอเกอร์สองหัวนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย แม้ว่าแขนของมันจะถูกกัดกร่อนด้วยเพลิงโกลาหลและมีกลิ่นแปลกๆออกมา มันก็ยกแขนขึ้นโดยไม่สนใจและกรีดร้องออกมา
[โอเกอร์สองหัวได้ใช้ทักษะ ‘พลังแห่งยักษา’! ความแข็งแรงเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นระยะเวลาหนึ่ง]
“ว้าว”
ทักษะที่ฉันต้องการได้โผล่ออกมาแล้ว ตาของฉันได้เปล่งประกายในขณะที่ฉันดึงหอกกลับไปข้งหลัง ด้วยทักษะนั่นฉันสามารถจะควบคุมพลังที่มหาศาลได้อย่างอิสระ
[นายท่า เจ้านั่นโครตแข็งแรงเลยล่ะ]
“เธอสามารถจะหยุดได้ไหมไพก้า”
[… แน่นอน]
ฉันได้ประสานมือและทุบมันลงบนพื้น จากนั้นดินก็ผุดขึ้นมา มันดูเหมือนกับว่าฉันได้ใช้สกิลเอ้าเบิร์สของดูลาฮาน เพียงแต่วาฉันได้ใช้หมัดเปล่าๆ ยังไงก็ตามสายฟ้าก็ได้ยิงออกมาจากร่างกายของไพก้าได้ทำใหดินกลายเป็นเศษพุ่งออกไปอย่างสมบูรณ์
[นายท่านพวกเราจะหลบไหม?]
“ไม่ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาไปกับเจ้านั่น พุ่งไปเลย”
ไพก้าได้เร่งความเร็วขึ้นและพุ่งเข้าไปหาโอเกอร์โดยที่ไม่ตอบกลับ ฉันก็ยังยกหอกของฉันขึ้นไป บนหอกมีวังวนของเพลิงโกลาหล เพลิงสีขาวก็ได้เริ่มลุกขึ้นเช่นกัน โอเกอร์สองหัวได้กางแขนออกมาและวิ่งมาหาฉัน ดูเหมือนว่ามันจะต้องการที่จะจับฉันแต่ว่าสิ่งนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้
“ขอโทษนะ…แต่นายนะไม่ใช่อะไรที่มากไปกว่าแมลงหรอกนะ!”
[ก๊าาาาา]
ตูมมมมมม
มันได้กระแทกแขนเข้าด้วยกัน เพลิงโกลาหลบางส่วนได้ลดลงไปเพราะมัน ยังไงก็ตามทันทีหลังจากที่มันทำแบบนั้น ไพก้าก็ยกเลิกรูปธรรมและฉันก็หล่นลงไปหลบการโจมตีจากแขนของมันได้อย่างสมบูรณ์ การโจมตีของมันได้พุ่งผ่านหัวของฉันไปและสามารถเด็ดเส้นผมของฉันไปได้บางเส้น
ก่อนที่ฉันจะลงถึงพื้น ฉันได้มีเห็นจุดโจมตีที่ยอดเยี่ยม ตามที่คาดไว้เลยโอเกอร์มันก็มีสิ่งที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนกันสินะ
“รับนี้ไปซะ! ทำลาย…ไข่!”
วังวงของเพลิงโกลาหลได้ลุกลมไปอย่างจำกัดด้วยไต้ฝุ่นคลั่ง ไม่เพียงแค่ทำลาย แต่มันก็จะกัดกินในทุกๆอย่างที่มันสัมผัส ฉันได้หลบเลือด หนัง และกระดูกที่รอยออกไปทุกๆท่และลงไปบนพื้น จากนั้นฉันก็ถอนหายใจออกมา
“ฟูววว ในตอนนี้หอกโจมตีโดนพื้นที่ที่อาภัพธ์ไปแล้ว ตคั้งแต่นี้ไปโอเกอร์ก็ไม่สามารถจะมีลูกได้แล้ว… หรือก็คือเขาไม่สามารถจะมีเซ็กได้อีกต่อไป
[ก๊าา ก๊าซซซซซซซซซ]
ฉันได้ส่ายหัวและถือหอกของฉันไว้ โอเกอร์สองหัวไม่สามารถที่จะหัวเราะออกมาได้อีกต่อไป
มันได้ตายไปแล้ว ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame