I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด - ตอนที่ 239
ตอนที่ 239 ต้องช่วยเหลือดอกไม้แสนสวย
เมื่อทีมงานกลับไปที่พักกันหมดแล้ว เอริคเองก็กลับมาพักผ่อนที่ห้องตัวเองเช่นกัน เมื่อมาถึงเขาจึงเดินเข้าไปอาบน้ำทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกับคุยโทรศัพท์กับอนิสตันที่อยู่ที่ลอสแองเจลิส แล้วจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เอริคหันไปมองตามเสียงครั้งหนึ่งก่อนจะพูดกับอินสตันว่า ” ที่รัก มีคนมาเคาะประตู ฉันคงต้องวางก่อน… จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงละ น่าจะเป็นทีมงานมาเคาะเพื่อขอปรึกษาเรื่องงานแหละ … เด็กโง่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เธอให้นิโคลมาคอยจับตามองฉันใช่ไหม ? …ฮา ฮ่า ฮ่า ตอนนี้หล่อนอยู่ข้างห้องฉันเนี่ย ถ้าฉันทำอะไรเสียงดังนิดเดียวหล่อนก็ได้ยินละ ฉันจะไปกล้าได้ยังไง…. โอเค โอเค รักนะ บาย “
เมื่อเอริคเปิดประตูก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งพร้อมกับถือแฟ้มสีฟ้าเล่มหนึ่งอยู่ในมือ หญิงสาวเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจของเอริค หล่อนจึงกระพริบตาครั้งหนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า ” คุณ วิลเลี่ยม ฉันขอเข้าไปได้ไหม ? “
” อื้อ ได้สิ ” เอริคตอบรับ เขายิ้มให้แครี่ โลเวลล์บางๆก่อนผายมือให้หล่อนเข้ามาแล้วปิดประตู
” ที่นี่มีของจำกัดนะ มีแค่นมกับน้ำผลไม้ คุณโลเวลล์อยากดื่มน้ำอะไรล่ะ ? ” เอริคเดินตรงไปยังตู้เก่าๆใบหนึ่งที่เอาวางโทรทัศน์ก่อนเปิดออกแล้วถามหญิงสาว
แครี่ โลเวลล์นั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะกลมที่อยู่มุมห้อง แล้ววางแฟ้มสีฟ้าไว้บนโต๊ะ เมื่อได้ยินสิ่งที่เอริคถามหล่อนจึงยิ้มบางๆก่อนตอบไปว่า ” ฉันขอนมหนึ่งแก้วก็พอคะ “
เอริคเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาเทนมใส่แก้วแล้วยื่นให้หญิงสาวก่อนที่ตัวเองจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่อีกด้านของโต๊ะ
แครี่ โลเวลล์กล่าวขอบคุณเบาๆ หล่อนรับนมแก้วนั้นมาแล้วมองดูก่อนเล็กน้อยก่อนจะยกขึ้นดื่ม ดวงตาสีฟ้าคมสวยคู่นั้นจ้องมองไปที่เอริคอย่างไม่ละสายตาราวกับต้องมนต์ หลังจากที่หล่อนดื่มนมแก้วนั้นไปเพียงส่วนหนึ่ง หล่อนก็แลบลิ้นสีแดงออกมาเลียคราบนมสีขาวที่ติดอยู่ตรงขอบริมฝีปากออก ซึ่งการกระทำแบบนั้นยิ่งทำให้หล่อนดูมีเสน่ห์มากขึ้น
ค่ำคืนที่เงียบสงัดในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง เอริคมองหญิงสาวที่กำลังจัดการกับตัวเองอยู่สักพักจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้นว่า ” คุณโลเวลล์ ทำไมคุณถึงยังไม่กลับเข้าเมืองอีกละ ? ที่นี่ไม่มีฉากของคุณแล้วนะ “
หญิงสาวมองไปที่เอริคด้วยความไม่พอใจแล้วพูดว่า ” คุณอยากให้ฉันไปเหรอ ? ดึก ขนาดนี้แล้วถ้ากลับเข้าเมืองไปแล้วหาโรงแรมไม่เจอละ ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันจะไปพักที่ไหนได้ละดึกดื่นแบบนี้ “
เอริคปล่อยให้แครี่ โลเวลล์พูดจาไปเรื่อยเปื่อย เพราะเขาเองเห็นกับตาว่าหล่อนมีผู้ติดตามมาด้วย แต่เขาก็ไม่คิดที่จะพูดอะไร เอริคมองหญิงสาวเพียงครั้งเดียวก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่หล่อนมาหาเขาครั้งนี้ด้วย
” โอเค แล้วคุณมีธุระอะไร ” เอริคถามขึ้น
แครี่ โลเวลล์เปิดแฟ้มสีฟ้าที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูดว่า ” ที่จริงฉันอยากจะคุยเกี่ยวกับบทบาทของฉันกับคุณคะ คุณวิลเลี่ยม “
เอริกระดาษ เอ4ที่หนีบไว้รวมๆกันที่หญิงสาวยื่นมา เขามองมันเพียงแวบเดียวก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันคือเหตุผลและความคิดเห็นส่วนตัวที่เกี่ยวกับบทบาทตัวละครแม็กกี้ ก่อนหน้ามีนักแสดงหลายคนที่มาแคตติ้งบทบาทนี้ ต่างก็แสดงบทนี้ออกมาคล้ายๆกัน เอริคคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะทำการวิเคราะห์บทบาทตัวละครได้อย่างละเอียด
เมื่อเขาอ่านไปรอบหนึ่ง เอริคก็พบกว่าในการวิเคราะห์ของบทบาทนี้มีบางเหตุผลที่หล่อนมองได้ทะลุปรุโปร่งมากว่าตัวเขาซะอีก บางรายละเอียดเอริคเองก็ยังคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าตกใจก่อนถามขึ้นว่า ” คุณโลเวลล์ นี่คุณเป็นคนทำเองเหรอ ?
แครี่ โลเวลล์กัดปากตัวเองด้วยความลังเลก่อนจะบอกออกไปเพื่อแสดงความจริงใจว่า ” ผู้จัดการของฉันและ…ฉันช่วยกันปรึกษาหารือกัน เอริค คุณคิดว่าเป็นไงบ้าง ? “
” ผู้จัดการคุณเก่งมาก” เอริคยิ้มก่อนพูดประโยคนี้ก่อนมา เขาเห็นแววตาระยิบระยับที่ดูค่อนข้างลำบากใจของหญิงสาว เขาจึงไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้มากนัก จึงพูดต่อว่า ” การวิเคราะห์ของบทบาทของแม็กกี้นี้เห็นชัดมาก บางรายละเอียดฉันเองยังคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำซึ่งตัวละครแม็กกี้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ถ้าไม่มีตัวละครนี้เรื่องทั้งหมดในเรื่องก็จะไม่เกิดขึ้น “
” ถ้าอย่างงั้น ” เมื่อแครี่ โลเวลล์เห็นว่าได้รับคำอนุญาตจากเอริคให้พูดได้ หล่อนจึงยื่นตัวขึ้นมาด้วยความดีใจก่อนพูดต่อว่า ” คุณวิลเลี่ยม คุณไม่รู้สึกเหรอว่าฉากของตัวละครแม็กกี้มันน้อยเกินไป ? ในเมื่อตัวละครตัวนี้สำคัญมากขนาดนั้น ก็น่าจะเพิ่มฉากตัวละครนี้มากขึ้นอีกหน่อย? “
” คุณโลเวลล์ คุณต้องเข้าใจว่าตัวละคนหลักในเรื่องนี้คือแซมและแอนนี่ ฉันจึงหวังว่าเมื่อหนังเรื่องนี้ถูกฉายออกไปจะทำให้คนดูอินตามโชคชะตาของพระนางในเรื่อง มันต้องเป็นแบบนี้หนังเรื่องนี้จึงจะประสบความสำเร็จ “
แครี่ โลเวลล์ฟังสิ่งที่เอริคพูด สายตากลมโตสีครามดุจตาแมวจ้องเขม็งไปที่เอริคอย่างไม่ลดละแม้แต่น้อย ก่อนพูดเสียงเบาๆว่า ” คุณวิลเลี่ยม ฉันไม่ได้หมายความว่าจะแย่งบทนางเอกนั้นมานะ อีกอย่างคุณเองก็คงไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอนจริงไหม ? ฉันหวังแค่ให้คุณช่วยเพิ่มฉากแม็กกี้เข้าไปอีกสักหน่อยเท่านั้นเอง “
เอริคยิ้มมุมปากเล็กน้อย ขาของเขาทั้งสองข้างกางออกก่อนจะขยับไปหนีบน่องเล็กๆที่อยู่ไม่นิ่งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก ถึงแม้ว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าไว้ชั้นหนึ่งแล้วก็ตามแต่เอริคก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความเรียบของผิวจากขาเล็กๆนั้น
เมื่อแครรี่ โลเวลล์เห็นการกระทำนั้นของเอริคหล่อนก็นั่งนิ่งไปชั่วขณะ แต่แล้วสีหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนเป็นยิ้มผยองอย่างภูมิใจ เพราะที่เอริคทำแบบนี้เท่ากับกำลังตอบรับความต้องการของหล่อนอยู่
“คุณวิลเลียม ที่คุณพูดอย่างนี้แสดงว่าคุณตกลงใช่ไหม ? “
เอริคมองไปยังหญิงสาวปากแดงที่กำลังยิ้มชวนหลงใหลก่อนหัวเราะพร้อมถามขึ้นว่า ” ตกลงอะไร ? “
แครรี่ โลเวลล์อึ้งไปสักพัก แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาให้อีกฝ่ายเห็น ” ก็เพิ่มบทบาทให้ตัวละครแม็กกี้ไง ซึ่งจริงๆก็ไม่ต้องเพิ่มฉากมากขนาดนั้นก็ได้นะ แค่ทำให้คนดูจำ…จำตัวละครที่ชื่อแม็กกี้ได้เท่านั้นก็พอแล้ว ฉันรู้ว่าคุณทำได้ ใช่ไหม ? “
” แน่นอน มันง่ายมาก ก็แค่ทำให้เหมือนกับบรุก ชลส์ในเรื่อง Running Out of Time” เอริคพยักหน้า แต่เขาไม่รอให้หล่อนทำท่าดีใจแต่อย่างใด เขากลับส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกด้วยความแน่วแน่ว่า ” แต่ว่า ฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ถ้าความรู้สึกของแซมและแอนนี้ถูกสร้างให้งดงามมากเกินไป ไม่เพียงแต่เบียงเบนความสนใจคนดูเท่านั้น อาจจะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกอยากให้แซมอยู่คนเดียวต่อไป และถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้คนดูไม่พอใจกับโชคชะตาของแซมและแอนนี่ และทำให้หนังเรื่องนี้แย่ไปเลยก็ได้ “
แครรี่ โลเวลล์มองไปที่เอริคและรอให้อีกฝ่ายพูดจบโดยไม่แย้งใดออกมา หล่อนผิดหวังที่เอริคเก็บขาที่หนีบน่องเล็กๆนั้นของหล่อนกลับไป จึงใช้แรงดึงหลายครั้งแต่แล้วหล่อนกลับรู้สึกว่าน่องของตัวเองกำลังถูกอีกฝ่ายมัดไว้แน่น หญิงสาวกัดปากตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะหันไปพูดกับเอริคอย่างช้าๆว่า ” คุณวิลเลี่ยม ในเมื่อ….ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ปล่อยฉันได้ไหม ? “
” ทำไมต้องปล่อย ฉันรู้สึกว่าแบบนี้ก็สบายดีนะ” เอริคหัวเราะ
สีหน้าของแครรี่ โลเวลล์ยิ่งแดงมากขึ้นเมื่อเห็นสายตารุกรานของเอริค หญิงสาวก้มหน้าลงพร้อมกับใช้มือจับริมขอบโต๊ะไว้แน่น แต่ก็ไม่สำเร็จ หญิงสาวไม่กล้าเอ๊ะอะโวยวายเพื่อเรียกคนมาช่วย และยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะโมโหโกรธเคืองอีกครั้งด้วย หล่อนทำได้เพียงใช้น้ำเสียงวิงวอนอีกฝ่าย” คุณวิลเลี่ยม อย่าทำ…..แบบนี้ได้ไหม ฉันต้องกลับแล้ว “
เอริคใช้เสียงต่ำก่อนพูดว่า “ดึกขนาดนี้จะกลับยังไงละ อีกอย่างฉันขอเตือนคุณนะ ในห้องนี้มีหนูอยู่ตัวหนึ่ง มันมักจะแอบซ่อนตามสิ่งของเหล่านี้ และชอบปืนขึ้นมาบนเตียงในตอนดึก”
แครรี่ โลเวลล์หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ก็ยังกล้าโต้แย้งกลับไปทันทีว่า ” ฉันไม่กลัวหนู คุณวิเลี่ยม “
” งั้นแสดงว่ากลัวฉัน น่าเสียใจจริงๆ ” เอริคแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
” ไม่ ไม่ใช่” หญิงสาวเรียบส่ายหน้าทันที หล่อนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” ฉัน…ฉันมีคนรักแล้ว ดังนั้น คุณวิลเลี่ยมเราไม่ควรทำแบบนี้ “
เอริคเอามือปิดอกตัวเอง” ว่า เสียดายจัง สาวคนนี้ดันมีเจ้าของอีกคนละ คาดว่าผู้ชายที่ได้รู้จักคุณคงต้องอกหักทุกคนแน่ ฉันขอรู้ชื่อชายผู้โชคดีคนนั้นได้ไหม ? “
แครรี่ โลเวลล์พูดต่อว่า ” เขาชื่อกริฟฟิน ดันน์ เป็นนักแสดงคนหนึ่ง เขา…..ขอฉันแต่งงานแล้ว”
เอริคนักสักพัก เขาพยายามนึกถึงใบหน้าของกริฟฟิน ดันน์ในหนังของความทรงจำของตัวเอง เขามีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับ โรบิน วิลเลี่ยมส์ แต่กลับเป็นผู้ชายที่เตี้ยกว่าโรบินวิลเลี่ยมส์ อีกฝ่ายเคยได้รับบทตัวประกอบในหนังมาแล้วหลายเรื่อง และยังได้เป็นผู้กำกับหนังอีกหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก
” เอริคคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้นว่า ” แล้วคุณตอบรับหรือยัง ? “
แครรี่ โลเวลล์ส่ายหน้า ” ฉันขอคิดดูก่อน เขา….เขามีเส้นสายอยู่ในฮอลลีวูดเยอะมาก “
เอริคเข้าใจได้ทันทีว่าถ้าหญิงสาวแต่งงานกับกริฟฟิน ดันน์ ก็จะทำให้ตัวเองมีโอกาสในแวดวงหนังมากขึ้น
เอริคมองไปยังร่างที่สูงกว่า 175 เซนติเมตรของหญิงสาว แล้วนึกถึงชายหนุ่มที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ที่มีความสูงเพียง 160 เซนติเมตร เอริคก็เกิดความรู้สึกอยากจะช่วยดอกไม้แสนสวยที่กำลังตกที่นั่งลำบากนี้ขึ้นมาทันที ก่อนพูดออกไปว่า ” เขาช่วยคุณไม่ได้หรอก “
แครรี่ โลเวลล์พูดด้วยความลุกลี้ลุกลน “คุณวิลเลี่ยม ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
” คุณน่าจะเข้าใจ ” เอริคยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยก่อนพูดว่า ” ฉันบอกคุณได้เลยว่าเขาช่วยคุณไม่ได้หรอก “
หญิงสาวไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปได้ หล่อนเงยหน้าถามกลับว่า ” มีสิทธิ์อะไรถึงได้พูดแบบนี้ “
สิทธิ์อะไรก็ได้มาจากความทรงจำตัวเองนี่แหละ เอริคคิดในใจ ในความทรงจำของเขา แครรี่โลเวลล์นอกจากจะโผล่หน้ามาในฉากที่ 16 ของหนังเรื่อง Licence to Kill แค่ครั้ง เดียวเท่านั้นหลังจากนั้นหล่อนก็ไม่มีผลงานชิ้นไหนอีกเลย