cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด - ตอนที่ 235

  1. Home
  2. All Mangas
  3. I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด
  4. ตอนที่ 235
Prev
Next

ตอนที่ 235 ซีแอตเทิล

 

เอริคบอกลาอนิสตันแบบเร่งรีบก่อนเขาจะเดินนําเอลิซาเบธและนิโคลรวมถึงทีมงานคนอื่นๆอีกหลายคนตรงไปเช็คอินแล้วเดินเข้าไป ผู้โดยสารคนอื่นๆต่างก็ตรงไปเช็คอินที่ประตูเช่นกัน หลังจากที่เครื่องบินบินขึ้นแล้ว เอริคจึงปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

เอลิซาเบธชําเลืองไปมองเอริคแวบหนึ่งก่อนพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า ” นี่เป็นจุดจบของผู้ชายที่โลภมากนะสิ เหอะเหอะ ”

 

เอริคไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเอลิซาเบธ เพราะเขารู้ว่าเด็กสาวกําลังพูดยั่วเขาอยู่ ทุกคําพูดที่เธอพูดออกมาเป็นคําพูดที่เย้าแหย์ให้อีกฝ่ายไม่พอใจทั้งนั้น ดังนั้นเงียบจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วสําหรับตอนนี้

 

หลังจากที่นั่งเครื่องบินมากว่าสี่ชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล-ทาโค มาเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นเม็ดฝนเกาะอยู่ตรงหน้าต่าง ท้องฟ้ามืดครื้มไม่มีแม้แต่แสงแดด จึงทําให้รู้ว่าฝนเพิ่งจะตกได้เพียงไม่นาน เมื่อนํามาเปรียบเทียบกันกับอากาศในลอสแองเจลิส มีแต่แสงแดดที่ส่องแสงระยิบระยับตลอดทั้งปี แต่อากาศในซีแอตเทิลกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเมืองนี้ได้รับอิทธิพลความอบอุ่นจากกระแสน้ําในมหาสมุทรจึงทําให้ซีแอตเทิลกักเก็บความชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งปี แม้แต่ตอนที่ฝนไม่ตกก็ยังรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา จึงพูดได้ว่า “ เมืองซีแอตเทิลนี้จะมีฝนตกทุกๆเดือนกันยายนของทุกปี “ ซึ่งผู้กํากับอย่าง นอรา เอฟรอนที่กําลังถ่ายทําหนังอยู่ในเมืองนี้ก็ประสบปัญหานี้เช่นกันเขาจําเป็นต้องเลื่อนกองออกไปก่อนเนื่องจากฝนตกหนักจนถ่ายทําไม่ได้

 

แอร์โฮสเตสพูดแนะนําให้ผู้โดยสารใส่เสื้อผ้าหนาๆเพราะอากาศข้างนอกนั้นเย็นมาก ซึ่งเอริคเองก็หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาใส่อีกชั้นก่อนเดินลงจากเครื่องบิน แต่ขณะที่กําลังเดินลงจากเครื่องบินนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงลมเย็นที่กระทบใบหน้าของเขา

 

อุณหภูมิของเดือนกันยายนในเมืองลอสแองเจลิสยังคงเพิ่มสูงขึ้นถึง 30 องศาเซลเซียส ซึ่งแตกต่างจากเมืองซีแอตเทิลที่มีอากาศเย็นสบายของฤดูใบไม้ร่วง และมีอุณหภูมิเพียงแค่ 15 องศาเซลเซียสเท่านั้น

 

” เฮ้ เอริค ” เจฟฟรีย์ที่มารอรับเอริคที่สนามบินตะโกนเรียกชื่อเมื่อเห็นเอริคเดินออกมา เอริค กอดสองคนที่เดินนําหน้ามาเพื่อเป็นการทักทาย

 

หลังจากที่เอริคทักทายเสร็จแล้ว ก็ถามเจฟฟรีย์ว่า “ ซีแอตเทิลในช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ? ”

 

” ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะฉันไม่ชอบอากาศในซีแอตเทิล “ เจฟฟรีย์ส่ายหน้า

 

เอริคยิ้มอย่างปลอบโยน” อดทนอยู่อีกสักสองสามวันนะ รอผมได้ลู่ทางที่นี่ก่อน ผมจะให้คุณบินไปนิวยอร์กทันที ”

 

“ ฉันรู้ไปกันเถอะ รถมารออยู่ด้านนอกแล้ว ” เจฟฟรีย์พูดขึ้นพร้อมกับทักทายคนอื่น แล้วพาทุกคนไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านนอก

 

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทุกคนก็มาถึงสถานที่ที่ถ่ายทําฉากในหนัง ซึ่งเป็นชายหาดอัลกในเมืองซีแอตเทิล ชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของซีแอตเทิล

 

ชายหาดแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเป็นระยะทางกว่า20กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างห่างไกลความเจริญอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เหล่าทีมงานจึงอยู่แบบเรียบง่ายและเน้นความสะดวกมากที่สุด

 

เอลิซาเบธที่กําลังยืนมองเตียงและโต๊ะเรียบๆที่อยู่ในห้องนอนของตัวเองด้วยความตกใจ รวมทั้งทีวีเครื่องเล็กที่ดูคล้ายกับกล่องเก่าๆใบหนึ่ง หล่อนจึงไปลากเอริคเข้ามาในห้องด้วยความไม่พอใจก่อนพูดขึ้นว่า ” เอริค นี่เรากังวลเรื่องเงินทุนถึงขนาดเช่าห้องแบบนี้ให้ทีมงานอย่างนั้นเหรอ? “

 

“ไม่ใช่แน่นอน” เอริครู้สึกอยากแกล้งหญิงสาวจึงพูดหยอกล้อว่า “ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะสร้างโรงแรมห้าดาวให้กับทีมงานหรอกนะ “

 

“แต่ฉันว่า…” หญิงสาวมีสีหน้าไม่พอใจขณะที่ชี้ไปที่สิ่งของในห้อง

 

“ลิซ เธอต้องเข้าใจว่าเรามาถ่ายงาน ไม่ได้มาเที่ยวเล่น เพื่อประหยัดเวลาเราจึงจําเป็นต้องหาที่พักที่อยู่ในละแวกนี้ แน่นอนว่ามันค่อนข้างไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่นัก แต่เธอจะให้ทีมงานอีกหลายคนขับรถไปกลับ 20 กิโลทุกวันอย่างนั้นเหรอ ? ซึ่งที่นี้ก็อยู่ห่างจากที่พักไม่กี่กิโลเอง เธอควรจะคิดด้วยว่าถ้าอยู่ในเมืองทีมงานต้องขับรถฝ่ารถติดฝ่าความแออัดออกมาแบบนั้นมันยิ่งทําให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก”

 

เอลิซาเบธขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า ” แต่ที่นี้ดูสกปรกอะ ”

 

“ถ้าเธอทนไม่ไหว เธอก็ไปเช่าห้องในเมืองคนเดียวก็ได้นะ ที่พักแถวนั้นน่าจะดีกว่าที่นี่แน่นอน เธอดูสิอย่างน้อยที่มีก็มีทีวีให้ดูนะ” เอริคพูดยิ้มพร้อมกับชี้ไปทางทีวีเล็กๆที่ดูค่อนข้างล้าสมัยเครื่องนั้น ซึ่งในใจคิดอยากจะย้ายมันออกไปด้วยซ้ํา สิ่งของที่มีอายุราวสิบกว่าปีถูกวางอยู่ในห้องทําให้รู้สึกถึงรสนิยมเก่าๆของคนรุ่นก่อน

 

เอลิซาเบธค้อนใส่เอริคเพื่อสื่อว่าเขากําลังล้อหล่อนเล่นไช่ไหม

 

หลังจากพูดล้อเล่นเสร็จแล้วเอริคก็ตีไปที่ไหล่ของหญิงสาวเบาๆก่อนพูดขึ้นว่า “ ลิซ ไหนๆเธอก็ตั้งใจจะทําหนังไม่ใช่เหรอ ? ถ้าแค่ห้องนี้เธอยังทนไม่ได้ ฉันแนะนําให้เธอล้มเลิกความคิดที่จะทําหนังตอนนี้เลย เพราะถ้าเธอจะถ่ายหนังในอนาคต ก็ตองเจอกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ การค้างคืนตามป่าตามเขาเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง ถึงตอนนั้นเธอจะทํายังไงละ ?

 

” ฉัน” หญิงสาวกัดริมฝีปากก่อนที่จะถามขึ้นว่า ” แล้วทีมงานทั้งหมดพักที่นี่ไหม ?”

 

“ แน่นอน ” เอริคตอบ “ ห้องของฉันอยู่เยื้องๆตรงข้ามห้องเธอ ซึ่งห้องตรงข้ามเธอเป็ นห้องของนิโคล อีกอย่างทีมงานก็ไม่ได้พักที่นี่กันทุกคน ดังนั้นฉันถึงได้บอกไงว่าที่นี่ดีที่สุดแล้ว เพราะห้องพักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเราที่พวกทีมงานจัดเตรียมอุปกรณ์การแสดงยังแย่กว่านี้อีก”

 

เอลิซาเบธคิดอยู่สักครู่ก่อนหมุนตัวออกไปลากกระเป๋าเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ

 

หลังจากที่กินอาหารเที่ยงกันเสร็จแล้ว เอริคใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายในการเลือกสถานที่ถ่ายทํากับเจฟฟรีย์ ตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆสําหรับทีมงาน เช้าวันที่สองจึงได้เริ่มลงมือถ่ายทําหนังเรื่อง Sleepless in Seattle

 

“เอ้ วิกเตอร์ ช่วงชี้ทํางานกับลุงแฮงค์เป็นยังไงบ้าง ? ” ขณะที่ทีมงานกําลังเช็ครางที่เอาไว้เคลื่อนตัวกล้องถ่ายรูป เอริคก็นั่งยองๆลงท่ามกลางสิ่งของระเกะระกะนี้ เพื่อถามไถ่เด็กผู้ชายตัวเล็กที่ใส่เสื้อสีแดงและสวมหมวกเบสบอลคนหนึ่ง

 

เด็กผู้ชายที่ชื่อว่าวิกเตอร์ มอร์ริสเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆแม่ของเขา เมื่อเข้าได้ยินคําถามแบบนี้จึงตอบกลับไปว่า “ ลุงแฮงค์เป็นคนใจดีมาก เขาชอบซื้อของขวัญมาให้ผมเยอะแยะเลย ” เด็กชายพูด ก่อนจะล่วงกระเป๋าแล้วหยิบหุ่นทรานฟอร์เมอร์ตัวเล็กออกมาชูให้เอริคดู เมื่อพิจารณาดูแล้วหุ่นตัวนั้นน่าจะเป็นตัวที่ชื่อว่าออพติมัสไพรม์

 

เอริคยิ้มและพูดว่า ” โอเค แล้วถ้านายแสดงได้ดีฉันก็จะให้ของขวัญนายเหมือนกัน หุ่นทรานฟอร์มเมอร์ทุกชุดเลยเป็นไง ? ”

 

เด็กชายหันหน้าไปสบตากับแม่ของเขาก่อนส่ายหน้า “ ไม่เอาดีกว่า คุณผู้กํากับ แม่ผมบอกว่า พวกคุณจ่ายค่าตัวให้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีของขวัญให้ ยังไงผมก็ต้องแสดงมันออกมาให้ดีที่สุด ”

 

เอริคลูบหัวเด็กชายด้วยความเอ็นดู แล้วนั่งพูดคุยกับเด็กชายอีกสักพักก่อนจะยืนขึ้นแล้วหันไปพูดกับแฮงค์ว่า “แล้วคุณละเป็นยังไงบ้าง ? “

 

” วิกเตอร์เป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก และฉลาดมากด้วย แต่บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าจะแสดงออกมาได้ตามความต้องการของคุณหรือเปล่า ซึ่งถ้าจะให้พูดตามความจริง ฉันคิดว่ายังมีเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเหมาะสมกับบทบาทโจนาสเหมือนกัน “

 

เอริครู้ว่าแฮงค์กําลังพูดถึงสเตวอร์ด แลงเกลอยู่ ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ขนาดเป็นแค่ตัวประกอบ สเตวอร์ด ก็ได้ค่าตัวก็เป็นล้านดอลลาห์ไปละ ซึ่งเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเอริคคนนี้เรียกค่าตัวแค่เพียงหนึ่งแสนดอลล่าห์เท่านั้น ถึงแม้ว่าบริษัท Firefly ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินก็ตาม แต่เขาก็ไม่จําเป็นต้องเสียเงินให้กับเรื่องไร้สาระแบบนั้น และแม้ว่าบทบาทโจนาสจะค่อนข้างน่าสนใจมากก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น ซึ่งพระนางหลักของหนังเรื่องคือแซมกับแอนนี่ต่างหาก

 

“ลองดูก่อนสักสองสามตอนก่อนก็ได้ การคัดเลือกนักแสดงเด็กผู้ชาย สิ่งสําคัญที่สุดคือเขาต้องเป็นเด็กที่เชื่อฟัง ถึงแม้ว่าการถ่ายทําหนังในซีแอตเทิลจะค่อนข้างสบายๆก็ตาม แต่ถ้านักแสดงเด็กที่เลือกมาไม่เชื่อฟัง ไม่ตั้งใจแสดง ยังไงก็ต้องมีผลกระทบต่องานและทีมงานคนอื่นๆอย่างแน่นอน”

 

” คิคิ ฉันเข้าใจ “ แฮงค์หัวเราะ

 

การถ่ายทําผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเอริคที่กําลังคุยกับทีมงานสองคนอยู่ แฮงค์ก็พาเด็กชายไปเดินผ่อนคลายที่ชายหาด

 

ฉากแรกนั้นเป็นฉากที่ง่าย ซึ่งเป็นฉากที่แซมพาโจนาสมาพายเรือเล่นในทะเล ด้วยเห็นที่เป็นฉากไกลๆจึงไม่จําเป็นต้องใช้ทักษะการแสดงมากนัก ด้วยเหตุนี้แฮงค์และเด็กชายคนนี้ทําแค่เพียงแกว่งมือไปมาเท่านั้น เอริคก็หันไปกําชับตากล้องและรองผู้กํากับ ให้พวกเขาช่วยเก็บบรรยากาศให้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปยังรถลาก

 

ซึ่งประตูรถลากนั้นได้เปิดก่อนอยู่แล้วเขาจึงเดินขึ้น ขณะที่ช่างแต่งหน้ากําลังเติมหน้าให้กับนิโคลอยู่ ระหว่างรอให้แฮงค์และเด็กชายถ่ายฉากพายเรือเล่นเสร็จ ซึ่งเป็นฉากที่พ่อลูกกําลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน และเป็นฉากแรกที่แอนนี่ต้องพูดสนทนากับแซมในเรื่องด้วย

 

แม้ว่าฉากเปิดเรื่องจะต้องเป็นฉากที่พระนางคุยกันก็ตาม แต่เอริคกลับหยิบยกฉากพายเรือนั้นมาถ่ายเป็นฉากแรก

 

“ คุณวิลเลี่ยม “ เมื่อเห็นเอริคเดินเข้ามาช่างแต่งหน้าทั้งสองคนก็กล่าวทักทายขึ้นทันที

 

“ พวกคุณทํางานต่อเถอะ ” เอริคยืนข้างๆนิโคลก่อนที่เขาจะเดินไปด้านหลังของหญิงสาว แล้วมองความสวยของหญิงสาวผ่านกระจก

 

ช่างแต่งหน้าปัดแป้งส่วนเกินบนใบหน้าของหญิงสาวออกก่อนจะหันไปถามเอริคว่า ” คุณวิลเลี่ยมช่วยดูหน่อยว่าแบบนี้ได้ไหม ?”

 

นิโคลก็ยืนขึ้นแล้วหันไปเผชิญหน้ากับเอริคก่อนจะหมุนตัวไปมารอบหนึ่ง

 

หญิงสาวใส่เสื้อสูทสีขาวกับกระโปรงทรงเอซึ่งเข้ากันดีกับรองเท้าส้นสูงสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมีเสื้อโค้ชตัวใหญ่สีเทาใส่คลุมทับอยู่ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมองดูคล้ายเม็ก ไรอันในความทรงจําของเอริค ทั้งสองคนนั้นสวยเหมือนกัน แต่นิสัยส่วนตัวกลับไม่มีส่วนไหนที่คล้ายกันเลย ซึ่งเอริคเองต้องการนางเอกที่ดูอ่อนหวานไร้เดียวสา

 

” นิโคล ให้คิดว่าตัวเองเป็นแอนนี่ ไรเดอร์ ไหนยิ้มให้ผมดูหน่อยสิ “ เอริคยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะแล้วพูดกับหญิงสาว

 

นิโคลทําสมาธิอยู่พักหนึ่งก่อนที่ปากเล็กๆของหล่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ แล้วมองไปที่เอริคด้วยสายตาไร้เดียงสา ซึ่งรอยยิ้มที่ดูโง่ๆไร้เดียงสาที่แฝงไปด้วยความอ่อนหวานทําให้เอริคนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนดีดนิ้วและพูดอย่างชื่นชมว่า “ ดีมาก เอาแบบนี้แหละ ”

 

หลังจากที่นิโคลได้รับคําชื่นชมจากเอริคหล่อนก็รีบเก็บสีหน้าเมื่อครู่นั้นทันทีก่อนเปลี่ยนเป็นสีหน้าของนิโคลคิดแมนคนเดิมอีกครั้ง แล้วมองเอริคเพื่อรอคําสั่งถัดไปของเขา

 

เอริคไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางแบบนั้นของนิโคลมากนัก แค่หวังว่าตอนแสดงนิโคลจะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ไปมาได้อย่างรวดเร็วก็เพียงพอแล้ว

 

” จริงสิ วิธีการเดินของแอนนี่คุณศึกษามาอย่างละเอียดแล้วใช่ไหม ? “

 

” แน่นอน “ นิโคลพยักหน้า แล้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะหยิบกระเป๋าที่อยู่บนพื้นหญ้าขึ้นมาสะพายบ่า และเดินออกไปด้านนอกตัวรถในคราบของตัวละครที่ชื่อว่าแอนนี่

 

“ เก่งมาก “ เอริคพูดชมอีกครั้ง ซึ่งสีหน้าของนิโคลค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

inv
Invincible โลกอมตะ
8 กรกฎาคม 2022
Infinite-Competitive-Dungeon-Society
Infinite Competitive Dungeon Society
8 กรกฎาคม 2022
600
Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ
8 กรกฎาคม 2022
Mechanical-God-Emperor
Mechanical God Emperor
8 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 235"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved