I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด - ตอนที่ 166

Chapter 166
เมื่อเขียนเช็คเสร็จ เอริค ก็ได้ส่งมันให้กับ นิโคล แต่เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมกลับห้องเมื่อรับเช็คไปแล้วและเมื่อเห็นเธอก้มหัวให้กับเขา เด็กสาวก็สะดุ้งโดยไม่รู้ตัว
จำนวนเงินนั้นคือ….
ไม่ทันได้พูดอะไร เด็กสาวรีบกดแขนของเขาเอาไว้ ริมฝีปากแดงๆของเธอนั้นหอบอยู่บนหน้าเขาและอกนุ่มๆของเธอก็ถูกไปมาที่อกของเขาโดยมีชุดนอนบางๆคั่นเอาไว้
” เอริค นายจะไม่ปฏิเสธฉันงั้นเหรอ ? ” – เด็กสาวมุดตัวเข้ามาแล้วมองไปที่ไหล่ของ เอริค และกระซิบบางอย่างที่เหมือนกับฝันร้าย
เมื่อได้กลิ่นน้ำหอมของเธอที่ไม่เหมือนดั่งเช่นเคย เอริค ก็รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมา เขาอดไม่ได้ที่จะคว้าเอาเอวของเธอเอาไว้ เพราะมุมนี้หลังของเธอจึงเกือบเปิดโล่ง ดรูวส์ โผล่หัวออกมาแล้วเตือนเขาด้วยกันกัดฟันแน่นก่อนจะรีบมุดหัวกลับไป
เอริค แค่หมุนตัวเธอกลับมา – ” โทษทีนะ นิโคล แต่เธอต้องกลับไป “
เด็กสาวไม่เต็มใจนักแล้วรีบคว้าเอาน้องชายของเขาเอาไว้ – “เอริค นายเองก็ต้องการมันนิ “
” ฉันไม่ได้ต้องการ มัน…” – เอริค ยังพูดไม่ทันจบเด็กสาวก็ก้มตัวลงไป เอริค รู้สึกโกรธที่น้องชายของเขาถูกดึงออกมาและจากนั้นมันก็รู้สึกถึงความชื้นและนุ่มและจากนั้นมันก็ขยับขึ้นลงไปมา
” ว๊าว…” – เอริค อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเพราะความสบาย เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป มือใหญ่ๆเองก็วางไว้ที่บนหัวของเธอและเธอก็ใช้แรงของอีกฝ่ายทำให้เธอสนุกขึ้นไปอีก
ตู้เสื้อผ้าฝั่งตรงข้ามถูกเปิดออกอีกครั้งและสาวน้อยก็โดดออกมา เอริค รีบใช้มือของเขาจับหัว นิโคล เอาไว้เพื่อกันไม่ให้เธอหันกลับไปมอง
” เอริค ไม่เป็นไร ” – ดรูวส์ มองไปที่ นิโคล ที่ซึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า เอริค ด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะขยับปากไปมาพูดกับ เอริค
” เฮ้ มันไม่ดีนะที่จะถูกพบในตู้เสื้อผ้า ” – เอริค พูดออกมาเบาๆ
ดรูวส์ เกาหัวตัวเองละต้องการจะเดินเข้ามาหาจับผมของ นิโคล แล้วลากออกจากห้องไปแต่เธอรู้ว่าถ้าทำแบบนั้นแน่นอนว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอก็มาหมกอยู่ในห้องนอนของ เอริค ด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรกับ เอริค นอกจากมานอนเล่นกับเขาแต่อีกฝ่ายคงไม่เชื่อแน่
เธอไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาส่งผลต่อชื่อเสียงของ เอริค เธอทำได้แค่ชี้ไปที่ประตูก่อนจะบอกว่าจะกลับห้องตัวเอง
หลังจากที่ ดรูวส์ หลบกลับที่เดิมแล้ว เอริค ก็ได้ก้มลงไปมองหัวที่ขยับไปมาอยู่ด้านล่างเขา
” เอ่อ …แค่ก..แค่ก…” – นิโคล อายขึ้นมากับการจู่โจมครั้งนี้ เธอได้แต่เงยหน้าขึ้นมอง เอริค และถามออกมาแต่เธอไม่รู้ว่าสายตาแบบนี้มันกระตุ้นความมต้องการของผู้ชายได้ หลังจากนั้น 7-8 นาที เอริค ก็ถอยกลับไปและสั่งออกมา – ” มือ ! “
เด็กสาวที่หอบหายใจอยู่นั้นคิดอะไรไม่ออก เธอทำได้แค่เชื่อฟังและใช้มือกับสิ่งของตรงหน้าเธอ เธอถูก เอริค จ้องอีกครั้งและสายตาของเธอก็เริ่มแสงความกลัวขึ้นมา น้ำที่แตกออกมาทำให้ผมเธอเหนียวไปหมด
เอริค สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วยัดมันเข้าไปในปากของหญิงสาวเพื่อให้ทำความสะอาดก่อนที่เธอจะรีบใส่กางเกงให้เขา เขาทรุดลงไปที่เตียงด้านหลังและ นิโคล ก็รีบหันกลับไปที่ห้องน้ำโดยที่ไม่ให้ใครต้องสั่ง
ในตอนที่ประตูห้องน้ำปิดอยู่ได้มีเสียงสะอื้นของผู้หญิงดังขึ้นมา ดรูวส์ ก็ได้โดดออกมาจากตู้เสื้อผ้า หน้าของเธอแดงและลมหายใจหอบ เมื่อยืนยันได้ว่าห้องน้ำยังปิดอยู่เธอก็กัดฟันแน่นแล้วโดดขึ้นเตียง เธอค่อมไปที่เอวของ เอริค แล้วข่วนที่อกของเขา – ” ไอ้บ้า แม้ว่าฉันจะโล่งแต่มันน่ารังเกียจชะมัด ฉันคิดว่านายมันน่าอายชะมัด “
” หยุดเลย ออกไปซะ ถ้าถูกเจอเข้าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ” – เอริค กันเล็บที่จะข่วนที่อกเขาแล้วพูดขึ้นมาเบาๆโดยไม่ได้มีความรู้สึกผิด นี่ถือว่าเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆนี่ไม่ต้องพูดถึงกับการที่คนทำให้นี้เป็นคนที่ได้รางวัลนักแสดงหญิงจากออสการ์ด้วย หลายล้านคนชื่นชมเทพธิดาคนนี้ เมื่อคิดแบบนั้นความต้องการที่ปล่อยออกไปเมื่อตะก็ได้แสดงความหวังใหม่ขึ้นมาให้กับเขา
ดรูวส์ เองก็รู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้และเมื่อเธอแสดงความไม่พอใจออกมา เธอก็ได้แค่โดดลงจาเตียงแล้วเดินออกจากประตูไป เอริค ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นไม่เห็นท่าเดินของเด็กสาวที่ต่างจากปกติเล็กน้อยและยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นกางเกงนอนของเธอ ด้านล่างของกางเกงเธอนั้นเปียก ดรูวส์ นั้นไม่ใช่เด็กดีอะไรรึกฎไม่อาจห้ามอะไรเธอได้ ดังนั้นเธอจึงเคยเห็นฉากแบบนี้มาในหนังแต่ในยุคนี้มันจะมีการเซนเซอร์เอาไว้ ยังไงซะการดูจากหนังก็ไม่ได้ส่งผลเท่ากับการดูแบบต่อหน้าอย่างนี้ จากช่องว่างของตู้เสื้อผ้านั้นทำให้เห็นฉากทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้
เสียงอ้วกของผู้หญิงในห้องน้ำได้หยุดลงและเสียงฝักบัวก็ค่อยๆดังขึ้นมา หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีเสียงฝักบัวก็หยุดและ เอริค ก็ได้มองไปที่ประตูห้องน้ำ แต่เด็กสาวก็ยังไม่ยอมออกมา
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดมัน
เอริค ได้ความคิด แม้ว่าจะรู้ถึงนิสัยของ นิโคล ว่าแน่นอนว่าคงไม่เป็นแบบนี้แต่เขาก็ยังลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
ภายใต้แสงจากหลอดไฟ เอริค ได้มองไปที่อ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำสะอาดและร่างที่เปล่าเปลือยซึ่งนอนแช่อยู่ในน้ำ เมื่อมาถึงที่ข้างอ่างน้ำเด็กสาวก็รู้ว่า เอริค เขามา เธอโผล่หน้าออกมาแล้วรีบปิดอกของเธอจากนั้นก็ยิ้มให้กับ เอริค – “เอริค ให้ฉัน….พักสักเดี๋ยวนะ…”
” แน่นอน ” – เอริค พยักหน้า – ” จะรังเกียจมั้ยถ้าฉันจะอาบด้วย ?”
เด็กสาวลังเลและจากนั้นก็สายหน้าเบาๆ
เอริค ถอดกางเกงออกแล้วลงไปในอ่างน้ำจับมือของเธอเอาไว้แล้วลูบตามจุดต่างๆตามร่างกายเธอ หลังจากนั้นสักพักหญิงสาวก็อ้าขาออกเมื่อพบช่องว่างนั้นก็ได้มีของบางอย่างที่สอดเข้าไปในตัวเธอซึ่งทำให้ทั้งสองรู้สึกได้ถึงมัน ทั้งสองไม่ได้ขยับกันอยู่สักพัก

” เอริค ฉันต้องอยู่ที่นี่อีกสัก 2-3 วันรึเปล่า ? ” – นิโคล ถามขึ้นมา
” ไม่ ” – เอริค ส่ายหน้าพร้อมกับลูบไล่หลังของเธอจนมาถึงก้นก่อนที่จะบีบมัน เด็กสาวคนนี้ผอมอย่างมากและแทบจะไม่มีหน้าอก อกของเธอนั้นแค่กำมือเดียวเท่านั้น
นิโคล นั่งยองๆเพื่อให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมที่มือของเขาจะบีมันได้และพยักหน้าตอบกลับ – ” ฉันจะฟังนาย ถ้านายต้องการฉัน นายก็มาหาฉันได้ “

เอริค ไม่ได้ตอบอะไร หลังจากนั้นสักพักเขาก็พูดขึ้น – ” เหมือนว่าเธอยังไม่มีรถ เธอไปที่โรงรถแล้วเลือกมาคันหนึ่งตอนไปพรุ่งนี้ มันไม่ค่อยสะดวกกับการที่ไม่มีรถใน LA รอจนกว่าเธอจะมีเงินซื้อรถแล้วค่อยเอามาคืนฉัน “
เพราะแลมโบกินี่นั้นนักข่าวรู้ว่าเป็นของเขา เอริค จึงได้ซื้อรถมาหลายแบบและเก็บไว้ในโรงรถเผื่อว่าจะได้ใช้งาน ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรที่จะถูกจำได้
ดูแลต่างกันจริงๆ เด็กสาวคิดแบบนี้ในหัว เธอได้ยินว่า เอริค ให้รถกับเธอนี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความรู้สึก แต่สำหรับความรู้สึกดีที่ได้มา เด็กสาวจึงไม่คิดเรื่องเล็กๆอย่างเรื่องรถ – ” ไม่ ยังไงซะฉันก็จะไปถ่ายหนังที่นิวยอร์คในอีกหนึ่งเดือน ฉันจะขึ้นแท็กซี่ไป “
” งั้นเธอก็โทรหาฉันถ้ามีธุระต้องไปทำ “
” ได้ ” – ปากของ นิโคล แสดงรอยยิ้มออกมาและจากนั้นเธอก็รู้สึกว่าโดนเขาจ้องที่สะโพกตัวเองอยู่ เอริค จึงพูดขึ้นมา – “มาสิ ครั้งนี้เธออยู่ด้านบน “
เด็กสาวก้มลงไปจับมันดูและจากนั้นก็ทำตามที่ เอริค บอกอย่างเชื่อฟังก่อนที่ตัวของเธอจะสั่นไปมา
” เอริค นายอยากได้ยินเสียงฉันมั้ย ?” – มือของเด็กสาววางไว้ที่หน้าอกของเขาและถามออกมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เธอเปิดฉากก่อนในสองครั้งแรกและทำให้ เอริค พอใจ เธอไม่คิดที่จะรุกก่อนอีก หลังจากที่เปิดฉากไปสองรอบแล้วเด็กสาวก็เริ่มแหย่เขา
ยังไงซะ ดรูวส์ ก็รู้แล้ว เอริค จึงไม่ได้ยับยั้งห้ามใจอีก เขาจับไปที่เอวและแขนของเธอ – “ร้องสิ อย่าดังเกิน มันไม่ดีที่จะทำให้คนใกล้ๆได้ยิน “
” อ่ะ…ไม่หรอก “- เด็กสาวยิ้มตอบรับและเริ่มส่งเสียงครางออกมา
ตอนมื้อเช้า ดรูวส์ ได้มองไปที่ นิโคล ด้วยตาคล้ำๆของเธอและขนมปังในมือก็ถูกบี้ไปโดยไม่รู้ตัว
หน้าของ นิโคล ดูเปล่งปลั่ง เธอไม่ได้สนกับสายตาที่จิกกัดเธออยู่ เธอไม่ใช่คนที่ยอมขายตัวเองเมื่อโดนจับได้ เธอคิดว่ามันไม่ฉลาด ดังนั้นชัดแล้วว่าเธอเป็นฝ่ายชนะ ในเกมนี้เธอไม่อยากจะอวดตัวเองต่อหน้ายัยปิศาจน้อย
เพราะต้องออกจากบ้านในวันนี้เธอจึงกลับมาใส่ชุดปกติอีกครั้งซึ่งทำให้เธอดูเหมือนกับครู บวกกับสายตาที่ดูฉลาดนั้นทำให้เธอสามารถไปเป็นครูที่โรงเรียนได้สบาย
” ฉันอิ่มแล้ว ” – ดรูวส์ มองไปที่ทั้งสองคนอยู่ตลอดอย่างน้อยก็ในความเห็นของเธอ เธอเอาช้อนตักข้าวโอ๊ตเข้าปากไม่กีคำก่อนจะเช็ดปากแล้วเดินออกไป หลังจากนั้นก็มีเสียงเท้ากระทืบพื้นให้ได้ยิน