cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

Ihoujin, Dungeon ni Moguru - ตอนที่ 3.2 The Foreigner Can’t Explore the Dungeon II

  1. Home
  2. All Mangas
  3. Ihoujin, Dungeon ni Moguru
  4. ตอนที่ 3.2 The Foreigner Can’t Explore the Dungeon II
Prev
Next

<วันที่ 3 >

ดวงอาทิตย์ของต่างโลกนั้นจะขึ้นเร็วกว่ามาก ฉันได้ยินเสียงระฆังเมืองถูกตีจากไกลๆเพื่อเป็นสัญญาณเช้าวันใหม่

หลังจากตื่นขึ้นมาในเวลา 6 โมงเช้า ฉันก็รีบอาบน้ำและเคลียร์ตัวเอง ฉันให้มาคินารับผิดชอบเรื่องซักผ้าในตอนที่ฉันกำลังจะตากผ้านั้นเอง แขกที่เดินทางมาถึงก็นำวัตถุดิบก็มาให้ทำอาหารเช้า

[วันนี้มีหอยและกุ้ง]

[ขอบคุณมากครับ]

[เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรหรือเปล่า?]

[ไม่เป็นไรครับ เชิญนั่งพักผ่อนก่อนเลย]

[โอเต เข้าใจแล้ว]

คุณเกโตนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดและเล่นห่วงเหล็กมายากลที่ฉันเคยให้

ฉันดึงหัวกุ้งและแกะเปลือกออกจากนั้นก็ดึงขี้ออก ถึงแม้จะตัวเล็กก็เถอะแต่ถ้าได้มาตั้ง 20 ตัวก็ดูหรูหราอยู่น่ะ ส่วนหอยที่ดูคล้ายกับหอยแมลงภู่ก็เอามาล้างในน้ำเกลือ แล้วหยิบกระเทียมเอลฟ์มาถอนแกนกลางออกดูเหมือนกระเทียมของฝั่งนี้จะไม่มีกลิ่นแรงจากนั้นก็ฝานบางๆ จากนั้นก็มาจัดการกับเครื่องปรุงที่มีลักษณะเหมือนพริกคาเยน(เหมือนพริกชี้ฟ้าบ้านเราแต่เมล็ดจะใหญ่และอวบกว่า) เรียกมันว่าพริกต่างโลกดีกว่า ไม่สิน่ารำคาญจะตายเรียกว่า“พริก”เฉยๆก็พอ ฉันนำเมล็ดข้างในออกแล้วเอาผักต่างๆที่ได้มาจากทุ่งหญ้ามาคลุกด้วยเกลือเพื่อหมักจากนั้นก็นำไปพัก

ฉันเทน้ำมันมะกอกลงในหม้อหินที่ซื้อระหว่างทางกลับบ้านเมื่อวาน

อย่างแรกก็ใส่กระเทียมและพริกและค่อยๆใส่เกลือลงไปตามความชอบ

ฉันขยับหม้อหินออกห่างจากไฟเพราะกลัวกระเทียมจะไหม้ไปก่อนและรอให้ได้กลิ่นหอม เมื่อรู้สึกว่าได้ที่แล้วก็เติมวัตถุดิบที่เหลือลงไปจากนั้นก็รอให้สุก

ฉันค่อยๆหั่นขนมปังแข็งที่ซื้อมาเมื่อวาน จากนั้นนำไปย่างให้กรอบแล้วนำไปจัดเรียงลงบนจานแล้ววางกลางโต๊ะกินข้าว เมื่อของที่ในหม้อหินตุ๋นได้ที่แล้วก็ดับกองไฟ

อาคิโย่จากต่างโลกเสร็จสิ้น

วัตถุดิบทุกอย่างใช้ของที่หาได้จากต่างโลกแต่เมื่อมองดูจากภายนอกแล้วเหมือนอาหารที่ขายอยู่ตามร้านค้าในตอนที่ฉันยังอยู่ในโลกเดิมเลยก็ตาม

แล้วฉันก็เอาวางลงบนทุ่งหญ้าอยู่พักใหญ่เลยเพื่อให้มันเย็นลง

ฉันคิดว่ามันน่าจะเข้ากันกับชาเขียว ฉันเลยชงชาเขียวเย็นอย่างระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้

5 นาทีต่อมา

[คุณเกโต มาทานกันเถอะครับ]

[โอ้]

ฉันยื่นช้อนให้เขา

[คุณวางวัตถุดิบไว้บนขนมปังแล้วกินพวกมันพร้อมกันได้เลย]

[อย่างงี้หรอ?]

ไม่รู้ว่าเป็นของโปรดของเขาหรือเปล่า คุณเกโตถึงได้เลือกใส่แค่หอยบนขนมปังจากนั้นก็โยนเข้าปาก

[โอ้ ขอชมอีกครั้งเถอะ มันอร่อยจริงๆ]

มีเสียงเคี้ยวดังลั่นเลย ดูเหมือนคุณเกโตจะกินแม้กระทั่งเปลือกหอย ถ้าเขากินอย่างมีความสุขขนาดนั้นละก็ผมก็ไม่สามารถว่าอะไรได้หรอกนะ

[ทานละนะครับ]

ฉันพนมมือขึ้นจากนั้นก็เอากุ้งที่แกะไว้จำนวนมากวางลงบนขนมปังปิ้งก่อนที่จะกัดลงไป

นี่สิน่ะรสชาติของความสุข

ความหิวและรสชาติของกระเทียมอีกทั้งความกรอบของกุ้งกำลังเต้นอยู่ในปาก ขนมปังเองก็เข้ากันกับน้ำมันมะกอกที่ดูดซึมรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบโดยเฉพาะผิวขนมปังที่นำไปย่างกรอบๆ แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นี้รสชาติขมอ่อนๆจากผักป่าที่เพื่มเข้าไปทำให้รสชาติแฝงที่ได้นั้นเหมาะกับจานนี้มาก ตอนแรกก็นึกว่าจะใส่เกลือมากเกินไปแต่รสชาติก็พอรับไหวจากนั้นพวกเราก็กินหอยที่ได้มาทั้งหมด

ขนมปัง

ตอนนี้ขนมปังไม่พอ ใครก็ได้เอาขนมปังเพิ่มให้หน่อย!

ท้ายที่สุดแล้วพวกเราเผลอกินแม้กระทั่งขนมปังที่ฉันซื้อไว้เผื่อวันอื่นๆ

อาหารที่ทำก็หมดหม้อไปแล้ว ตอนนี้พวกเราทำได้แค่ใช้ขนมปังปาดน้ำมันที่เหลืออยู่ในหม้อหินแล้วกินทั้งอย่างงั้น ฉันไม่นึกมาก่อนเลยว่าขนมปังไร้รสชาติจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้

[อุ๊กกก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้กินอาหารของบนพื้นดินมากขนาดนี้ ขอข้านอนพักหน่อยละกัน]

ภาพมนุษย์ปลานอนนั้นช่างเหมือนกับวาฬเกยตื้นไม่ผิด เผลอนึกภาพอะไรที่เสียมารยาทไปซะได้ ถึงฝีมือการทำอาหารฉันจะสู้น้องสาวไม่ได้ก็ตามแต่มันก็ยังเป็นมื้อเช้าที่อร่อย น่าจะเพราะวัตถุดิบที่ได้สดใหม่ละนะ

[ถึงอย่างงั้นก็เถอะ มันทำเอาผมรู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้สิ]

ฉันพูดขอโทษออไปอย่างติดๆขัดๆในระหว่างที่ล้างจานอยู่

[เอ๊ะ มีอะไรแย่? อาหารงั้นหรอ?]

คุณเกโตตอบกลับมาในขณะที่นอนอยู่กับพื้น

[ไม่หรอกครับ คือผมได้อาหารที่อร่อยขนาดนี้มาฟรีๆน่ะ]

[ขี้เกรงใจจริงๆเลยน่ะเผ่าพันธ์แบบพวกเจ้าเนี่ย สำหรับพวกข้าที่ใช้ไฟทำอาหารไม่ได้แล้ว พวกเราอาจจะได้ทานอะไรแบบนี้แค่ครั้งหรือสองครั้งในชั่วชีวิตเท่านั้นแหละแค่นี้ก็คุ้มค่าสุดๆแล้วล่ะ อีกอย่างเจ้าพวกนี้ขายได้ไม่ถึง 1 เหรียญทองด้วยซ้ำ ถ้าหากเจ้าไม่รับไว้ละก็ ข้าก็คงจะเอาไปโยนทิ้งอยู่ดีละนะ]

[คุณหมายความว่ายังไงครับที่ขายได้ไม่ถึงเหรียญทอง?]

นั่งเป็นประโยคที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเท่าไร

[ก็หมายความว่ามูลค่าของมันไม่มากพอที่จะไปแลกเหรียญทองซักเหรียญได้]

[แล้วทำไมคุณถึงไม่แลกเป็นเหรียญเงินหรือเหรียญทองแดงละครับ?]

[โอ้ววว ข้าลืมน่ะ]

เอ๋ เกี่ยวกับมูลค่าของเหรียญ? นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในตอนแรก แต่ดูเหมือนฉันจะไม่ใช่เรื่องนั้น

[เจ้ามีเหรียญเงินอยู่หรือเปล่า?]

ฉันหยิบออกมาจากกระเป๋าหนึ่งเหรียญ

[สำหรับเผ่าอมนุษย์อย่างพวกเรานั้น เงินคือพิษร้ายแรงถึงชีวิต มันเผาเลือดเผาเนื้อของพวกเรา]

[อะไรกัน?!]

ฉันรีบปล่อยเหรียญออกจากมือไป

[เจ้าไม่ต้องตื่นตระหนกไปก็ได้ นั้นสิน่ะระหว่างที่เรารอให้อาหารย่อยข้าจะเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง]

นักบวชเผ่ามนุษย์ปลาเริ่มเล่าขานประวัติศาสตร์อันโชกเลือดของเหรียญเงิน

งั้นจะเริ่มเล่าตั้งแต่แรกเลยละกัน

 

ในสมัยโบราณ

ทันทีที่ยุคของเทพเจ้าลงมาบนโลกนี้ได้สิ้นสุดลง ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติเองก็ได้เริ่มต้นขึ้น

มีกษัตริย์องค์หนึ่งได้ปกครองเล่ามนุษย์สัตว์

เขามีนามว่า รา กูซูริ ดูอิน โอรุโอสุโออูรู(Ra Guzuri Duin Oruosuouru) ราชาแห่งสัตว์ร้าย

ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน มนุษย์และมนุษย์สัตว์มักจะขัดแย้งกันเองเสมอๆ แตกต่างกันแค่ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเท่านั้นเอง

ในช่วงเวลานั้นเป็นตาของเผ่ามนุษย์ที่ถูกไล่ล่าจนเกือบจะสูญพันธ์

พวกมนุษย์สูญเสียพลังและอำนาจไปจนหมดทั่วทวีป ดินแดนแห่งสุดท้ายที่พวกเขาเหลืออยู่คือเหมืองเงินลับของเผ่าคนแคระที่ซ่อนอยู่ในทางตอนเหนือของทวีปด้านซ้าย

ที่นั่นกษัตริย์องค์สุดท้ายได้อ้อนวอนต่อเหลาทวยเทพ

[ได้โปรดมอบพลังที่จะทำลายผู้มีสายเลือดที่ชั่วร้ายและน่าชิงชังให้กับพวกเราด้วยเถิด]

หลังจากที่ได้อธิฐานไปนับพันวันและการสังเวยชีวิตของเอลฟ์นับร้อย ในที่สุดเหล่าทวยเทพก็ตอบรับ

{ราชาแห่งมนุษย์เอ๋ย จงดื่มเลือดอันน่าสะอิดสะเอียนนั้นและกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานเสียเอง แล้วพวกเราจะให้เจ้ายืมพลัง}

ด้วยความคับแค้นใจมากจนไม่อาจวัดไว้ กษัตริย์ทรงเชื่อฟัง

เพื่อเป็นการตอบสนอง เหล่าทวยก็แสดงปาฏิหาริย์

วิญญาณร้ายตอนนี้ได้สิงอยู่ในเงิน

พระราชาทรงวิงวอน

[โอ้ เงิน เกลียดชัง เผา สังหาร และล้างเผ่าพันธ์ต่างอื่นๆที่ไม่ใช่มนุษย์อย่างเรา! นำความพินาศและกำจัดผู้ที่มีร่างกายอันน่ารังเกียจเหมือนกับข้าให้สิ้นซาก!]

เงินที่ได้รับพรนั้นกลายมาเป็นความหวังขององค์ราชา

เหล่าคนแคระได้สร้างอาวุธจำนวนมากจากเงิน

ราชาผู้น่าเกลียดอยู่หน้าแนวหอกดาบและธนูอันใหม่ ได้กล่าวคำพูดคำสุดท้ายของเขา

[ตอนนี้ละลูกๆของข้า มา“เริ่ม”กันเถอะ]

ในวันนั้นได้ให้กำเนิดราชานักล่าสัตว์ร้ายมากมาย

ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงล่ามนุษย์สัตว์ลงจนเกือบจะสูญพันธ์ แต่การต่อสู้ก็หยุดลงเนื่องจากความอ่อนเพลียและความเมตตา และเริ่มอยู่ร่วมกันอย่างสงบตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

เพื่อเป็นสัญลักษ์ของสันติภาพ อาวุธของเหล่านักล่าถูกนำไปหลอมเป็นเงินตราและถูกนำไปแพร่กระจายออกไปทั่วโลก หากวันใดวันหนึ่งสัตว์ร้ายได้หันคมเขี้ยวเข้าสู่มนุษย์อีกครั้งละก็เงินตราพวกนั้นก็จะกลายเป็นดาบ หอก และธนูและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ให้สูญสิ้นไปจริงๆครั้งนี้

ไม่มีใครรู้จักชื่อของเทพเจ้าที่ตอบสนองคำขอของมนุษย์

[………………………………]

ฉันเองก็มีข้อคิดเห็นหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันไม่เหมาะสมที่จะให้คนนอกจะมาออกความคิดเห็นได้ง่ายอย่างงั้น

ฉันหยิบเหรียญเงินขึ้นมาดูแล้วเห็นว่ามีรูปของสัตว์ป่าสลักเอาไว้บนเหรียญ ฉันได้แต่สงสัยว่ามันเป็นรูปของราชามนุษย์หรือราชาแห่งสัตว์ร้ายกันแน่?

[ถึงแม้มนุษย์ปลาจะไม่ได้ฆ่ามนุษย์โดยตรงก็เถอะแต่พวกเราก็ช่วยมนุษย์สัตว์ข้ามทะเล พวกเราก็เลยถูกคำสาปเข้าไปด้วย]

[ผมขอโทษด้วยครับ]

[ถึงเจ้าจะขอโทษไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกเพราะว่าเจ้าไม่ใช่คนของที่นี่]

[นั่นก็ถูกครับ]

[สำหรับเหรียญทองแดงเองก็ใช้ไม่ได้ มันเป็นสนิมง่ายแล้วจะสร้างมลภาวะทางน้ำซะเปล่า]

ในอดีตเคยมีตำนานในญี่ปุ่นว่าทองแดงนั้นมีสารพิษอยู่

[อันที่จริงถ้าคุณเกโตไม่ว่าอะไรละก็ผมมีบางอย่างอยากจะถามครับ]

[เจ้าอยากถามอะไร?]

ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองจะช่วยอะไรได้ก็ตาม โชคชะตาอุตส่าห์นำเรามาเจอกันทั้งทีฉันเองก็อยากจะรู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า

[ทำไมคุณถึงอยากได้เงินละครับ]

คุณเกโตได้พูดบางอย่างเอาไว้เมื่อวานว่า ชาวประมงสามารถมีชีวิตอยู่ลำพังก็ได้เนื่องจากพร(ความอุดมสมบูรณ์)ของทะเล แทบจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของบนบกเลย

ตราบใดที่พวกเขายังรักษาสัญญาและอาศัยอยู่ในห้วงทะเลลึก พวกมนุษย์เองก็ไม่สามารถทำอะไรได้

[ข้ามีหลานสาวอยู่ 5 คนน่ะ หลานคนสุดท้องได้ช่วยเหลือผู้ชายคนหนึ่งจากเรือสินค้าที่ถูกพายุพังทะลายเอาไว้ หลังจากที่ช่วยชายคนนั้นขึ้นฝั่งแล้วเธอแทบจะเป็นบ้าก็เอาแต่พูดถึงชายคนนั้นอยู่อย่างเดียว แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็หายไปหลังจากขโมยหนึ่งในสมบัติล้ำค่าจากพวกเรา สมบัตินั้นมีชื่อว่า กู บาริ ด้วยการแลกเปลี่ยนสิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้ใช้ มันสามารถสร้างปาฏิหารให้ผู้ใช้เปลี่ยนร่างเป็นอะไรก็ได้ตามใจอยาก เห็นได้ชัดเจนว่าหลานสาวของข้าได้หนีตามผู้ชายไปแล้ว]

เหมือนกับเรื่องของนางเงือกน้อยเลย

[พวกข้าต่างถูกคนอื่นๆในชนเผ่าประนาม แต่ข้าคิดว่าไม่เป็นไรหรอกตราบใดที่นางมีความสุขข้าก็พอใจแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งข้าถูกคนบางคนจากบริษัทฟินิกส์ตะวันตกเอลโอเมียบอกว่าอยากซื้อขายสินค้ากับข้า สินค้าที่พวกเขาอยากขายคือนางเงือกตนหนึ่งในราคา 4,000 เหรียญทอง]

ดูเหมือนนางเงือกน้อยจะไม่ได้สลายกลายเป็นฟองสบู่แต่กลายเป็นสินค้าของบริษัทแทน

ในโลกที่ขนมปังหนึ่งแถวราคา 1 เหรียญทองแดง ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะต้องทำยังไงถึงจะหาเงินจำนวน 4,000 เหรียญทองได้

[ลืมมันไปซะ ที่ข้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาข้าไม่อยากได้ความเห็นอกเห็นใจจากเจ้าหรอกน่ะ ข้าแค่ตอบคำถามของเจ้าตามตรง]

[อ่า ครับ]

และในจังหวะนั้นเอง

[อะไรเนี่ย กลิ่นหอมน่าอร่อยจัง]

สิ่งมีชีวิตสีเทาได้คลานออกมาจากเต๊น เจ้าตัวขี้เกียจค่อยๆยืดเส้นยืดสายจากนั้นก็อ้าปากกว้างหาวครั้งหนึ่ง

[อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านมิสุรานิกา]

ฉันไม่อยากจะยอมรับเลยซักนิด แต่ฉันไม่มีทางเลือกถ้าไม่เรียกโดยใช้คำนำหน้าแบบให้เกียรติ มันก็จะโวยวายส่งเสียงดังไม่หยุด

[โชยะ ไปเตรียมอาหารเช้ามาให้ข้าเสีย]

[ครับ ครับ]

ฉันหยิบเศษปลาต่างโลกที่ตากแห้งไว้เมื่อคืนและล้างน้ำเพื่อลดความเค็ม จากนั้นสะบัดเอาน้ำออกและฉีกเป็นชิ้นเล็กๆไว้ในจาน

[แล้วเจ้านี้มันอะไรกัน]

[ก็ปลาไง]

[นี่มันไม่ใช่ กลิ่นไม่เห็นเหมือนกันเลย ไม่ใช่ว่าเจ้าได้กินอะไรที่มันดีกว่านี้หรอ! ข้าพูดถูกใช่ไหม?! เจ้าคิดว่าปลาแห้งกากๆนี่เหมาะสมกับคนระดับอย่างข้าหรอ?! ช่างดูหมิ่นอะไรกันขนาดนี้! เอาดาบมาให้ข้า!]

มันเตะและนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนเด็กเวลางอแงเลย

[ไม่เป็นไร ถ้างั้นก็ไม่ต้องกิน]

ฉันจะให้มันกินเนื้อกระต่ายมีปีกที่บินผ่านไปเมื่อกี้แทน แม้จะดูฝืนธรรมชาติไปหน่อยแต่ฉันก็อยากให้มันชินกับการกินอาหารที่ได้จากมนุษย์

[ช้าก่อน]

แมวตัวนั้นเอาอุ้งเท้าหน้ามาวางไว้บนมือฉันที่กำลังจะหยิบจาน

[ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่กินเสียหน่อย]

[อย่างงั้นหรอ]

ถึงแม้จะบ่นเต็มไปหมดก็ตามแต่มันก็เริ่มแทะปลา คุณเกโตกำลังมองไปที่แมวด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบาย

[แมวนี่มันอะไรกัน โชยะ]

[แมวไงครับ หรือว่าในโลกนี้เรียกว่าอย่างอื่นครับ?]

[ไม่ล่ะ ก็เรียกแมวนั่นแหละแต่ความจริงที่มันพูดอยู่เนี่ยสิ…….อื่ม ไม่แน่บางที…. วันนี้ข้ากินและพูดเยอะเกินไปละ ข้าขอตัวกลับก่อนน่ะ]

ในขณะที่กลับ คุณเกโตก็บ่นอุ๊บอิบ

[มิสุรานิกา? อื่มม…. เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนซักแห่งแต่อิ่มจนคิดอะไรไม่ออกเลยวุ้ย]

เขากระโดดลงไปในแม่นน้ำและค่อยๆหายไป

[ถึงของจะชั้นต่ำไปหน่อย แต่ก็พอที่จะทำให้ข้าคนนี้พอใจได้]

[โอ้ งั้นหรอ]

ท่านมิสุรานิกาทำท่าทางพอใจถึงแม้จะบ่นนู่นนี่ไม่หยุดกำลังใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดปากตัวเอง

[ข้าไปนอนละ อย่าลืมปลุกข้าหลังข้าวกลางวันเสร็จด้วย ครั้งหน้าเตรียมเนื้ออย่างอื่นที่ไม่ใข่ปลาให้ข้าด้วย]

แล้วมันก็หายกลับเข้าไปในเต๊นเหมือนเดิม

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่จะเอาแต่กินกับนอนจริงดิ?

แมวเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างงี้แหละ แต่ฉันทำใจยอมรับมันไม่ได้ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากมันทำได้แค่ร้องเหมี๊ยวๆไปวันๆ ในเวลาที่ยากลำบากการแสดงความรักกับสิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดต่ำกว่ามันก็ช่วยให้รู้สึกสบายใจอยู่หรอก แต่เจ้านี่ดันพูดได้ใม่พอ ยังหน้าด้านหน้าทนอีก ไม่มีความน่ารักของแมวเหลือเลยซักนิด

{คุณโซวยะ แมวน่ารักมาก! มาคินารักกกกกแมวที่สุด!}

[เห…..งั้นหรอ]

มาคินาแสดงสีหน้ามีความสุขระหว่างที่พูดถึงแมว ประการแรกฉันสั่งไม่ให้หุ่นกระป๋องนี่พูดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ไม่ใช่ว่าเจ้าเศษเหล็กนี่ไร้ความสามารถอย่างแท้จริงหรอกหรอ? หรือว่ามันรู้สึกสงสารแมว? มันน่าจะเป็นความรู้สึกเห็นอกเห็นใจมากกว่า

 

“การค้นหาพระเจ้าในวันนี้ฉบับที่หนึ่ง” ตีพิมพ์ครั้งแรก

อธิบายอย่างสั้นๆก็ประสบความล้มเหลวอย่างงดงาม

[เป็นไปตามคาด]

เอเว๊ตต้าได้พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าสดชื่น ขอร้องละอย่างน้อยก็ช่วยกลับด้านรอยยิ้ม ? ใหนฉันหน่อยเถอะ ?

[แต่ฉันมีความติดดีๆอยู่]

[จริงหรอ?]

[แต่เอาไว้หลังกินข้าวเสร็จละกัน]

ตอนนี้พวกเรากำลังจะไปกินข้าวที่ร้านที่ฉันถูกปฏิเสธเมื่อวานตามที่ฉันเสนอตัวว่าจะเลี้ยง แน่นอนว่าฉันเป็นคนจ่ายอีกครั้ง

[โอ้ว เจ้าคนไร้ความฝันที่อยากเป็นนักผจญภัยกับอดีตนักผจญภัยนี่นามีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า?]

[มาสเตอร์ ขอหมูดันเจี้ยนย่างเกลือ ผักป่าผัดขนาดใหญ่พิเศษ ซุปเต่ากินหิน และขนมปังนุ่มๆราดด้วยน้ำผึ้งอย่างดี ขออย่างละ 3 ที่เลยค่าาา แต่ฉันยังดื่มไม่ได้ยังไม่เลิกงานขอเป็นนมแทนละกันนะคะ]

[โอเค!]

เธอสั่งเยอะมากเลย ฉันละสงสัยจังว่าฉันจะขอเขาห่ออาหารที่เหลือกลับได้ไหมถ้าเกิดพวกเรากินไม่หมด

[เออ….คุณเอเว็ตต้าครับ เช้านี้ผมกินมาค่อนข้างเยอะเลย]

[งั้นโซยะอยากกินอะไรล่ะ?]

ทั้งหมดนั่นของคุณเธอคนเดียวหรอกเหรอ?! แถมจ่ายด้วยเงินของคนอื่น!

ฉันสั่งของทานเล่นเบาๆตามเชฟแนะนำ เบคอนหนา 2 ชิ้นและถั่วฝักยาวดองมาในชาม รสชาติไม่เลวเลยแต่ปรุงง่ายไปหน่อย เกลือ เกรวี่จากหมู และรสเปรียวจากถั่วเท่านั้น

ข้างๆฉันมีคุณเอเว็ตต้ากำลังทานอาหารแบบงานฉลองของราชวงศ์ฮั่นโดยเริ่มจากปรายด้านหนึ่งไปอีกด้านดูเหมือนเธอกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการทานเลย เธอกินอย่างเอร็ดอร่อย ผู้หญิงในโลกนี้กินดุแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่านะ?

พวกเราทั้งสองพยายามทานอาหารของตัวเองไปเงียบๆช่วงหนึ่ง

แต่ฉันรู้สึกเซ็งและเบื่อกับรสชาติของถั่วแล้ว แต่ฉันไม่อยากกินทิ้งกินขว้าง เลยพยายามยัดลงไปอีกครั้งแต่ก็เบื่อเหมือนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกเสร้าขึ้นมาเลย ตอนนี่นเองที่ฉันเป็นฝ่ายพูดคนแรก

[จะว่าไปผมเก็บแมวตัวเมื่อวานไปเลี้ยงด้วยละครับ]

[นี่คุณเสียสติไปแล้วหรอ?]

คุณเอเว็ตต้าพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจในขณะที่ถือจานผัดผักป่า

[แมว! นี่หมายถึงพวกแมวที่มีตาที่แคบ ลิ้นสากๆ และหางตั้งได้ใช่ไหม? แมวที่สามารถสูบวิญญาณได้อ่ะนะ?]

เธอหยุดกินด้วยละ

[นี่คุณเกลียดแมวงั้นหรอครับ?]

[หาาา?! เห็นแบบนี้ฉันก็เป็นนักผจญที่มีฝีมือน่ะของอย่างแมวนะไม่เห็นน่ากลัวเลย! ค..แค่แมวเองไม่เห็นกลัวเลยซักนิด!]

ฉันคิดว่าเธอดูวอกแวกอย่างมาก ความตึงเครียดทำให้เธอโซ้ยอาหารไวกว่าเดิมเสียอีก

อ้า ฉันลืมให้อาหารท่านมิสุรานิกา

ในขณะที่กำลังจะขอให้มาคินาเปิดปลากระป๋องหรืออะไรซักอย่างไปก่อนก็ได้รับสัญญาณเตือนฉุกเฉินโผล่ขึ้นมาอยู่บนจอข้างในแว่นตามันมาจากอิโซล่า ไม่ใช่มาคินา

[เกิดอะไรขึ้น?]

 {แคมป์ถูกโจม กรุณากลับมาด่วน!}

 

ระยะห่างจากในเมืองไปแคมป์ประมาณ 5 กิโลเมตร

หลังจากการสื่อสารครั้งนั้นระบบก็ล่มไม่สามารถติดต่อได้ทั้งมาคินาและอิโซล่า สถานการณ์ไม่แน่นอนตอนแรกก็คิดวาจะใช้ประโยชน์จากการที่คุณเอเว็ตต้าอยู่กับฉัน แต่พอนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นถ้าฉันดึงเธอเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วละก็(เทคโนโลยีรั่วไหล) ฉันรีบจ่ายเงินและวิ่งออกจากบาร์คนเดียว

ข้างนอกมืดและมีเมฆมากเหมือนกับความรู้สึกในใจฉัน

เมื่อพิจารณาว่าอาจจะเกิดการต่อสู้หลังจากที่ฉันเดินทางไปถึง ฉันก็พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดแต่ก็เผื่อแรงไว้ส่วนหนึ่ง

เมื่อฉันเริ่มมองเห็นแคมป์ในระยะสายตา ฉันหมอบลงกับพื้นและมองผ่านกล้องส่องทางไกล แคมป์ของฉันถูกทำลาย เต้นของฉันปลิวหายไป ห้องครัวแบบง่ายๆของฉันถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และสัมภาระถูกรื้อกระจายเต็มไปหมด

เต้นที่ถูกใช้เก็บตู้คอนเทนเนอร์ถูกฉีกเป็นชิ้นๆและภายในถูกเปิดออก เนื่องจากฉันไม่รู้ว่าจะถูกซุ่มโจมตีไหม ฉันเลยคลานเข้ามาใกล้ๆ

ในขณะที่ถือปืน AK ไว้ ฉันก็พยายามมองอย่างไม่ละสายตา ฉันพยายามทำให้ร่างส่วนข้างบนนิ่งที่สุด แล้วค่อยๆสำรวจตามจุดบอดของแคมป์แต่ละที่ และไม่ลืมที่จะมองกับดัก มันคงใม่มีพวกกับระเบิดก็ตามแต่ถ้าฉันถูกยาพิษจากโลกนี้เล่นงานละก็ ฉันไม่รอดแน่ยิ่งไม่มีมาคินาสนับสนุนในตอนนี้ด้วย

ฉันได้แต่กัดระงับความรู้สึกอยากหายใจให้เร็วขึ้นเนื่องจากฉันรู้สึกตื่นตระหนก ฉันเจอมาคินาถูกทับติดอยู่ฉันได้แต่ภาวนาและขยับมือหมุนมันหาหน้ามันอย่างช้าๆ

[……………………………]

ไม่มีร่องรอยความเสียหานที่เห็นอย่างชัดเจนมีเพียงรอยเท้าและรอยดิน ฉันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

[AIJ006 Makina • Oddeye เปิดเครื่องได้]

{…………………….การยืนยันการระบุตนผ่านเสียงของผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้ว ปลดโหมดล็อกตัวเองและเริ่มต้นกู้คืนระบบ กำลังเริ่มต้น กำลังเริ่มต้น ยืนยันเป็นอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก เครื่องมือล่าสุดไม่ได้รับการรองรับจากระบบ หากคุณใช้เครื่องมือ–}

[บังคับใช้งานอิโซล่า]

ฉันเร่งกระบวนการทำงาน

{รับทราบ เปิดใช้งาน อัตราการประสิทธิภาพการทำงานเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์}

หลังจากที่หน้าจอแสดงผลหยุดนิ่งและเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง อุปกรณ์รูปแบบแว่นตาก็กลับมาใช้การได้เพื่อเป็นการไม่สร้างภาระให้กับอิโซล่า ฉันสั่งคำสั่งสั้นๆแต่ชัดเจนออกไป

[คำสั่งทำการแสกนชีพจรและทำการระบุตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่มีสีแดง]

{แสกนชีพจรทำงาน กำลังแสกน……….ไม่พบสิ่งมีชีวิต}

ระยะตรวจจับชีพจรคือ 100 เมตร อย่างน้อยก็ยืนยังได้ว่าไม่มีคนดักซุ่มโจมตี

อย่างน้อยในตอนนี้ ฉันก็สงบใจลงได้เปราะหนึ่ง

[คำสั่ง ฉายภาพถ่ายทางอากาศในรัศมี 2 กิโลเมตรและนำขึ้นจอแสดงผล ทำการซูมภาพถ้าหากใครเข้าใกล้]

{รับทราบ ปล่อยโดรนตรวจจับอัตโนมัติ เริ่มนำภาพขึ้นหน้าจอ}

ฉันลดปืนลงและเข้าไปตั้งมาคินาให้ตรง ถึงฉันจะเป็นมือสมัครเล่นก็ตามอย่าง น้อยก็พอจะบอกได้ว่าไม่มีความผิดปกติในระบบสมองประมวลผลหรือความสามารถ แต่เนื่องจากหุ่นรุ่นนี้มันพังมาตั้งแต่แรกฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะมีสิ่งเร้าอะไรมากระตุ้นให้เกิดอาการผิดปกติหรือเปล่า

[คำถาม นานแค่ไหนกว่าจะกู้ข้อมูลกลับมาได้ทั้งหมด?]

{ไม่รู้ ประสิทธิภาพเหลือ 18 เปอร์เซ็นต์และกำลังลดลง}

ไม่ได้การ

[คำถาม หากรีสตาร์ท จะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนในการกู้ข้อมูล]

{ไม่รู้}

[คำถาม เกิดอะไรขึ้น?]

{แคมป์ถูกโจมตีโดยผู้ชาย 3 คน เครื่องติดตามถูกติดไว้กับหนึ่งในสมาชิก}

[แสดงภาพเป้าหมาย]

{รับทราบ}

ภาพจุดสีแดงปรากฏบนแผนที่ในเมืองที่แสดงบนแว่นตา ถึงไม่เกี่ยวกัน แต่ฉันเหลือบไปเห็นบางอย่างบริเวณหางตาเมื่อฉันหันไปมองฉันก็รู้สึกสั่นไปทั้งตัว

[โดนขโมยอะไรไปบ้าง?]

{ตู้คอนเทนเนอร์อาวุธปืนและตู้คอนเทนเนอร์อุปกรณ์การแพทย์}

ก็พอจะเดาๆได้อยู่หรอก แต่พอเห็นจริงๆแล้วพูดไม่ออกเลย ทั้งหมดทั้งมวลทำไมต้องเป็นพวกนี้ด้วย  ตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 อย่างเป็นเหมือนเส้นชีวิตของฉัน

ตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกขโมยไปนั้นถูกล็อกไว้อยู่ หรือว่าพวกมันรู้ว่ามันถูกล็อกเราะมีของมีค่าอยู่ข้างใน?

[แสดงที่อยู่ปัจจุบันของตู้คอนเทนเนอร์ เธอวางเครื่องติดตามไว้อยู่ใช่ไหม?]

{เป็นไปไม่ได้ประสิทธิภาพเหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ ฝนกำลังจะตกจะส่งสัญญาณเรียกโดรนกลับเข้ามาทั้งหมด โซวยะได้โปรดซ่อนตัวด้วยค่ะ กรุณาอย่าทำอะไรบ้าบิ่นไม่มีการสนับสนุนจากฉั……}

พลังงานหมดไปแล้ว

หน้าจอแสดงผลเปลี่ยนไปและมิเตอร์สตาร์ทเหมือนจะค้างที่ 1 เปอร์เซ็นต์ ฝนเริ่มที่จะตกลงมาฉันคิดอะไรไม่ออกเลย สมองของมนุษย์นั้นจะหยุดทำงานเมื่อมีเรื่องให้คิดเยอะเกินไป

[…………]

ถ้าดูจากนาฬิการ่างกาย มันน่าจะใช้เวลาราว 5 นาทีสมองฉันถึงกลับมาทำงานอีกครั้ง

แถวนี้มันอันตราย ฉันควรจะไปดีไหม? ฉันควรจะไปอยู่ในเมืองก่อน? ไม่แบบนั้นยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ หรือว่าฉันควรจะไปขอความช่วยเหลือจากคุณเอเว็ตต้าที่กิลด์นักผจญภัย? ถ้าเธอไม่อยู่ละ? ไม่สิเราสามารถเชื่อใจเธอได้หรือเปล่า? หรือว่าในเมืองจริงๆแล้วอันตรายกันแน่ ฉันไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจทำอะไรดี

ฉันขอยอมแพ้

นี่คงเป็นจุดจบชองมนุษย์ที่เพิ่งพาอุปกรณ์สมัยใหม่มากเกินไปสินะ แม้ว่าฉันจะพยายามคิดแผนป้องกันตัวเองยังไงก็ไม่ออกเลย

เพื่อที่จะลดความคิดที่สับสนของตัวเอง ฉันจึงเริ่มจะเก็บข้าวของที่กระจักกระจาย การทำอะไรง่ายๆแบบนี้น่าจะช่วยให้ฉันคิดอะไรออกบ้าง หรือนี่เป็นอีกวิธีการหนีความจริงก็ไม่รู้

และ

[เพราะอย่างงี้ถึงได้แสกนชีพจรไม่พบสิ่งมีชีวิตสิน่ะ]

ฉันเจอกับซากแมว

มีร่องรอยถูกหอกหรือดาบแทงอยู่บริเวณท้องและมันอ้วกออกมาเป็นเลือด

ทั้งๆจะหนีไปก็ได้แท้ๆ มันคงต่อสู้อย่างกล้าหาญจนตายนั่นเป็นสิ่งที่ฉันเลือกที่จะเชื่อ ไม่ว่าใครก็ตามที่เสียชีวิตควรที่จะได้รับการการประดับเล็กน้อย

ฉันขุดหลุมห่างออกจากแคมป์ออกไปจากนั้นก็ฝังมัน

หาเศษไม้ที่มีขนาดพอเหมาะแล้วฉันก็เขียน {หลุมฝังศพของมิสุรานิกา} โดยใช้ปากกาเมจิเพื่อทำเป็นป้ายหลุมศพ

แล้วฉันก็พนมมือ

ละอองฝนอันอบอุ่นทำให้หลังของฉันเปียก

นานมากๆแล้วที้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าฉันควรทำอะไรในช่วงเวลาเหล่านี้

น่าจะประมาณนี้ละมั้ง ฉันแต่มองเช็คของตกแต่งหลุมศพ

หลังจากนี้ก็ทำเพื่อยกความความเศร้าโศกออกไป

ฉันถอดแว่นตาที่ดูไม่เข้ากับฉันออกจากนั้นก็นับจำนวนกระสุนที่เหลือ มันมีมากพอสำหรับคน 3 คน แต่ฉันเดาว่ามันคงมีพวกมากกว่านี้แน่ ฉันพยายามยัดเยียดแผนผังของเมืองนี้เข้าไปในสมองอันน้อยนิดของฉันเมื่อตอนเดินทางหาพระเจ้าที่จะทำสัญญา ฉันพอจะจำจุดสีแดงที่โชวในแผนที่ได้รางๆแล้วละ

[ขอโทษน่ะอิโซล่า มาคินาฉันจะขอไปทำอะไรที่บ้าบิ่นหน่อยนะ]

 

ยิ่งแสงส่องสว่างสไหวและมีชีวิตชีวามากเท่าไรก็ย่อมมีความมืดอันเงียบหงันและสกปรกโสมมมากเท่านั้น

เจ้าพวกสามคนนั้นถึงได้มาซ่อนในที่แบบนี้

อีกฝั่งของเมื่อที่เป็นที่อยู่ของพวกขี้แพ้ พวกที่ความฝันเกี่ยวกับการผจญภัยในดันเจี้ยนแหลกสลายได้มารวมตัวกัน มันเป็นสถานที่ของเหล่าคนโง่เขลาที่ไม่มีแรงบรรดาลใจที่จะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกมารวมตัวกัน แต่ไม่ได้แย่เหมือนสลัม แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าเมื่อเดินเข้าไปแล้วจะเจออะไร

ฉันพูดในส่วนที่พวกเขาซ่อนตัวผิด

เจ้าพวกดูเหมือนจะไม่มีสมองอยู่เลย

อาคารกึ่งชั้นไต้ดินมีบันไดอันหนึ่งใช้ลงไปยังชั้นไต้ดินและในส่วนข้างบนดูเหมือนจะเป็นโกดังเก็บของ ฟังจากเสียงและแสงไฟที่ลอดออกมาทางหน้าต่างระบายอากาศของชั้นไต้ดิน เจ้าพวกนี้น่าจะดื่มเหล้าหลังจากที่คิดว่าตัวเองกำลังรวยเละ เสียงร้องเพลงห่วยๆและเสียงหัวเราะดังลั่นได้ยินเป็นระยะๆ เมื่อฉันฟังจากเสียงแล้วน่าจะมีกันแค่สามคน

ความรู้สึกโกรธแค้นที่ฉันพยายามจะกดไว้โดยไม่รู้ตัวกำลังจะระเบิดออกมา

ฉันพยายามใจเย็นแล้วไปเคาะประตูของบ้านที่อยู่ข้างๆทั้งสองข้าง ที่อยู่ด้านขวามือเป็นบ้านของมนุษย์สัตว์ที่มีเด็กเล็กๆกำลังทำทาทางสับสน และเขาเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อฉันยื่นเหรียญทองให้

[ขอโทษน่ะครับ เดี๋ยวจะมีเสียงดังนิดหน่อย]

[อยากทำอะไรก็ทำ]

เขาตอบมาแบบนี้

ที่อยู่ทางด้านซ้ายเป็นบ้านของหญิงชรา เมื่อฉันบอกเธอว่าเดี๋ยวจะมีเสียงดังเธอก็ตอบว่า เธอไม่คิดมากเพราะหูเธอกำลังจะตึง ฉันยื่นเหรียญทองสำหรับความไม่สะดวกให้เธออยู่ดี

ตอนนี้ ฉันรู้สึกสงบใจลงอย่างไม่มีข้อสงสัยเลยว่าหัวเย็นลง

เหรียญทองหนึ่งเหรียญถูกโยนผ่านเข้าทางหน้าต่างระบายอากาศ

ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงตกกระทบกับพื้นฉันรีบวิ่งลงไปกระแทกประตูจนพังด้วยแรงเหวี่ยง

มีคนอยู่ด้านขวาหนึ่งคนและอีกสองคนด้านซ้าย ฉันลั่นกระสุน AK ออกไปที่พวกสองคนทางซ้ายในขณะที่เดินเข้าห้อง ฝาผนังและพื้นมีแต่เลือดกระเซ็นเต็มไปหมด หูของฉันอื้อไปเหมดเพราะได้ยินเสียงปืนในห้องแคบๆ

ฉันดึง M1911 Governmentออกมาแล้วยิงไปที่เข่าของชายที่อยู่ด้านขวา เขาล้มลงไปในขณะที่กำลังจะชักดาบออกมา ฉันยิงไปที่ศอกและมือของเขาอีกครั้ง มันร้องออกมาเหมือนหมาเลย

ฉันยืนขึ้นในขณะที่ถือปืนเตรียมไว้พร้อม ถือตะเกียงที่อยู่ในห้อง ฉันเพิ่งสังเกตุว่าห้องนั้นแคบและมืดมาก ขวดหล้าค่อยๆตกลงมาจากโต๊ะโทรมๆนั่น มีแค่เก้าอี้ โซ่เหล็ก และเชือกห้อยลงมาจากเพดาน ไม่มีศัตรูคนอื่น

[ฉันมีอะไรอยากจะถามแกหน่อย]

[อุ๊ป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า]

ชายคนนั้นเรื่มหัวเราอย่างเต็มที่ นี่ฉันเผลอยิงที่แปลกๆเข้าไปเหรอ? ลองฝังลูกตะกั่วเข้าไปในหัวมันอีกซักนัดสองนัดดีไหม?

[แก!]

เมื่อฉันเข้าไปใกล้ชายคนนั้น แสงไฟจากตะเกียงก็ส่องให้เห็นใบหน้าของมัน

ฉันจำใบหน้านี้ได้ ถ้าจำไม่ผิดฉันใช้ด้ามปืน AK หักกรามของมันไปเมื่อสองวันก่อนนี่นา ถ้าจำไม่ผิดละก็มันไม่ควรที่จะหัวเราะแบบนี้ได้ เวทย์มนต์งั้นหรอ? บาดแผลขนาดนั้นเป็นอะไรที่รักษาได้เร็วขนาดนี้เชียว?

[อาวุธจากต่างแดนนี่มันน่าทึ่งจริงๆเลยน้า แต่แกรู้ไหม? ว่าแกนะดูถูกนักผจญภัยเกินไปโว้ย!]

[หืมม?]

ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาข้างหลัง รู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกตีปลิวไปกระแทกกับกำแพง ฉันเผลอถอนหายใจออกมา

แกต้องล้อกันเล่นแน่

ชายที่น่าจะถูกยิงบาดเจ็บสาหัสถือเก้าอี้หักๆในมือ นี่ฉันถูกตีด้วยเก้าอี้งั้นหรอ? ไม่สิ ทำไมมันยังสามารถขยับได้อีกถูกยิงไปด้วยปืนไรเฟิลเชียวนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ในขณะที่ฉันยังงงๆอยู่

[ดูซะ ของพรรคนี้น่ะ]

รูที่อยู่บนมือชองชายคนนั้นกำลังรักษาตัวเองเหมือนกับว่ามันถูกย้อนเวลาอะไรยังไงยังงั้น เจ้านั่นชักดาบยาวมาก่อนที่จะมองไปที่ดาบของมัน เมือเห็นแบบนั้น ฉันก็เข้าใจโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆ

[ถ้างั้นก็ ตายไปซะ]

อย่ามาล้อกันเล่นน่ะโว้ย!!!

*********************************************************************************************************************************************************คุยกันท้ายเรื่อง

ในที่สุดก็มาถึงตอนที่ 1 ของมังงะ เพิ่งจะรู้ว่าแปลนิยายจะสูบพลังชีวิตขนาดนี้ รู้สึกผิดที่เลยที่แอบคิดว่าทำไมเรื่อง…. แปลช้าจัง พอมาเจอกับตัวถึงได้รู้สึก

 

หลายๆคนคงสงสัยมีแค่คนเหรอที่ถือเงินได้?! ในเรื่องนี้เผ่ามนุษย์นั้นใช้ชื่อว่า“ฮีมู”มนุษย์ที่คนแต่งกล่าวไว้น่าจะพูดแบบกว้างๆเหมารวม เผ่าฮีมู เผ่าเอลฟ์ เผ่าคนแคระ และเผ่าอื่นๆรวมไปด้วย และสาปแช่งเฉพาะมนุษย์สัตว์ เช่นเผ่าหูแมว เผ่ามนุษย์ปลา(อยากใช้ว่ามนุษย์เงือกเหลือเกินแต่กลัวคนแต่งจับประเด็นนี้ไปเล่นทีหลัง) ไรงี้

มาถึงช่วงแกะคำใบ้กัน *คำเตือนอย่าเชื่อให้มากเสพกาวเกินขนาดอาจำให้เพ้อได้

หอคอยโอโดริจิที่เล่าว่าหล่นจากสวรรค์นั้นไม่แน่ในอนาคตคนแต่งอาจจะเขียนเกี่ยวกันเกาะลอยฟ้าก็ได้ใครจะรู้

อีกอย่างเกี่ยวกับเรื่องเล่าเมื่อย้อนกลับไปในอดีต เผ่าเอลฟ์และคนแคระไม่น่าจะอยู่เป็นมิตรกับฮีมูเท่าไร เผลอๆอาจจะมีปลอกคอใช้งานเป็นทาสก็ได้เพราะมีแค่เอลฟ์ที่โดนจับไปบูชายันไม่มีเผ่าฮีมูอยู่ด้วย ถ้าเป็นมิตรกันจริงๆละก็ไม่มื่งที่เอลฟ์ในป่าฮิวเรียส์จะฆ่าฮีมูที่หลงเข้าไปได้หรอก คุณเกโดเองก็ไม่ได้พูดถึงเมืองของคนแคระคิดว่าสถานะคงไม่ต่างกันเท่าไร

ไม่รู้มีใครทันสังเกตุไหมหุ่นถึงเรีย โซวยะ แต่ทำไมคนในโลกนี้ถึงเรียกโชยะ

แล้วทำไมเวลาพระเจ้าพูดนั้นใช้ {} เหมือนกับ………. หุหุหุมีคำถามโผล่ขึ้นเยอะแยะเลย

ใครที่ชอบก็ฝากติดตามผลงานด้วยน้า

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 3.2 The Foreigner Can’t Explore the Dungeon II"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF