*ต้นออสมันตัส ก็คือ ติมหอมหมื่นลี้นะครับ
*เว่ยเกอมันน่าจะตั้งใจตั้งแต่แรกแหละครับ จากตอน1053 ที่มันพูดกับตัวเองอยู่
ลิ้นของคางคกสีทองถูกตัดด้วยขวาน เลือดไหลออกจากปากของมันทันทีพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน
และตรงที่ลิ้นของมันขาด เปลวเพลิงที่ลุกโชน เมื่อเลือดพุ่งขึ้นไปในอากาศ มันก็ถูกแผดเผาเหมือนดอกไม้ไฟ
รุนแรงแค่ไหนกัน! โจวเหวินตื่นตระหนก
แม้แต่ สาวหิมะก็ไม่กล้าดูถูกความแข็งแกร่งของคางคกสีทอง แต่เว่ยเกอได้ติดลิ้นของมันด้วยขวาน นี่มันน่ากลัวเกินไป
เดี๋ยวก่อน… ขวาน… ต้นออสมันตัสบนดวงจันทร์… คนที่มีความสามารถแบบน่าเว่ยเกอจะเป็นคนตัดไม้ในตําานานรึเปล่า? โจว เหวินมองเว่ยเกออย่างแปลกใจ
ยิ่งโจวเหวินคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น ในตํานานคนตัดไม้เป็นมนุษย์ ในขณะที่ เขาทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในการลักลอบตัดไม้ เขาถูกลงโทษโดยเทพบนสรวงสวรรค์ที่โกรธจัด เบาได้รับอนุญาตให้ออกไป หลังจากที่โค่นต้นออสมันตัสบนดวงจันทร์แล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้นออสมันตัสบนดวงจันทร์ไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ไม่มีวันตาย เมื่อขวานถูกดึงกลับหลังกา
รสับ บาดแผลบนต้นไม้จะหายโดยอัตโนมัติ
ดังนั้น คนตัดไม้จึงลงเอยด้วยการอยู่บนดวงจันทร์ตลอดไป และไม่สามารถออกจากดวงจันทร์อีกเลย
นี่เป็นเพียงหนึ่งในเวอร์ชันของตํานานคนตัดไม้ที่ถูกลงโทษ เดิมโจวเหวินไม่เชื่อ แต่เมื่อบุคคลดังกล่าวปรากฏตัวขึ้น เป็น เรื่องยากที่จะไม่เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ตามตํานานเล่าว่า เป็นไปไม่ได้ที่ต้นออสมันตัสจะถูกตัด ทําไมตอนนี้มีแต่ตอไม้? คนตัดไม้ตายได้ไง? โจวเหวิ นรู้สึกงงงวย
ขณะที่โจวเหวินยังคงครุ่นคิด คางคกทองคําที่ได้รับบาดเจ็บก็ถอยกลับเข้าไปในพระราชวังดวงจันทร์ เว่ยเกอที่ถูกครอบงําก็เดิน
เข้าไป
“ถ้าเจ้าต้องการจากไป นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด” สาวหิมะแจ้งพวกเขา
“ผู้อ้านวยการเงิน คุณจะกลับไปที่ยานอวกาศไหม” โจวเหวินถามเงินหยู
เงินหยู ครุ่นคิดและพูด “เว่ยน้อยเสียสละอย่างมาก เพราะเขายังมีโอกาสรอดได้ เราจึงไม่สามารถทิ้งเขาได้ เราต้องคิดหา
วิธี”
โจวเหวินค่อนข้างแปลกใจ เขาไม่เคยคาดว่าเงินหยู จะพูดเรื่องนี้
“ในกรณีนี้ คุณจะเข้าไปช่วยเขาไหม” โจวเหวินจ้องไปที่เงินหยู และถาม
“ฉันบอกได้แค่ว่าฉันจะลองดู ถ้ามีโอกาสฉันจะช่วยชีวิตเขา ถ้าไม่มีโอกาสฉันจะไม่ทิ้งชีวิตของฉัน ฉันจะทําให้ดีที่สุด คุณและเวีย เกอเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียน คุณจะไม่ทิ้งเขาใช่ไหม”
“เรามาจากโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น ไม่ได้มาจากชั้นเรียนเดียวกัน เราไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากนักและไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ที่ช่วยเขา ฉันเองก็ไม่มีอารมณ์จะเสี่ยง” โจวเหวินกล่าว
เงินหยู ประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขา หวังซิวหยวนเข้าไปในพระราชวังดวงจันทร์
หลังจากที่พวกเขาเข้าไป โจวเหวินหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วถ่ายรูปสัญลักษณ์ฝ่ามือเล็กๆ ที่อยู่เบื้องหลังคําว่า “พระ ราชวังดวงจันทร์”
ด้วยการคลิก หน้าจอโทรศัพท์จะแสดงอินเทอร์เฟซการดาวน์โหลด
ฉันสงสัยว่าฉางเอ๋ออยู่ในพระราชวังดวงจันทร์ จริงๆไหม มันน่าจะน่าสนใจมาก เมื่อมีโอกาสได้สัตว์อสูรฉางเอ๋อ ใช่ไหม? โจวเห วินเห็นว่าโทรศัพท์ของเขาอยู่ในหน้าดาวน์โหลดตลอดเวลา ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถดาวน์โหลดได้ในระยะเวลาอันสั้น
ฉันควรเข้าไปไหม โจวเหวินมองไปที่ประตูพระราชวังดวงจันทร์ ภายในอากาศเย็นเหมือนหมอกทําให้เขามองไม่เห็นอะไร เลย ความสามารถของสดับวานรก็ไม่สามารถเจาะทะลุได้เช่นกัน
“ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะเลือกไม่เข้าไป” สาวหิมะพูดขึ้นทันที
“ทําไม?” โจวเหวินมองไปที่สาวหิมะ
สาวหิมะกล่าว “การดํารงอยู่ของเพื่อนร่วมโรงเรียนของเจ้านั้นทรงพลังเกินไป ความแข็งแกร่งของคางคกสีทองไม่ได้อ่อนแอ ไปกว่าข้าในตอนนี้ แต่เขาสามารถทําร้ายมันได้อย่างหนักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ด้วยความแข็งแกร่งด้งกล่าว แม้แต่
ปีศาจสังหารไม่อาจชนะมันได้หากมันต้องต่อสู้ ทางที่ดีที่สุดคือควรพิจารณาให้รอบคอบ”
หลังจากหยุดชั่วคราวสาวหิมะก็พูดต่อ “นอกจากนี้ เรื่องนี้ค่อนข้างแปลก ตามที่ข้ารู้ เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะก้าวไปสู่ระดับเร้น ลับด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง ยิ่งระดับความยิ่งเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ํา สิ่งมีชีวิตนั้นบอกว่ามันเป็นมนุษย์ แต่ความแข็ง แกร่งของมันอยู่ระดับความกลัว เรื่องนี้ต้องมีความลับ เว้นแต่มันจะไม่ใช่มนุษย์”
โจวเหวินไม่พูดอะไรในขณะที่เขามองไปที่ประตูพระราชวังดวงจันทร์อย่างเงียบ ๆ
เขาไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ยึดร่างเว่ยเกอเป็นมนุษย์หรือไม่ แต่มีบางอย่างที่โจวเหวินกังวลมาก
สําหรับเงินหยู ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเว่ยเกอ ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“เธอคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ เงินหยูนี้รู้ถึงการมีอยู่ของโถเครื่องปั้นดินเผากระดูกตั้งแต่แรก?” โจวเหวินกล่าวหลังจากครุ่นคิด
“เจ้าหมายความว่าไง? ถ้าเขารู้ ทําไมเขาถึงเสี่ยงมาที่นี่?” สาวหิมะขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง มันไม่สมเหตุสมผล แต่มีอย่างอื่นที่ไม่สมเหตุสมผล แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับเว่ยเกอ แต่ฉันรู้จักเขาเล็กน้อย เขาไม่ใช่คนที่จะเสียสละตัวเองเพื่อสถานที่เช่นสํานักงาน แต่แล้วเขากลับมีความคิดที่จะเสี่ยง มันดูไม่เหมือนตัวเขาเลย”
“เป็นไปได้ไหมที่เขาถูกบังคับให้ทําแบบนั้น? ท้ายที่สุด แม้ว่าจับฉลากจริงๆ เงินหยูนี่ก็อาจจะเข้าไปยุ่งกับมัน คนที่ต้องไปในที่ สุดก็ยังคงเป็นเขา เขาอาจจะมีความคิดแบบนั้น ในทางกลับกัน ถ้าเขาทําสําเร็จ ในอนาคต เขาจะได้รับการยอมรับจากเงินห ยูฉี” สาวหิมะกล่าว
“ไม่เว่ยเกอรู้ว่าเป็นหยู กลัวฉัน ถ้าเขาต้องเสี่ยงชีวิตจริงๆ เขาอาจจะขอความช่วยเหลือจากฉัน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหยุดยั้งฉัน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทําของเขา”
โจวเหวินหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “เป็นไปได้ไหมที่เว่ยเกอจะรู้จักเครื่องปั้นดินเผากระดูกและรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ดังนั้น เขาจึงกล้าที่จะเสี่ยง?”
“มันดูไร้เหตุผล” สาวหิมะพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แต่การรวมสองอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเข้าด้วยกันดูเหมือนจะสมเหตุสมผล ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทําไมเว่ยเกอและ เงินหยูฉีถึงทําสิ่งที่ไร้เหตุผล” โจวเหวินกล่าว
“การหาคําตอบไม่ใช่เรื่องยาก แค่เข้าไปข้างในและดู” สาวหิมะกล่าวขณะที่เธอมองไปที่ประตูของพระราชวังพระจันทร์
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” โจวเหวินเหลือบมองโทรศัพท์ของเขาและตระหนักว่าโทรศัพท์ยังดาวน์โหลดอยู่ เขาให้สาวหิมะ เป็นผู้นําทาง ขณะที่ทั้งสองเดินเข้าไปทางประตูพระราชวังดวงจันทร์
เขาไม่รู้สึกอะไรเมื่ออยู่นอกประตู แต่ทันทีที่เขาเข้าไป โจวเหวินรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่น่าสะพรึงกลัวผ่านชุดอวกาศที่ สามารถทนต่ออุณหภูมิต่ําา มันทําให้เขาตัวสั่น
เมื่อสาวหิมะเดินผ่าน โจวเหวินก็รู้สึกได้ทันทีว่าความเย็นลดลงอย่างมากและร่างกายของเขาอุ่นขึ้น
เงินหยูฉีและคนอื่นๆจะรอดชีวิตจากอุณหภูมิต่ําได้ยังไง? โจวเหวินรู้สึกมึนงงมากขึ้น แม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถต้านทา
นมันได้ เขาไม่เชื่อว่าเงินหยูวีและหวังซิวหยวนสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ําได้
โชคดีที่สาวหิมะซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุน้ําแข็งอยู่ข้างๆเขา ทุกที่ที่เธอไปความเย็นจะลดลง โจวเหวินมองเห็นได้ไม่ชัดเจนว่ามี อาคารหยกมากมายในหมอกที่หนาวเย็น ราวกับแดนสวรรค์ในตํานาน
