*ปีศาจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ ที่ยอมเป็นทาสของธิดาปีศาจ เปลี่ยนชื่อเป็น”ปีศาจสังหาร”นะครับ
โจวเหวินก็ค่อนข้างกังวลเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมีสัตว์อสูรระดับเร้นลับอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ค่อนข้างยากที่จะรวบรวม24ตัว นอกจากนี้เขาจำเป็นต้องส่งสัตว์อสูรที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาออกไป
ฉันควรทำไงดี? โจวเหวินคิดกับตัวเอง
ด้วยการที่ต้องยื้อเวลา โจวเหวินได้ส่งสัตว์อสูรที่ส่งได้ไปก่อนเพื่อถ่วงเวลาก่อนที่จะค่อยคิดหาทางแก้ไข
…
“ตามหลักการของความสามารถในการท้าทายอีกครั้งหลังจากผ่านไป24ชั่วโมง เขายังคงมีสัตว์อสูรที่อยู่ถัดจากผ้าคลุมล่องหน แต่สัตว์อสูรที่เหลือหลังจากนั้นจะไม่พอสำหรับก24ชั่วโมง ดังนั้นเขาจะต้องส่งสัตว์อสูรตัวใหม่ไปต่อสู้ ไม่อย่างนั้นนั้น เขาสามารถทำได้ค่ยอมแพ้ในการยึดครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับเท่านั้น” อาเซิงกล่าวขณะที่เขาทำการคำนวน
“มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ไร้ความหมายตั้งแต่เริ่ม แล้วถ้าเขาสามารถครองอันดับต่อไปได้ล่ะ? ความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด ผลสุดท้ายได้รับการตัดสินแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะได้อันดับหนึ่งด้วยวิธีนี้” อันเทียนโจวกล่าว
…
ทุกคนกำลังคุยกันว่าเจ้านายของตรีศูลทองคำจะทำอะไรต่อไป เขาจะใช้สัตว์อสูรตัวใหม่หรือยุติการยึดครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ?
คนส่วนใหญ่รู้สึกว่ามันไม่มีความหมายที่จะให้สัตว์อสูรครองอันดับหนึ่งต่อไป สิ่งมีชีวิตต่างมิติจะไม่ให้โอกาสสัตว์อสูรธรรมดาชนะด้วยวิธีอื่น
ช่วงเวลานี้เป็นการทรมานสำหรับทุกคน ทุกคนอยากรู้ว่าเจ้านายของตรีศูลทองคำจะทำอะไรหลังจากกเปลี่ยนไป
สื่อต่างๆ ยังเขียนบทความวิเคราะห์ทุกประเภท สื่อส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรต่อหลังจากมีการเปลี่ยนก แม้ว่าเจ้านายของตรีศูลทองคำจะมีสัตว์อสูรระดับเร้นลับอยู่ก็ตาม ไม่มีความหมายที่จะทำแบบนี้ต่อ หากพวกมันไม่สามารถรักษาวงจร 24 ชั่วโมงไว้ได้
และเพื่อให้ครบวงจร 24 ชั่วโมง จำเป็นต้องมีสัตว์อสูรระดับเร้นลับอย่างน้อย 24 ตัว ปัจจุบันมีเพียงหกตระกูลฮีโร่เท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ไม่มีตระกูลไหนที่ออกมายอมรับว่าการครอบครองอันดับหนึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาทำ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างรอคอยอย่างมีความหวัง
…
โจวเหวินยังใช้สมองคิดหาทางแก้ไข จงซือหยาเขียนข้อความด้วยความจริงจังมาก เขาต้องคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดในอีก24ชั่วโมงที่เหลือ
มังกรเทียน เบม่อน ไทซุย วัวยักษ์ต้าเห่วย ซิงไห่ครัสเตเชียน และสัตว์อสูรอื่น ๆ ที่ฉันมีเป็นสัญลักษณ์มากเกินไป ตราบใดที่ฉันใช้มัน ทุกคนคงเดาว่าเป็นฉันเอง นอกจากนี้ การเปิดเผยความแข็งแกร่งของทีมต่อสู้ที่สำคัญทั้งหมดของฉันจะทำให้ฉันเสียเปรียบอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีวิธีอะไรอีกที่ฉันสามารถถ่วงเวลาได้? หลังจากครุ่นคิด ดวงตาของโจวเหวินก็สว่างขึ้นทันทีขณะที่เขาเรียกธิดาปีศาจ
ธิดาปีศาจมองไปที่โจวเหวินอย่างเงียบๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีสติปัญญา แต่เธอไม่ชอบพูด แม้จะเผชิญหน้ากับโจวเหวิน เธอก็ยังคงนิ่งเงียบ
“ธิดาปีศาจ อาหารสำรองของเธอเป็นไงบ้าง” โจวเหวินหมายถึงปีศาจสังหาร
หลังจากที่ ปีศาจสังหารไปในกินซากศพในครั้งที่แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีการวิวัฒนาการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจสังหารในเกม เขาจึงไม่รู้ว่ามันวิวัฒนาการเสร็จหรือยัง
ธิดาปีศาจไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทั้งหมดที่เธอทำคือเรียกดาบปีศาจและดึงมันออกจากฝัก ด้วยการเขย่าเบาๆปีศาจสังหารก็ลอยออกจากดาบ
“ปีศาจสังหาร ไม่เจอกันนานเลย มาคุยดีๆกันเถอะ” โจวเหวินพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาโบกมือให้ปีศาจสังหาร
ปีศาจสังหารฉลาดมาก จากการแสดงออกของโจวเหวิน มันรู้ว่าโจวเหวินต้องการความช่วยเหลือจากมัน มันสวมบทบาทเป็นเจ้านายทันทีและยกคางขึ้นเล็กน้อยขณะที่มองดูโจวเหวินอย่างดูถูก “เกิดอะไรขึ้น? บอกข้ามาและข้าจะลองคิดดู… “
ขณะที่มันพูด จู่ๆ มันก็มีเหงื่อเย็นเยียบไหลออกมา มันรีบหันศีรษะและเห็นธิดาปีศาจมองมาที่มัน ท่าทางที่เย่อหยิ่งของมันก็เปลี่ยนเป็นท่าทางประจบประแจงทันที มันก้มศีรษะลงและว่าง่าย ขณะพูดกับโจวเหวินด้วยรอยยิ้ม “อย่าลังเลที่จะบอกข้าถ้าเจ้าต้องการอะไร ข้าจะช่วยเจ้าจัดการมันอย่างแน่นอน”
โจวเหวินพยักหน้าและปรับขนาดปีศาจสังหาร ก่อนจะถาม “ความแข็งแกร่งของแกเป็นยังไง? แกมีความแข็งแกร่งระดับความกลัวรึเปล่า?”
เมื่อปีศาจสังหารได้ยินคำถามของโจวเหวิน มันก็รู้สึกพอใจในทันที “ข้าปีศาจสังหารจะไม่เป็นระดับความกลัวได้ไง? แน่นอน ข้ามีพลังระดับความกลัว ไม่สนใจแม้แต่ระดับความกลัว ถ้าหากข้าไม่ถูกกดพลังเป็นเวลานาน แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับภัยพิบัติก็ไม่มีปัญหา…”
“ไม่เลว” โจวเหวินพยักหน้า
“ไม่… เลว…” เมื่อปีศาจสังหารได้ยินและมองดูสีหน้าของโจวเหวิน มันก็อยากจะใช้พลังความกลัวเพื่อฉีกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที ทำให้มันรู้ว่าศักดิ์ศรีของผู้แข็งแกร่งระดับความกลัวไม่ควรถูกมองข้าม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมันเห็นธิดาปีศาจคำพูดของปีศาจสังหารก็เปลี่ยนไป “เจ้าพูดถูกแล้ว ความสามารถของข้าก็ไม่เลว… ไม่เลวเท่าไหร่…”
“ที่นั่นไง แกสามารถไปท้าทายที่นั้นได้” โจวเหวินกล่าวขณะที่ชี้ไปที่ลูกบาศก์ข้างๆ เขา
ดวงตาของปีศาจสังหารเป็นประกายเมื่อมันเห็นลูกบาศก์ มันเริ่มมีความทะเยอทะยานทันที ขณะที่มันพูดเสียงดัง “ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ข้าฟื้นกำลังขึ้นมากแล้ว การเอาชนะพวกเด็กเหลือขอและได้อันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ถึงเวลาแล้วที่จะให้เด็กรุ่นใหม่เหล่านั้นรู้ว่าบรรพบุรุษของปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหน”
โจวเหวินพยักหน้าและกล่าวว่า “ดี หลังจากที่แกเข้าไปแล้ว พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อถ่วงเวลา อนุญาตให้พ่ายแพ้เท่านั้น”
“เอาล่ะ ข้าจะฆ่าทุกคนอย่างแน่นอน มีแค่ความพ่ายแพ้เพียงอย่างเดียว… เอะ… อะไรนะ…” หลังจากที่ปีศาจสังหารเข้าใจสถานการณ์ของมัน มันก็เบิกตากว้างและมองไปที่โจวเหวิน มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหูของมัน
“สัตว์อสูรที่อยู่บนนั้นเป็นของฉัน มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” โจวเหวินถามปีศาจสังหาร
“ข้าไม่… ไปไม่ได้เหรอ…” ปีศาจสังหารระงับความอยากที่จะฉีกโจวเหวินให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและถามอย่างถ่อมตน
มันเป็นปีศาจระดับความกลัว แต่มันต้องแพ้ให้กับสัตว์อสูรที่อ่อนแอแบบนี้ ปีศาจสังหารรู้สึกว่าเป็นการดูถูกมันอย่างมาก
“เธอคิดยังไง?” ขณะที่โจวเหวินพูด เขาก็เหลือบมองไปที่ธิดาปีศาจ
ปีศาจสังหารเหลือบมองธิดาปีศาจกับโจวเหวินโดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะตัดสินใจทันที มันสาบานกับโจวเหวิน “เป็นเกียรติของข้าที่ได้ทำงานให้กับท่าน ข้าจะทำให้ดีที่สุดและพ่ายแพ้อย่างไร้ที่ติอย่างแน่นอน”
“แกไม่จำเป็นต้องทำตัวไร้ที่ติ และแกไม่จำเป็นต้องต่อสู้ เพียงแค่ขึ้นไปและยื้อเวลา ยืนให้นานที่สุด เมื่อฉันให้ธิดาปีศาจแจ้งไป นายเพียงแค่ยอมรับความพ่ายแพ้” โจวเหวินบอกคำขอของเขาอย่างละเอียด
การเปลี่ยนแปลงกของสิ่งมีชีวิตต่างมิตินั้นมุ่งเป้าไปที่สัตว์อสูร แต่ไม่รวมถึงผู้พิทักษ์
หากปีศาจสังหารถูกรับคำท้า มันไม่ต้องปิบัติตามกของการชนะภายในหนึ่งชั่วโมง
ฉันต้องการดูว่าไอสิ่งมีชีวิตต่างมิติเหล่านั้นจะเปลี่ยนกได้ยังไง พวกมันจะจำกัดผู้พิทักษ์ด้วยมั้ย? โจวเหวินคิด
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ หากการกำจัดออกของทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น เมื่อผู้พิทักษ์ไม่สามารถตัดสินผู้ชนะได้ภายในหนึ่งชั่วโมง เหตุการณ์แบบนี้น่าจะเกิดขึ้นในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ไม่นานการนับถอยหลังหนึ่งชั่วโมงก็มาถึง ทุกคนมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ของลูกบาศก์และรอให้เจ้านายของตรีศูลทองคำทำการตัดสินใจ
