I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 153
SC-บทที่ 153 ฮวาเจี้ย
หลังจากที่ถูกเทียนเก๋อจับคอไว้ หยูซานพยายามที่จะหลบหนีโดยการล่องหนแต่เมื่อเธอหายตัวได้ครึ่งนึง เธอก็ถูกเทียนเก๋อเหวี่ยงลงพื้น
ในที่สุด หยูซาน ก็จะหนักได้ว่าไม่มีทางที่จะหนีจากคนเหล่านี้ได้
หลังจากนั้นไม่นาน เทียนเก๋อก็ลากหยูซานไปที่ประตูบานหนึ่งเขาเคาะ 2-3 ครั้งและรอคอยอย่างอดทน
“เข้ามา!”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งจากด้านในเมื่อได้ยินดังนั้น เทียนเก๋อเปิดประตู พร้อมกับลากหยูซานเข้าไป
แต่ก่อนห้องนี้เป็นอย่างไร หยูซานไม่รู้แต่ตอนนี้มันกลายเป็นห้องส่วนตัวที่เต็มไปด้วยสีชมพู มีสาวสวยคนหนึ่งนอนเกียจคร้านอยู่บนเตียง แต่เนื่องจากมีม่านบังจึงทําให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอได้ในตอนนี้
“ พี่ฮวา ผมพาเธอมาแล้ว”
หลังจากเข้ามาในห้อง เทียนเก๋อ ปิดประตูอย่างเงียบๆแต่ไม่ได้เดินเข้ามาด้านใน เขาวาง หยูซานลงกับพื้นและผลักเธอเข้ามา จากนั้นได้ยินเสียงพูดว่า
“นายออกไปข้างนอกได้แล้ว”
เมื่อ เทียนเก่อได้รับคําสั่ง เขาหันหลังกลับและออกจากประตูไป จากนั้นหญิงสาวก็ลุกจากเตียงอย่างสง่างามและเดินมาด้านหน้าของหยูซาน
“ เด็กสาวตัวน้อยเธอชื่ออะไร?”
จากนั้นนิ้วเรียวยาวของเธอก็ค่อยๆยกคางของหยูซานขึ้นจากนั้นถามด้วยน้ําเสียงเบาๆ
ด้วยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในที่สุด หยูซานก็เห็นรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงคนนี้มีอายุมากกว่า 40 ปีดวงตาของเธอราวกับนกฟีนิกซ์ริมฝีปากแดงและมีรอยย่นของอายุเกิดที่มุมตาของเธอ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความงามของเธอเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันมันส่งเสริมทําให้เธอดูสง่างามและเป็นผู้ใหญ่
การจ้องมองสาวสวยอย่างฮวาเจี้ย แม้แต่หยูซานยังรู้สึกประหลาดใจในสายตาของเธอส่องประกายราวกับคนเหม่อลอย แต่เธอยังคงพยายามที่จะปิดปากของตัวเองเอาไว้
“โอ้ ”
เมื่อเห็นการแสดงออกของหยูซาน ฮวาเจี้ยแสดงรอยยิ้มเล็กน้อยและพูดเบาๆว่า
“ไม่อยากบอกอย่างนั้นหรอ?ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอจะต้องบอกมีคนอื่น นอกจากเธออีกไหม”
หยูซาน ตกตะลึงอยู่สักครู่และสายหัวอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิเสธแต่ไม่รู้ว่าท่าทางของเธอที่ปฏิเสธอย่างรุนแรงนั้นยิ่งทําให้สงสัยมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวตัวน้อยสั่นหัวราวกับกลอง เธอหัวเราะแล้วพูดว่า
“ก็ได้ เด็กน้อยฉันเชื่อเธอ!”
จากนั้นเธอไอเบาๆ 2 ครั้งแล้วได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอก จากนั้นเธอยิ้มและจับมือ หยูซานเดินมาที่เตียง
“ เมื่อมองดูลักษณะของเธอแล้วเธอก็ไม่ได้หิวมากทําไมเธอต้องแอบเข้ามาที่นี่ เธอกําลังมองหาอะไร?”
ฮวาเจี้ยจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆของหยูซาน มันทําให้หยูซานรู้สึกเขินอาย แต่เธอยังคงพูดขี้นว่า
“ไม่.ฉันแค่หิวเฉันคิดว่าฉันแค่อยากหาอะไรกินพี่สาวคุณจะไม่ฆ่าฉันใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินการไต่สวนของฮวาเจี้ย หยูซานมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที
“แน่นอน”
เมื่อมองการแสดงออกขอ หยูซาน ฮวาเจี้ยยังคงพูดเป็นปกติ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พบร่องรอยใดๆ
“เธอน่ารักมากเด็กสาวตัวน้อย ฉันจะฆ่าเธอได้ยังไง”
จากนั้น ฮวาเจี้ยก็ยกมือขวาขึ้นและลูบลงใบหน้าเล็กๆของหยูซานอย่างช้าๆ
“ตราบใดที่เธอเชื่อฟังพี่สาว พี่สาวจะสัญญากับเธอว่าเธอจะไม่หิวอีกต่อไป”
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนี้ หยูซานรีบขยับออกอย่างรวดเร็วและพูดด้วยน้ําเสียงสั่นเครือว่า
“จริง..จริงอย่างนั้นหรอ?ถ้าอย่างนั้น..ฉันต้องทําอะไร?”
เมื่อเห็นว่าหยูซานแสดงออกถึงความหวาดกลัวตัวเอง มีความประหลาดใจปรากฏขึ้นในสายตาของฮวาเจี้ย
“ เธอไม่ได้ยินอย่างนั้นหรอ ฉันบอกว่าเธอไม่ต้องกลัว จะไม่มีใครทําร้ายเธอ!”
หยูซานไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจอรสนิยมทางเพศของผู้หญิงที่แปลกประหลาดคนนี้ เธอพยายามที่จะหลบหลีกมือของฮวาเจี้ยที่ลวนลามเธอเป็นครั้งคราว
เมื่อเห็นว่าหยูซานพยายามที่จะหลบหลีก ฮวาเจี้ยจึงเริ่มใจร้อน เธอรีบคว้าข้อมือของหยูซานทันทีและดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน
ฮวาเจี้ยพูดกับหยูซานอย่างไร้จุดหมายว่า
“ลูกสาวตัวน้อย การที่เธอแอบเข้ามาที่นี่เพื่อขโมยอะไรบางอย่างมันถือว่าเป็นอาชญากรรม ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ฆ่าเธอ แต่เธอเองก็ต้อง “ชดใช้”บางอย่าง?”
หลังจากพูดจบ มือของฮวาเจี้ย ก็ฉีกเสื้อคลุมของหยูซาน
“อา…ช่วยด้วย!”
เมื่อหยูซานพบว่าพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้กําลังเปลี่ยนแปลงเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย หัวใจของหยูซานเต็มไปด้วยความหวาดครัวเธอทําได้เพียงแต่กรีดร้องออกมา
เพล้ง !
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากหน้าต่าง กระจกหน้าต่างแตกออกและพบสุนัขตัวใหญ่ที่มีร่างกายใหญ่โตและดวงตาสีแดง มันคํารามเสียงก้องก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฮวาเจี้ยอย่างฉับพลัน
ปัง!
ภายใต้การจู่โจมอย่างรวดเร็วของโคล่าทําให้ฮวาเจี้ยกระเด็นออกไปก่อนที่จะทันใช้พลังของตัวเอง
จากนั้น ฮวาเจี้ยไม่ได้กระแทกกับกําแพงอย่างที่คิด แต่ทันใดที่เธอถึงกําแพงมือของเธอก็เกาะแน่นกับผนัง จากนั้นเธอก็พบว่าประตูห้องของเธอค่อยๆเปิดออกด้วยเท้าของใครคนหนึ่ง หลินเฉิงโผล่ออกมาพร้อมกับใบหน้าเฉยชา ในขณะที่เทียนเก๋อเต็มไปด้วยคราบเลือด
“เธอสบายดีไหม?”
เมื่อเข้ามาในห้องของฮวาเจี้ย หลินเฉิงโยนเทียนเก๋อลงกับพื้นโดยไม่สนใจอีกต่อไป เขาหันหัวไปถามหยูซานที่กําลังนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับน้ําตาที่เต็มไปด้วยความสุข
หลังจากได้ยินคําถามที่เต็มไปด้วยความกังวลใจของหลินเฉิง มันทําให้หยูซานเช็ดน้ําตาจากมุมตาของเธออย่างรวดเร็ว และสวมเสื้อผ้าเพื่อปกปิดผิวหนังที่เปิดเผยต่อสายตา จากนั้นพูดว่า
“ไม่เป็นไรฉันสบายดี พี่หลิน พี่ต้องระวังเธอ…พลังของเธอคือความสามารถในการดูดเธอสามารถดึงคนเข้ามาหาเธอได้อย่างรวดเร็ว”
หลินเฉิงพยักหน้าและมองไปที่ฮวาเจี้ยด้วยสายตาเยอะเย้ย
“เธอพูดจริงอย่างนั้นหรอ?”
“อืม!”
เมื่อเห็น หลินเฉิง หันมามองตัวเองด้วยสายตาเหยียดหยาม ฮวาเจี้ยพูดขึ้นว่า
“ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย รอดูว่าฉันจะสั่งสอนแกยังไง!”
หลังจากพูดจบ ฮวาเจี้ยก็หันหน้ามาหาหยูซาน
“ สาวน้อย ฉันทําดีกับเธอมาตลอด นี่คือการตอบแทนอย่างนั้นหรอ!”
“เอ่อ…”
เมื่อเห็นหญิงสาวคนนี้พูดเข้าข้างตัวเอง หลินเฉิงพูดไม่ออกเขาทําได้เพียงแต่ยิ้ม
“ก่อนอื่นเลย ฉันไม่มีความคิดที่จะปล่อยเธอไปนอกจากนี้ เด็กสาวคนนี้ยังเป็นคนของฉัน เธอแตะต้องเด็กสาวคนนี้ ดังนั้นเธอจะต้องตาย!”