I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 151
SC:บทที่ 151 เข้าไปยังสถานีตํารวจอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง ดวงตาของ หยูซาน แสดงออกถึงความสับสน
“แต่ว่า…แต่…”
“ทําไมล่ะ!”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกลัวที่จะพูดออกมา หลินเฉิงจ้องมองเธอและพูดย้ํา
“เธอไม่กล้าที่จะทําสิ่งที่เธอตกลงก่อนหน้านี้อย่างนั้นหรอ?ทําไมถึงเปลี่ยนใจ?”
หยูซาน ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ได้กลับคําพูด แต่ว่าอยู่ดีๆก็จะให้ฆ่าเขาอย่างนั้นหรอ ทําไม?”
เมื่อเห็นว่าหยูซานจ้องมองชายหนุ่มเพื่อต้องการหาคําตอบ หลินเฉิงเอนกายลงกับเก้าอี้และจุดบุหรี่อย่างสบายๆจากนั้นพูดขึ้นว่า
“ผมเองก็ไม่ได้ต้องการให้เธอหยิบมีดและฆ่าคนเป็นผักปลา แต่จากการสํารวจของเธอก่อนหน้านี้เราได้ข้อสรุปมากมาย..”
มาพูดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิงสูดควันบุหรี่ลึก จากนั้นเขี่ยเถ้าบุหรี่เล็กน้อยแล้วพูดว่า
“อย่างแรกมีกลุ่มผู้หญิงถูกขังอยู่ในสถานีตํารวจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนอยู่ 2 กลุ่ม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งกําลังดื่มกินอย่างสนุกสนานแสดงว่าพวกเขามีความสามารถในการค้นหาเสบียง จาก 2 ประเด็นนี้เราสามารถได้ผลสรุปแล้ว เธอรู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง?”
หยูซานฟังอย่างระมัดระวังเมื่อเห็น หลินเฉิงต้องการทดสอบตัวเองเธอพูดอย่างมั่นใจว่า
“นั่น…นั่นหมายความว่าคนเรานั้นมีความสามารถอย่างนั้นหรอ?”
“ถูกต้องแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด!”
เมื่อเห็นสติปัญญาของผู้หญิงคนนี้ หลินเฉิงส่ายนิ้วเบาๆ
“อันดับแรกกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ง่ายที่จะจัดการ แต่เราควรทํายังไงดี? พวกเราเองก็จําเป็นต้องหาเสบียงเช่นกันและจะต้องขัดแย้งกับพวกเขาอย่างแน่นอน เธอคิดว่าคนเหล่านี้จะมอบเสบียงให้กับพวกเราอย่างเต็มใจหรือเปล่า? ในยุคภัยพิบัตินี้แม้แต่ขนมปังเพียงชิ้นเดียวพวกเขาต่างฆ่ากัน โดยไม่สนใจสิ่งใด ดังนั้นการฆ่าจึงเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นทั่วไปในการเอาชีวิตรอดในวันอวสานโลกนี้ เธอเองก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร!”
ฟังจากคําพูดของหลินเฉิง หยูซานค่อนข้างยอมรับไม่ได้ แต่หลังจากที่เธอไตร่ตรองอยู่สักพักเธอก็รู้ว่าเรื่องนี้คือความจริง
แม้ว่าเธอจะอยู่ในหมู่บ้านฟินิกส์ที่สะดวกสบาย แต่ความโหดร้ายของวันอวสานโลกเหมือนเชื้อระบาดมันแพร่กระจายสู่ทุกคนและทุกคนต้องการที่จะรอดชีวิตในวันอวสานโลกนี้ให้ได้
แม้ว่าเธอยังไม่เคยเห็นความโหดร้ายโดยธรรมชาติของมนุษย์ แต่เธอก็ยังเคยเห็นการดูถูกเหยียดหยามทางสายตาของผู้คนที่พยายามข้ามเทือกเขาฟีนิกซ์ พวกเขาจากจ้องมองชาวบ้านอย่างเธอเหมือนมดปลวกซึ่งเธอไม่เคยลืมเรื่องนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หยูซานสูดหายใจลึกและพูดอย่างมั่นคงว่า
“ฉันเข้าใจแล้ว! ถ้าพวกเขายินยอมฉันก็จะไม่ทําอะไรพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาขัดขืนฉัน”
เมื่อพูดถึงตอนนี้หยูซานรู้สึกลังเลเล็กน้อยและเมื่อเห็นสายตาของหลินเฉิง เธอจึงพูดต่อว่า
“ ฉันจะลงมือฆ่าเขาอย่างแน่นอน!”
หลังจากได้ยินคําพูดของหยูซาน หลินเฉิงยิ้มและยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
“ผมลืมถามว่านอกจากกลุ่มของผู้หญิงและผู้ชายอีก 2-3 คนที่กําลังกินดื่มกันอยู่นั้นเธอเห็นคนอื่นอีกหรือไม่?”
หลังจากที่หลินเฉิงยืนพิงกําแพงอยู่ที่ลานด้านหน้าของสถานีตํารวจเขาถามหยูซานขณะที่จะเตรียมเข้าไปตรวจสอบภายใน
เมื่อได้ยินคําถามนี้ หยูซานส่ายหัวและพูดว่า
“ไม่นะคะ ฉันดูทุกห้องบนชั้นแรกผ่านหน้าต่างด้านหลังอาคารและไม่พบคนอื่นนอกจากคนเหล่านี้ ”
หลินเฉิง พยักหน้าเบาๆจากนั้นคิดสักครู่นะพูดว่า
“ OK! ดังนั้นเธอซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผม และจากนั้นผมจะแอบเข้าไปด้านหลังของอาคารเพื่อจับคนเหล่านั้นค้นหาข้อมูล เมื่อทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผม ผมจะเปิดประตูที่ขึ้นไปชั้น 2 ทันทีและเธอใช้โอกาสนั้นแอบขึ้นชั้น 2 ไปดูสถานการณ์!”
หลังจากได้ยินแผนการของหลินเฉิง หยูซานพยักหน้า จากนั้น หลินเฉิงก็เดินเข้าไปอย่างช้าๆ เขาค่อยๆเลาะไปด้านหลังของอาคารสํานักงาน หลินเฉิงทําตามคําเตือนของหยูซาน เขาเงยหน้ามองที่หน้าต่างและพบว่า ในนั้นมีกลุ่มผู้หญิงที่ถูกขังอยู่จริงๆ
หลินเฉิงกวาดสายตามองรอบๆ ก่อนที่จะดึงสายตากลับมามองที่ผู้หญิงเหล่านั้นอีกครั้ง ดูเหมือนผู้หญิงเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแผนการของเขาอย่างนั้นเขาขี้เกียจเกินไปที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านี้
ตามคําแนะนําของหยูซาน หลินเฉิงยังคงเดินหน้าต่อไปเพียงไม่กี่ก้าวและมองไปที่หน้าต่างด้านใน ในที่สุดเขาก็เห็น “ตัวประกัน” ที่เขาต้องการ!
มีชายหัวโล้น 3 คนนั่งอยู่รอบๆโต๊ะและกําลังดื่มกินพร้อมกับเล่นไพ่
หลินเฉิงเห็นดังนั้นเขาเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปด้านในในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าร่างกายที่ล่องหนของหยูซานนั้นถอยห่างออกไป หลังจากสังเกตการเคลื่อนไหวของชายทั้งสามคน หลินเฉิงสัมผัสเบาๆไปที่ขอบหน้าต่าง จากนั้นก็มีน้ําแข็ง 3 ก้อนพุ่งตรงไปที่ชายทั้ง 3 คน
ทันใดนั้นก็น้ําแข็งก็ดึงมือและเท้าของชายทั้งสามแน่นอยู่กับโต๊ะ พวกเขาไม่สามารถที่จะขยับตัวได้แม้แต่ปากของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะตะโกนออกมา
หลังจากควบคุมชายทั้ง 3 คนได้แล้ว หลินเฉิงดึงดาบดําออกมาและเปิดรูที่หน้าต่างจากนั้น เขากระโดดเข้าไปเบาๆ
หลังจากกระโดดเข้าไปในห้อง หลินเฉิงเห็นชายทั้ง 3 คนจ้องมองเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก หลินเฉิงไม่ได้สนใจคนเหล่านี้สิ่งแรกที่เขาต้องทําก็คือเปิดประตู ที่ขึ้นไปชั้น 2 หลินเฉิงรีบเดินไปที่ประตูและฟังการเคลื่อนไหวหลังประตูแต่เมื่อพบว่าไม่มีเสียงใดใด หลินเฉิงจึงเปิดประตูโดยตรง
อันดับแรกเขาแกล้งทําเป็นยึดหัวออกไปและมองรอบๆ เมื่อหยูซานที่ล่องหนอยู่ผ่านตัวหลินเฉิงเข้าไป หลินเฉิงจึงปิดประตูอีกครั้งและหันมาสนใจกับชายทั้ง 3 คน
“อะ อะ”
เนื่องจากปากของพวกเขาแข็งจนทําให้ชายทั้งสามคนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้มีเพียงแต่เสียงเบาๆที่แสดงความตกใจเมื่อเห็นหลินเฉิง หลินเฉิงดึงเก้าอี้ออกมา 1 ตัวและนั่งข้างพวกเขาจากนั้นพูดว่า
“พวกนายไม่ควรส่งเสียงไม่อย่างนั้นฉันจะแช่แข็งตลอดทั้งตัวไม่ใช่แค่ปากแบบนี้”
เมื่อหลินเฉิงพูดขึ้นชายทั้งสามคนรีบหยุดที่จะพยายามส่งเสียงทันที พวกเขาทําได้เพียงมองหน้าหลินเฉิง
“แกร็ก”
หลินเฉิงกระดิกนิ้วทําให้น้ําแข็งบนปากของชายคนหนึ่งหายไป เขาพบว่าปากของชายคนนั้นกลายเป็นสีแดงเพราะโดนน้ําแข็งกัด ในขณะที่หลินเฉิงกําลังจะเริ่มถามคําถาม แต่ดูเหมือนชายคนนั้นเริ่มที่จะตะโกน
“แกร็ก”
ในขณะที่ชายคนนั้นกําลังอ้าปากตะโกนขอความช่วยเหลือเขาก็ต้องรู้สึกตกใจอีกครั้ง เขารู้สึกว่าทั้งใบหน้าของเขาทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยน้ําแข็งอย่างสมบูรณ์ จมูกและปากของเขาถูกปิด และไม่สามารถหายใจได้เขาพยายามดิ้นรนเพื่อขอความเมตตา แต่เนื่องจากแขนขาของเขาถูกยึดติดอยู่กับโต๊ะดังนั้นจึงไม่สามารถทําอะไรได้
หลินเฉิงมองดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ จากที่ถูกน้ําแข็งปกคลุมทั้งใบหน้ากําลังดิ้นรนหายใจ จากนั้นคอของเขาเกร็งจนเห็นเส้นเอ็นสีเขียว และสุดท้ายร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ก่อนที่จะหมดลมหายใจ!