I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 138
SC:บทที่ 138 รักษา
หลังจากขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหลายคนในที่สุด ลุงหยาน ก็ถูกพากลับบ้าน หลินเฉิง ยืนมองชายวัยกลางคนที่หมดสติด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความคิด
หลังจากที่ชาวบ้านจากไป หลินเฉิง ก็ให้ หยูซาน ปิดประตูและนั่งลงข้างเตียงเพื่อสังเกตอาการของ ลุงหยาน อย่างระมัดระวัง
ลุงหยาน เป็นชายอายุเกิน 40 ปี เขาไม่สูงมากนักผิวของเขาเข้มและหยาบกร้าน บนใบหน้าของเขามีหนวดเคราและมีรอยแผลเป็นเด่นชัดจากมุมตาขวาจนถึงมุมปาก ขนคิ้วหนาดกดํา มองผ่านผ่านใบหน้าของเขาไม่เหมือนคนดีเท่าไหร่นัก
จากที่สังเกตดูดูเหมือนว่าชายคนนี้ต้องการที่จะดับไฟอย่างรวดเร็วเพราะมือของเขาถูกไฟไหม้ดําและมีกลิ่นของเนื้อย่าง ส่วนขาขวาแตกหักอย่างรุนแรงมีรอยขีดข่วนบนร่างกายนับไม่ถ้วน สําหรับอาการบาดเจ็บภายใน หลินเฉิง ยังมองไม่เห็น
หลังจากสังเกตไปสักครู่ หลินเฉิง ก็หันหลังและเห็นว่าหยูซานกําลังมองตัวเองด้วยความคาดหวัง มันทําให้เขาอดยิ้มไม่ได้ หลินเฉิง วางกระเป๋าปืนเขาของเขาลงและแกล้งทําเป็นดึงยาฉุกเฉินออกมา
“เอายานี้ทามือของเขา…ส่วนอันนี้ใช้หยุดเลือดในช่องท้องและอันนี้บดผสมน้ำเพื่อให้เขาดื่ม…”
หลินเฉิง ให้ยาแก่เธอพร้อมกับอธิบายวิธีการใช้ยา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเข้าใจ หลินเฉิง ก็เดินไปที่ปลายเตียงเพื่อจับขาของลุงหยาน หลังจากสังเกตระมัดระวัง หลินเฉิง ก็เริ่มช่วยจัดการกับกระดูกขาที่หักของ ลุงหยาน
หลินเฉิง ไม่ได้เป็นหมอแต่เพราะเขาเคยบาดเจ็บมามากในช่วงวันอวสานโลก และไม่มีใครเคยช่วยเขาเขาจึงพบหนทางที่จะช่วยเหลือตัวเองให้รอด
หลังจากผ่านไปสักครู่ ลุงหยาน ก็ร้องครวญคราง หลินเฉิง รีบหยิบไม้กระดานที่เตรียมไว้มาพันขาของ ลุงหยาน เพื่อดามขาของเขาทันที
หลังจากการปฐมพยาบาลของ หลินเฉิง หยูซาน รู้สึกว่าลมหายใจของ ลุงหยาน นั้นค่อนข้างคงที่ แม้ว่าเขาจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตามแต่ชีวิตของเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตราย
เมื่อเห็นสีหน้าของ ลุงหยาน ไม่ได้แสดงออกถึงความทุกข์ทรมานอีกต่อไป หยูซาน จึงถอนหายใจแล้วมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง
ชายหนุ่มคนนั้นยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับจุดบุหรี่และเล่นกับโคล่า
“คือว่า….ขอบคุณมาก! โอ้ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลย”
หลังจากที่เห็น หลินเฉิง หันมามองที่ตัวเอง หยูซาน รีบขอบคุณอย่างรวดเร็วและจําได้ว่าตั้งแต่คุยกันมาเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝายชื่ออะไร
เมื่อเห็นว่า หยูซาน รู้สึกอับอาย หลินเฉิง จึงโบกมือและพูดว่า
“ฉันชื่อ หลินเฉิง! นอกจากนี้เธอไม่ต้องขอบคุณฉัน เธอจําคําถามที่ฉันถามก่อนหน้านี้ได้ไหม?”
สีหน้าของ หยูซาน เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคําถามเธอรู้สึกประหม่าและถามคุณว่า
“จําได้..แต่ฉันไม่เคยต่อสู้มาก่อนคุณต้องการให้ฉันช่วยฆ่าคนจริงๆหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
หลินเฉิง โบกมือเสียงของเขาสงบ
“ฉันคิดว่าเธอเข้าใจผิด ตอนที่เธอตอบว่าเธอกล้าทํา นั่นหมายความว่าเธอเป็นคนของฉันแล้ว เธอเข้าใจใช่ไหม?”
“ เป็นของคุณอย่างนั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หยูซาน ตกอยู่ในความคิด จากนั้นเธอก็คงคิด 2-3 รอบและการแสดงออกเปลี่ยนไปอย่างตื่นตระหนก
“แต่…แต่คุณถามฉันว่าฉันกล้าฆ่าคนหรือเปล่านิ?”
“ใช่!”
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวตื่นตระหนก หลินเฉิง หัวเราะเบาๆและถามชัดๆอีกครั้งว่า
“ตอนนี้ฉันจะถามเธออีกครั้ง เธอกล้าฆ่าคน..ไหม?”
เมื่อได้ยินคําพูดเน้นย้ำของ หลินเฉิง หยูซาน รู้สึกตึงเครียดเธอต้องการที่จะอ้าปากตอบแต่เธอไม่กล้าที่จะตอบคําถามนี้ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ
หลินเฉิง ยืนขึ้นและหยิบกระเป๋าปีนเขาของเขาไว้ด้านหลังจากนั้นเขาลูบหัวโคล่าและเดินไปที่ประตู เขาพูดโดยไม่หันศรีษะกลับมาว่า
“คืนนี้เธอเตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เช้า!”
หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็เปิดประตูออกไปราวกับไม่เคยกังวลว่าเธอจะหลบหนีไปหรือไม่
เมื่อมองเห็นแผ่นหลังของ หลินเฉิง การแสดงออกของ หยูซาน เปลี่ยนไปชั่วขณะ แม้ว่าเธอจะเป็นเด็กแต่เธอก็ไม่ได้โง่ เธอรู้ว่า คําพูดของ หลินเฉิง นั้นเป็นคําขาด หากเธอขัดขืนคงหมายความว่าเธอกําลังรนหาที่ตาย แม้ว่าเธอจะมั่นใจว่าสามารถหนีไปได้แต่เธอก็มั่นใจด้วยว่า หลินเฉิง จะตามจับเธอได้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นแม้เธอจะไม่ยอมรับคําพูดของ หลินเฉิง แต่เธอเองก็ไม่ต้องการกลับคําพูด! ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของหลินเฉิงเพียง แต่ชายหนุ่มคนนี้ช่วยเหลือ ลุงหยาน ตามข้อตกลง ดังนั้นเธอไม่สามารถที่จะผิดคําพูดได้แม้เธอยังเด็กแต่เธอก็ไม่ต้องการให้คนดูถูกเธอ
“ แม้หากฉันไม่ยอมรับข้อเสนอเขาก็คงบังคับฉันไป ดูจากความแข็งแกร่งของเขาแล้วการติดตามเขาออกไปยังโลกภายนอกอาจจะไม่อันตรายไปกว่าอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้”
หยูซาน พยายามปลอบใจตัวเองอยู่สักครู่จากนั้นหันกลับไปบ้านของตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลินเฉิง นอนอยู่บนเตียงทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากชั้นล่าง
“หืม?”
หลินเฉิง ลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิดเขาควานหารอบเตียง เพื่อหาโคล่าจากนั้นลูบหัวของมันและพูดอย่างหงุดหงิดว่า
“ลงไปดูซิว่าใครมา!”
เมื่อถูกบังคับให้ตื่น โคล่า ทําได้เพียงแต่ครวญคราง 2 ครั้ง และลุกขึ้นยืนจากนั้นเดินลงไปชั้นล่าง
อีกสักครู่ต่อมาก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบขึ้นมาชั้น 2 เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ยังคงหลับอยู่และดูเหมือนเขาไม่สนใจเหตุการณ์เมื่อคืน หยูซาน พูดไม่ออก!
“พี่หลินตื่นเถอะ!”
หยูซาน ค่อยๆเขย่า หลินเฉิง เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
“มันยังเช้าอยู่เลย สาวน้อยเธอรนหาที่ตายใช้ไหม?”
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเฉิง ก็ไม่สามารถทนการเขย่าของหยูซานได้เขาลุกขึ้นและตะโกนใส่เธออย่างโกรธเคือง เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง โกรธเหมือนกับเด็ก หยูซาน ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า
“ ลุงหยาน ตื่นขึ้นมาแล้วเขาต้องการพบพี่เป็นการส่วนตัว แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้ ดังนั้นเขาจึงขอให้ฉันมาเรียกพี่ไปพบ เพื่อขอบคุณเป็นการส่วนตัวและอธิบายบางอย่าง..”
เมื่อฟังคําอธิบายของ หยูซาน หลินเฉิง อ้าปากหาวแล้วพูดขึ้นว่า
“ ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้วไม่จําเป็นต้องขอบคุณ เธอควรที่จะรีบเก็บกระเป๋าและตามฉันมา!”
“แต่…แต่เนื่องจากพ่อแม่ของฉันเสียชีวิตแล้ว ลุงหยาน จึงเป็นผู้ปกครองของฉัน เมื่อเขาได้ยินว่าพี่ต้องการพาฉันไปด้วยเขาจึงอยากคุยกับพี่…ฉันขอร้องล่ะ ได้โปรดไปพบกับเขา มันไม่ใช่ความปรารถนาของเขาแต่มันเป็นความปรารถนาของฉัน…”
เมื่อเห็นความ ใจร้อนของ หลินเฉิง หยูซาน รู้สึกลังเลและพูดขอร้องออกไป