I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 137
SC:บทที่ 137 หยูซาน
เด็กสาวรีบตอบขึ้นบอกว่า “ ยู..หยูซาน”
“นามสกุล หยู?”
เมื่อได้ยินนามสกุลที่หายากมี หลินเฉิง รู้สึกตกตะลึงสักครู่แต่ไม่ได้สนใจอะไรมาก
“เธอปลุกพลังขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว?”
“ 2…2 สัปดาห์!”
“มีคนอื่นรู้หรือเปล่าว่าเธอปลุกพลังขึ้นมา?”
“ไม่มี..ยกเว้นลุงหยาน…”
“ทําไมฉันจะต้องช่วยลุงหยานด้วย”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้หยูซานรู้สึกกระวนกระวายใจในที่สุดเธอก็รู้สึกถึงความหวังเธอจึงตอบอย่างรวดเร็วว่า
“เพราะ…เพราะ…”
“เพราะเขาช่วยชีวิตเธอใช่ไหม?”
ก่อนที่เธอจะพูดเสร็จ หลินเฉิง ก็พูดขัดจังหวะ
เมื่อเห็นใบหน้าที่แสดงถึงความมั่นใจของ หลินเฉิง หยูซาน ตกตะลึงและพูดขึ้นว่า
“คุณรู้ได้ยังไง!”
“ฉันรู้ได้ยังไง?”
หลินเฉิง ขี้ก้นบุหรี่แล้วพูดว่า
“ถ้าต้องให้เดาเกี่ยวกับบทละครน้ําเน่าประจําวัน ก็ควรจะเป็นเรื่องนี้อย่าดูถูกสติปัญญาของฉัน!”
หยูซาน ตกตะลึงและรีบพูดว่า
“แต่ว่านั้นเป็นเรื่องจริง! ตั้งแต่ที่พ่อแม่ของฉันตายก็มีเพียง ลุงหยาน เท่านั้นที่ช่วยฉันจากความสิ้นหวังเอาไว้ใตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไงก็ตามฉันพยายามที่จะช่วยเขา!”
“ดังนั้นวิธีการของเธอก็คือการขโมยใช่หรือไม่สาวน้อย ความคิดของเธอนี่มันช่างอันตรายจริงๆ”
หลินเฉิง ฟังคําอธิบายของหญิงสาวที่กําลังทําท่ากระวนกระวายใจเล็กน้อย
“คุณ…!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ไม่ได้ฆ่าเธอหรือให้ยาเธอ เธอรู้สึกว่าบางทีเธออาจจะถูกหลอก ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงทันทีจากนั้นเธอกัดปากและร้องไห้อย่างขมขื่น
“คุณต้องการอะไร ? ฉันบอกทุกอย่างแล้วทําไมคุณถึงไม่ช่วยฉัน…”
“ฉันต้องการอะไรอย่างนั้นหรอ…”
เมื่อเห็นความเจ็บปวดของเด็กสาวตัวเล็ก หลินเฉิง ส่ายหัวและพูดขึ้นว่า
“ฉันเคยเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย บอกเลยว่าเรื่องราวของเธอไม่ได้เป็นสิ่งที่ทําให้ฉันรู้สึกซึ้ง! อย่างไรก็ตามถ้าเธอเพียงแค่ตอบคําถามฉันและคําตอบนั้นเป็นที่น่าพอใจบางที ฉันอาจจะช่วยลุงของเธอ!”
“ต้องการถามอะไร?”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง ใบหน้าของ หยูซาน เต็มไปด้วยความสุขเธอรีบเช็ดน้ําตาอย่างรวดเร็วและถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นลักษณะที่ตื่นเต้นของ หยูซาน หลินเฉิง อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้จากนั้นเขาจึงถามขึ้นช้าๆว่า
“เธอ….กล้าที่จะฆ่าไหม?”
เมื่อได้ยินคําถามแปลกๆ หยูซาน ยังคงรู้สึกประหลาดใจและตกใจเช่นเดียวกันเธอจึงถามขึ้นอย่างฉับพลันว่า
“ทําไม..ทําไมคุณถึงถามอย่างนี้”
“เธอเพียงแค่ตอบว่ากล้าไหม!”
เมื่อเห็นหญิงสาวตกใจกับคําถาม หลินเฉิง โบกมือและพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อพบว่า หลินเฉิง ไม่ได้ล้อเล่นการแสดงออกของ หยูซาน รู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น ในที่สุดหญิงสาวก็มองมาที่ หลินเฉิง และกัดฟันพูดว่า
“ตราบใดที่คุณสามารถช่วยชีวิต ลุงหยาน ฉันกล้าที่จะทําทุกอย่าง!”
เมื่อได้ยินคําพูดจากปากของหญิงสาว หลินเฉิง จึงพูดขึ้นว่า
“จําสิ่งที่เธอพูดเอาไว้!”
หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็ยืนขึ้นและโบกมือให้กับโคล่า จากนั้นเขายกกระเป๋าปีนเขาของเขาไว้ บนหลังและพูดกลับ หยูซาน ว่า
“นําทางเฉันต้องไปดูด้วยตัวเองว่า ลุงหยาน บาดเจ็บอย่างไร!”
หลินเฉิง เดินตาม หยูซาน เข้าไปในซอยมืดในขณะที่ใจของเขากําลังคิดอะไรบางอย่าง ในความเป็นจริงตามบุคลิกในอดีตของเขา เขาคงไม่สนใจที่จะช่วยเหลือชีวิตของคนอื่นเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เนื่องจากเขาพบว่าความสามารถในการซ่อนตัวของเด็กสาวคนนี้เยี่ยมยอด ดังนั้นจึงเกิดความคิดบางอย่างในใจของเขา!
นับตั้งแต่พบกับคนที่มีพลัง หลินเฉิง อยากรู้เกี่ยวกับสิ่งแปลกๆเหล่านี้และกําลังคิดว่ามีบุคคลที่มีความสามารถซ่อนตัวหรือไม่
เพราะหลังจากการต่อสู้หลายครั้งเขาพบข้อเสียอย่างหนึ่งของเขา นั่นก็คือแม้ว่าเขาจะมีพลังมากแต่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างสุดฝีมือเช่นกัน
ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ได้เพราะพลังของเขามากกว่าคนอื่น แต่อนาคตข้างหน้ายังอีกยาวไกล เขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง หากมีทุกคนที่มีพลังในการซ่อนตัวอยู่ข้างเขาและคอยสอดแนมข้อมูล เขาสามารถที่จะใช้สถานการณ์นี้ในการปรับเปลี่ยนแผนการอย่างชาญฉลาดและรับประกันได้ว่าเขาจะต้องมีชัยเหนือกว่าศัตรูทุกครั้ง
ปัญหาก็คือแม้เขาจะเจอพวกกลายพันธุ์มากมายแต่เขายังไม่เคยเจอใครที่มีความสามารถในการล่องหนซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย
แม้ว่าในเขตความปลอดภัยเหลียนเฉิง รั่วเหมิงจะมีพลังในการมองเห็นมันก็เหมือนกับเธอมองเห็นฉากหนึ่งในละครทีวีเท่านั้นส่วนรายละเอียดในการสนทนาไม่สามารถได้ยินได้โดยตรง
ส่วนสําหรับ หยูซาน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง สายหัวแม้ว่าเขามีความสงสัยมากมายที่จะสอบถามเธอแต่ตอนนี้ เขาต้องการพบกับ ลุงหยาน ก่อน หลังจากนี้ค่อยสอบถามเกี่ยวกับตัวตนของเด็กสาวมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าพลังในการล่องหนของเธอนั้นหาได้ยาก แต่ถ้า หลินเฉิง ยังไม่มั่นใจเขาจะไม่นําระเบิดเวลามาไว้กับตัวเอง
เมื่อกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หยูซาน ที่เดินอยู่ด้านหน้าก็หันมากระซิบว่า
“ เรามาถึงแล้ว!” หลินเฉิง พบว่าเขาเดินมาที่บ้านหินสูงโดยไม่รู้ตัว
เขาได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งคราว หยูซาน ยิ่งแสดงออกถึงความรีบร้อน เธอรีบคว้ามือของ หลินเฉิง และรีบเปิดประตูเข้าไปโดยตรง
ตอนแรกหลินเฉิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่โดนคนอื่นจับมือ เขาพยายามดึงมือออกจากเธออย่างรวดเร็วจากนั้นเขาเห็นสถานการณ์ภายในบ้านรู้สึกราวกับว่าอาการบาดเจ็บของ ลุงหยาน นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
เมื่อมองในห้องมีชาวหมู่บ้านหลายคนที่เปื้อนเลือดเดินไปมาอยู่ในบ้านอย่างวุ่นวายทําให้ไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของ หลินเฉิง แต่เนื่องขาดยารักษาพวกเขาทําได้เพียงแต่ทําความสะอาด แผลและใช้ผ้าสะอาดเท่านั้น แม้แต่ยาฆ่าเชื้อขั้นต่ําก็ไม่มี
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าสลดใจ หลินเฉิง ขมวดคิ้วและดึง หยูซาน เอาไว้ก่อนจะพูดว่า
“ควรที่จะย้าย ลุงหยานออกจากที่นี่ไม่งั้น อาจมีปัญหา!”
หยูซาน ตกตะลึงอยู่สักครู่ก่อนที่จะตอบว่า
“ฉันเข้าใจแล้วคุณรออยู่ข้างนอกสักครู่ฉันจะให้ใครสักคนพา ลุงหยาน กลับไปที่บ้านของเขา!”
เมื่อเห็นความฉลาดของหญิงสาว หลินเฉิง พยักหน้าเล็กน้อยและเดินออกจากห้องที่เต็มไปด้วยบรรยากาศมืดมัว