I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 135
SC-บทที่ 135 หญิงสาว
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูด้านล่าง หลินเฉิง ปิดประตูห้องนอนของตัวเอง ความจริงเขาแค่อยากเอาแคปซูลบ้านของเขาออกมาเปิด แต่คิดว่าอาจมีใครมาส่งอาหารภายหลังดังนั้นเขาจึงได้แต่เลิกคิดเรื่องนี้
หลินเฉิง นั่งลงบนเตียงในขณะที่เขาเห็นโคล่ากําลังทําสายตาสงสาร หลินเฉิงส่ายหัวเขาหยิบขวดแก้ว 2 ขวดที่บรรจุของเหลวสีเขียวอ่อนออกมาจากแคปซูลจัดเก็บ และเปิดขวดนึ่งส่งให้กับโคล่า โคล่ารีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับเปิดปากอย่างตื่นเต้นเพื่อให้ หลินเฉิง เทน้ําสีเขียวนั้นลงไปในปากของมันโดยตรง
จากนั้น หลินเฉิง ก็เปิดอีกขวดเทลงไปในปากของตัวเอง
นี่คือวิธีที่เขาเรียนรู้จาก ฟางซิวเฉิง ในการสกัดสารเหลวเสริมความแข็งแกร่ง
นับตั้งแต่ออกมาจากเมืองหยุนหยาง หลินเฉิง พยายามกลั่นสารเหลวเสริมความแข็งแกร่ง แล้วซ้ําเล่าโดยใช้แคปซูลยาระดับE แทน DHCA ซึ่งมันสามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ แต่น่าเสียดายอาจเป็นเพราะเขาดื่มแคปซูลยาระดับD ก่อนหน้านี้ทําให้เขาได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
หลินเฉิง อดเสียดายไม่ได้ดังนั้นเขาจึงเก็บสารเหลวเหล่านี้เอาไว้ดื่มกับโคล่าคนละขวดทุกวัน เพื่อหวังว่ามันจะสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาทีละนิด…
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสารเหลวเสริมความแข็งแกร่งจะไม่ได้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งมากมายให้กับเขามากนักแต่มันยังสามารถทําให้จิตใจของเขาสงบและสดชื่น การดื่ม 1 ขวดหลังจากการต่อสู้ สามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางกายภาพได้อย่างรวดเร็วนี่คือสาเหตุที่ หลินเฉิง ยังคงสกัดสารเหลวเหล่านี้ต่อไป
หลังจากที่ดื่มสารเหลวเรียบร้อย หลินเฉิง เรียกระบบเมนูขึ้นมาตรวจสอบค่าพลังทั้งหมดในตอนนี้
เขาได้รับมา 5000 คะแนนเมื่อฆ่าตัวกินคนที่สามารถควบคุมไฟ และเขามีมากกว่า 4,000 คะแนนหลังจากที่เขาออกเดินทางมา ตอนนี้เมื่อรวมคะแนนทั้งหมดเขามีค่าพลังเกือบ 10,000 คะแนน
ค่าพลังจํานวนมากที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ หลินเฉิง คาดไม่ถึง เขายังจําวันที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเก็บค่าพลังงานสะสมให้ได้ 50 คะแนนเพื่อแลกกับมีดของระบบ แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีค่าพลังมากมายแต่ของที่เขาอยากได้มันยังมีค่าคะแนนไม่เพียงพอ เขาจึงรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยในตอนนี้
ถ้าเขามีค่าพลังเพียงพอเขาจะเปลี่ยนแคปซูลจัดเก็บเป็นระดับ D และเขาจะสามารถเก็บทุกอย่างที่พบบนท้องถนนได้ตลอดเส้นทาง
นอกจากตอนนี้ที่เขาแลกเปลี่ยนกับแคปซูลยาระดับ E ที่จําเป็นในการสกัดสารเสริมความแข็งแกร่งแล้วเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนแคปซูลอื่นๆอีก เขาต้องการที่จะเก็บคะแนนให้ได้ 50,000 คะแนนเพื่อแลกกับเครื่องบิน VX-1C
ตั้งแต่ที่เกิดคลื่นความเย็น หลินเฉิง รู้สึกว่าบนท้องถนนมีซอมบี้น้อยลงแต่มีโอกาสที่จะเจอตัวกินคนมากยิ่งขึ้น หากเดาไม่ผิดซอมบี้เหล่านั้นได้วิวัฒนาการและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเริ่มพัฒนาการเป็นตัวกินคน หากซอมบี้ทั้งหมดวิวัฒนาการเป็นตัวกินคน เขาไม่อยากจะจินตนาการถึงผลที่ตามมา เพราะ ณ จุดนี้มนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับยุคของการต่อสู้ด้วยพลังที่วุ่นวาย
ดังนั้นอาจไม่ปลอดภัยระหว่างเดินทางข้ามเมืองและอาจเสี่ยงเกินไปที่จะขับขี่คนเดียวบนท้องถนนดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หลินเฉิง จึงตั้งใจที่จะเก็บคะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นแคปซูลเครื่องบินในครั้งต่อไป
แม้ว่า หลินเฉิง จะไม่เคยใช้เครื่องบินเลย แต่ทุกอย่างสามารถเรียนรู้ได้ตราบใดที่เขาไปถึงเขตความปลอดภัยเซียงโจวเขาสามารถใช้ความสัมพันธ์ของลุงหลี่ช่วยหานักบินมาสอนเขาได้…
“คร่อก คร่อก”
ขณะที่ หลินเฉิง กําลังคิดแผนในอนาคตท้องของเขาก็ส่งเสียงร้องดังเตือนให้เขารู้ว่าเขายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่กินซุปปลาเมื่อตอนเที่ยง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดื่มสารเหลวเสริมความแข็งแกร่งแล้วทําให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและทําให้เกิดความหิวอย่างมหาศาลจนแทบจะกลืนวัวได้ทั้งตัว
หลินเฉิง กําลังสงสัยว่า ฮีฉีฮัน ได้จัดการเก็บหมีดําของเขาไว้ให้หรือไม่ ในขณะที่เขาคิดก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่ชั้นล่าง หลินเฉิง จําได้ว่า ฮีฉีฮัน บอกไว้ว่าจะมีใครบางคนมาส่งอาหาร
หลินเฉิง กุมหน้าท้องของตัวเองและรีบกระโดดลงจากเตียงเพื่อไปชั้นแรกและเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในเครื่องแต่งกายของชาวเย้า อายุประมาณ 15-16 ปีถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหาร
“โอ้..สวัสดี!”
เมื่อเห็นเด็กสาวตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า หลินเฉิง รู้สึกเขินอายเล็กน้อยกับความหิวของตัวเองดังนั้นเขาจึงลูบหัวของตัวเองและกล่าวทักทาย
“คุณ…สวัสดี!คุณปูหัวหน้าหมู่บ้านขอให้ฉันนําบางอย่างไม่ให้คุณกิน!”
เมื่อเห็น หลินเฉิง เด็กผู้หญิงก้มหน้าและพูดราวกับมีเสมหะอยู่ในคอของเธอ
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆนี้ดูเหมือนจะกลัว หลินเฉิงไม่ได้สนใจมากนักหลังจากหยิบถาดจากมือของเธอและบอกขอบคุณเขาก็เตรียมที่จะปิดประตู
แต่เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง กําลังปิดประตูนั้นการแสดงออกของเด็กสาวดูกังวลเล็กน้อยและพูดอย่างรวดเร็วว่า
“ได้โปรด…รอสักครู่!”
“มีอะไรอย่างนั้นหรอ”
เมื่อเห็นว่าเธอมีบางอย่างจะพูด หลินเฉิง จึงขมวดคิ้วและพร้อมที่จะปิดประตู
เด็กสาวกัดริมฝีปาก 2-3 ครั้งแล้วพูดเบาๆว่า
“ฉัน..ฉันขอเข้าไปพูดข้างในได้ไหม?”
“หืม?”
รู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ทําตัวแปลกๆ หลินเฉิง คิดอยู่สักครู่ก่อนเปิดประตูและโบกมือให้เธอ
“เข้ามา!”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง เด็กสาวตัวน้อยผ่อนคลายลงและรีบพุ่งเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว
หลังจากบิดประตู หลินเฉิง พาเธอขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อให้เธอได้มีที่นั่ง จากนั้นก็เปิดฝาถาดออกมาและให้โคล่าโดมเพื่อยืนยันว่าปลอดสารพิษ
ในขณะที่ หลินเฉิง กําลังเดี๋ยวเนื้ออยู่ในปากของเขาเขาก็มองดูหญิงสาวตัวเล็กๆและพูดขึ้นว่า
“ต้องการอะไรก็พูดมา”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง หันมาสนใจเธอหญิงสาวตัวเล็กหายใจเข้าลึกๆและพูดอย่างรวดเร็วว่า
“คุณปู่บอกว่าคุณช่วยพวกเราใช้ไหม?”
หลินเฉิง เงยหน้ามองเธอ 2-3 ครั้งแล้วพูดว่า
“น้องสาวตัวน้อยถ้าอยากจะพูดอะไรก็พูดมา อย่าอ้อมค้อมเหมือนคนแก่!”