Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 136 การฝึกสามเดือน! (2)
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “แน่นอนว่าก่อนที่พวกเขาจะมา พวก เขาไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ แต่การมีใครบางคนจากวังสวรรค์ไพศาลมาปรากฏ ตัวที่พรมแดนนั้นเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก กองทัพภาคเหนือจึงรายงาน ไปยังมีผู้มีอํานาจเบื้องบน ถึงอย่างไรการที่คนจากมหาดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมสงครามแถบชายแดนก็เป็นปัญหาที่อ่อนไหวมาก นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะมีใครบางคนปลอมตัวว่ามาจากวัง สวรรค์ไพศาลด้วย พวกเขาจะไม่ส่งใครสักคนมาตรวจสอบที่นี่ได้ อย่างไร”
โจวเหว่ยชิงขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก ท้ายที่สุดเขาก็ไม่รู้ว่า วังสวรรค์ไพศาลจะทําอะไรหากรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ นั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ ได้ แม้แต่คนที่มีสติปัญญาเพียงครึ่งเดียวก็ยังบอกได้ว่าบุคคลเช่นโจว เหว่ยชิงที่มาจากอาณาจักรซึ่งถูกศัตรูยึดครอง คนที่กําลังฝึกทหารกอง พันนักเลงเช่นนี้จะต้องกําลังคิดทําอะไรบางอย่างอยู่แน่ แม้ว่าเขาจะมี พันธะผูกพันกับปิงเอ๋อร์ อีกทั้งวังสวรรค์ไพศาลก็อาจไม่ลงมือกับเขา แต่อีกฝ่ายก็อาจจะไม่สนับสนุนเขาเช่นนั้น
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์หัวเราะคิกคักและกล่าวว่า “เอาล่ะ เจ้าไม่ จําเป็นต้องคิดมาก ท่านพ่อและท่านลุงของข้าไม่คิดหยุมหยิมกับทหาร
เพียง 1,000 นายหรอก พวกเขาไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวหรือสายตาไร้แวว กองทัพจ้งเทียนของเรามีทหารมากกว่า 2,000,000 นาย เพียงแค่ทหาร กองพันเดียวย่อมไม่นับเป็นอะไรได้หรอก นอกจากนี้ เจ้ายังไม่ตระหนัก อีกหรือว่าพวกเขาพยายามจะดึงเจ้าเข้ามาอยู่ข้างเรา? ไม่เช่นนั้น ครั้ง ก่อนที่เจ้าทําลายโอกาสยึดครองไข่มังกรในเขตแดนมิติสะท้อนของเรา พวกเขาจะปล่อยเจ้าไปอย่างง่ายดายเช่นนั้นหรือ? นั่นแสดงให้เห็นว่า พวกเขาชอบเจ้ายิ่งกว่าไข่มังกรเสียอีก”
โจวเหว่ยชิงชะงัก ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ที่ริมฝีปาก “อืม…เช่นนั้น… ก็ หมายความว่าสามีของเจ้ามีเสน่ห์ใช่ย่อยเลยนี่!”
“ชิ เจ้าเป็นสามีของใครกันมิทราบ? ข้าขอเตือนว่า…เจ้าดูแลตัวเอง ให้ดีก่อนจะดีกว่า เวลานี้พี่ใหญ่จ้านอยู่ที่นี่ ข้าให้ข้ออ้างกับเขาว่าข้าอยู่ ที่นี่เพื่อคอยจับตาดูเจ้า เมื่อเจ้าพบเขาในภายหลัง เจ้าควรยับยั้งชั่งใจ ตัวเองให้ดี เขาไม่ได้ชอบเจ้าเลยสักนิด”
“จ้านหลิงเทียน?” หัวใจของโจวเหว่ยชิงเต้นผิดจังหวะ เขาไม่ชอบ สหายคนนั้นเช่นกัน “บาดแผลของเขาหายดีแล้วหรือ?”
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พยักหน้าและกล่าวว่า “เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่า ใครอยู่ที่นี่ ท่านพ่อจึงส่งพี่ใหญ่จ้านที่เพิ่งฟื้ นจากอาการบาดเจ็บมาด้วย ตัวเอง เขาอยู่ที่นี่มาประมาณ 1 เดือนแล้ว เพราะข้ากลัวว่าจะกระทบ กับการฝึกของเจ้า ข้าจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเจ้าก่อนหน้านี้”
โจวเหว่ยชิงรู้สึกปวดหัวจี๊ดๆ ที่ขมับทันทีที่ได้ยินว่าจ้านหลิงเทียน มาที่นี่ เขารู้ว่าสหายคนนั้นเกลียดความกล้าหาญของเขา นอกจากนี้อีก ฝ่ายยังเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นเยาว์ของวังสวรรค์ไพศาล แม้แต่กับ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ เขาก็ยังสามารถเอาชนะได้
“เขาต้องการพาเจ้ากลับไป?” โจวเหว่ยชิงถามคําถามที่ตนกังวล มากที่สุดในตอนนี้
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์แค่นเสียงตอบว่า “หากหญิงสาวผู้นี้ต้องการจะ ทําอะไรแล้วล่ะก็ แม้แต่เขาก็หยุดข้าไม่ได้หรอก ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ ไปไหน”
“ดี ดี ข้าคงทนไม่ได้หากเฟยเอ๋อร์ทิ้งข้าไป” โจวเหว่ยชิงยิ้มออกมา อย่างมีความสุข หากซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ไม่ต้องจากไปพร้อมจ้านหลิง เทียน เขาก็ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมาที่นี่
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวต่อ “ เอาล่ะ รีบไปอาบน�าเถอะ ข้าจะไป เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่”
…
โจวเหว่ยชิงอาบน�าเย็นอย่างลวกๆ และรวดเร็ว สําหรับกองพันไร้ พ่าย สิ่งเดียวที่พวกเขามีไม่ขาดคือน�า ที่นี่มีบ่อบาดาลใต้ดินหลายแห่ง แม้กระทั่งในฤดูหนาวที่รุนแรง น�าในบ่อก็ยังไม่แข็งตัวเป็นน�าแข็ง
มิฉะนั้นกองพันนักเลงก็คงจะตายไปนานแล้ว การวางผังอุโมงค์ของโจว เหว่ยชิงได้ถูกออกแบบมาโดยรวมบ่อน�าเหล่านั้นเอาไว้ด้วย และทําให้ มั่นใจว่าพวกมันจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี
เมื่อโจวเหว่ยชิงกลับไปที่กระโจมของเขา ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็พา ทั้งกลุ่มมาถึงแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้เรียกจ้านหลิงเทียนมาด้วย ถึง อย่างไรความลับบางอย่างของกองพันไร้พ่ายก็ไม่ได้มีไว้ให้เขาฟังอยู่ แล้ว
หลินเทียนอ้าว โตวโตว หยุนลี่ เว่ยเฟิง หัวเฟิง คนทั้งหมดล้วนอยู่ ที่นี่ เนื่องจากกระโจมมีขนาดเล็ก ซ่างกวนเฟย เอ๋อร์จึงไม่ได้เรียกทุกคน เข้าไปในกระโจม
“อาจารย์หัวเฟิง” โจวเหว่ยชิงทักทายเขาก่อน
หัวเฟิงยิ้มน้อยๆ มองโจวเหว่ยชิงขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะพูดว่า “แม่จะ ผอมลงไปเยอะ แต่ก็มีพลังซุกซ่อนอยู่ข้างในเป็นอย่างดี ไม่เลว ดู เหมือนว่าเจ้าจะมีพัฒนาการในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา”
โจวเหว่ยชิงเผยรอยยิ้มและกล่าวว่า “แน่นอน ศิษย์ผู้ยิ่งใหญ่ของ ท่านยอดเยี่ยมอยู่แล้ว! แล้วทักษะยิงธนูของทุกคนเป็นยังไงบ้าง?”
หัวเฟิงกล่าวว่า “ดีกว่าที่ข้าคาดเอาไว้มาก ทหารในกองพันไร้พ่าย ของเจ้าเหล่านี้เป็นทหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์และพื้นฐานดีเลย
ทีเดียว นอกจากนี้ ระบบการให้รางวัลและลงโทษของเจ้าก็ค่อนข้าง ให้ผลใช้ได้ หลังจากผ่านการฝึกมา 3 เดือน ความแม่นยําพื้นฐานของ พวกเขาก็ไม่มีปัญหาแล้ว นอกจากนี้ทหารส่วนใหญ่ยังมีพลังปราณ สวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงน่าจะแม่นยําในระยะประมาณ 300 หลา บาง คนที่มีทักษะดีๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 500 หลาได้”
เมื่อได้ยินคําพูดของหัวเฟิง โจวเหว่ยชิงก็อิ่มเอมไปด้วยความสุข ด้วยทักษะการยิงธนูระดับหัวเฟิง การที่เขาชมเชยมากขนาดนี้ย่อม หมายความว่าเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่เคลื่อนที่แล้ว ทหารของเขามี ความแม่นยําที่ยอมรับได้อย่างแน่นอน การที่ทหารกองพันไร้พ่ายทุก คนทําสิ่งนี้จนสําเร็จภายใน 3 เดือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ
โจวเหว่ยชิงหันไปหาซ่างกวนเฟยเอ๋อร์และถามว่า “แล้วเจ้าล่ะ?”
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “ก็ดี…ทหาร 169 นายได้เลื่อนระดับ พลังปราณสวรรค์ของพวกเขา จากทั้งหมดนั้นมี 31 คนได้รับมณีเพิ่ม คนละดวง อย่างน้อยพวกเขาทั้งหมดก็มีพัฒนาการที่ดีมากในแง่ของ การตอบสนองและทักษะการต่อสู้ระยะประชิด อย่างน้อยพวกเขาก็ ไม่ใช่กองทรายร่วนมือ[1]อีกต่อไป ทหารเหล่านี้ยังไม่เชี่ยวชาญในการ ต่อสู้ร่วมกัน แต่มันก็ยังถือเป็นพัฒนาการที่ดี หากจ้าวมณียุทธ์เหล่านั้น สามารถหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์ครบชุดได้ พวกเขาก็น่าจะ กลายเป็นยอดฝีมือที่ไม่ควรมีใครกล้าดูถูกง่ายๆ”
“มีคนมากมายที่ได้เลื่อนระดับงั้นรึ?” แม้ว่าทหารกองพันไร้พ่าย จะมีพลังปราณอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต�าและสามารถทะลวงผ่านไปอีก ระดับได้ง่ายกว่าพวกระดับสูงๆ กระนั้นหลายคนก็ยังสามารถทําเช่นนี้ ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ นี่เป็นสิ่งที่โจวเหว่ยชิงไม่คาดคิดมาก่อน ซ่างกวน เฟยเอ๋อร์มาจากวังสวรรค์ไพศาล และสายตาของเธอย่อมต้องเฉียบคม มาก หากหญิงสาวผู้นี้บอกว่าทหารกองพันไร้พ่ายเป็นขุมกําลังที่ไม่ควร มีใครดูถูก ทุกคนก็คงนึกออกว่ากองพันนักเลงได้เติบโตขึ้นมามากแค่ ไหนในเวลานี้
หลินเทียนอ้าวกล่าวว่า “ข้าได้ฝากให้สี่น้อยและขี้เมาเป่ากลับไปที่ เมืองเทียนเป่ยเพื่อจัดการสิ่งต่างๆ ชุดเกราะที่เราสั่งทําขึ้นมา โดยเฉพาะยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร แต่ 100 ชุดแรกทําเสร็จ แล้วและอยู่ระหว่างการขนส่ง มันน่าจะไปถึงเมืองเทียนเป่ยในไม่ช้านี้ เนื่องจากมีสินค้ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ การจัดส่งของเราจึงจะทําการ เคลื่อนย้ายเป็นรอบๆไป และเพราะหน่วยบัญชาการกองทัพภาคเหนือ ส่งคันธนูและลูกศรมาให้เรา เราจึงไม่ได้ขาดแคลนสิ่งนั้น คราวนี้ข้านํา ทองคํามา 500,000 เหรียญซึ่งน่าจะเพียงพอสําหรับการฝึกของทหาร ไปอีกระยะ ข้าได้ส่งต่อให้พี่ใหญ่เว่ยดูแลเรื่องนี้แล้ว
หลินเทียนอ้าวไว้วางใจได้เสมอมา โจวเหว่ยชิงสามารถทําใจให้ สบายเมื่อให้เขารับผิดชอบงานบางสิ่งบางอย่าง
เว่ยเฟิงยิ้มและพูดขึ้นว่า “การขุดอุโมงค์เป็นไปได้ด้วยดี ขณะนี้มี การเชื่อมอุโมงค์หลักสองสามแห่งเข้าด้วยกันแล้ว รูระบายอากาศที่ ซ่อนอยู่ก็ทําได้ดีเช่นกัน บางส่วนเชื่อมต่อกับต้นไม้ในป่าโดยตรง เว้นแต่ จะมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน มิฉะนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะ ค้นพบมัน ด้วยรูระบายอากาศพวกนี้ แม้ว่าทหารทั้งกองพันของเราจะ ย้ายไปอาศัยอยู่ในอุโมงค์ก็ไม่น่ามีปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตาม เรายังคง ต้องลงมือขุดขยายออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พวกเรามีพื้นที่ใช้งาน มากขึ้น ในแง่ของระบบส่งน�า เราได้ทําการเชื่อมบ่อน�ากับส่วนหนึ่งของ อุโมงค์แล้ว ด้วยการเตรียมการของพวกเราและอาหารที่เก็บสํารองไว้ เมื่อกองทัพอาณาจักรวั่นโซ่วบุกเข้าโจมตีในปีนี้ เราก็ควรจะ สะดวกสบายกว่าปีก่อนๆ มาก อ้อ หลังจากมอบรางวัลต่างๆ ในหลาย วันที่ผ่านมา เหรียญทองที่ใช้ไปทั้งหมดคือ…
โจวเหว่ยชิงโบกมือและพูดว่า “เจ้าไม่ต้องรายงานจํานวนทองคําที่ ใช้กับข้าหรอก ข้าจะฝากเงินนี้ไว้กับเจ้า ตราบใดที่เจ้าคิดว่ามันจะนํามา ซึ่งผลดีก็สามารถเพิ่มรางวัลและบทลงโทษได้ตามที่เห็นสมควร “
เว่ยเฟิงมองไปที่โจวเหว่ยชิง รู้สึกซาบซึ้งอย่างเห็นได้ชัด “ผู้ บัญชาการกองพัน นับตั้งแต่ท่านมาถึง แม้ข้าไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า กองพันไร้พ่ายของเรามีความเหนียวแน่น แต่อย่างน้อยทุกคนก็มี ชีวิตชีวาและ…มีชีวิตอยู่ ตลอดหลายปีที่ข้าอยู่กับกองพันนักเลง ข้าไม่ เคยมีช่วงชีวิตดีๆ ดังเช่น 3 เดือนที่ผ่านมาเลย แม้ว่าทุกวันจะยุ่งมาก
แต่ข้าก็รู้สึกว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยความหวัง พี่น้องของเราส่วนใหญ่ก็ รู้สึกเช่นเดียวกันกับข้า และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะท่าน ไม่ต้องกังวล แม้ว่าจะไม่มีผลตอบแทน ไม่ว่าท่านจะขอให้เราทําอะไร ก็จะไม่มีใคร กล้าต่อต้านแน่นอน ไม่เช่นนั้นข้าคงจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไปง่ายๆ”
โจวเหว่ยชิงหัวเราะอย่างเต็มที่และกล่าวว่า “ผลประโยชน์ยังคง เป็นสิ่งที่จําเป็น นอกจากนี้ ข้ายังต้องการให้พี่น้องของเรามีความสุขกับ การทํางานหนัก สิ่งที่เจ้าต้องปลูกฝังพวกเขาก็คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชีวิตของตนเองย่อมสําคัญที่สุดเสมอ เพราะชีวิตของคนเราเป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมีเงินแต่ไม่สามารถใช้จ่ายได้เพราะ ตายไปก่อน มันจะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากหรือ?” เว่ยเฟิงพยักหน้า เขาชื่นชมวิธีคิดของโจวเหว่ยชิงมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะผู้บัญชาการกองพัน เด็กหนุ่มจะดูแลทิศทางโดยรวมเท่านั้น ไม่ วุ่นวายกับทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และปล่อยให้คนของเขาจัดการ แทน นั่นคือเครื่องหมายของผู้นําที่ดี
หยุนลี่กล่าวว่า “ข้าและโตวโตวก็ไม่มีปัญหาใดๆ ม้วนคัมภีร์ ศาสตรามณียุทธ์ธนูยาวที่เจ้าร้องขอ เราได้เตรียมไว้แล้ว 300 ชุด สําหรับปีกศาสตรามณียุทธ์ เราก็ได้ทําครบ 150 ชุดแล้ว”
“นอกจากนี้ เรายังได้สร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับ ปรมาจารย์อีกหลายชิ้น สิ่งเหล่านี้อาจทําให้เสร็จสมบูรณ์ได้ไม่ยาก แต่ก็
มีค่าใช้จ่ายสําหรับวัตถุดิบจํานวนมาก บางอย่างก็ค่อนข้างแพง นอกเหนือจากชุดเกราะโลหะผสมไทเทเนียมที่เจ้าสั่งซื้อ คํานวณจาก เวลาและค่าใช้จ่ายทั้งหมด เงินของเจ้าสามารถอยู่ได้อีกเพียงครึ่งปี เท่านั้น ทั้งหมดต่อจากนี้ล้วนขึ้นอยู่กับเจ้า”
หากจะเอ่ยว่าใครพอใจกับช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามากที่สุดก็คง จะต้องเป็นหยุนลี่ เขาสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ร่วมกับโตวโตว ทุกวัน ชายหนุ่มจึงเต็มไปด้วยพละกําลังและแรงจูงใจ ตลอดเวลาที่ ทํางานร่วมกัน เขารู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า สาวน้อยจอมมึนคนนี้จะแยกแยะความรู้สึกชอบพอกับทุกๆ สิ่งออกจาก กันไม่เป็น แต่ 3 เดือนที่ผ่านมาก็ทําให้เธอใกล้ชิดกับหยุนลี่มากขึ้น เรื่อยๆ ในเวลาเดียวกัน การสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ร่วมกับ โตวโตวก็ทําให้เขาได้เรียนรู้มากมายจากเธอ เพราะท้ายที่สุดโตวโตวก็ เป็นศิษย์รักของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และหญิง สาวก็ไม่ได้คิดที่จะปกปิดอะไรจากเขา ทักษะการสร้างม้วนคัมภีร์ ศาสตรามณียุทธ์ของหยุนลี่จึงอาจกล่าวได้ว่าพัฒนาขึ้นอย่างก้าว กระโดด แม้ว่าเขาจะยังห่างชั้นจากมาตรฐานของโตวโตว แต่การ พัฒนาเช่นนี้ก็ทําให้ชายหนุ่มมั่นใจว่าโจวเหว่ยชิงจะต้องไล่ตามตนเอง ไม่ทันแน่นอน เช่นนี้เขาจะไม่รู้สึกพึงพอใจกับตัวเองได้อย่างไร? ใน เวลาเดียวกัน โตวโตวก็เข้าใกล้การเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับ เทวะมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็เชื่อมั่นว่าเธอจะทําสําเร็จได้ในไม่ช้านี้
แม้จะได้ยินว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์หลายชิ้นเสร็จสมบูรณ์ แล้ว แต่โจวเหว่ยชิงก็ยังไม่ตื่นเต้นเกินไปนัก ด้วยระดับทักษะของโตว โตวและหยุนลี่ การสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับสูงธรรมดาๆ เหล่านี้จึงค่อนข้างง่ายสําหรับพวกเขา และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เด็ก หนุ่มคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม คําพูดเดียวกันนี้ให้ผลที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง กับหูของเว่ยเฟิง 4…ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์เกือบ 500 ชุด! แม้ ศาลาศาสตรามณียุทธ์จะเป็นผู้จัดหาให้ด้วยตัวเองก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทว่าอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ทั้ง 2 นี้ เมื่อรวมโจวเหว่ยชิงอีกคน กอง พันไร้พ่ายก็มีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าแล้ว สิ่งนี้ทําให้เขามั่นใจใน ตัวโจวเหว่ยชิงมากยิ่งขึ้นและยึดมั่นในความตั้งใจที่จะติดตามอีกฝ่ายไม่ ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม
หลังจากได้ยินคําพูดของหยุนลี่ โจวเหว่ยชิงก็หัวเราะอย่างเต็มที่ และพูดว่า “ดูเหมือนกองพันไร้พ่ายของเราจะเติบโตขึ้นเป็นอย่างดี! เรายังมีเวลาอีก 6 เดือนก่อนการรุกรานประจําปีของอาณาจักรวั่นโซ่ วจะมาถึง ข้าหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น กองพันไร้พ่ายของเราจะสามารถ ต่อสู้กับพวกเขาได้”
……………………………………………
[1] กองทราย โดยทั่วไปแสดงให้เห็นถึงสภาพความแตกแยก ขาด ความสามัคคีกันอย่างสิ้นเชิง