Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 136 การฝึกสามเดือน! (1)
หลังจากตัดสินใจได้ โจวเหว่ยชิงก็เริ่มทุกอย่างโดยไม่ลังเล เมื่อ จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เขาก็เริ่มฝึกอัดทักษะเป็นครั้งแรก
คราวนี้โจวเหว่ยชิงตั้งสมาธิและมุ่งมั่นตั้งใจ ตราบใดที่มันไม่ส่งผล กระทบต่อพื้นฐานร่างกายของเขา เด็กหนุ่มก็จะกําหนดระยะเวลา สําหรับฝึกอัดทักษะ 3,000 ครั้งให้สําเร็จภายใน 5 วัน
โดยปกติ ถ้าหากมนุษย์ไม่กินอาหารและอาศัยดื่มน�าเพียงอย่าง เดียว ร่างกายของเขาจะอยู่ได้นาน 7 วันก่อนจะตาย แน่นอนว่าสําหรับ จ้าวมณีสวรรค์นั้นอาจขยายออกไปได้ถึง 15 วันหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีเช่นนี้มันก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเขาไป จนถึงฐานราก แม้โจวเหว่ยชิงจะเลือกช่วงระยะเวลาฝึก 5 วัน แต่อย่า ลืมว่าเขาจะต้องทําเช่นนี้ต่อไปอีกหลายๆ ครั้ง
ฝึกฝน 5 วัน พักผ่อนและฟื้ นฟูพลังอีก 2 วัน นั่นคือตารางการฝึกที่ โจวเหว่ยชิงกําหนดไว้สําหรับตัวเอง แต่ละครั้งเขาจะมุ่งเน้นไปที่ทักษะ เดียว และหลังจากอัดทักษะนั้นครบ 5 วัน เขาก็จะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม เพื่อให้ร่างกายของเขาได้รับการรักษาและฟื้ นฟูกลับคืนมาอีกครั้ง ใน ขณะเดียวกันก็คิดทบทวนเกี่ยวกับประสบการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
และสรุปกับตัวเอง ส่วนในวันที่ 7 เด็กหนุ่มจะต้องจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่ เกิดขึ้นในกองพันไร้พ่าย สําหรับการสื่อสารกับคนในเมืองเทียนเป่ย หลินเทียนอ้าวและสิ่งอื่นๆ เขายกให้ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เป็นผู้ดูแล
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์จะนําสินค้าที่หลินเทียนอ้าวมอบให้กลับมาที่นี่ รวมทั้งม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ที่ทําสําเร็จแล้วด้วย
ส่วนโจวเหว่ยชิงก็เริ่มต้นเส้นทางการฝึกฝนที่ยากลําบากของ ตัวเอง เขามีมณี 4 ชุด 6 ธาตุ รวม 24 ทักษะ ในบรรดาทักษะทั้ง 24 อย่างนี้ นอกเหนือจากไม่กี่ทักษะที่ผ่านการฝึกไปแล้ว มีเพียงไม่กี่ทักษะ เท่านั้นที่ไม่อาจฝึกอัดทักษะได้ ซึ่งก็คือทักษะผนึกมังกรเงียบ ทักษะ ผนึกเทพเจ้ามังกรปีศาจ และทักษะย้อนเวลา ส่วนที่เหลือล้วน จําเป็นต้องได้รับการฝึกฝน ตามตารางการฝึก 7 วันต่อหนึ่งรอบ เมื่อ ระยะเวลา 3 เดือนผ่านไป มันก็จะช่วยพัฒนาทักษะของเขาได้มาก ทีเดียว
เมื่อโจวเหว่ยชิงเริ่มใช้วิธีการฝึกนี้เป็นครั้งแรก ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ ค่อนข้างให้การยอมรับกับวิธีที่ว่านี้ ทุกคนรู้จักการฝึกอัดทักษะ 1,000 ครั้ง แต่ไม่มีใครได้ผลตอบรับที่ดีเช่นโจวเหว่ยชิง เนื่องจากวิชาเทพ อมตะของเขาทําให้อัตราการฟื้ นฟูพลังปราณสวรรค์เร็วกว่าจ้าวมณี สวรรค์ทั่วไปมาก เด็กหนุ่มจึงสามารถใช้ทักษะของตนได้เร็วกว่าคน อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถฝึกอัด 1 ทักษะให้เสร็จสิ้นสําเร็จภายใน
เวลาเพียง 5 วัน และตราบใดที่เขาสามารถทนต่อความทรมานใน 5 วัน นั้นได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะมีค่ายิ่งใหญ่มาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปเพียง 2 รอบ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็เริ่ม ปวดใจเพราะอีกฝ่าย
ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ น�าหนักของโจวเหว่ยชิงลดลงอย่างเห็นได้ ชัดเพราะถูกจํากัดอาหาร อย่างน้อย 5 จินหรือมากกว่านั้น แม้ว่าเขาจะ ยังดูมีพละกําลัง แต่กล้ามเนื้อล�าสันของเขาก็ดูเหมือนจะลีบเล็กลง ทั้งหมด
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พยายามห้ามไม่ให้เขาทําต่อไป แต่โจวเหว่ยชิง กลับไม่ยอมหยุดฝึกสิ่งที่เหมือนกับการก้าวสู่ขุมนรกเช่นนี้ เธอรู้ดีว่าเมื่อ คนๆ หนึ่งตั้งปณิธานเพื่อเข้ารับการฝึกเช่นนี้ หากหยุดกลางคัน คน เหล่านั้นก็จะไม่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวผ่านมันไปได้อีก เพื่อ เห็นแก่โจวเหว่ยชิง เธอจึงทําได้เพียงแค่รั้งตัวเองไม่ให้บังคับหยุดเขา และพยายามยืนมองจากด้านข้างด้วยหัวใจปวดร้าว
ทว่าซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็พยายามช่วยในสิ่งที่พอทําได้อย่างเต็มที่
การฝึกอัดทักษะ 3,000 ครั้งในแต่ละรอบของโจวเหว่ยชิงคือเวลา 7 วัน และก่อนวันที่ 5 จะสิ้นสุดลง ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็จะเริ่มเตรียม อาหารให้เขา
โดยปกติแล้ว หญิงสาวจะออกไปแต่เช้าตรู่และไม่มีใครรู้ว่าเธอไป ที่ไหน ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มักจะกลับมาพร้อมกับอสูรสวรรค์ที่ล่ามาได้ และทําซุปเนื้อให้โจวเหว่ยชิง เธอใส่แก่นพลังของอสูรสวรรค์และตัวยา บางอย่างที่นํามาจากวังสวรรค์ไพศาล หลังจากนั้น หญิงสาวก็ทําโจ๊ก ง่ายๆ จากการเคี่ยวน�าซุปที่ว่าเพื่อให้เนื้อสุกจนนุ่มน่ารับประทาน เมื่อ โจวเหว่ยชิงออกจากการฝึก เด็กหนุ่มก็จะถูกต้อนรับด้วยโจ๊กเนื้อหอม อร่อยที่ช่วยให้เขาสามารถฟื้ นตัวได้ทันที
นอกจากนี้ ในขณะที่โจวเหว่ยชิงกําลังฝึกอยู่ หญิงสาวก็จะช่วยเติม น�าอย่างต่อเนื่องหากเขาทําสําเร็จแต่ละส่วน ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ยังเพิ่ม ส่วนผสมของแก่นพลังที่เธอเตรียมไว้ในน�าเพื่อช่วยให้เขาได้รับ สารอาหารที่ดีที่สุดในระหว่างฝึกอีกด้วย
ด้วยวิธีนี้ น�าหนักที่ลดลงฮวบฮาบของโจวเหว่ยชิงจึงค่อยๆ ดีขึ้น แม้ว่าเขาจะยังคงผอมลง แต่ด้วยการดูแลเอาใจใส่อย่างละเอียดและ รอบคอบของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ โจวเหว่ยชิงจึงยังมีสภาพดีขึ้นมาก หลังจากการฝึกแต่ละรอบ
ด้วยวิธีนี้ 3 เดือนจึงผ่านไปในพริบตาและการฝึกของโจวเหว่ยชิงก็ สิ้นสุดลงในที่สุด
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากกระโจมของโจวเหว่ยชิง เป็นเสียง คํารามที่ดุร้ายราวกับราชาแห่งขุนเขา ม้าทั้งหมดในค่ายกองพันไร้พ่าย ถึงกับล้มลงกับพื้นและตัวสั่นสะท้าน
ขณะฝึกสอนทหารกองพันไร้พ่าย ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้น มองด้วยความประหลาดใจกลางคัน เธอวิ่งไปที่กระโจมของโจวเหว่ยชิง ทันทีโดยไม่ลังเลใดๆ นี่เป็นการฝึกครั้งสุดท้ายของเขา และเธอก็ได้ เตรียมโจ๊กเนื้อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ทหารกองพันไร้พ่ายที่อยู่ในระหว่างการฝึกต่างส่งเสียงออกมา อย่างมีความสุขทันทีที่ได้หยุดพัก ทว่ากลับไม่มีใครกล้าหัวเราะใส่ซ่าง กวนเฟยเอ๋อร์ พวกเขารู้ว่าทุกครั้งที่โจวเหว่ยชิงผ่านการฝึกในแต่ละ รอบ ครูฝึกของพวกเขาจะมีความสุขมาก อีกทั้ง 25 คนสุดท้ายของวันนี้ ก็จะรอดจากการถูกตีด้วย
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ได้ก้าวเข้าสู่ตําแหน่ง ผู้นําที่เข้มงวดเด็ดขาด กลายเป็นที่เคารพนับถือของทุกคนๆ ในกองพัน ไร้พ่ายไปเสียแล้ว บางทีอาจจะมีตําแหน่งสูงกว่าโจวเหว่ยชิงด้วยซ�า พวกนักเลงกองพันไร้พ่ายต่างก็เชื่อมั่นอย่างเต็มที่เกี่ยวกับพลังของซ่าง กวนเฟยเอ๋อร์ แต่เหตุผลที่แท้จริงว่าทําไมพวกเขาจึงเต็มใจที่จะเชื่อฟัง หญิงสาวไม่ใช่เพียงเพราะพลังและการใช้ความรุนแรงของเธอเท่านั้น สิ่งที่สําคัญกว่าคือซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ที่ทุ่มเทสอนพวกเขาต่างหาก
ในเวลาเพียง 3 เดือน ทหารกองพันไร้พ่ายทุกคนสามารถยืดอก บอกใครต่อใครได้แล้วว่าความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของ พวกเขาในตอนนี้พัฒนาขึ้นราวกับสวรรค์และนรกเมื่อเทียบกับสภาพ ก่อนหน้า ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นทหารคนใดในกองพันไร้พ่าย หากนําพวก เขาออกไปสู้กับกองทัพปกติ เขาจะต้องเอาชนะหัวหน้ากองร้อยได้ อย่างแน่นอน
ทุกคนรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและพละกําลังที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังมาก ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านการฝึกฝนที่แสนยากลําบากวันแล้ววันเล่ามาได้ แม้ว่ามันจะหนักหนากว่าสิ่งพวกเขาเคยสัมผัสมาก่อน แต่ทุกคนก็ทําได้ เพียงต้องยอมรับมันด้วยใจมุ่งมั่น นอกจากนี้ รูปแบบการต่อสู้ที่ซ่าง กวนเฟยเอ๋อร์สอนพวกเขายังดูเหมือนจะมีผลต่อระดับพลังปราณ สวรรค์เป็นอย่างมาก จ้าวมณียุทธ์ของกองพันไร้พ่ายหลายคนยังได้ก้าว ไปสู่ระดับถัดไปของตนเองแล้วด้วย
สําหรับอาจารย์ทั้ง 7 จากหน่วยเกาทัณฑ์สวรรค์ พวกเขาต่างก็ ผลัดกันเรียนรู้จากซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เช่นกัน เช่นนี้ก็สามารถจินตนาการ ได้แล้วว่าทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์สอนนั้นยอด เยี่ยมเพียงใด
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์รีบวิ่งกลับไปที่กระโจมโดยไม่สนใจความเขิน อายของตนเองอีก ฟังจากเสียงร้องที่ดังขึ้นมาของโจวเหว่ยชิง เธอก็
สามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าพลังปราณสวรรค์ของเขาพัฒนาขึ้นไป อีกระดับแล้ว
ก่อนหน้านี้ หลังจากเกิด ‘อุบัติเหตุ’ ที่ว่าขึ้น ระดับพลังปราณของ โจวเหว่ยชิงก็เพิ่งเพิ่มไปถึงระดับที่ 17 หรือขั้นทะลวงพิภพระดับ 5 เท่านั้น ในระดับเช่นนี้อการทะลวงผ่านไปยังพลังปราณสวรรค์อีกระดับ จะช้ากว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยวิชาเทพอมตะที่เขามี พัฒนาการ ของโจวเหว่ยชิงจึง ‘น่ารังเกียจ’ เป็นอย่างมาก ภายใน 3 เดือนสั้นๆ นี้ เด็กหนุ่มไม่เพียงแต่ทําให้ปราณสวรรค์ขั้นทะลวงพิภพระดับที่ 5 ของ ตนเสถียรแล้วเท่านั้น เขายังทะลุไปถึงระดับที่ 6 ได้อีกด้วย! ดังนั้น ตอนนี้โจวเหว่ยชิงจึงอยู่ห่างจากมณีชุดที่ 5 เพียงอีก 2 ระดับเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบความเร็วในการฝึกปราณระหว่างตัวเธอเอง กับโจวเหว่ยชิงอย่างง่ายๆ หญิงสาวก็ตระหนักได้ว่าหลังออกจากวัง สวรรค์ไพศาล เธอยังไม่ได้ทะลวงผ่านสักระดับเลยด้วยซ�า เวลานี้พลัง ปราณสวรรค์ของเธอจึงอยู่ในระดับที่ 27 ซึ่งห่างจากมณีชุดที่ 7 เพียง 1 ระดับเท่านั้น ตามการคาดคะเนของซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ ขั้นนั้น เธอจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีถึง 1 ปี แม้จะเป็นเพราะการ เข้าสู่ขั้นทะลุสวรรค์ทําให้การทะลวงไปแต่ละระดับยากและช้ากว่าเดิม มาก แต่เธอก็ติดอยู่ในระดับนี้มานานกว่า 6 เดือนแล้ว จากสิ่งนี้เพียง อย่างเดียวก็จะเห็นได้ว่าโจวเหว่ยชิงเพิ่มระดับพลังปราณของเขา
รวดเร็วเพียงใด หากทําต่อไปด้วยความเร็วระดับนี้ บางทีเขาอาจจะไป ถึงมณีชุดที่ 5 ภายใน 1 ปีด้วยซ�า
มณี 1 ชุดต่อปี…ความเร็วเช่นนี้เป็นเรื่องที่จ้าวมณีสวรรค์ทั่วๆ ไป ไม่อาจวาดฝันได้เลย!
เมื่อก้าวออกจากระโจม โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกว่าขาของตนเองสั่น เล็กน้อย ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้กินอาหารมา 5 วันแล้ว และไม่ว่าน�าดื่ม จะช่วยหล่อเลี้ยงร่างกายเขาได้มากแค่ไหน มันก็ยังเป็นแค่น�าอยู่วันยัง ค�า!
จมูกของเขากระดิกเล็กน้อยเพราะได้กลิ่นที่คุ้นเคยของโจ๊กเนื้อ ท้องของเด็กหนุ่มพลันส่งเสียงดังเป็นการประท้วง
“ที่รัก มาเร็ว ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว!”
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ถือโจ๊กเนื้อหม้อเล็กๆ ขณะที่เดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับพูดว่า “สมน�าหน้า! ใครขอให้เจ้าฝึกแบบนี้กันล่ะ กินให้หมด เลยนะ” ขณะพูดอย่างนั้น เธอก็ส่งโจ๊กให้เขาชามหนึ่ง
“อื้ม…กลิ่นหอมดีจัง…แต่น้อยไปหน่อยนะเนี่ย” โจวเหว่ยชิงกลืน โจ๊กที่อุณภูมิพอดีลงไปทั้งชาม ทันใดนั้นความรู้สึกอบอุ่นก็เริ่มแผ่ซ่าน ไปทั่วร่างกายของเขา แม้โจวเหว่ยชิงจะไม่รู้ว่าซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เพิ่ม อะไรลงไปในโจ๊ก แต่เขาก็รู้ว่าสาเหตุที่ตนเองสามารถเพิ่มระดับพลัง
ปราณได้ภายในเวลาเพียง 3 เดือนไม่ใช่แค่เพราะการฝึกฝนที่ ยากลําบากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะโจ๊กและน�าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้เขา ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาด้วย
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “เจ้าไม่ได้กินอาหารมา 5 วันแล้ว จู่ๆ เจ้าจะกินมากเกินไปในทันทีได้อย่างไร?” โจ๊กเนื้อหม้อเล็กนี้เกิดจาก ส่วนผสมที่ดีที่สุดในอาหารและยาที่หามาได้ แต่สามารถทําโจ๊กออกมา เพียง 3 ชามเล็กๆ เท่านั้น สิ่งนี้ย่อมไม่สามารถเติมเต็มกระเพาะของเขา ได้อย่างแน่นอน ทว่ามันมีประโยชน์สําหรับบํารุงและปลุกพลังของโจว เหว่ยชิง หลังจากพักสักระยะหนึ่ง เขาก็จะสามารถกินอาหารได้อย่าง เหมาะสมโดยไม่ทําร้ายตัวเอง
เมื่อโจ๊กทั้ง 3 ชามหมดลงอย่างรวดเร็ว โจวเหว่ยชิงก็ทรุดตัวลงกับ พื้นโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองอีก
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เก็บชามและหม้อพลางพูดว่า “แล้วเป็นอย่างไร บ้าง? เจ้าฝึกอัดทักษะทั้งหมดของตัวเองเสร็จหรือยัง?”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “ใช่ ข้าทําสําเร็จ! ในที่สุดข้าก็เสร็จสิ้นฝึกอัด ทักษะทั้งหมด เจ้าพูดถูก จริงๆ แล้วข้ามีความเข้าใจต่อทักษะทั้งหมด ของตัวเองน้อยเกินไปจริงๆ 3 เดือนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลําบาก และทรมาน แต่มันก็ให้ผลคุ้มค่าอย่างแน่นอน ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่
เป็นคนละคนเลยล่ะ อ้อ ใช่ แล้วการลงทะเบียนสําหรับการซื้อขายกับ อาณาจักรวั่นโซ่วเป็นอย่างไรบ้าง?”
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “สบายใจเถอะ ข้าไปหาผู้บัญชาการ กองทหารเซินจี้ด้วยตัวเองมาแล้ว และทุกอย่างก็ถูกจัดเตรียมไว้อย่าง เหมาะสมเรียบร้อย เราสามารถออกเดินทางได้ทุกเมื่อ และข้าก็พาหลิน เทียนอ้าวกับคนอื่นๆ มาที่นี่เพื่อเตรียมตัวแล้ว”
โจวเหว่ยชิงพลิกตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะดึงซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เข้า มาในอ้อมกอดและมอบจูบอ่อนโยนบนแก้มของอีกฝ่าย “ที่รัก เจ้าช่าง เป็นศรีภรรยาที่ดีจริงๆ เลยน้า”
เมื่อได้รับจูบอย่างกะทันหัน ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็หน้าขึ้นสีชมพูระ เรื่อ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนเล็กน้อยแต่ไม่ประสบความสําเร็จ หญิง สาวจึงส่งกําปั้ นชกเข้าที่ไหล่ของเขาเบาๆ “เจ้าไม่ได้อาบน�ามา 5 วัน แล้วนะ รู้ไหมว่าตัวเหม็นอย่างกับอะไรดี! รีบไปอาบน�าซะ ตอนนี้เจ้าฝึก เสร็จแล้ว ถึงเวลาต้องมาสะสางปัญหาในกองพันไร้พ่ายต่อ ข้าจะไป เรียกคนอื่นๆ มาที่นี่”
โจวเหว่ยชิงเพิ่งได้ลิ้มรสโจ๊กแสนอร่อย และความรู้สึกอบอุ่นที่อวล อยู่ข้างในก็ทําให้เขายังรู้สึกค่อนข้างขี้เกียจ แต่เด็กหนุ่มก็รู้ดีว่าต้องลุก ขึ้นมาล้างหน้าล้างตัว เขาจึงรีบร้อนวิ่งวุ่นกระทืบเท้าตึงตัง
ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์เดินออกไปได้สองสามก้าวก่อนจะหยุดกะทันหัน เธอหันกลับไปกล่าวกับเด็กหนุ่ม “มีบางอย่างที่ข้าต้องบอกเจ้า มีคน จากวังสวรรค์ไพศาลมาที่นี่”
“เอ๊ะ?” โจวเหว่ยชิงอุทานด้วยความประหลาดใจ “ พวกเขารู้แล้ว หรือว่าเจ้าอยู่ที่นี่?”
……………………………………………….