cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป - ตอนที่ 173

  1. Home
  2. All Mangas
  3. Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป
  4. ตอนที่ 173
Prev
Next

ตอนที่ 173 คนที่คุ้นเคย

 

ไม่รู้ว่าเพราะสายฟ้าทั้ง 3 เส้นของม่อี้หรืออย่างไรที่ทําให้ก้อนเมฆดําบนท้องฟ้าเริ่มสลายหายไปในตอนนี้คราบเลือดสีแดงฉานและคําสาปโลหิตสังหารก็หายไปด้วยเช่นกันอย่างน้อยเมื่อการต่อสู้ครั้งนี้จบลงฝนก็ไม่ตกลงมาเหมือนอย่างที่ทุกๆคนคิดเอาไว้และดวงอาทิตย์ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

 

สิ่งที่ตามมาหลังจากการต่อสู้ที่เนินดินครั้งนี้เป็นไปอย่างที่ม่อี้คาดเดาเอาไว้ ผลของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นกระจายออกไปรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง อย่างน้อยเมื่อมอี้และต้าหนิวเข้าไปในเมืองไคเฟิงก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องเขาอีกต่อไป

 

ที่ประตูเมืองมีรูปเหมือนของมู่อี้และต้าหนิวปิดประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนแต่ทหารที่ยืนเฝ้าประตูเมืองอยู่นั้นก็ปล่อยให้มู่อี้และต้าหนิวเดินเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

 

ในระหว่างทางนั้นมีคนธรรมดาหลายๆคนที่ต้องตกตะลึงกับความใหญ่โตของต้าหนิว และคนอื่นๆที่รู้ข่าวเรื่องการต่อสู้ที่เกิดขึ้นต่างก็มองมาที่มู่อด้วยสายตาชื่นชม

 

ศาลาแปดทิศกลายเป็นเพียงชื่อในประวัติศาสตร์ไปแล้ว ในฐานะที่ม่อี้เป็นผู้ทําลายศาลาแปดทิศลงไปด้วยตนเองคงไม่มีใครกล้าเข้ามาล่วงเกินเขาแน่นอน อย่างน้อยที่สุดในเมืองไคเฟิงแห่งนี้คงไม่มีใครกล้าเข้ามาสร้างปัญหาให้กับเขา

 

แม้แต่ที่จวนขุนนางประจําเมืองก็มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ทุกๆคนต่างก็แสร้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

หลังจากมู่อี้เข้ามาในเมืองไคเฟิงแล้วนั้น ก็มีผู้คนมากมายที่รีบเดินทางไปยังเนินดินแห่งนั้นเพื่อต้องการมองดูร่องรอยการต่อสู้ด้วยตาของตนเอง

 

ในตอนที่พวกเขาได้เห็นศพจํานวนมากและหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากสายฟ้านั้น ทุกๆคนต่างก็ต้องกลั้นหายใจทันที พวกเขาย่อมรู้ดีว่าการที่หลุมใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นมานั้นต้องใช้พลังทําลายล้างมากเพียงใด

 

ทุกคนย่อมรู้ดีว่ากุญแจของเส้นทางบรรพกาลแห่งแม่น้ำเหลืองคือสิ่งที่ล้ําค่ามากเพียงใด แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ต้องคิดอีกครั้งว่ากุญแจหรือชีวิตของตนเองที่สําคัญยิ่งกว่ากัน

 

ศาลาแปดทิศแข็งแกร่งหรือไม่? แม้ว่าศาลาแปดทิศจะพ่ายแพ้ในครั้งนี้แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะถึงกับล่มสลาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? การต่อสู้ของศาลาแปดทิศในวันนี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ปรมาจารย์ทั้ง 8 คนของศาลาแปดทิศต่างก็พ่ายแพ้และเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หนีรอดชีวิตไปได้

 

อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นก็ดับความโลภในจิตใจของหลายๆคนไปได้และทําให้พวกเขาต้องคิดเรื่องการช่วงชิงกุญแจให้มากยิ่งขึ้น หลายๆคนคิดว่ามู่ลี้ย่อมแข็งแกร่งพอที่จะถือคล้องกุญแจเอาไว้ในมือของเขาได้

 

เพราะกุญแจของเส้นทางบรรพกาลแห่งแม่น้ำเหลืองนั้นมีอยู่ 6 ดอกและมู่อี้ก็ถือครองเอาไว้เพียงแค่ดอกเดียวเท่านั้น

 

ความละโมบที่เกิดขึ้นในใจก่อนหน้านี้ทําให้หลายๆคนคิดอยากช่วงชิงกุญแจมาเป็นของตนเองแต่พวกเขากลับลืมไปแล้วว่ากุญแจอีก 5 ดอกที่เหลือนั้นต่างก็อยู่ในมือของคนที่พวกเขาไม่อาจล่วงเกินได้เลย

 

ความจริงแล้วกฎเกณฑ์ของยุทธภพนั้นก็ถือว่าเรียบง่ายอย่างยิ่ง หมัดของใครใหญ่กว่าคนนั้นเป็นฝ่ายถูกและนี่ไม่ได้เป็นเพียงกฎเกณฑ์ของยุทธภพเท่านั้นแต่เป็นกฎเกณฑ์ที่ปฏิบัติตามกันทั่วโลกใบนี้

 

หลังจากมู่อี้เข้ามายังเมืองไคเฟิงเขาก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนและนี่ก็คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการลงมือเพียงครั้งเดียวก็ทําให้เหล่าคนโลภมากมายต้องหวาดกลัว

 

อย่างน้อยบทเรียนที่เกิดกับศาลาแปดทิศก็ทําให้การเดินทางของเขาราบรื่นมากขึ้นเรื่อยๆ

 

หลังจากพักผ่อนอยู่วันหนึ่งมู่อี้ก็พาต้าหนิวไปที่ท่าเรือในวันรุ่งขึ้นและเป้าหมายของเขาก็ชัดเจนอย่างยิ่งนั่นคือการล่องเรือไปตามแม่น้ำเหลืองตรงไปที่มณฑลชานตงแล้วจากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางไปที่เมืองฉางโจว

 

ในตอนนี้หลังจากฤดูแล้งผ่านพ้นไป ท่าเรือต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำเหลืองก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งและสินค้าฤดูหนาวจํานวนมากก็กําลังขนส่งไปทางทิศตะวันออก

 

แม่น้ำเหลืองยังมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและพื้นที่บางส่วนที่ต้องเดินทางอย่างระมัดระวังแต่ส่วนทางใต้ของแม่น้ำไม่มีปัญหาอะไร อย่างน้อยม่อี้ก็สามารถเดินทางด้วยเรือจากเมืองไคเฟิงไปยังมณฑลชานตงได้

 

ท่าเรือเต็มไปด้วยเรือบรรทุกสินค้ามากมายและไม่มีเรือโดยสารที่ว่างสําหรับพวกเขาเลย นี่ถือเป็นเรื่องปกติเพราะคนธรรมดาย่อมไม่อาจสร้างเรือขนาดใหญ่ที่ใช้เดินทางหลายพันได้และเรือขนสินค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นของทางราชสํานักหรือไม่ก็ของพ่อค้าที่ร่ํารวยบางคน

 

ดังนั้นถ้าหากมู่อี้ต้องการออกเดินทางด้วยเรือจริงๆ จะมี 2 วิธีให้เขาได้เลือกนั่นก็คือเดินทางไปพร้อมกับเรีอสินค้าส่วนสภาพแวดล้อมภายในเรือนั้นเขาไม่อาจเลือกได้เลย หรือไม่ก็รอเดินทางไปพร้อมกับเรือของจวนเจ้าเมือง

 

เมืองไคเฟิงแห่งนี้ก็มีเรือประจําเมืองแน่นอน แต่มู่อี้เป็นใคร คนอื่นจะยอมให้เขาขึ้นเรือด้วยงั้นหรือ? หรือว่าเขาต้องไปเคาะประตูของจวนเจ้าเมืองและขอยืมเรือหน่อย? ม่อี้เพียงแค่คิดเรื่องนี้เท่านั้นและเขาคงไม่โง่พอที่จะทํามันจริงๆ

 

การที่ม่อี้ทําให้ศาลาแปดทิศล่มสลายลงไปนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับทางราชสํานักอย่างยิ่ง หลังจากลองชั่ง น้ำหนักในใจแล้วทางจวนเจ้าเมืองก็เรื่องที่จะปิดตาข้างหนึ่งและไม่ทําอะไรเขาแต่ถ้าเขาไปเคาะประตูของจวนเจ้าเมืองและขอยืมเรือเช่นนั้นแล้วก็เท่ากับว่าเป็นการเข้าไปมอบตัวใช่หรือไม่

 

แม้ว่ามู่อี้จะทรงพลังมากเพียงใดแต่เขาก็คงไม่กล้าท้าทายราชวงศ์ชิงอย่างแน่นอน แม้ว่าราชวงศ์ชิงในทุกวันนี้จะเสื่อมถอยและสั่นคลอนอย่างยิ่ง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ล่มสลายไปในเร็วๆนี้หรอก

 

และเรื่องเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย มันไม่เหมือนกับการที่เขาสังหารลูกชายของขุนนางใหญ่คนนั้น

 

แม้ว่าม่อี้จะมั่นใจในตนเองแต่เขาก็ไม่ใช่คนหยิ่งผยอง ในทางกลับกันประสบการณ์ต่างๆที่เขาได้รับมาทําให้เขารู้ดีว่าสิ่งใดควรทําสิ่งใดไม่ควรทํา

 

ในตอนที่มู่อี้ตัดสินใจยอมเดินทางไปกับเรือบรรทุกสินค้านั้น เขาก็เห็นเรือสําเภา 2 ใบเรือลําหนึ่งที่เข้ามาจอดที่ท่าเรือช้าๆบนเรือลํานั้นมีศาลาเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่และมีเสียงเครื่องสายที่กําลังดีดเป็นเพลงไม่รู้ว่าเรือล่านี้เป็นของขุนนางหรือพ่อค้าที่ร่ํารวยคนไหนกัน

 

แต่เมื่อม่ได้เห็นเรือลํานี้เข้ามาจอดเทียบท่าช้าๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด

 

“ขอถามท่านนักพรตเต๋ อยากจะเดินทางไปกับพวกเราหรือไม่?” หลังจากเรือเข้ามาเทียบท่าดีแล้วชายวัยกลางคนก็ปรากฏตัวออกมาแล้วจ้องมองมาที่มู่อี้น้ำเสียงของเขาดูมีความเคารพอย่างยิ่งแม้ว่ามันจะมีความหวาดกลัวอยู่ด้วยก็ตามเห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้รู้ดีว่าม่อี้เป็นใคร

 

เมื่อรู้แล้วยังกล้าเชิญชวนแบบนี้แสดงว่าอีกฝ่ายต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่างแน่นอน

 

อาจจะต้องการกุญแจที่อยู่ในมือของเขาหรือต้องการทําความรู้จักกับเขา แน่นอนว่าคนที่ม่อี้หมายถึงนั้นไม่ใช่ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้แต่เป็นเจ้าของเรือที่แท้จริงต่างหาก

 

“ข้าขอไปด้วยนะขอรับ!” มู่อี้พยักหน้า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะต้องการอะไรแต่ม่อี้ก็ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ในทางกลับกันการได้เดินทางไปพร้อมกับเรือที่หรูหราขนาดนี้ช่วยลดปัญหาของมู่ลงไปได้มาก

 

อีกฝ่ายจะเป็นมิตรหรือศัตรูนั้นก็ต้องรอจนกว่าม่อี้จะได้เห็นผู้ที่เป็นเจ้าของเรือลํานี้เสียก่อน

 

“ถ้าหากท่านนักพรตเต๋ไม่รังเกียจก็เชิญขึ้นมาบนเรือได้เลยขอรับ” พ่อบ้านคนนั้นพูดออกมาทันทีโดยไม่ถามว่ามู่อี้กําลังจะไปที่ใด

 

“ได้ขอรับ” มู่พยักหน้าทันทีและจากนั้นก็ก้าวเท้าขึ้นไปบนเรือพร้อมกับตาหนิว

 

เมื่อลู่อี้ขึ้นมาบนเรือแล้ว พ่อบ้านคนนั้นก็เดินนําเขาขึ้นมาบนชั้น 2 ของเรือทันทีและเขาก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีอายุประมาณ 20 ปียืนอยู่ตรงทางขึ้นบันได เมื่อลู่อี้ได้เห็นชายคนนี้นั้นสีหน้าของเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อยเพราะเขารู้จักชายที่อยู่ตรงหน้าของตนเองในตอนนี้

 

“ข้ามีนามว่า ฉือเล่อ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านนักพรตเต๋ ต้องขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับท่านนักพรตเต๋ด้วยตัวเองหวังว่าท่านจะไม่โกรธเคืองข้านะขอรับ” ชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นมาทันที

 

ในค่ําคืนนั้นของชวี่ยจวงแม้ว่าจะได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มู่อี้ก็สามารถจดจําหน้าของชายหนุ่มคนนี้ได้ไม่ลืมเลย ในคืนนั้นเขาพาคนบุกเข้าไปสังหารชวีหยางแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้และเกือบจะต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นั่นแต่มู่อี้ก็ยังรู้สึกประทับใจในตัวชายหนุ่มคนนี้

 

แม้ว่าฉือเล่อจะยังดูอายุน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แต่ที่มู่อี้รู้สึกสงสัยก็คือชายหนุ่มคนนี้ทําไมถึงไม่อยู่บ้านเพื่อฟื้นฟูร่างกายของตนเองให้กลับมาเป็นปกติ เขามาที่เมืองไคเฟิงทําไมกัน?หรือว่ามารอพบตนเอง?

 

“ท่านชายฉืออย่าใส่ใจเรื่องนี้เลยขอรับ” มู่อี้เหลือบมองไปที่ชายหนุ่มคนนี้และเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างชัดเจนแขนซ้ายของเขายังคงขยับไปไหนไม่ได้และดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะยังไม่ได้ดีขึ้นมากนักไม่รู้ว่าเขาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ในวันนี้เพราะเหตุผลใด

 

“ท่านนักพรตจะเดินทางไปที่ใดหรือขอรับ” ฉือเล่อเหลือบมองมาที่มอี้ด้วยความรู้สึกที่หวั่นเกรงในใจ เขาพยายามรับมือกับนักพรตเต๋ที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด ต้องรู้ก่อนว่านักพรตเต๋ผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาอีกฝ่ายสามารถสังหารศัตรูนับร้อยคนในการต่อสู้ได้โดยที่ตนเองไม่เป็นอะไรเลย

 

หลังจากม่อี้ขึ้นไปบนเรือแล้ว เรือสําเภาลํานั้นออกจากท่าเรือไปทันที และล่องไปตามแม่น้ำเหลืองออกห่างจากเมืองไคเฟิงไปอย่างรวดเร็ว

 

หลายๆคนที่อยู่บนท่าเรือถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและพวกเขาต่างก็คิดในใจว่า “ในที่สุดก็ไปได้เสียที”

 

สิ่งที่จวนเจ้าเมืองไคเฟิงหวาดกลัวมากที่สุดก็คือการที่ม่อี้พักอยู่ภายในเมืองไคเฟิงต่อไป เพราะถ้าหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาพวกเขาคงไม่อาจควบคุมอะไรได้เลย

 

เดิมทีแผนการของพวกเขาก็คือจับตามองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปก่อนแต่ไม่คิดเลยว่าม่อี้จะไม่ได้อยู่ที่นั่นานนักและรีบออกเดินทางต่อไปทันที นี่ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสําหรับเมืองไคเฟิง

แม้ว่าจะมีหลายๆคนที่รู้สึกเสียดายเพราะไม่อาจแย่งชิงกุญแจที่อยู่ตรงหน้ามาได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรการรักษาชีวิตของตนเองก็ถือเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด

 

“ท่านนักพรตเต๋ เชิญนั่งลงก่อนขอรับ”

 

บนเรือนั้นหลังจากฉือเล่อเชิญมู่อี้นั่ง เขาก็เหลือบมองไปที่ต้าหนิวอีกครั้ง

 

แม้ว่าเรือลํานี้จะมีขนาดใหญ่พอสมควรแต่มันก็สร้างขึ้นมาสําหรับคนธรรมดาเท่านั้น เมื่อตาหนิวขึ้นมาบนเรือลํานี้เรือทั้งลําก็ดูแคบลงไปทันที แม้แต่ตอนที่ตาหนิวเข้าไปในห้องมันก็ไม่สามารถยืนตัวตรงได้เลยและเก้าอี้ที่อยู่ภายในห้องมันก็ไม่สามารถนั่งได้ด้วยเช่นกัน

 

ดังนั้นตาหนิวจึงไม่รอให้เขาเชิญและนั่งลงไปบนพื้นทันที สีหน้าของมันดูนิ่งเฉยและไม่ได้พูดอะไรออกมาราวกับว่ามันเป็นรูปปั้นที่มีชีวิตเท่านั้น

 

หลังจากม่อี้นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว ฉือเล่อก็มอบสิ่งของตอบแทนชิ้นใหญ่ให้กับมู่อี้ด้วยท่าที่เคารพ “สือเล่อขอขอบคุณที่ท่านนักพรตเต๋ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้”

 

“ท่านชายฉือท่านขอบคุณผิดคนหรือเปล่า? ข้าจําไม่ได้ว่าเคยช่วยเหลือท่านเลยนะ” มู่ยิ้มองมาที่ฉือเล่อและพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ในตอนนั้นเขาซ่อนตัวอยู่ในความมืดและไม่ได้ปรากฏตัวออกไปเลยอีกฝ่ายจะจําเขาได้อย่างไรกัน?

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจช่วยเหลืออีกฝ่าย เขาเพียงแค่ชิงลงมือเมื่อมีโอกาสและอีกฝ่ายก็ถือว่าโชคดีเท่านั้น

 

ในทางกลับกันมู่อี้ต้องขอบคุณฉือเล่อด้วยซ้ํา เพราะถ้าหากเขาไม่ล่อลวงชวีหยางให้ออกไปในตอนนั้นมู่ลี้คงไม่มีทางพบเจอกับเห็ดซากศพได้อย่างง่ายดาย

 

ยิ่งไปกว่านั้นชวีหยางยังถูกกลุ่มของฉือเล่อถ่วงเวลาเอาไว้ทําให้เขาได้รับประโยชน์จากเห็ดซากศพมากพอสมควร

 

ดังนั้นฟูอี้จึงไม่คิดว่าตนเองได้ช่วยชีวิตของฉือเล่อเอาไว้เลย

 

ในขณะเดียวกันมู่อี้ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ในตอนนั้นแม้แต่ชวีหยางก็ยังไม่รู้ว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในชวี่ยจวงแล้วกลุ่มของฉือเล่อจะรู้ได้อย่างไรกัน

 

แต่ทันใดนั้นม่อี้ก็นึกถึงยาจกเฒ่าที่เขาเคยพบเจอขึ้นมาทันทีและมีเพียงยาจกเฒ่าเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ฉือเล่อย่อมไม่อาจทราบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองได้แน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือผู้สืบทอดของสํานักเหมาซานคนปัจจุบันหมิงหลงจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาจกเฒ่าคนนั้น

 

เมื่อคิดเช่นนี้แล้วมู่อี้ก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที แต่เมื่อฉือเล่อเห็นรอยยิ้มของมู่อี้นั้นเขาก็ไม่รู้ว่านักพรตเต๋ผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Cover2
ราชันย์หน่วยรบมังกร
30 กันยายน 2022
The-Most-Powerful-Emperor-System-in-History-150×200
MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ
16 ตุลาคม 2022
มหากาพย์ดาเทวะ_cover
มหากาพย์ดาบเทวะ!
16 ตุลาคม 2022
รูปปก-e1621927757227
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
30 ตุลาคม 2021
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 173"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF