cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป - ตอนที่ 143

  1. Home
  2. All Mangas
  3. Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป
  4. ตอนที่ 143
Prev
Next

ตอนที่ 143 เฝ้ามอง

 

มู่อี้เฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นเงียบๆและเริ่มรู้สึกสงสารทั้ง 5 คนขึ้นมาทันที ถ้าหากไม่มีคนอื่น ที่เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาคงต้องกลายเป็นหนึ่งในผีดิบที่เดินไปมาในลานกว้างแห่งนี้อย่างแน่นอน

 

แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าชวีหยางหายเป็นปกติรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน แต่แม้ว่าชวีหยางจะไม่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เพียงแค่เปยหมิงก็พอที่จะสังหารทุกๆคนแล้วโดยที่ทั้ง 5 คนไม่มีโอกาสหนีไปไหนได้เลย

 

ชวี่หยางยังคงยืนนิ่งอยู่ในตอนนี้ ฉงเจียอี่ถือไม้เท้าในมือของเขาและดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อยจนดูราวกับว่าเป็นเพียงชายคนหนึ่งที่ผ่านมาที่นี่เท่านั้น ในตอนแรกเขาคิดว่าผู้ที่ถูกพบเจอตัวคือมู่อี้  จนเขารู้สึกตื่นตระหนกและคิดหาทางช่วยเหลือมู่อี้มากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เขาได้เห็นในตอนนี้จะเป็นกลุ่มผู้มาเยือน 5 คนที่เขาก็ไม่รู้ว่าคือใคร

 

ฉงเจียอี้คิดว่าทั้ง 5 คนนี้คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยและเขาเองก็ไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเหลือคนเหล่านี้เลย แต่เขากําลังคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ต่อไปหรือไม่ดี เพราะไม่ว่าอย่างไรชื่อเสียงของเขาก็อยู่ในด้านที่ไม่ดีอยู่แล้วไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เข้าร่วมกับชวีหยางและแฝดผีแห่งเหอเจี้ยน

 

แม้กระทั่งตอนนี้ฉงเจียอี้ก็ไม่ได้คิดว่าเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนดีแล้ว เขาก็แค่มีเจ้านายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนเท่านั้นและมู่อี้ก็ไม่เคยบีบบังคับว่าเขาต้องใช้ชีวิตอย่างไร

 

ไม้เท้าที่มู่อี้บอกว่ามันไร้ประโยชน์อยู่ในมือของเขาในตอนนี้ เมื่อรวมกับรูปลักษณ์ของเขามันทําให้เขาดูเหมือนกับชายชราธรรมดาคนหนึ่งมากขึ้นไปอีก

 

และชวีหยางก็อาจจะทราบถึงความพิเศษของไม้เท้าอันนี้แล้วก็เป็นได้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ชั่วร้ายแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนที่ละโมบโลภมากเสมอไป แต่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับคุณค่าของสมบัติชิ้นนั้นด้วยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดไม้เท้าอันนี้ก็เป็นเพียงอาวุธวิญญาณขั้นแรกเริ่มเท่านั้น การที่เขาสังหารฉงเจียอี้และแย่งชิงมันมาคงไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก และถ้าหากเรื่องนี้กระจายออกไปคงไม่มีใครอยากจะเข้าร่วมกับชวีหยางแน่นอนในอนาคต

 

ดังนั้นแม้จะเป็นคนที่ชั่วร้ายคนหนึ่ง แต่ชื่อเสียงก็เป็นสิ่งที่สําคัญ

 

แน่นอนว่าถ้าหากไม้เท้าอันนี้คืออาวุธวิญญาณที่แท้จริง เขาย่อมไม่สนใจชื่อเสียงของตนเองอีกต่อไปและพร้อมที่จะแย่งชิงมันมา ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่ามันมีค่ามากแค่ไหน

 

“เจ้าจงใจปล่อยข่าวลวงเพื่อหลอกพวกข้างั้นหรือ?” หลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ถือเล่อก็ตะโกนออกมาพร้อมกับจ้องมองมาที่ชวี่หยาง

 

สีหน้าของคนที่อยู่รอบๆตัวเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

 

เดิมที่พวกเขาคิดว่าตนเองจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถสังหารชวีหยางและทําลายชวี่ยจวงไปได้พวกเขาก็จะได้ชื่อเสียงและเงินทองมากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะพาตัวเองเข้ามาตายในกับดัก

 

ถ้าหากพวกเขารู้ว่าชวีหยางไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย คงไม่กล้าบุกเข้ามาที่นี่อย่างแน่นอน

 

“นั่นก็เพราะตัวเจ้าเองไม่ใช่หรือ?” สีหน้าของชวี่หยางแสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมามากยิ่งขึ้นและเขาขี้เกียจเกินกว่าจะพูดไร้สาระกับคนกลุ่มนี้จึงโบกมือของตนเองออกไปทันที และหลังจากนั้นผีดิบมากมายที่อยู่ในลานกว้างแห่งนี้ก็ถาโถมเข้ามาหาทั้ง 5 คนนี้ทันที

 

ในตอนนี้ทั้ง 5 คนดูหวาดกลัวอย่างยิ่ง พวกเขาไม่มีความคิดที่จะเอาชนะศัตรูอีกต่อไปและคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากที่นี่เท่านั้น

 

แต่แม้ว่าพวกเขาจะถือว่าเป็นมือใหม่ในยุทธภพแห่งนี้ พวกเขาก็รู้ดีว่ามีทางเดียวเท่านั้นที่ตัวเองจะรอดไปได้และการหนีไปทั้งแบบนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน

 

“ชวี่หยาง ท่านพ่อของข้าคือประมุขของเมืองลั่วหยาง ถ้าหากเจ้ากล้าทําร้ายข้าแม้แต่ปลายเส้นผม กองทัพของท่านพ่อข้าจะบุกมาที่ชวี่ยจวงแห่งนี้แน่นอน” ผีดิบจํานวน มากกําลังล้อมรอบฉือเล่อและคนอื่นๆเอาไว้ในตอนที่ชายหนุ่มกําลังคิดหาวิธีเอาตัวรอดนั้นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งและใบหน้าเล็กๆของนางก็เริ่มซีดขาวและร่างกายของนางก็มีอาการสันเล็กน้อย

 

แม้ว่าจะแอบเฝ้ามองอยู่แต่ม่อี้ก็อดส่ายศีรษะขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินคําพูดของหญิงสาวคนนั้น หญิงสาวผู้โง่เขลาคนนั้นคิดจริงๆหรอว่าชื่อเสียงของบิดาของนางจะทําให้ชวี่หยางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาได้? แค่การดํารงอยู่ของชวี่ยจวงก็มากพอที่จะอธิบายได้แล้วว่าพวกเขาไม่เคยหวาดกลัวผู้ใด ถ้าหากความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มีอยู่จริงเช่นนั้นชวี่ยจวงก็คงถูกทําลายไปนานแล้ว

 

และกองทัพของเมืองลั่วหยางเห็นได้ชัดว่าไม่เคยอยู่ในสายตาของชวี่หยางเลย

 

หลังจากได้ฟังคําพูดของหญิงสาวชวีหยางก็ยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมาทันที “บุตรสาวของประมุขเมืองลั่วหยางงั้นหรือ? แม้ว่าเจ้าจะเป็นบุตรสาวของฮ่องเต้ เจ้าก็ไม่มีทางรอดจากที่นี่ไปได้แน่นอน”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้หญิงสาวก็แสดงสีหน้าที่สิ้นหวังออกมาทันที “ข้าขอท้าประลองกับเจ้า!”

 

“ท่านใจเย็นก่อนเถอะ!”

 

โชคดีที่ถือเล่อยังไม่ได้เสียสติไปในตอนนี้ กลับกันในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้เขากลับดูสงบนิ่งอย่างยิ่ง เขาคว้าเอาไว้ที่แขนของหญิงสาวคนนั้นและตะโกนออกมาทันทีพร้อมกับมืออีกข้างหนึ่งที่ ทําสัญญาณให้หญิงสาวคนนั้นเงียบก่อน ท่าทีของเขาในตอนนี้แตกต่างจากตอนแรกไปอย่างสิ้นเชิงราวกับคนละคน

 

นักพรตเต๋ที่อยู่ข้างๆเขาก็เริ่มลงมือแล้ว แส้หางม้าที่อยู่ในมือของนักพรตเตผู้นี้ก็เริ่มโบกสะบัดขึ้นมาทันที

 

มีคํากล่าวเอาไว้ว่าในยุทธภพแห่งนี้ผู้ใดที่ใช้แส้หางม้าเป็นอาวุธย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

 

แม้ว่าคํากล่าวเช่นนี้อาจจะเกินจริงไปบ้างแต่ผู้ที่กล้าใช้แส้หางม้าเป็นอาวุธย่อมไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ความจริงแล้วมู่อี้ก็รู้สึกสนใจในตัวนักพรตเต๋ผู้นี้ด้วยเช่นกัน เพราะระดับพลังของอีกฝ่ายก็อยู่ในระดับความยากขั้นที่ 2 ของการฝึกฝนจิตใจ ดูจากช่วงอายุของเขาดูเหมือนจะเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้วยเช่นกัน

 

ไม่รู้ว่านักพรตเต๋ผู้นี้ศึกษาวิชาของลัทธิเต๋มาจากที่ใด

 

ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยพูดออกมาสักคําและทําตัวให้ดูไร้ซึ่งพลังมากที่สุดแต่ไม่ว่ายังไงมู่อี้หรือชวีหยางก็ไม่มีทางละความสนใจไปจากเขาได้อย่างแน่นอน นักพรตเต๋าที่อยู่ในระดับความยากขั้นที่ 2 ของการฝึกฝนจิตใจไม่ใช่คนที่จะพบเจอได้ง่ายๆ

 

ในตอนที่ชวีหยางได้เห็นนักพรตเต๋คนนี้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงนึกถึงมู่อี้ขึ้นมาและมู่อี้ก็แต่งตัวเหมือนกับนักพรตเต๋คนนี้เพียงแต่ว่ามู่อี้อายุน้อยกว่าเท่านั้น เขานึกถึงความเจ็บปวดและความสูญเสียที่ได้รับจากมู่อี้ สายลมที่พัดเข้ามาอย่างรุนแรงเริ่มเบาลงไปแล้วแต่จิตใจของเขากับร้อนรุ่มมากยิ่งขึ้นและคอยจับตามองนักพรตเต๋คนนี้อย่างใกล้ชิด

 

การปล่อยให้ฝูงผีดิบรุมโจมตีทั้ง 5 คนนี้ บางทีอาจจะเป็นการทดสอบของชวี่หยาง

 

ในตอนนี้นักพรตเต๋คนนี้เริ่มลงมือแล้ว แส้หางม้าที่อยู่ในมือของเขาสะบัดเบาๆ และทันใดนั้นก็มีเส้นไหมสีขาวพุ่งออกไปและพัวพันร่างของผีดิบที่กําลังล้อมรอบเข้ามาทันที

 

“พรึ่บ!”

 

ทันใดนั้นนักพรตเต๋ก็ขยับมือเป็นท่าทางที่แปลกประหลาดและเส้นไหมสีขาวของแส้หางม้าก็เหมือนจะกลายเป็นใบมีดที่แหลมคม ต่อจากนั้นร่างกายของผีดิบที่โดนเส้นไหมพัวพันร่างกายอยู่ก็ขาดออกเป็นชิ้นๆทันที

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ดวงตาของมู่อี้ก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย นักพรตเต๋คนนี้ถือว่าเป็นคนที่มีฝีมือคนหนึ่งแต่การที่เขาสามารถสังหารผีดิบพวกนี้ได้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก ในทางกลับกันวิกฤตการณ์ครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

 

ในเวลาเดียวกันเปยหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆชวีหยางก็เริ่มลงมือแล้ว ร่างกายของนางพุ่งเข้าไปหานักพรตเต๋าคนนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้มือขวาของนางยังคงได้รับบาดเจ็บและเล็บของนาง ก็หักไปครึ่งหนึ่ง แต่ในตอนนี้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

 

“ย่าห์!”

 

ในเวลาเดียวกันเมื่อเปยหมิงพุ่งตัวไปนั้น ถือเล่อที่ดึงรั้งร่างกายของหญิงสาวเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยมือของเขาทันทีและแสงสีเงินก็พุ่งเข้าไปโจมตีเปยหมิงอย่างรวดเร็ว

 

“ติ๊ง”

 

เปยหมิงยกมือของนางขึ้นมารับแสงสีเงินที่พุ่งเข้ามา จนท้ายที่สุดแสงสีเงินนั้นก็เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของมัน มันคือใบมีดเล็กๆที่เบาและบางราวกับใบหลิวและพลังที่แฝงมาในใบมีดนี้ก็ไม่ได้ถือว่าอ่อนแอเลย…

 

“ตายซะ!”

 

ทันใดนั้นหญิงสาวคนก่อนหน้านี้ก็ตะโกนออกมาทันที นางสะบัดมือขวาออกไปพร้อมกับผ้าไหมสีขาวที่พุ่งออกไปจากแขนเสื้อของนาง นางพุ่งเข้าไปหาเปยหมิงทันทีพร้อมกับเสียงโลหะปะทะกันที่ดังขึ้นมา

 

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วถ้าหากมู่อี้ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาควรควักดวงตาของตนเองออกมาจะดีกว่า

 

เห็นได้ชัดว่าการแสดงก่อนหน้านี้ของผู้ที่มาเยือนกลุ่มนี้ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง พวกเขาเสแสร้งปกปิดพลังที่แท้จริงของตนเองจนแม้แต่มู่อี้ก็ไม่อาจรับรู้ได้และดูเหมือนไม่ใช่แค่ม่อี้เท่านั้นแต่ชวี่หยางก็โดนพวกเขาหลอกด้วยเช่นกัน

 

เขาคิดว่าผู้มาเยือนทั้ง 5 คนนี้จะเป็นเพียงแค่มือใหม่เท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นผู้ที่ผ่านประสบการณ์มามากจนหลอกให้พวกเขาหลงเชื่อได้

 

น่ากลัวว่าพวกเขาหลอกชวี่หยางมาตั้งแต่แรกเริ่มและรอคอยจังหวะเพื่อจะได้โจมตีอย่างกะทันหัน

 

ในขณะที่หญิงสาวคนนั้นออกไปปะทะกับเปยหมิงนั้น ชายอีก 2 คนที่เหลือก็สังหารแมลงที่มาลอบโจมตีพวกเขาและตรงเข้าไปหาฉงเจียอี้ทันที แม้ว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนั้นจะไม่ได้มากนักแต่ดูจากประสบการณ์แล้วคงผ่านการต่อสู้มาไม่น้อยเลย

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ฉงเจียอี้ก็รู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันทีแต่ไม้เท้าในมือของเขาก็ยังฟาดเข้าไปหาชายทั้งสองคนที่กําลังตรงเข้ามาในตอนนี้เขาไม่ปิดบังพลังของตนเองอีกต่อไปและรับมือกับชายทั้งสองคนด้วยพลังทั้งหมด

 

ส่วนฉือเล่อนั้น เขาชักดาบยาวที่เป็นประกายของตัวเองออกมาทันทีและกระโดดเข้าไปหาชวี่หยาง

 

แม้ว่าดาบในมือของเขาจะไม่ได้ดูเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายหรือทรงพลังเท่ากับดาบของชิวเยวี่ยยาง แต่มันก็รวดเร็วพอจนเกิดเป็นภาพติดตาบนอากาศและพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากดาบนั้นก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน

 

สีหน้าของชวีหยางก็เปลี่ยนไปทันที เขาจ้องมองมาที่ฉือเล่อที่กําลังพุ่งเข้ามาหาตนเองจากนั้นก็ยื่นมือขวาของตนเองออกไป มือขวาของเขาจากที่เป็นผิวหนังมนุษย์ปกติมัน เริ่มกลายเป็นสีเขียวและมีกรงเล็บขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน

 

“ติ๊ง ติ๊ง”

 

ดาบยาวปะทะเข้ากับฝ่ามือของชวี่หยาง จนเสียงของโลหะที่กระทบกันและประกายไฟปรากฏออกมาให้เห็น จากนั้นถือเล่อก็กระเด็นออกไปทันทีและชวีหยางก็ถอยกลับไปเล็กน้อยฉือเล่อลุกขึ้นมาและพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง

 

ฉือเล่อกระโดดหมุนตัวกลางอากาศ แสงสีเงิน 2 เส้นพุ่งออกมาจากใต้แขนเสื้อของเขาอย่างรวดเร็วและตรงเข้าไปหาชวีหยาง

 

ชวี่หยางสะบัดมือขวาของเขาเพื่อป้องกันแสงสีเงินทั้ง 2 เส้นที่กําลังพุ่งเข้ามาหาทันที แต่หลังจากนั้นถือเล่อก็เข้ามาประชิดตัวของเขาอย่างรวดเร็ว

 

“เป็นไปตามที่ข้าคิดเอาไว้จริงๆ เจ้าของชวี่ยี่จวงคงไม่ใช่คนอ่อนแอ” ฉือเล่อพูดเบาๆกับชวี่หยาง ในตอนนี้ท่าทีของเขาไม่มีการเสแสร้งใดๆอีกต่อไป เขาดูสงบนิ่งและไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยแม้จะตกอยู่ในอันตราย

 

มู่อี้ยังคงจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาสนใจคือเล่อเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ถือเล่อเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงหญิงสาวที่กําลังปะทะอยู่กับเปยหมิงในตอนนี้ด้วยเช่นกัน

 

แต่แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจกับพลังของคนเหล่านี้ แต่ถ้าหากว่าพวกเขามีความสามารถแค่เท่านี้จริงๆเช่นนั้นก็ยากแล้วที่พวกเขาจะเอาชีวิตรอดออกไปจากชี่ยจวง

 

เพราะความน่ากลัวที่แท้จริงของชวีหยางยังไม่แสดงออกมาเลยด้วยซ้ำ ส่วนหญิงสาวคนนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเปยหมิงเลย หลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่านางย่อมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอน

 

โชคดีที่ในช่วงเวลาที่วิกฤติเช่นนี้นักพรตเต๋คนนั้นก็สะบัดแส้หางม้าในมือของเขาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้เปยหมิงก็กระเด็นออกไปทันที

 

“ข้าจะจัดการกับผีดิบตนนี้เอง เจ้าไปช่วยเหลือเสี่ยวเล่อ” นักพรตเต๋พูดกับหญิงสาวคนนั้นทันทีและแส้หางม้าที่อยู่ในมือของเขาก็ยังคงสะบัดอยู่ตลอดเวลา เปยหมิงพยายามต่อต้านพลังของเขาในตอนนี้

 

เปยหมิงมีความเร็วที่โดดเด่นและมีกรงเล็บที่แหลมคมแต่ในตอนนี้นางกลับเข้าใกล้นักพรตเต๋าคนนี้ไม่ได้เลย ความเร็วของนางถูกแส้หางม้าในมือของเขาหยุดเอาไว้และยากที่นางจะได้แสดง พลังของตนเองออกมา

 

เมื่อหญิงสาวเห็นเช่นนี้ นางก็รีบเข้าไปหาฉือเล่อที่กําลังปะทะกับชวีหยางอยู่ในตอนนี้

 

“หึ วันนี้คือวันตายของพวกเจ้าแน่นอน” ชวี่หยางจ้องมองมาที่ทั้งสองคนและพูดออกมาอย่างเย็นชา

 

”เช่นนั้นก็ดี ชวี่หยาง จิตใจของเจ้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย วันนี้ข้าจะใช้ศีรษะของเจ้าเพื่อสังเวยต่อผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิตไปเพราะเจ้า” หญิงสาวคนนั้นจ้องมองมาที่ชวีหยางด้วยสายตารังเกียจ

 

“คิดว่าเจ้าจะทําได้งั้นหรือ?” สีหน้าของชวี่หยางดูชั่วร้ายมากยิ่งขึ้นและในเวลาเดียวกันลมหายใจของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มู่อี้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในความมืดคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของเขาเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะเคยเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของชวีหยางมาแล้วแต่ในตอนนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วขึ้นมา

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

123505076_461354418171453_7115021116014358504_n
ยอดหญิงแห่งวังหลัง
16 ตุลาคม 2022
รูปปก-e1621927757227
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
30 ตุลาคม 2021
181814674_265461685315200_39647941725613363_n
ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนล่มสลาย
24 กรกฎาคม 2022
The-Most-Powerful-Emperor-System-in-History-150×200
MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ
16 ตุลาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 143"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF