Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 163
ตอนที่ 163 ดลใจ
โครม!!
ร่างของบอสกบหนึ่งในสามล้มลงกับพื้นเบื้องหน้าใบดาบขนาดใหญ่ของเมฆที่เพิ่งจะโจมตีปิดฉากเจ้าบอสกบผู้น่าสงสารไปหมาดๆ เพียงพริบตาเดียวหลังจากกิลด์บูรพามาถึงก็โถมเข้าโจมตีบอสได้ทันที แถมอึดใจต่อมาบอสหนึ่งในสามตัวที่เป็นเรื่องน่ากังวลของเจ้าเมืองดานนิวก็ล้มลงเสียแล้ว
ไม่ใช่แค่ผู้ชายคนที่ถือดาบใหญ่ ผู้เล่นที่มากันในครั้งนี้เก่งกาจกันทั้งนั้น มันราวกับว่าต่อให้สู้กันแบบตัวต่อตัวก็ไม่มีใครแพ้ทหารกบเลยแม้แต่คนเดียว คนเหล่านี้ฝีมือดีพอๆกับทหารที่เก่งที่สุดของเมืองกันทุกคนเลย
“ท่านเจ้าเมือง ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ พวกเราจัดควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว”ขณะกําลังมองกองทัพของกิลด์บูรพาบดขยี้กองทัพกบอย่างง่ายดายอยู่นั้น อยู่ๆที่ด้านหลังเจ้าเมืองดานนิวก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาพาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนราวกับพระแม่มาโปรด
“ขอบคุณพวกท่านมาก….ไม่ทราบว่าพวกท่านเป็นใครงั้นหรือ”เจ้าเมืองที่เพิ่งจะได้สติหันไปหาเนตร หัวหน้ากิลด์ย่อยของกิลด์บูรพาด้วยท่าที่ตื่นเต้น หญิงสาวคนนี้แต่งกายด้วยอุปกรณ์ชั้นดีเห็นได้ชัดเลยว่าแม้แต่ในหมู่นักผจญภัยระดับสูงพวกนี้ เธอก็ยังเป็นคนละระดับกันอยู่ดี
“พวกเราเป็นกิลด์ที่ประจําการอยู่ที่เมืองทันดร้า วันก่อนสหายของเราได้รับคําขอร้องจากแม่หนูคนนั้นก็เลย ขอให้พวกเรามาช่วยค่ะ”เนตรตอบพลางมองไปทางนิโคลที่กําลังมองสภาพสงครามด้วยดวงตาซาบซึ้ง ตอนนี้ในหัวของนิโคลคงกําลังฟังเฟ้อไปด้วยความปิติยินดีที่พระเจ้าทรงไม่ทอดทิ้งตนเองแน่ๆทั้งๆที่ทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนของกวีแท้ๆ
“คําขอร้อง?”เจ้าเมืองหันไปมองนิโคลด้วยท่าทิ้งนงง คําขอร้องอะไรงั้นหรือ เด็กคนนั้นรู้จักกับกิลด์ของเหล่านักผจญภัยพวกนี้ด้วยหรืออย่างไร
“ท่านเจ้าเมือง เมื่อวานเด็กคนนั้นวิ่งวุ่นไปทั่วเมืองขอร้องทั้งทหารทั้งนักผจญภัยเพื่อขอความช่วยเหลือให้เมืองเราครับ”ทหารของเจ้าเมืองคนหนึ่งได้ยินที่เนตรพูดก็กล่าวเสริมออกมาทันที เมื่อวานนิโคลวิ่งวุ่นไปทั่วเมืองจริงๆ แถมยังขอร้องคนที่ท่าทางจะสู้ได้แทบจะทุกคนที่ผ่านหน้าไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเอง แม้ตอนนั้นเขาจะแอบคิดว่าเรื่องของนิโคลเป็นเรื่องไร้สาระก็ตาม แต่เมื่อได้เห็นกองทัพกบที่นางพูดแล้วเขาก็ไม่กล้าคิดล้อเล่นกับเธออีก
“แค่คําขอของเด็กคนหนึ่งงั้นเหรอ”เจ้าเมืองมองไปทางเนตรด้วยท่าทีุ่นงง สาเหตุที่เมืองดานนิวเป็นเมืองที่ผู้เล่นไม่นิยมมาอยู่ในเมืองนักเป็นเพราะเจ้าเมืองมีนโยบายไม่มอบของตอบแทนให้กับนักผจญภัยมากเกินไป พวกเขานําสินค้ามาก็จะได้ราคาเท่านั้น ทําให้เควสส่วนใหญ่ได้เงินค่าตอบแทนน้อยกว่าเอาไอเทมที่ได้ไปขายให้พ่อค้าเสียอีก ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เลยไม่ค่อยเข้ามาในเมืองนี้นักและชาวเมืองก็มักจะโดนปฏิเสธคําขอร้องเป็นประจํา
“ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่พอได้ยินเรื่องที่เด็กคนนั้นบอกก็เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจให้ยอมรับคําขอเลย”เนตรตอบพลางเอามือทาบอกตนเองเหมือนกับกําลังจะบอกว่าแม้แต่เนตรเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทําไมถึงยอมเดินทางมาที่เมืองดานนิวเพียงเพราะคําพูดขอร้องของเด็กคนเดียว
“นั่นสิ…อยู่ๆพวกเราก็รู้สึกอยากจะมาช่วยให้ได้ อย่างกับเป็น….คําชี้นําเลย”เจมส์ที่ยืนอยู่แถวนั้นเห็นเจ้าเมืองกําลังหวั่นไหวก็เลยพูดตามบทออกมาเสียหน่อย หากวัดกันแค่เรื่องการแสดงเจมส์ย่อมเก่งกว่าเนตรอยู่แล้ว น้ําเสียงของเขาราวกับลูกแกะที่หลงทางไม่มีผิด ฟังแล้วทําให้เจ้าเมืองดานนิวสะเทือนใจไม่น้อย
ทั้งเรื่อง สารที่เป็นจริง การตอบรับความศรัทธาของพระเจ้า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทําให้ความเชื่อมั่นของเจ้าเมืองดานนิวเอนเอียงไปทีละน้อย พริบตานั้นในหัวของเจ้าเมืองก็ปรากฏคําที่ท่านบิชอปพูดเอาไว้ คําที่ถามตนว่ามีศรัทธาหรือไม่….
ตุบ…
เจ้าเมืองดานนิวเดินเข้าไปหานิโคลก่อนจะทิ้งตัวคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเด็กผู้หญิงคราวลูกตัวเองอย่างไม่อายสายตาใคร เธอได้รับสารจากพระเจ้าเรื่องอันตรายที่จะมายังเมืองของตน แถมยังช่วยเหลืออย่างเอาเป็นเอาตายถึงขั้นตามเหล่านักผจญภัยพวกนี้มาได้ ครั้งนี้ชีวิตของตน และเมืองของตนถูกปกป้องไว้ด้วยมือเล็กๆของเด็กหญิงคนนี้นี่เอง แต่เรื่องนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยามนี้เจ้าเมืองดานนิวได้ถลําลึกเข้าไปสู่ห้วงความคิดที่ว่าผู้ส่งสารให้กับนิโคลคือพระเจ้าไปแล้ว ยามนี้เจ้าเมืองเชื่อจนหมดใจเลยว่า นิโคล คือตัวแทนของพระเจ้า และเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ท่านนิโคล กระผมต้องขอบคุณที่ท่านช่วยเมืองนี้เอาไว้”เจ้าเมืองกล่าวขอบคุณพร้อมก้มหัวลงอย่างนอบน้อม เขาทั้งก้มหัวให้เด็กหญิงที่พยายามปกป้องเมืองและก้มหัวให้กับพระเจ้าในคราวเดียวกัน ทําให้การกระทําครั้งนี้ไม่น่าอับอายเลย
“ทั้งหมดเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าค่ะ ท่านเจ้าเมืองหากจะขอบคุณก็จงสวดภาวนาเถอะ”นิโคลตอบกลับด้วยใบหน้าอ่อนโยน มือทั้งสองข้างของเธอยังกุมเอาไว้ที่อกไม่ยอมปล่อย แม้หากมองจากคนอื่นจะเหมือนเด็กสาวผู้เคร่งศาสนาคนหนึ่ง แต่ในยามนี้คนในเมืองได้ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เหล่าทหารต่างเห็นนิโคลวิ่ง ขอความช่วยเหลือมาแล้วทั้งนั้น เรื่องที่นิโคลเตือนพวกตนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะมีกองทัพกบผุดขึ้นมาจากดินเสียอีก
ตุบ…
เหล่าทหารที่อยู่ตรงนั้นคุกเข่าลงกับพื้นไม่เว้นแม้แต่ท่านบิชอป ทุกคนต่างเทิดทูนเด็กหญิงคนหนึ่งราวกับเป็นตัวแทนของพระเจ้าจริงๆ ไม่ใช่แค่นั้น คนของกิลด์บูรพาเองก็ก้มลงคุกเข่ากับพื้นตามคําสั่งของกวีเช่นกัน ทําให้แม้แต่ผู้เล่นคนอื่นที่มาช่วยเพราะความสงสารต้องย่อตัวลงนั่งคุกเข่าด้วยใบหน้างุนงงไปด้วยภาพเหล่าทหารและนักรบรวมถึงนักบวชชั้นสูงต่างกัมลงคุกเข่าเบื้องหน้านิโคลเช่นนี้ช่างเหมาะกับการถือกําเนิดของสตรีศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
“ท่านบิชอป นี่ท่านล้อเล่นหรือเปล่า”หลายวันหลังจากเหตุการณ์ที่เมืองดานนิว สาร ของพระเจ้าก็ส่งมาให้นิโคลอีกครั้ง คราวนี้ท่านบิชอปไม่ไปคนเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่ขอกําลังทหารของโบสถ์ติดตัวไปด้วย ไม่ใช่แค่นั้น เขายังเชิญบาทหลวงคนอื่นๆติดตามไปด้วย
“ท่านเชื่อจริงๆงั้นหรือว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้าจริงๆ”บาทหลวงที่กําลังขวางบิชอปเอาไว้ถามด้วยท่าที่จริงจัง เพราะการนํากองทัพของโบสถ์ออกไปไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จะทําตามเพราะคําทํานายของเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ไม่ได้
“ข้าศรัทธาและเชื่อมั่นเลยล่ะ”บิชอปตอบพลางเดินแทรกตัวผ่านบาทหลวงคนนั้นไปหน้าตาเฉย แต่ท่าทางบาทหลวงคนนั้นจะไม่ยอมและเดินตามบิชอปไปติดๆ
“มีเรื่องเอะอะโวยวายอะไรกัน”ระหว่างที่ท่านบิชอปและบาทหลวงกําลังยื้อกันอยู่บนทางเดิน ชายชราคนหนึ่งก็เดินเข้ามาต่อว่าทั้งสองเสียอย่างนั้น แต่อีกฝ่ายเป็นถึงบิชอปแท้ๆเหตุใดถึงกล้าต่อว่าได้หน้าตาเฉยกัน
“ท่านคาร์ดินัล”บิชอปเห็นอีกฝ่ายก็ก้มหัวลงทําความเคารพทันที ที่นี่คือโบสถ์ใหญ่ที่อยู่ในเมืองหลวง ไม่แปลกเลยที่จะเจอท่านคาร์ดินัลหรือพระสันตะปาปาในโบสถ์ชั้นในแบบนี้ เพราะที่นี่คือสถานที่ทํางานและสถานที่พักผ่อนของพวกท่านนั่นเอง
“ข้าได้ยินว่าช่วงนี้เจ้าทําตัวแปลกๆ มีเรื่องอะไรกันงั้นเหรอ”พระคาร์ดินัลถามพลางมองไปทางบิชอปด้วยท่าทีจริงจัง ข่าวลือเรื่องนิโคลคงลือว่อนไปทั่วโบสถ์แล้ว มีหรือที่พระชั้นสูงจะไม่สนใจสตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้รับสารของพระเจ้า
“ท่านคาร์ดินัล ข้าจะเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟังครับ” บิชอปยิ้มบางๆออกมาก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้องค์คาร์ดินัลฟัง ตั้งแต่เรื่องที่เขาได้พบกับเทพแห่งปัญญา สารที่ส่งมาให้นิโคล รวมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆ
“ข้าจะลองไปพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตาข้าเอง”องค์คาร์ดินัลหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากบิชอปองค์คาร์ดินัลก พยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจก่อนจะประกาศว่าจะไปดูคําทํานายของนิโคลด้วยตัวเอง เพียงทายถูกครั้งเดียวไม่ถือเป็นปาฏิหาริย์อะไรมากมายหรอก
“นี่เจ้า รู้ได้ยังไงว่าเมืองนั้นจะโดนโจมตี”ขณะกวีกําลังนั่งอยู่ในห้องทํางานของตนเองอยู่ๆวิสก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมถามคําถามกับกวีด้วยท่าที่จริงจังอย่างมาก ตั้งแต่วันนั้นวิสก็จับตาดูกวีมากขึ้น และได้ทราบว่ากวีเป็นผู้ส่งคําทํานายไปให้นิโคลด้วยตัวเองไม่ได้ผ่านเสียงของพระเจ้าอะไรเลย
แต่…ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น กวี รู้ได้อย่างไรว่าเมืองจะถูกโจมตีกบพวกนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่จําศีลอยู่ในดินมาเป็นร้อยๆปี พวกมันเพียงแค่ตื่นแล้วก็ออกล่าเหยื่อเท่านั้น ไม่มีทางที่กวีจะจัดฉากได้แน่ๆ
“เรื่องนั้น เป็นความลับครับ” กวีตอบพลางยิ้มบางๆออกมา น่าเสียดาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม้แต่เทพก็ไม่น่าจะรู้ และไม่รู้ต่อไปน่าจะดีกว่า
“บางที….ผมอาจจะได้ยินเสียงของพระเจ้าจริงๆก็ได้นะ” กวีหัวเราะออกมาพลางมองไปทางวิสที่กําลังทําหน้าทิ้งอย่างไม่พอใจ
“ไม่ตลก เจ้าไม่อยากบอกก็เรื่องของเจ้า ข้าไม่ง้อเจ้าหรอก”วิสพูดจบก็หายตัวไปอีกครั้ง โลกใบนี้มีมารดาของเธอเป็นเทพสูงสุด และมีพวกเธอพี่น้องมีตําแหน่งรองลงมา แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่ากวีเอาคําทํานายพวกนั้นมาจากไหน แล้วเสียงของเทพที่ไหนจะมาพูดกับกวีกันเล่า
“เจมส์…..เดี๋ยวช่วยเตรียมกําลังเสริมไปที่เมืองบาลันด้วย”กวียิ้มบางๆออกมาก่อนจะติดต่อไปยังเจมส์ที่กําลังเตรียมตัวอยู่ข้างนอก ตอนนี้เนตรทําสัญญากับนิโคลไปแล้วว่าจะให้การช่วยเหลือคําทํานายของนิโคลด้วยเหตุผลเรื่องความศรัทธา หลังจากนี้ทุกคําทํานายของอาณาจักรทริชจะมีคนของกิลด์บูรพาไปช่วยเสมอ
“ได้เลย หวังว่าคราวนี้จะไม่ใช่อีเวนท์กระจอกแบบเจ้าพวกกบนั่นอีกนะ”เจมส์ตอบกลับมาด้วยท่าทีไม่พอใจนัก ใช่.. การโจมตีของพวกกบเป็นอีเวนท์ของเกมที่จะเกิดขึ้นตามประกาศของเกม ทุกกิจกรรมในแต่ละเมืองถูกประกาศล่วงหน้าให้ผู้เล่นได้ทราบอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่คําทํานายแต่อย่างไร แต่มันคือกําหนดการต่างหาก