Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 158
ตอนที่ 158
บ่น
“โห ไอ้ป๊อกมันลงทุนมาที่นี่เพื่อขอเข้ากิลด์เนี่ยนะ เจกิลด์แกเป็นกิลด์แบบไหนกันแน่เนี่ย” นก หัวหน้ากลุ่มของเจสมัยเรียนพูดด้วยท่าทีตกใจ ก็จริงอยู่ที่นกเกิดนึกคึกขึ้นมาก็เลยส่งข้อความไปชวนเพื่อนทุกคนในห้องให้มาฉลองกันหน่อย แต่กลุ่มของป๊อกไม่มีใครตอบข้อความเลยมีแค่อ่านเอาไว้เท่านั้น แถมเจ้าป๊อกพอแลกเปลี่ยนเบอร์ติดต่อกับเจก็กลับไปเลยเหมือนมางานเพราะอยากจะขอร้องเรื่องนี้กับเจเท่านั้น เล่นเอาพวกเพื่อนๆของเจอดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่
“หัวหน้ากิลด์เขาเป็นคนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเกมคอมพิวเตอร์นะสิ พวกไอ้ป้อกมันเล่นเกมมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วคงชื่นชมพี่หัวหน้ากิลด์เขาละมั้ง” เจตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ไม่ใช่แค่หักหน้าโป้งด้วยการไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากโป้งเท่านั้น ป๊อกมันยังเทงานเลี้ยงแล้วกลับไปหน้าตาเฉยอีกต่างหาก มีหวังไอ้โป้งคงอารมณ์เสียน่าดู
“ตั้งแต่สมัยนั้นเลยเหรอ พวกเราก็คงไม่รู้จักด้วยสิ” ภูมิเพื่อนคนหนึ่งของเจพูดด้วยท่าที่นึกไม่ออก พวกเขาเพิ่งจะเล่นเกมตอนเกมระบบโลกเสมือนจริงเข้ามาแล้วเท่านั้น ไม่ได้เล่นเกมในช่วงเกมคอมพิวเตอร์เลย เพราะแบบนั้นพวกเขาก็เลยไม่รู้จักกวีสักนิด เพราะสําหรับคนภายนอกแล้วกิลด์สุริยันจันทราก็เป็นเพียงกิลด์ใหญ่ที่โดนกลุ่มพันธมิตรรุมเล่นงานจนแตกพ่ายไปเท่านั้นเอง
“พูดไปก็คิดถึงนะ พวกเรากลับไปเล่นเกมกันอีกดีหรือเปล่า ปล่อยไอ้เจมันเล่นคนเดียวได้ไง”นกว่าพลางเสนอกลางวงกลุ่มเพื่อนด้วยท่าที่ตื่นเต้น ตอนนี้พวกเขาต่างก็หางานได้แล้ว แม้จะไม่ได้ว่างมากแต่ก็ไม่ยุ่งเท่าตอนที่ต้องเข้าโลกเสมือนจริงไปหางานทั้งเช้ากลางวันเย็นรวมถึงตอนกลางคืนหรอก พอมีเวลางานกําหนดตายตัวแล้ว พวกเขาก็มีเวลาว่างที่จะเล่นเกมได้เช่นกัน
“ดีสิ เอาไว้ให้เจมาช่วยแบกพวกเราก็แล้วกัน” หมีหัวเราะออกมาด้วยท่าที่เห็นด้วยพร้อมลากเจเข้าร่วมอย่างรวดเร็ว ก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นที่เข้าไปเล่นก่อนมีไอเทมและเลเวลจะมาช่วยเหลือเพื่อนที่เพิ่งจะเข้ามาเล่นนี่นา
“ได้เลย แต่พวกแกต้องผ่านเกาะเริ่มต้นลงมาก่อนนะ” เจว่าพลางยืดอกอย่างมั่นใจ ฝีมือของเจตอนนี้เรียกได้ว่าต่างจากสมัยก่อนมากทีเดียว แถมพวกเพื่อนๆยังเล่นกันเวลาหลังเลิกงานด้วย ตอนนั้นเจก็น่าจะว่างไปช่วยได้ไม่มีปัญหาอะไร
“พวกเจอยู่ในเกมเอคโค่งั้นเหรอ พวกเราเองก็จะไปเล่นเหมือนกัน” ระหว่างที่กลุ่มของเจกําลังคุยกันอยู่ด้วยท่าที่สนุกสนาน เพื่อนอีกกลุ่มก็ที่ได้ยินเข้าก็เข้าไปทักพวกเจด้วยท่าที่สนใจเสียอย่างนั้น แม้จะไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่เพราะจบมาพร้อมกันก็เลยมีช่วงเวลาไม่ต่างกันนัก พวกเขาก็หางานและเริ่มมีเวลาว่างช่วงนี้กันหมดนั่นล่ะ
“ดีเลย ไหนๆก็จะไปเล่นแล้วพวกเรามารวมกลุ่มกันเถอะ”เพื่อนในกลุ่มของเจได้ยินแบบนั้นก็เริ่มจับกลุ่มเพิ่มแล้วนัดหมายกันอย่างเป็นจริงเป็นจังกันน่าดู
“ถ้าเป็นเกมเอคโค่ละก็ เรามีคนรู้จักอยู่นะ” ระหว่างกลุ่มเพื่อนกําลังนัดแนะกันอยู่นั้น อยู่ๆ โป้งก็เข้ามาแทรกในกลุ่มของเจเสียอย่างนั้น เจ้านี่แก้นิสัยนี้ไม่หายจริงๆสินะ
“รู้จักกิลด์นักล่าอินทรีหรือเปล่า หัวหน้ากิลด์คนนั้นเป็นคนรู้จักของบ้านเราเอง ถ้าให้พวกเขาช่วยรับรองว่าสบายแน่ๆ”อยู่ๆโป้งก็พูดชื่อกิลด์นักล่าอินทรีขึ้นมาเสียอย่างนั้นเล่นเอาเจถึงกับตะลึงไปเลย เหลือเชื่อความบังเอิญแบบนี้ก็มีด้วยงั้นเหรอ เพราะก่อนจะออกมากินอะไรกับเพื่อนๆเจเพิ่งสู้กับกิลด์นั้นมาหมาดๆเลย
“นักล่าอินทรี…นั่นมันกิลด์นักล่าชื่อดังเลยนี่นา” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งได้ยินก็ถึงกับตาโต สําหรับคนเล่นเกมในระดับทั่วๆไปแล้วแค่ชื่อกิลด์นักล่าอินทรีก็ทําให้ตื่นเต้นได้แล้ว แม้ในเรื่องสงครามพวกเขาจะไม่เอาไหนเท่าไหร่ แต่ในเรื่องการล่าพวกเขาก็ถือเป็นกิลด์ฝีมือกิลด์หนึ่งจริงๆนั่นล่ะ แม้จะห่างจากกิลด์อาร์เทมิสของแก้วอยู่มาก แต่ก็เป็นหนึ่งในกิลด์ที่สามารถล่าในสถานที่อันตรายได้อย่างเก่งกาจเหมือนกัน
“ใช่ หัวหน้ากิลด์นั้นเขาบอกว่าถ้าเราจะเข้าไปเล่นก็บอกได้เลย พวกเขาจะช่วยทุกอย่างเอง”โป้งยืดอกคุยโวอย่างได้ใจเสียจนน่าหมั่นไส้ แต่ถ้าเป็นเจสมัยก่อนคงจะมองด้วยความอิจฉาเสียมากกว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เจไม่ตื่นเต้นกันชื่อของกิลด์ระดับกลางอย่างกิลด์นักล่าอินทรี แถมเจยังเพิ่มบดขยี้กิลด์นั้นมาหมาดๆเลย ต่อให้มันจะไม่ใช้ฝีมือของเจทั้งหมดก็ตาม แต่เจก็มั่นใจว่าถ้ายกพวกเข้าปะทะกันจริงๆก็คงสามารถจัดการกิลด์นั้นได้ไม่ยากเลย
ติง
ระหว่างโป้งกําลังโม้อย่างอารมณ์ดี อยู่ๆมือถือเจก็มีข้อความเข้ามาเสียอย่างนั้นทําให้เจต้องยกมือถือขึ้นมาดูว่าใครกันแน่ที่ติดต่อมาตอนนี้
[พี่เจ เห็นเรย์บอกว่าพี่เจไปกินข้าวที่ร้านของเรย์งั้นเหรอ ทําไมไม่บอกไอช่าก่อนล่ะว่าจะมาร้านนี้]
คนที่ส่งข้อความมากลับกลายเป็นไอช่าเสียอย่างนั้น นี่ไอช่าไปแอบเอาเบอร์เจมาจากไหนกัน…ไม่สิเธอคงหาได้ไม่ยากหรอก ว่าแต่ที่นี่เป็นร้านของเรย์งั้นเหรอไม่ยักรู้เลย เรย์นอกจากจะมีสมาคมการค้าในเกมแล้วยังเอาเงินที่ได้มาเปิดร้านในเมืองอีกตั้งหลายอย่างบอกตามตรงว่าเจก็ จําไม่หมดหรอก
[เพื่อนมันเปลี่ยนร้านกะทันหันน่ะ ก็เลยไม่ได้บอก]
[ไอช่าอยู่ห้องข้างบนพอดีเลย พี่เจขึ้นมาสิมีนาก็อยากจะขอบคุณพี่เจเรื่องวันนั้นด้วยเหมือนกัน]
แทบจะทันทีที่เจส่งข้อความตอบกลับไป ไอช่าก็ตอบกลับมาด้วยข้อความอย่างรวดเร็วทันที นี่แสดงว่าไอช่าอยู่ที่ร้านนี้ด้วยงั้นเหรอ…
[ ไม่ได้หรอก พี่มางานเลี้ยงกับเพื่อนๆคงแยกตัวไปไม่ได้ ]
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีวันที่เจส่งข้อความปฏิเสธคําเชิญจากไอดอลที่เคยได้แต่มองผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้น แต่เพราะเจกับไอช่าอยู่ร่วมปาร์ตี้เดียวกันมาพักหนึ่งแถมก่อนหน้านี้ยังได้เธอช่วยทําโน่นทํานี่ให้ก็เลยไม่ได้รู้สึกกับเธอเหมือนเป็นไอดอลอีกแล้ว แถมไอช่ายังเข้าหาเจแบบน้องสาวคนหนึ่งด้วย
“เฮ้ยเจ ใครส่งข้อความมางั้นเหรอ” เพราะเจหันไปส่งข้อความมาสักพักแล้ว ทําให้เพื่อนๆที่กําลังเบื่อกับการโม้ของโป้งพยายามเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เอ่อ…น้องที่รู้จักกันในกิลด์ทักมานะ เห็นบอกว่าเขาอยู่ที่ร้านนี้เหมือนกัน”เจตอบพลางเอามือถือแนบเข้าหาตัวเพื่อไม่ให้เพื่อนๆเห็นหน้าต่างข้อความ เพราะในรูปโปรไฟล์มีใบหน้าของไอช่า แสดงอยู่อย่างชัดเจนเลย
“จะบอกว่าคนในกิลด์เจมาที่ร้านนี้งั้นเหรอ ไหนล่ะ”โป้งได้ยินแบบนั้นก็ทําท่าทีเหมือนไม่เชื่อ ก่อนจะชะเง้อมองออกไปตรงหน้าต่าง ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านหรู ต่อให้เป็นที่นั่งชั้นล่างก็เสียเงินไม่น้อยเลย โป้งมันทําแบบนี้เหมือนกําลังจะบอกว่าคนในกิลด์ของเจไม่น่ามีปัญญามาที่ร้านนี้ หรือต่อให้มาก็คงอยู่แต่ชั้นล่างไม่เหมือนตัวเองหรือยังไง ทั้งๆที่มันนั่งอยู่ในร้านของคนในกิลด์เจเนี่ยนะ
ก๊อก ก๊อก!!
ระหว่างที่เจกําลังเหนื่อยใจกับท่าทีของโป้ง อยู่ๆที่หน้าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางท่าทีงุนงงของคนในห้องอาหารที่สั่งก็มาจนครบแล้ว คนที่นัดมาก็มากันหมดแล้ว จะบอกว่าป้อก มันกลับมาก็คงไม่ใช่ แล้วใครล่ะที่มาเคาะประตูเอาตอนนี้
“เอ่อ…พี่เจอยู่หรือเปล่าคะ” หลังจากเคาะประตูแล้วแต่ไม่มีใครเปิดให้ ไอช่าก็แง้มประตูออกพร้อมโผล่หน้าเข้ามาในห้องด้วยท่าทีแอบๆเหมือนคนกําลังทําอะไรลับๆล่อๆเสียอย่างนั้น
“เอ๊ะ…น้องไอช่า”แทบจะทันทีที่เห็นใบหน้าของคนที่แอบ?เข้ามา ทุกคนในห้องต่างก็ทําสีหน้าตกใจกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่เจเลย นี่ไอช่ารู้ได้ยังไงว่าเจอยู่ห้องไหน ไม่สิเรย์เป็นเจ้าของร้านนี้ นาก็คงรู้นั่นล่ะ แต่เธอลงมาที่ห้องนี้เองเลยงั้นเหรอ?
“ขอรบกวนหน่อยได้หรือเปล่าคะ”ไอช่าเปิดประตูออกก่อนจะพนมมือขอรบกวนคนในห้องด้วยท่าที่น่ารักน่าชังไม่ต่างจากในจอทีวีเลย แน่นอนว่าเหล่าสมาชิกในห้องต่างก็ไม่มีใครกล้าไล่เธอไปหรอก
“ระ รบกวนด้วยนะคะ”มีนาที่เดินตามไอช่ามาข้างหลังเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีอายๆก่อนจะมองไปทางเจที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะ คราวก่อนเพราะต้องแสดงละครก็เลยไม่ได้เข้าไปขอบคุณเจอย่างจริงจังเลย วันนี้พอรู้ว่าเจมาที่ร้านอาหารเดียวกันก็เลยอยากจะมาขอบคุณอีกรอบเสียหน่อย
“ไอช่า นี่มาทําอะไรเนี่ย” ทันทีที่เห็นไอช่าเดินเข้ามาหาตัวเอง เจก็มีท่าทีจุนงงและถามคําถามออกไปด้วยท่าทีสงสัย ไม่ใช่ว่าเธอไม่ควรเข้ามาในงานแบบนี้หรอกเหรอ แถมเพื่อนส่วนใหญ่ของเจก็เป็นผู้ชายด้วยถ้ามีคนมาถ่ายภาพเข้ามีหวังได้ซวยแน่ๆ
“พี่เจ ช่วยฟังไอช่าหน่อยสิ”ไอช่าว่าพลางเดินเข้าไปหาเจด้วยท่าทีไม่พอใจเสียอย่างนั้น นี่คิดไปเองหรือเปล่าว่าไอช่าเหมือนจะอารมณ์เสียนิดหน่อย
“พี่กวีนะสิ พอไอช่ากลับไปจะไปขอคําชมสักหน่อยก็รีบเดินทางไปเมืองอื่นทันทีเลย ทั้งๆที่ไอช่าทําตามคําสั่งเต็มที่เลยนะ แบบนี้มันใจร้ายเกินไปแล้ว”ไอช่าบ่นพลางนั่งลงตรงเก้าอี้ที่เพื่อนของเจเสียสละที่ให้อย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมีนาที่ตามมาก็ได้แต่หัวเราะแฮะๆเหมือนจะทราบชะตากรรมของเจอยู่แล้ว เพราะมีนาเป็นคนที่โดนเรียกมาบ่นด้วยก่อนหน้านี้นั่นเอง
“ไม่เอาน่า พี่กวีก็คงทําตามแผนเหมือนเดิมนั่นล่ะ ไอช่าก็น่าจะรู้นี่”เจยิ้มเงื่อนๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะไม่ทราบเบื้องหลังแต่ไอช่าเหมือนจะสนิทกับกวีมากอย่างกับเป็นน้องสาวคนเล็กของกวีเลย บางทีไอช่าอาจจะอ้อนกวีมากกว่าไอซ์ที่เป็นพี่ชายแท้ๆเสียด้วยซ้ํา พอกวียุ่งจนไม่ได้สนใจก็เลยมางอแงแบบนี้เนี่ยนะ
“… ” แม้เจกําลังรับมือไอช่าอย่างยากลําบาก แต่เพื่อนๆของเจนี่สิกลับไม่ทราบจะพูดอะไรออกมาดี เห็นเจบอกว่าเป็นน้องในกิลด์แต่ก็ไม่นึกว่าคนในกิลด์จะเป็นไอช่ากับมีนาเสียหน่อย อย่าว่าแต่คนอื่นๆเลย แม้แต่เจ้าโป้งก็ยังนั่งนิ่งทําอะไรไม่ถูกเลย
แต่อย่างน้อยตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจอย่างหนึ่งแล้วว่าทําไมป้อกถึงอยากเข้ากิลด์ของเจนัก ก็เจ้านั่นมันเป็นแฟนคลับของไอช่านี่นา