Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 151
ตอนที่ 151
ปั้น
“พวกมันทําแบบนี้ได้ไง พวกเราช่วยพวกมันหาเงินมาเป็นสิบๆปีแล้วนะ” เสียงทุบโต๊ะพร้อมคําด่าของฮ่องเต้ที่ปกติจะมีนิสัยเรียบร้อยดังออกมาเป็นคนแรกหลังจากแก้วเล่าเรื่องทั้งหมด ให้พวกน้องๆที่ตัดสินใจจะมาเข้ากิลด์ใหม่ของเธอฟัง เรื่องนี้แม้แต่แก้วยังทําใจยาก กับพวกน้องๆที่ไม่ได้สนิทสนมกับพายัพจะเดือดกันมากก็ไม่แปลก แต่แก้วก็รู้สึกกับพวกน้องๆเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาเห็นแก่หน้าของแก้ว พวกเขาคงไม่ทนทําตามกิลด์เสียดฟ้ามาจนถึงทุกวันนี้หรอก
“พี่แก้ว…พอออกมาแล้วพี่สบายใจหรือเปล่า” เมษที่อยู่ในวงสนทนาด้วยถามขึ้นมาก่อนจะมองไปทางแก้วด้วยท่าทีสงสัย เรื่องนี้เมษเองก็มีส่วนทําให้เกิดขึ้น แม้ตัวเขาจะคิดว่าดีแล้วที่แก้วจะได้หลุดออกจากการโดนเอาเปรียบของพายัพเสียที แต่เขาก็ไม่สามารถคิดแทนแก้วได้เต็มร้อย วันนี้แม้ผลลัพธ์จะออกมาแล้วแต่เมษก็ยังกังวลเรื่องความรู้สึกของแก้วอยู่
“ตอนนี้ยังรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่” แก้วตอบพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย แม้แก้วจะกลับมาทําหน้าที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแก้วจะสบายดีเต็มที่เสียหน่อย
“ถ้าวันไหนได้เล่นงานกิลด์เสียดฟ้าสักทีคงจะรู้สึกดีขึ้นกว่านี้”แก้วว่าพลางกําหมัดแน่น เพียงแต่สายตาของแก้วตอนนี้ไม่ได้เศร้าหรือหมดหวังเหมือนตอนที่หนีออกไปนอกเกมแต่อย่างไร ตอนนี้แก้วกลับมายิ้มได้อีกครั้งและตั้งเป้าหมายใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้จะยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ฝั่งกิลด์บูรพาเต็มตัว แต่ก็ถือว่ามาเกินครึ่งตัวแล้ว วันใดวันหนึ่ง แก้วก็ต้องปะทะกับกิลด์เสียดฟ้าเข้าจนได้ แต่วันนั้นจะไม่ใช่วันที่แก้วคิดเสียใจ แต่จะเป็นวันที่แก้วจะเอาคืนให้สาสม ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นน้องๆที่โดนหลอกเองก็เช่นกัน พอได้ยินความจริงแล้วทุกคน ต่างก็มีท่าที่อยากจะเอาคืนกิลด์เสียดฟ้ากันหมด
“พี่แก้ว แล้วชื่อกิลด์ใหม่ชื่ออะไรเหรอครับ”ได้ยินแก้วแสดงท่าที่มั่นใจแบบนั้นแล้วเหล่าสมาชิกกิลด์ก็โล่งใจกันได้ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ยังสงสัยนั่นก็คือแก้วจะใช้ชื่อกิลด์ใหม่ว่าอะไรดี
“เรื่องนั้น…พี่ยังไม่ได้คิดเลย”แก้วยิ้มเงื่อนๆออกมาด้วยท่าทีเขินๆ ช่วยไม่ได้นี่นา ปกติเข้าเกมมาก็เข้าร่วมกิลด์เมฆาที่พายัพเตรียมเอาไว้ให้เลย เธอไม่ได้คิดชื่อกิลด์มาเป็นสิบๆปีแล้วนี่นา
“ไม่ใช่ว่าเจ้ารับปากข้าว่าจะหาผู้ศรัทธาให้ท่านแม่ของข้าเพิ่มหรอกเหรอ” ระหว่างคนอื่นๆกําลังแยกย้ายกันไปทําหน้าที่ของตน ภายในห้องของกวีกลับมีร่างของสาวงามคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มาต่อหน้ากวีเสียอย่างนั้น เพียงแต่เจ้าของเสียงและรูปร่างนี้ไม่ใช้คน…ไม่สิ ไม่ใช่เทพแปลกหน้า แต่อย่างไรเพราะเธอคือเทพแห่งปัญญา วิส นั่นเอง
“เดี๋ยวนี้ท่านมาปรากฏตัวต่อหน้าได้เลยเหรอครับ” กวีถามโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองแต่อย่างไร ตอนนี้มีงานที่กวีต้องจัดการนิดหน่อย ต่อให้เทพแห่งปัญญามายืนตรงหน้ากวีก็ไม่ยอมเสียเวลาจัดการงานแม้แต่น้อย
“เป็นเพราะข้าเป็นผู้เปลี่ยนอาชีพให้กับเจ้า และยังมีพันธสัญญากับเจ้าด้วย ข้าก็เลยสร้างร่างจําแลงเบื้องหน้าเจ้าได้ตามความต้องการ”วิสตอบพลางเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้เบื้องหน้ากวี แม้จะมีท่าทีอารมณ์เสียนิดหน่อยที่กวีไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองแต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรออกไป
“แบบนี้นี่เอง การขอสิทธิ์เรียกตัวท่านสามครั้งดูน้อยไปเลย ไม่นึกว่าท่านจะปรากฏตัวได้ง่ายดายแบบนี้” กวีว่าพลางวางปากกาลงอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางหากเขาไม่เงยหน้าขึ้นไปมองเสียที่วิสได้โมโหแน่ๆ
“นั่นเป็นข้อเรียกร้องของเจ้าเอง แต่ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อทวงถามสัญญาของเจ้า ข้ายังไม่เห็นเจ้าลงมือทําอะไรเกี่ยวกับเทวรูปของท่านแม่เลย”วิสถามพลางมองกวีด้วยท่าทีตําหนิ กวีรับปากเธอว่าจะช่วยให้ผู้ศรัทธาของคราวเพิ่มขึ้น แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมีแค่ 2 คนคือกวี และ เจ เท่านั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้เลย แต่ฝ่ายเธอกลับช่วยกวีเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว หากเขายังตีถ่วงอยู่แบบนี้ไม่เท่ากับตนเสียเปรียบหรือ
“ท่านเป็นเทพแห่งปัญญาทําไมถึงใจร้อนนัก” กวีถามพลางยิ้มรับด้วยท่าที่สบายๆเหมือนไม่ได้คุยอยู่กับเทพของเกมแต่อย่างไร นั่นเพราะกวีทราบดีว่าตอนนี้วิสไม่กล้าทําอะไรตนแน่ๆ
“เจ้ากําลังคิดจะทําอะไร”วิสถามพลางจ้องมองกวีด้วยท่าทีสงสัย เจ้าหมอนี่ต่างจากผู้เล่นคนอื่นมาก แถมยังทําให้เธอโมโหมากอีกด้วย
“เดี๋ยวท่านดูต่อไปก็จะรู้เองครับ ไม่ต้องรีบหรอก” กวีตอบพลางยิ้มบางๆออกมา ท่าทางเขาจะติดนิสัยปิดบังแผนทั้งหมดเอาไว้ซะแล้ว แม้แต่ NPC ก็ยังไม่คิดจะบอก
“เจ้า ”วิสได้ยินแบบนั้นก็เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนหน้าผากเลยทีเดียว เจ้าหมอนี่ตกลงคิดจะ ทําตามที่ตกลงเอาไว้หรือเปล่า หรือว่าคิดจะปล่อยไปเรื่อยๆเพื่อเรียกร้องรางวัลเพิ่มงั้นเหรอ
“ผมจะทําตามที่รับปากเอาไว้แน่นอน แค่มันต้องมีขั้นตอนกันนิดหน่อย” กวียิ้มรับราวกับรู้ว่าวิสกําลังคิดอะไร
“งั้นข้าจะรอดู แต่ถ้าข้าทนไม่ไหวขึ้นมาข้าจะยึดพลังของข้าคืน”วิสทําหน้ามุ่ยออกมาด้วยท่าที่ไม่พอใจก่อนจะสลายร่างหายไปต่อหน้ากวีทันที
“นี่มัน เขตชายแดนเหรอครับ”เจที่เดินทางมากับเนตร หัวหน้าปาร์ตี้คนใหม่ของตนมองกําแพงสูงเบื้องหน้าตนเองก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องที่ควรจะเห็นอยู่ตรงหน้าอยู่แล้วออกมาเสียอย่างนั้น สถานที่ที่เจมาในครั้งนี้เป็นสถานที่ติดชายแดนของอาณาจักรทริชกับโทรว่าอาณาจักรที่กิลด์เสียดฟ้าเคยยึดครองอยู่ แต่เพราะการกลับมาของกวีทําให้กิลด์เสียดฟ้าเลือกที่จะหาพื้นที่อื่น เพื่อทําการล่าแล้วส่งผลให้ทางชายแดนระหว่างโทรว่ากับทริชเป็นพื้นที่ที่กิลด์ระดับเล็กและกลางเข้ามาชิงพื้นที่กันเองเพื่อเก็บเลเวลและหาไอเทม
“เห็นตรงนั้นหรือเปล่า พื้นที่โล่งหลังกําแพงนั่น”เนตรไม่ได้ตอบคําถามของเจ แต่กลับพาเจขึ้นมาบนกําแพงเมืองแทน พื้นที่ชายแดนแบบนี้มักจะมีพื้นที่ว่างระหว่างกลางเสมอ และพื้นที่ตรงที่เนตรชี้ไปก็เป็นแนวรบที่พวกทหารใช้รบกันตอนมีสงคราม แต่ในเวลาที่กลับมีแต่ผู้เล่นยืนกันเต็มไปหมด นั่นเพราะตรงส่วนนั้นมีมอนสเตอร์จํานวนมากที่โดนสงครามของทริชและโทรว่าบีบให้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตรงนั้น
พื้นที่โล่งที่มีมอนสเตอร์เกิดจํานวนมากเป็นเหมือนสวรรค์ของการฟาร์มเลยก็ว่าได้ เพียงแต่มอนสเตอร์มันเกิดเยอะเกินไปทําให้ผู้เล่นกลุ่มเล็กๆไม่สามารถเข้าไปยึดครองได้ ตอนนี้ผู้ที่ครองพื้นที่ชายแดนตรงนั้นก็เลยเป็นกิลด์ขนาดกลางที่ชื่อว่า กิลด์นักล่าอินทรี ที่รวมตัวกันปกครองพื้นที่ตรงนั้นมาพักใหญ่แล้ว
เจมองตามที่เนตรชี้ไปก็มีความคิดวูบหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว คนของเนตรตอนนี้มีแค่ 500 คนเพราะเพิ่งจะเริ่มสร้างกิลด์และอัพเลเวลกิลด์ได้ไม่นาน ต่อให้รวมคนของแก้วที่แยกตัวมาจากกิลด์เมฆาเข้าไปก็ยังไม่ถึงพันคนอยู่ดี แต่คนพวกนั้นเป็นกิลด์ระดับกลางที่มีคนร่วม 2,500 คนเชียวนะ ถึงจะเคยชินกับการสู้แบบหนึ่งต่อคนจํานวนมากแล้ว แต่แบบนี้ไม่เกินไปงั้นเหรอ
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก”เนตรยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเดินเล่นไปตามกําแพงเมืองด้วยท่าทีสบายใจ นานแล้วที่ไม่ได้บัญชาการกองทัพของกิลด์สุริยันจันทราเก่า ตอนนี้เนตรรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะบนมือมีแต่หมากดีๆทั้งนั้น ไม่เหมือนตอนเป็นเสนาธิการของกิลด์โพลีก้อนที่ต้องพยายามเค้นทุกทางให้เจ้าพวกนั้นเอาชนะคู่แข่งให้ได้
“กิลด์นั้นถึงจะคนเยอะก็จริง แต่ไม่ใช่กิลด์สายสงครามแบบพวกเราหรอกนะ”ไอช่าที่ตามมาด้วยพูดพลางปีนขึ้นไปยืนบนสันกําแพงเสียอย่างนั้น แต่เหล่าทหารที่เฝ้ากําแพงอยู่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามสักคนเพราะพวกเนตรมาในนามคนของเจ้าเมืองการ์กันนะสิ
“เรื่องแผนการรบไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาอยู่ตรงเรื่องที่กวีสั่งมากกว่า”เนตรตอบพลางหันกลับมามองทางเจครู่หนึ่ง ตอนนี้อุปกรณ์สวมใส่ของเจยังเป็นไอเทมที่หาได้จากตอนอยู่ในปาร์ตี้ของกิลด์กระทิงเหล็กอยู่ จะเรียกว่าสมเป็นนักเล่นเกมอาชีพดี หรือสมกับเป็นผู้ชายดี ไอเทมที่เจสวมใส่ส่วนใหญ่เป็นไอเทมที่เน้นความแข็งแกร่งและทําให้ตัวละครของเจแข็งแกร่งที่สุด แต่….
“ถ่ายรูปออกมาคงดูไม่จืดแน่ๆ”เนตรยกมือขึ้นมาแล้วทํานิ้วเหมือนช่างถ่ายภาพกําลังหามุมถ่ายภาพไม่มีผิด กวีต้องการสร้างชื่อเสียงให้เจ แน่นอนว่าเพราะเรื่องของเทวรูปองค์ที่ 5 ที่กวีรับปากเอาไว้นั่นเอง แค่เฉลยว่าเทวรูปองค์ที่ 5 อยู่ที่ไหนจํานวนคนที่จะไปเคารพเทวรูปองค์ที่ 5 คงมีแค่จํานวนหนึ่ง แต่หากทําให้พวกเขาเห็นว่าพรของเทวรูปองค์ที่ 5 ทําอะไรได้ ผู้คนอาจจะลงทุน สร้างตัวละครใหม่เพื่อไปรับพรเลยทีเดียว เพราะแบบนั้นกวีก็เลยอยากจะทําให้เจโด่งดังในฐานะแทงค์ที่เก่งกาจ ดังยิ่งกว่าตอนอยู่กับพวกกระทิงเหล็กขึ้นไปอีกแบบนั้นยิ่งมีผลดีกับแผนของกวี
“เอาล่ะ ไอช่า พี่ฝากจัดการด้วยนะ พี่จะไปตรวจสอบรอบๆต่อ”เนตรยิ้มบางๆออกมาก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากไอช่า แม้จะออกจากวงการมาแล้วแต่ไอช่าก็เคยเป็นถึงไอดอลชื่อดังเชียวนะ เรื่องดึงดูดผู้ชมเป็นเรื่องถนัดของไอช่าเลยทีเดียว
“ไปกันเถอะพี่เจ”ไอช่าโดนเนตรขอร้องก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินเข้าไปคล้องแขนเจด้วยท่าทีร่าเริง แล้วลากเจกลับลงจากกําแพงไปปล่อยให้เนตรจัดการเรื่องแผนการรบตามที่เธอถนัดไป
“ก่อนอื่นก็ต้องตัดผม แล้วก็ไปขอให้พี่วินสร้างชุดเกราะชุดใหม่ให้ หวังว่าพี่วินจะไม่ทําชุดเกราะแปลกๆออกมานะ”ไอช่าหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมลากเจเข้าไปในเมืองตรงโซนที่อยู่อาศัย แม้จะเป็นเมืองชายแดนแต่ก็หาร้านเสริมสวยได้ไม่ยากหรอก
“… ” รู้ตัวอีกทีเจก็โดนจับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ร้านเสริมสวยซะแล้ว แถมไอช่ายังซุบซิบอะไรกับเจ้าของร้านกันคิกคักๆด้านหลังอีกด้วย เล่นเอาเจได้แต่มองกระจกที่สะท้อนใบหน้าของตัวเองอย่างขัดขืนไม่ได้