Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 143
ตอนที่ 143 รอพบ
“ว่าไงนะ กิลด์เมฆางั้นเหรอ” หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กหลังจากได้ยินลูกน้องของตนเองรายงานเรื่องกิลด์เมฆาก็มีท่าทีตกใจทันที พื้นที่ป่าสนที่พวกตนปกครองเอาไว้เป็นพื้นที่ล่าชั้นดี แต่ก็ไม่คิดเลยว่ากิลด์เมฆาจะกล้าล้ำเขตเข้ามาชิงพื้นที่ของกิลด์กระทิงเหล็กแบบนี้
“ใช่ครับหัวหน้า มีรายงานว่าแก้ววาร์ปมาที่เมืองข้างเคียงเรียบร้อยแล้วครับ” ชายที่เข้ามารายงานตอบด้วยท่าที่หวั่นๆ กิลด์เมฆามาเช่นนี้ก็หมายความว่ากิลด์เสียดฟ้าอาจจะบุกเข้ามาก็ได้ไม่ใช่หรือยังไง
“ไม่นึกเลยว่าจะเป็นกิลด์เมฆา ดีนะที่พวกเราสั่งเคลื่อนทัพมาป้องกันเอาไว้แล้ว” หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากปล่อยให้เรดรองป้องกันกันเองคงต้านกิลด์เมฆาไม่ได้แน่ๆ นี่ยังไม่นับโอกาสที่กิลด์เสียดฟ้าจะมาทั้งกองทัพด้วย
“จริงด้วย ถ้าไม่ได้เก้าช่วยบอกให้พวกเรามาตั้งหลักกันที่นี่ก่อนละก็มีหวังแย่แน่ๆ” หนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ของหัวหน้ากิลด์พูดด้วยท่าที่โล่งอก ปกติฝ่ายนายทุนกับฝ่ายพันธมิตรจะไม่ปะทะกันเร็วขนาดนี้ เพราะการปะทะกันตั้งแต่เริ่มเกมนอกจากจะเสียหายทั้งสองฝ่ายแล้วยังทําให้แต่ละฝายทําเงินไม่ได้เท่าที่ควรด้วย
ว่าแต่ ทําไมเก้าถึงรู้ได้ล่ะ” สมาชิกอีกคนถามพลางมองไปทางเก้าด้วยท่าทีสงสัย เพราะเรื่องสายสืบของเจเมื่อคราวก่อนเลยทําให้ทุกคนหวาดระแวงกันไปหมด แม้แต่เก้าเองที่เป็นคนเปิดโปงเจก็ยังโดนสงสัยไปด้วย
“เป็นเพราะกิลด์บูรพาครับ”เก้าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคําถามสมาชิกในปาร์ตี้ไป การรู้แผนการของอีกฝ่ายก่อนถือเป็นเรื่องดีก็จริง แต่การรู้มากเกินไปก็ทําให้น่าสงสัยไปด้วย เรื่องนี้หากเก้าบอกว่าผู้ที่บุกมาคือแก้วแน่ๆตั้งแต่ก่อนแก้วจะวาร์ปมาละก็อาจจะดูน่าสงสัยกว่าเดิมก็ได้เก้าเลยคิดหาข้อแก้ตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
“กิลด์บูรพา พวกมันอยู่ตั้งตะวันตกไม่ใช่หรือไง” หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กเองก็ขมวดคิ้วแล้วถามคําถามกลับมาเช่นกัน ก็จริงที่ต้องระวังกิลด์บูรพาเอาไว้ แต่กิลด์บูรพาก็อยู่ห่างมากจนไม่น่าจะเป็นภัยในตอนนี้ แล้วกิลด์บูรพาก็เป็นศัตรูกับกิลด์เสียดฟ้าด้วย การที่กิลด์เมฆาที่เป็นกิลด์ย่อยของกิลด์เสียดฟ้าบุกมาก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับกิลด์บูรพา
“เป็นเพราะกิลด์บูรพาเป็นศัตรูถาวรของกิลด์เสียดฟ้าครับ พอกิลด์บูรพาตั้งถิ่นฐานที่อาณาจักรทริช พวกกิลด์เสียดฟ้าก็เลยต้องหาทางเปลี่ยนพื้นที่”เก้าตอบพลางเปิดแผนที่ออกมาให้หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กดู
“แบบนี้นี่เอง จะว่าไปกิลด์บูรพาก็น่ากลัวจริงๆ ไม่แปลกที่พวกมันจะแตกตื่น”หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กที่โดนส่งสายสืบเข้ามาประชิดตัวมาหมาดๆตอบออกไปด้วยท่าที่เข้าใจ อาณาจักรที่กิลด์เสียดฟ้าอยู่ติดกับอาณาจักรทริชที่พวกกิลด์บูรพาอยู่เลย ได้ยินว่าพวกกิลด์บูรพาเป็นพวกบ้าสงคราม คงเปิดศึกอย่างรวดเร็วจนไม่สนเรื่องรายได้ของกิลด์แน่ๆ ไม่แปลกที่กิลด์เสียดฟ้าจะหาลู่ทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงสงครามแบบไร้ความหมาย
“เตรียมตัวกันให้พร้อม ศัตรูของเราคือกิลด์เสียดฟ้า มันจะมาแค่กิลด์ย่อยกิลด์เดียวหรือทั้งหมดก็อย่าประมาท เตรียมพร้อมรับมือธนูเอาไว้ด้วย” หัวหน้ากิลด์เข้าใจเหตุผลของเก้าก็ประกาศลงช่องสื่อสารของกิลด์ทันที เพราะทราบข่าวก่อนกิลด์กระทิงเหล็กเลยสามารถหาทางรับมือได้ แต่น่าเสียดายที่ฝั่งแก้วทราบเพียงว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่กิลด์ย่อยของกิลด์กระทิงเหล็กเข้ามายึดครองเท่านั้น ไม่ได้ทราบเลยว่าอีกฝ่ายกําลังตั้งป้อมเตรียมต้อนรับเอาไว้แล้ว
“ท่านเจ้าเมืองการ์กัน เชิญทางนี้ครับ”อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของกวี หลังจากเงื่อนไขการเปลี่ยนอาชีพครบถ้วนแล้ว กวีก็เดินทางมายังเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ทางเหนือของอาณาจักรทริชตามที่ข้อมูลของเควสบอกเอาไว้ เมืองแห่งนี้มีชื่อว่าเมือง ทาโว เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเวทมนตร์และจอมเวทเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นสายอาชีพจอมเวทในอาณาจักรทริชเลือกมาตามหาเควสเปลี่ยนอาชีพลับกันมากที่สุด
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยรับฟังคําขอร้องของผม” กวียิ้มรับก่อนจะเดินตามชายหนุ่มในจอมเวทเข้าไปด้านในหอคอยขนาดใหญ่ด้านหลังเมือง
“แน่นอนอยู่แล้วครับ พวกเราเองก็เป็นเจ้าเมืองเหมือนกัน แถมท่านยังช่วยให้เมืองของเราซื้อขายกับนักผจญภัยได้อย่างสะดวกสบายด้วย ถ้าไม่ต้อนรับให้ดีผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะครับ” ชายในชุดจอมเวทตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าที่มีความสุข เขาคือ NPC เจ้าเมืองของเมืองทาโวนั่นเอง
“เรื่องนั้นเป็นธุรกิจอยู่แล้ว ทางผมเองก็ทําเพื่อผลประโยชน์ของเมืองการ์กันเช่นกัน ท่านเจ้าเมืองทาโวไม่ต้องคิดมากหรอกครับ” กวีตอบพลางนั่งลงที่โซฟาภายในหอคอยด้วยท่าทีไม่เกรงใจ
ระหว่างจัดการกิลด์บูรพาให้เข้าที่ กวีไม่ได้ปวดหัวอยู่กับเรื่องการพาเนตรกับเจกลับเข้ามาในกิลด์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสานสัมพันธ์กับเจ้าเมืองต่างๆไปด้วยเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต การจะเปิดศึกโจมตีอาณาจักรอื่นๆนั้นก่อนอื่นก็ต้องมีตําแหน่งเป็นจักรพรรดิของอาณาจักรหนึ่งก่อนเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็หมดโอกาสจะบุกอาณาจักรอื่นกันพอดี เพราะแบบนั้นกวีก็เลยสานสัมพันธ์กับเจ้าเมืองต่างๆเพื่อเตรียมการสําหรับการยึดอํานาจที่กําลังจะมาถึง โดยเฉพาะเจ้าเมืองทาโวที่ปกครองเมืองที่มีจอมเวทมากที่สุดนั้นกวีถึงกับยอมขาดทุนเพื่อซื้อใจเลยที่เดียว
“ไม่หรอกครับ ไอเทมเหล่านั้นช่วยพวกเราได้มาก รับรองว่าจอมเวทของอาณาจักรเราจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่ๆ” เจ้าเมืองทาโวว่าพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีดีใจ ดูเหมือนเหล่าจอมเวทของเมืองทาโวจะเก็บตัวฝึกฝนเวทมนตร์กันเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยไม่มีเวลาออกไปหาไอเทมสําหรับใช้ในการทดลองต่างๆเท่าไหร่ ทําให้เมืองทาโวอยู่ในสถานะขัดสนวัตถุดิบมาตลอด การเข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ของกวีทําให้เจ้าเมืองทาโวประทับใจมาก
“เรื่องนั้นผมเฝ้าตารอดูเลย” กวียิ้มรับด้วยท่าที่พึงพอใจเพราะการที่เหล่าจอมเวทแข็งแกร่งขึ้นก็อาจจะส่งผลถึงเควสภายในเมืองและอาชีพของจอมเวทภายในอาณาจักรทริชเองด้วย ในจังหวะที่กิลด์อัศวินนภาย้ายออกไปจากอาณาจักรทริชแล้วนั้นทําให้ผลประโยชน์เหล่านี้ตกมาที่กิลด์บูรพามากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“แน่นอนครับ แต่ก่อนอื่นก็เรื่องที่ท่านเจ้าเมืองการ์กันขอร้องมา…” เจ้าเมืองทาโวเดินไปที่ตู้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในหอคอย ก่อนจะนํากุญแจออกมาไขด้วยท่าที่จริงจังขึ้น ทันที่ที่ประตูตู้ถูกเปิดออกเสียงคุยเล่นของกวีและเจ้าเมืองทาโวก็หายไป
“เชิญครับ”เจ้าเมืองทาโวนําหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากตู้ก่อนจะนํามันมาวางตรงหน้ากวีพร้อมกล่าวเชื้อเชิญให้กวีลองอ่าน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเวทมนตร์ที่หนามากๆ แทบจะเหมือนแบกเอาโล่เหล็กมาทําหนังสือเลย
วูบ…
แสงสีทองจางๆส่องสว่างออกมาจากหน้าหนังสือทันทีที่กวีเบิดมันออกมาอ่าน ก่อนที่ภาพตรงหน้าของกวีจะเปลี่ยนไปราวกับโดนดึงตัวเข้าไปในโลกของหนังสือเสียอย่างนั้น หนังสือเล่มนี้คือหนังสือลงอาคมของเมืองทาโว ว่ากันว่าบันทึกเวทมนตร์จํานวนมากเอาไว้ภายใน โดยเงื่อนไขที่จะเข้ามาอ่านได้นั้นก็ต้องเป็นที่ยอมรับของสมาคมเวทมนตร์แห่งเมืองทาโวเสียก่อน แล้วจึงเข้าร่วมการทดสอบของเจ้าเมืองทาโวเพื่อรับการยอมรับในฐานะจอมเวท ซึ่งการเดินเควสเหล่านี้กินเวลาหลายวันที่เดียวกว่าจะผ่านได้ แต่เพราะกวีเป็นเจ้าเมืองของเมืองการ์กันก็เลยสามารถเข้าพบเจ้าเมืองได้โดยตรง แถมกวีก็ทําความรู้จักเจ้าเมืองทาโวมานานแล้ว เควสที่ต้องเสียเวลาเหล่านี้ เลยถูกข้ามไปเหลือเพียงการทดสอบจากตําราเท่านั้น
“เป็นเจ้านี่เอง ว่าแล้วว่าสักวันเจ้าต้องมาหาข้าจนได้” เสียงของหญิงสาวที่เหมือนจะคุ้นหูดังขึ้นเบื้องหน้าของกวีทําเอากวีอดประหลาดใจไม่ได้ที่ได้เห็นว่าใครกําลังรอเขาในโลกของหนังสือเวทมนตร์กันแน่
“ท่านวิสงั้นเหรอครับ” กวียิ้มเงื่อนๆออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่รอเขาอยู่ก็คือ เทพแห่งปัญญา วิส นั่นเอง
“ถูกแล้ว แต่ปกติเจ้าจะไม่ได้เจอข้าหรอกนะ แต่จะเป็นเจ้าแก่หนอนหนังสืออีกคนแทน ที่ข้ามาพบเจ้าในมิติของบันทึกเวทมนตร์โบราณนี้ก็เพราะท่านแม่มีเรื่องต้องการจะบอกกับเจ้า”วิสที่เหมือนจะมาด้วยท่าที่ไม่พอใจเท่าไหร่พูดพลางถอนหายใจออกมาช้าๆ ท่าทางเหมือนคนไม่ว่างงานแต่กลับโดนใช้งานมาไม่มีผิดเลย
“หมายถึงท่านคราวเหรอครับ”กวีเลิกคิ้วด้วยท่าที่ประหลาดใจเทพผู้ก่อกําเนิดอย่างคราวต้องการอะไรจากเขางั้นเหรอ
“ใช่ ท่านแม่บอกว่าท่านต้องการพลังจากผู้ศรัทธาเพื่อจะฟื้นคืนชีพโดยสมบูรณ์ แต่เจ้ากับลูกน้องของเจ้าที่กุมความลับเรื่องเทวรูปของท่านแม่เอาไว้กลับพากันปิดเงียบ ทําเอาพลังของท่านแม่ไม่ฟื้นกลับมาเสียที”วิสเท้าเอวด้วยท่าที่ไม่พอใจเหมือนกําลังจะต่อว่ากวี ก็จริงเหมือนคราวจะขอให้กวีช่วยเรื่องนั้น แต่หลังจากส่งเจเข้าไปรับพรจากเทวรูปของคราวแล้วกวีก็ขายความลับนี้ให้เรย์ไป แต่เพราะเรย์กลับเข้ามาในกิลด์บูรพาก่อนจะได้ขายข่าวไป เรย์ก็เลยไม่ได้ทําอะไรกับมันโดยพลการ ส่งผลให้ความลับของเทวรูปองค์ที่ 5 ก็ยังอยู่กับพวกกวีไม่ไปไหน
“ช่วงนี้ผมยุ่งๆก็เลยไม่มีเวลาเผยแพร่ข่าวของเทวรูปท่านคราวนะสิครับ”กวีตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
“เจ้าใช้ข้ออ้างนั่นกับข้าเนี่ยนะ เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าข้าสามารถเก็บคืนพรของข้าคืนจากเจ้าได้”วิสได้ยินเช่นนั้นก็แสดงท่าที่โมโหออกมาแทน
“แต่ถ้ามีรางวัลให้สักหน่อยผมอาจจะขยันทํางานขึ้นก็ได้นะ” กวียิ้มออกมาบางๆก่อนจะลองถามถึงรางวัลเสียหน่อย วิสลงทุนเข้ามาแทรกเควสเปลี่ยนอาชีพของกวีแบบนี้แสดงว่ามันเป็นเรื่องสําคัญมากทีเดียว แบบนั้นถ้าลองแหย่ไปสักหน่อยละก็…
“เจ้าเลว คิดจะยื่นข้อเสนอกับข้างั้นเหรอ”วิสพูดด้วยท่าทีไม่พอใจก่อนจะยื่นมือออกมาข้างหน้า พริบตานั้นแสงสีขาวก็ไหลวูบออกไปจากร่างของกวีพร้อมกับค่า ปัญญา และ พลังเวทของ กวีที่โดนสูบไปจนหมดในพริบตา เป็นอย่างที่วิสว่าจริงๆ เธอสามารถเอาพรของเธอคืนได้ ไม่สิ ไม่ใช่แค่พร แต่เธอถึงกับดึงพลังเวทและค่าปัญญาของกวีออกได้จนหมดแบบนี้ขอเพียงเธอจากไป กวีก็แทบจะไร้ค่าในฐานะจอมเวทเลยไม่ใช่หรือไง