Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 139
ตอนที่ 139
ใจไม่สงบ
“ว่าไงเจ ไม่ซื้อบ้านอยู่ที่นี่เลยล่ะ” หลังจากกลับมาจากบ้านของโยธิน กวี เมฆ และมีน ก็กลับมาเจอเจที่สนามบินโดยไม่ได้ไปเที่ยวอย่างที่บอกกับเบลเอาไว้แม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางเจกับเบลก็มีความสุขดี ตอนไปเจอเจที่สนามบินยังเห็นเบลนั่งรอเป็นเพื่อนไม่ยอมไปไหนอีกต่างหาก
“เอ๊ะ…ซื้อบ้านเหรอครับ”ได้ยินกวีแซวแบบนั้นเจก็มีท่าที่ลังเลออกมาให้เห็นทันที แต่เดิมเจ แยกออกมาจากบ้านพ่อและแม่เพื่อจะได้ทํางานของตนเอง แต่เพราะบางบริษัทต้องการให้ลูกน้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เจก็เลยเลือกที่จะเข้ามาในกรุงเทพก่อนจะหางานแล้วอาศัยห้องเช่าเอา แม้ตอนคบกับมายด์จะซื้อห้องมาเป็นของตัวเอง แต่ก็ใช้ชื่อมายด์เสียด้วย ตอนนี้เจเลยยังไม่มีที่อยู่ถาวรเลย แถมกวีก็ไม่บังคับให้เจอยู่ในกรุงเทพด้วยแล้วเขาก็ไม่คิดจะออกไปอยู่กิลด์อื่นอีกแล้วด้วย
“ลังเลแบบนี้แสดงว่าอยากมาอยู่จริงๆนะสิ ไม่ต้องห่วงเงินเดือนผู้อาวุโสของกิลด์บูรพาซื้อบ้านได้สบายอยู่แล้ว” เมฆหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทีของเจ ถ้าไม่เห็นด้วยเลยเจคงปฏิเสธไปแล้ว นี่กลับคิดอยู่นานสองนานแสดงว่าเห็นด้วยแน่ๆ
“แบบนั้นก็ไม่เลวนะครับ” เจหัวเราะออกมาเบาๆ แม้จะยังไม่ได้ขอคบหากับเบลเลย แต่เงินที่เจหามาได้ช่วงหลังก็ค่อนข้างมากทีเดียวเพราะนอกจากเจจะได้เงินเดือนในฐานะหัวหน้ากิลด์ย่อยของกิลด์กระทิงเหล็กแล้ว ยังได้เงินเดือนในฐานะสายสืบของกิลด์บูรพาด้วย แถมเพราะผลงานก่อนหน้านี้ที่เจช่วยดันให้เก้าเข้าเป็นปาร์ตี้หลักของหัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กยังทําให้เจได้รับตําแหน่งอาวุโสของกิลด์บูรพามาไว้ในครอบครองอีกต่างหาก ซึ่งเงินเดือนสําหรับกิลด์ใหญ่แบบนี้บอกได้เลยว่าชีวิตสบายขึ้นมากหลายเท่าเลย
“แต่ตอนนี้พวกเรากลับกันก่อนเถอะ เราต้องต้อนรับสมาชิกเก่าของเรากลับมานี่นา”กวียื่นตั๋วขากลับของทุกคนออกมา เรื่องที่เจจะตัดสินใจนั้นถือเป็นอิสระของเจแล้ว
.
.
.
“เนตร กลับมาแล้วเหรอ” ทันทีที่เนตรและสมาชิกที่หัวหน้ากิลด์โพลีก้อนฝากให้มาร่วมงานในกิลด์บูรพาเดินทางมาถึงเมืองการ์กันอันเป็นฐานที่มั่นของกิลด์บูรพา คนที่ออกมายืนต้อนรับเนตรก็เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากวิน พี่ใหญ่ของกิลด์บูรพานั่นเอง
“ค่ะ ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะพี่วิน”เนตรยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาวินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและสงบนิ่ง ตอนนี้มีลูกน้องเก่าของเธอตามมาด้วย แถมกิลด์บูรพายังมีสมาชิกใหม่ตั้งเยอะ ทําให้เนตรยังไม่สามารถแสดงท่าทีตามปกติออกมาได้
“มาสิ กวีเตรียมห้องเอาไว้ให้แล้ว”วินเห็นท่าที่นิ่งๆของเนตรก็ยิ้มออกมาด้วยท่าที่เอ็นดูก่อนจะพาเนตรเดินเข้าไปในตึกของกิลด์บูรพา แน่นอนว่าสมาชิกเก่าของกิลด์บูรพาต่างก็พากันแสดงท่าทีดีใจที่เนตรกลับมากันถ้วนหน้า แม้จะไม่สามารถค้ําจุนกิลด์บูรพาเอาไว้ได้เหมือนกับกวี แต่เนตรก็เป็นผู้นําที่ทุกคนนับถืออยู่ดี
“…..” แต่ท่ามกลางบรรยากาศดีอกดีใจของคนในกิลด์บูรพานั้น คนที่กําลังอึ้งกลับเป็นพวกลูกน้องเก่าของเนตรที่ตามมาด้วยต่างหาก พวกเธอเองก็เรียนรู้มาจากเนตร ทําให้ติดนิสัยจดจําเรื่องราวต่างๆเอาไว้ในหัว โดยเฉพาะเรื่องของคนสําคัญๆในโลกเสมือนจริงพวกเธอไม่มีทางลืมแน่ๆ ลําพังแค่ วิน ช่างตีเหล็กในตํานานของโลกเสมือนจริงเดินออกมาต้อนรับเนตรอย่างเป็นมิตรนี่ก็น่าตกใจมากแล้ว ในกิลด์บูรพายังมีปีศาจเดินกันให้ไขว่ไปหมด เรียกได้ว่าแต่ละคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเป็นรายชื่อที่พวกเธอต้องระวังกันทั้งนั้น
” หัวหน้า นี่เป็นกิลด์ที่ยอดไปเลยนะคะ มิน่าล่ะหัวหน้าถึงได้ลาออกมาอยู่ที่นี่” ทันทีที่เข้าไปในห้องทํางานของเนตร เหล่าลูกน้องเก่าของเนตรก็ได้เข้ามาร่วมห้องด้วยเช่นกัน แม้แต่เดิมเนตรตั้งใจจะให้พวกเธอทําหน้าที่แทนเธออยู่ที่กิลด์โพลีก้อน แต่ฝีมือของพวกเธอก็เชื่อถือได้ พอตามมาที่นี่เนตรก็คิดจะให้พวกเธอเป็นลูกมือข้างตัวเหมือนเดิมก็เลยให้พวกเธอเข้ามาใช้ห้องของตนเองที่กินพื้นที่ทั้งชั้นของตึกกิลด์บูรพาได้ตามสะดวก
“ใช่ค่ะ พอได้เห็นกับตาแล้วนี่มันรังปีศาจชัดๆ” ลูกน้องหนึ่งในสามคนของเนตรตอบอย่างเห็นด้วย มิน่าล่ะพวกผู้เล่นเก่าถึงได้กลัวชื่อของกิลด์บูรพานัก
“แบบนั้นหัวหน้ากิลด์ของพวกเราก็เป็นจอมมารเลยนะสิ”ลูกน้องของเนตรอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆเหมือนกําลังพูดเล่น แต่เนตรที่ได้ยินกลับได้แต่ยิ้มเงื่อนๆเท่านั้น ถ้าพวกเธอรู้ว่าก่อนหน้านี้กวีทําอะไรมาบ้างคงไม่พูดเล่นแบบนั้นแน่ๆ
“มันก็ไม่ได้ดีอย่างที่พวกเธอเข้าใจหรอก”เนตรถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะมองไปที่นอกหน้าต่าง สมัยก่อนกิลด์สุริยันจันทราเองก็ยิ่งใหญ่แบบนี้เลย แม้จะเป็นภาพผ่านจอคอมพิวเตอร์ แต่ก็เป็นการรวมผู้คนที่สุดยอดมากไม่ผิดเพี้ยน แต่นั่นก็ต้องเป็นกิลด์สุริยันจันทราที่มีกวีอยู่เท่านั้น
ตั้งแต่กวีหายไปเหล่าผู้นําก็เหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง แม้เนตรจะพยายามยื้อทุกคนเอาไว้ แล้วพยายามทําตามที่กวีเคยทํา แต่หลายๆอย่างก็ยากกว่าที่เนตรเคยเข้าใจ เหล่าสายข่าวที่เนตรสามารถติดต่อได้มีเพียงหนึ่งในสิบที่กวีส่งไปจริงๆเท่านั้น กวีมีสายข่าวอยู่เยอะมากกว่าที่เนตรคิดเอาไว้ ทําให้ข้อมูลที่เนตรได้มีน้อยกว่าที่กวีได้รับหลายเท่าประกอบกับเนตรไม่ใช่แม่ทัพที่ดี แม้จะสามารถคิดแผนการได้มากมาย เข้าใจสภาพการรบอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เนตรไม่มีความสามารถสั่งการอย่างเด็ดขาด บางครั้งเนตรก็ใจอ่อนจนไม่สามารถนําทัพได้ดีพอ และการปรับเปลี่ยนแผนการก็ไม่สามารถสู้กวีได้เลย
แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคงเป็นความสัมพันธ์ของเหล่าผู้นํา แม้สมาชิกทุกคนจะดูรักกันดี แต่พวกเขากลับมีบางอย่างที่ไม่ลงรอยกันอยู่ คนแรกเลยคือไอช่า แม้กับกวีเธอจะเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย แต่ถ้าไม่ใช่กวีแล้วไอช่าก็แทบไม่ฟังใครเลย หลายต่อหลายครั้งที่ไอช่าไม่ชอบใจแผนของเนตร แล้วก็ไม่ยอมเข้าร่วม ส่วนไอซ์พี่ชายของไอช่าเองก็ติดนิสัยพูดน้อยเกินไปนอกจากเวลารายงานสถานการณ์รบแล้วก็แทบจะไม่ติดต่ออะไรมากเลย พี่น้องสองคนนี้เรียกได้ว่าฟังแค่กวีเท่านั้น
ส่วนอีกคนที่มีปัญหาที่สุดก็คือเมฆ แม้จะฟังกันมากกว่าสองพี่น้องไอช่ากับไอซ์แต่พอไม่มีกวี เมฆก็เหมือนจะหลุดการควบคุม เขาเข้าบุกลึกกว่าปกติ และดูร้อนรนกว่าที่เคยเป็น และที่แย่ที่สุด เมฆเหมือนจะไม่เชื่อใจคนอื่นเท่าไหร่และเริ่มพึ่งพาแต่ความสามารถของตนเอง เหมือนกับว่าพอไม่มีกวีแล้วเมฆก็รู้สึกว่าคนอื่นไม่ได้เป็นพวกพ้องของตัวเองเสียอย่างนั้น เหมือนกับสัตว์ป่าที่หลุดออกจากกรงไม่มีผิด แม้จะใช้ในการกําจัดศัตรูได้ แต่ก็ไม่สามารถใช้งานเป็นทีมได้เลย
ส่วนเรย์กับเจมส์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก สองคนนี้มีนิสัยเสียตรงยึดถือผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก ไม่รู้ทําไมพอเป็นกวีทั้งสองคนนี้ถึงยอมลดราวาศอกได้ไม่ยาก แต่พอเป็นเนตรทั้งสองคนก็ออกอาการระแวงเหมือนไม่เชื่อใจกัน แถมที่เลวร้ายที่สุดก็คือทั้งสองคนเป็นพวกชอบแอบทําอะไรลับหลังคนอื่น เรย์ก็ชอบแอบทําเงินให้ตัวเองส่วนเจมส์ก็ชอบก่อเรื่องเวลาอยู่ข้างนอก เรียกได้ว่าท้าตีท้าต่อยเขาไปทั่วก็ได้ทําให้เนตรปวดหัวกับทั้งสองคนมากทีเดียว
“เดี๋ยวพี่จะไปข้างบนหน่อยนะ”เนตรมองเหล่าลูกน้องของตนเองที่กําลังจัดสถานที่ทํางานของตัวเองกันใหม่ด้วยท่าที่นิ่งๆก่อนจะขอตัวขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นชั้นที่สมาชิกระดับผู้นําของกิลด์บูรพาใช้เป็นที่พัก
“เนตรเหรอ…นั่งสีเดียวกวีก็กลับมาแล้ว” คนที่อยู่ในห้องตอนนี้มีเพียงวินคนเดียวเท่านั้น วิน เป็นคนเดียวที่อยู่ข้างเนตรจนวินาทีสุดท้าย เป็นคนเดียวที่ประคองกิลด์เอาไว้แม้เนตรจะลาออกไป เพราะทนกับแรงกดดันต่างๆไม่ไหวแล้วก็ตามกับพี่วินแล้วเป็นคนที่เนตรรู้สึกผิดด้วยที่สุดเลย
“พี่วิน…เนตรขอโทษ”เนตรเดินเข้าไปหาวินด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ พอไม่ได้อยู่ต่อหน้าลูกน้องแล้ว เนตรก็สลายท่าทีของหัวหน้าหญิงออกทันที
“ไม่เป็นไรหรอก เป็นใครก็ต้องเผ่นหนีกันทั้งนั้นล่ะ”วินตอบพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่แสนใจดี เนตรที่ต้องรับทุกอย่างแทนกวีแทบจะโดนความกดดันจากทุกทิศทุกทางฉีก กระชากเป็นชิ้นๆ วินที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ไม่คิดจะโกรธเรื่องที่เนตรออกจากกิลด์ไปกะทันหันจนทําให้กิลด์สุริยันจันทราต้องล่มสลายได้หรอก
“ไม่ได้ค่ะ เนตรทิ้งภาระให้กับพี่วินทุกอย่างเลย ทุกอย่างเป็นความผิดของเนตรเอง พี่วินอยากจะด่าก็เอาเลยค่ะ อยากจะลงโทษยังไงก็ได้ค่ะ”เนตรว่าพลางก้มลงไปคุกเข่ากับพื้นเหมือนตอนเจอกวีไม่มีผิด เล่นเอาวินได้แต่ยิ้มเงื่อนๆออกมา พอไม่มีลูกน้องอยู่ใกล้ๆ เนตรก็เป็นแบบนี้ประจําเลย
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาแล้ว ไม่ต้องโทษตัวเองแล้ว”วินก้มลงไปจับบ่าของเนตรเอาไว้ก่อนจะมองเนตรด้วยใบหน้าอ่อนโยน ไม่มีใครโทษเนตรเรื่องนี้เลย ตรงกันข้ามพอเนตรทนไม่ไหวออกจากกิลด์ไปทุกคนก็เหมือนจะรู้สึกตัวแล้วสํานึกผิดกับตัวเองมากกว่า ทุกคนน่าจะอยากให้เนตรกลับมาที่สุดแล้ว
“ไม่ค่ะ อย่างน้อยก็ลงโทษเนตรสักหน่อยเถอะค่ะ ถ้าพี่วินไม่ลงโทษอะไรเนตรเลย แบบว่า… ใจไม่สงบค่ะ”เนตรตอบพลางสายหน้ารัวๆเสียอย่างนั้น ยัยนี่เป็นพวกมาโซหรือยังไง
เพี้ย…
วินเองก็เห็นด้านนี้ของเนตรมาจนชิน เนตรเป็นพวกถ้าไม่โดนลงโทษก็ไม่เชื่อว่าความผิดของตัวเองจะหายไป เพราะงั้นก็เลยต้องมีการลงไม้ลงมือกันเพื่อความสบายใจของเนตรอยู่บ่อยๆ แม้ปกติหน้าที่นี้จะเป็นของกวีที่เป็นหัวหน้ากิลด์ก็เถอะ แต่ตอนนี้คงมีแต่วินเท่านั้นที่ต้องทํา แต่จะให้ลงโทษคนอื่นหนักๆวินก็ทําไม่ได้ซะด้วย เลยได้แต่ใช้นิ้วดีดหน้าผากเนตรไปเท่านั้น
“ลุกขึ้นมาได้แล้ว หลังจากนี้ก็ช่วยเป็นกําลังให้พวกเราเหมือนเดิมด้วยล่ะ”วินยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ภายในห้องเหมือนจะบอกว่าลงโทษเสร็จไปแล้ว
“ค่ะ”เนตรพยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับวินอย่างว่าง่าย
“พี่เนตรนี่นา กลับมาแล้วเหรอคะ”เนตรยังไม่ทันได้ทําใจว่าจะพบหน้าคนอื่นอย่างไรดี อยู่ๆ ไอช่าก็เข้ามาในห้องก่อนจะเข้ามาทักเนตรด้วยท่าที่ยิ้มแย้มเสียอย่างนั้น ที่ด้านหลังเธอมีผู้หญิงอีกคนเดินมาด้วย น่าจะเป็นน้ําหวานสมาชิกใหม่อีกคนของปาร์ตี้กวีละมั้ง
“พี่เนตรนี่นา มาจนได้นะ” เรย์ว่าพลางเดินเข้ามานั่งในห้องด้วยท่าที่ยุ่งๆ เจ้าหนูนี่ยังเอาแต่ใช้ระบบสื่อสารไม่ยอมเลิก ท่าทางธุรกิจรัดตัวนี่มันน่าหมั่นไส้ไม่น้อยเลยนะ
“โอ้ แบบนี้ก็ครบคนแล้วสินะ ใกล้จะได้เปิดศึกกันเต็มที่แล้วสิ” เจมส์เองก็เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าที่สบายๆเช่นเดียวกัน แถมยังนั่งไขว่ห้างที่โซฟาแบบไม่แคร์โลกเหมือนเดิมอีกต่างหาก
“เอาล่ะ…ทุกคนมากันพร้อมแล้วสินะ”รออีกไม่นาน กวีก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเมฆ มีน และ เจ ที่เพิ่งตามมาจากสนามบิน แม้แต่ไอซ์ที่นานๆจะโผล่หน้าออกมาทีก็ยังตามเข้ามาด้วย
“แบบนี้ต้องฉลองการกลับมาพบกันอีกครั้งหรือเปล่านะ” กวีหัวเราะก่อนจะมองไปในห้องด้วยท่าที่ยิ้มแย้ม ในที่สุดเหล่าสมาชิกกิลด์รุ่นบุกเบิกก็กลับมากันหมดแล้ว
“ก่อนจะฉลอง ฉันว่านายมีเรื่องที่ต้องบอกกันก่อนนะ”เนตรที่เปลี่ยนกลับมาเป็นโหมด หัวหน้าหญิงเหมือนเดิมแล้วพูดด้วยท่าที่จริงจังพร้อมจ้องไปทางกวีแบบไม่วางตา
“เรื่องอะไรงั้นเหรอ” กวีถามด้วยท่าทีเหมือนไม่รู้เรื่องเสียอย่างนั้น แต่แค่พูดออกมาเท่านั้นทุกคนในห้องนอกจากคนใหม่ก็เข้าใจแล้วว่าเนตรหมายถึงเรื่องอะไร
“ไม่ต้องทําเป็นไม่รู้ นายหายไปไหนมากันแน่ ถ้าไม่บอกเรื่องนั้นมาพวกเราคงนอนตายกันตาไม่หลับหรอกนะ”เนตรก่อนจะกอดอกแน่นด้วยท่าที่ไม่พอใจ เรื่องทั้งหมดที่มันพังยับเยินแบบนี้ก็เพราะกวีหายตัวไปนั่นล่ะ สมาชิกเก่าทุกคนในห้องนี้ต่างมีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่หรือไง