Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 137
ตอนที่ 137
เล่นงานก่อน
“มีน แน่ใจแล้วนะ พวกเราไม่บังคับคนของเราให้ทําอะไรแบบนี้หรอกนะ” ระหว่างปล่อยเจไปเดทกับเบล ฝ่ายเมฆและมีนกลับเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโซนที่อยู่อาศัยเท่านั้น
” ค่ะ…”มีนพยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินตามเมฆไปด้วยท่าที่เอาจริง งานครั้งนี้เป็นงานที่ออกจะฝืนใจไปสักหน่อย แม้แต่เมฆเองก็ไม่อยากจะทํานัก แต่เพราะอีกฝ่ายล้ําเส้นเกินไปก็เลยต้องเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง
“อย่าฝืนตัวเองล่ะ ชีวิตจริงไม่ค่อยได้ออกกําลังกายด้วยไม่ใช่เหรอ” เมฆพูดจบก็มองไปตามร่างกายของมีน แขนและขาของมีนแม้จะไม่ได้ผอมแห้งเกินไป แต่ก็อยู่ในสัดส่วนของผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ได้ออกกําลังกายอะไรมากมาย เรียกว่าเป็นหุ่นสมส่วนของคนปกติเลยก็ว่าได้ในโลกภายนอกนี้ไม่มีระบบเพิ่มพลังกายเหมือนในเกม ทําให้คนที่ต่อสู้เก่งในเกมหลายๆคนตกม้าตายเพราะร่างกายของโลกข้างนอกแข็งแกร่งไม่พอมาเยอะแล้ว
“จะพยายามค่ะ”มีนตอบพลางพยักหน้าช้าๆ แต่ระหว่างที่กําลังเดินเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ มีนก็พบว่าเป้าหมายในครั้งนี้เดินออกมาจากบ้านของตัวเองซะแล้ว
” เตรียมตัวนะ” เมฆจดจ้องไปทางร่างของหญิงสาวที่กําลังเดินออกมาจากบ้านด้วยท่าที่นิ่งสงบ ต่างกับมีนที่เริ่มจะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแทน สมัยก่อนมีนคงไม่มีทางเดินเข้ามาหาเรื่องต่อสู้กับคนนอกเกมแน่ๆ แต่วันนี้เธอกลับเสนอตัวเข้าช่วยเหลือภารกิจของเมฆเสียอย่างนั้น
ฟุบ….
ร่างของเมฆวิ่งออกไปจากมุมหนึ่งของถนนด้วยความเร็วที่น่าตกใจ แม้แต่ร่างกายนอกเกมของเมฆก็ยังยอดเยี่ยมไม่เหมือนกับมีนที่ความเร็วเทียบกับในเกมไม่ได้เลยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นมีนก็ไม่ได้พึ่งพาแต่ความเร็วในเกมเท่านั้นหรอกนะ
ผลัก
เมฆวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงที่เดินออกมาจากบ้านก่อนจะต่อยเข้าใส่ใบหน้าของชายคนหนึ่งที่กําลังวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกัน รู้ตัวอีกที่ผู้หญิงคนนั้นก็โดนชายแปลกหน้าเป็นสิบๆคนรุมล้อมเอาไว้ซะแล้ว
“เมฆ” หญิงสาวคนนั้นมองคนที่เข้ามาต่อยชายแปลกหน้าด้วยท่าที่ประหลาดใจ ก่อนที่เธอจะโดนจับตัวก็ถูกเมฆเข้ามาช่วยเอาไว้งั้นเหรอ
“ไอ้พวกกิลด์นายทุนนี้ไม่รู้หรือไงว่าการเล่นนอกเกมมันน่าทุเรศ” เมฆว่าพลางล็อกคอของชายที่ตนเพิ่งจะต่อยไปแล้วกระทุ่งเขาเข้าไปเต็มท้องของอีกฝ่ายจนชายคนนั้นล้มลงสลบในพริบตาเดียว
” พวกนั้นใช้อํานาจในโลกภายนอกกดดันคนอื่นจนชินนะสิ”เนตร หญิงสาวที่เพิ่งออกมาจากบ้านพูดออกมาด้วยท่าที่สบายๆไม่ได้ตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าเลย แต่เพราะเมฆเข้ามาขวางเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือของเนตรก็เลยไม่ต้องเอาออกมาใช้แต่อย่างไร
เปรี้ยง
ฝ่ายของมันเองแม้จะไม่ได้ไวเท่าในเกมและไม่มีสกิลช่วยเหลือ แต่เธอก็อ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายออกอย่างง่ายดาย แถมยังซัดโจมตีจุดตายของมนุษย์ได้อย่างแม่นยําอีกต่างหาก แต่น่าเสียดายกําลังของมีนยังน้อยเกินไป การเตะต่อยแต่ละครั้งเบากว่าที่ควรเป็นมาก แม้จะสู้ได้อย่างเหนือชั้นแต่ก็ล้มคู่ต่อสู้ได้ไม่สําเร็จเสียที
” อ๊ากกกก” ระหว่างเมฆกําลังรับมือคนส่วนใหญ่อยู่นั้น คนที่แอบเข้ามาด้านหลังก็โดนเนตรใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเล่นงานไปอีกคน แม้จะอยู่ตําแหน่งเสนาธิการแต่เนตรก็ผ่านศึกมามากมาย ไม่ต่างอะไรกับเมฆเลยกับอีแค่ผู้ชายไม่กี่คนจับเนตรไม่ได้หรอก
มากมาย
“นั่นคนใหม่งั้นเหรอ ฝีมือไม่เลวนี่นา”เนตรที่เพิ่งช็อตผู้ชายคนหนึ่งลงไปนอนกับพื้นพูดพลางมองไปทางมีนที่กําลังรับมือผู้ชายอีกคนอยู่วงนอก แม้จะเริ่มหอบแล้วแต่ก็ล้มไปแล้ว 2 คน ฝีมือไม่เลวเลย
“ใช่” เมฆตอบพลางพุ่งเข้าไปช่วยมีนล้มชายรอบๆจนหมดสติในพริบตา แม้จะมากับร่วมสิบคนแต่เมฆก็จัดการได้เกือบทั้งหมด ต่อให้ไม่มีมีนมาช่วยก็คงได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
” ขอโทษค่ะ…”มีนหอบหายใจออกมาพร้อมนั่งยองๆลงกับพื้น การต่อสู้ในโลกภายนอกกับโลกในเกมนี่ต่างกันมากจริงๆ ทั้งๆที่เวลาอยู่ในเกมแทบจะไม่เหนื่อยเลยแท้ๆ
“ไม่ต้องกังวลหรอก ปกติพวกเราไม่ออกมาทําเรื่องแบบนี้กันด้วยซ้ํา” เมฆส่ายหน้าช้าๆก่อนจะมองคนที่เข้ามาทําร้ายเนตร คนพวกนี้ไม่ใช่คนของกิลด์โพลีก้อน น่าจะเป็นพวกที่โดนจ้างมาอีกที่มากกว่า ถึงพวกกวีเองจะไม่ดักเล่นงานคนนอกเกม แต่ถ้าคนในกิลด์โดนดักทําร้ายก็ต้องมาช่วยนั่นล่ะ
”เด็กน่ารักแบบนี้ยังเอามาสู้อีก กวีนี้ใช้งานคนหนักเหลือเกินนะ” เนตรว่าพลางเอาน้ําในกระเป๋าสะพายของตนเองให้กับมัน เรื่องที่หัวหน้ากิลด์โพลีก้อนไม่คิดจะปล่อยตัวเองไปง่ายๆนั้นเนตร รู้มาแต่แรกแล้วที่เตรียมอาวุธออกมาด้วยก็เพราะต้องใช้ป้องกันตัว เธอไม่ได้แรงวัวแรงควายแบบเมฆซะหน่อย ถ้าจะล้มผู้ชายเป็นสิบแบบนี้ก็ต้องพึ่งพาอาวุธสิ
“เปล่าค่ะ ฉันอาสาเองค่ะ ไม่ได้โดนบังคับนะคะ”มีนได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธแทนกวีทันที เธอก็แค่อยากจะทําหน้าที่ของตัวเองให้ดีเท่านั้น ให้สมกับที่กวีช่วยให้เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปขนาดนี้
“รู้แล้วล่ะ”เนตรยิ้มบางๆออกมา กวีไม่ใช่คนที่จะฝืนใจใครหรอก การที่เด็กสาวบอบบางแบบนี้อาสาออกมาเองก็เป็นเรื่องปกติ เพราะกวีเป็นพวกที่จะทําให้อีกฝ่ายอยากจะทําเองมากกว่าบังคับนี่นะ
“ยังไงก็ขอบใจนะ พวกนายมาช่วยทําให้ประหยัดแรงไปเยอะเลย เดี๋ยวฉันจะโทรแจ้งตํารวจเอง”เนตรว่าพลางหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะโทรแจ้งตํารวจ คนพวกนี้น่าจะเป็นคนของหัวหน้ากิลด์โพลีก้อน ต่อให้โดนจับก็คงถูกปล่อยออกมาง่ายๆ แต่แบบนั้นเนตรก็จะได้เดินออกจากบ้านแบบสบายใจไปหลายวันเลยล่ะ
“ไม่ต้องหรอก พวกมันจะไม่กลับมาอีกแล้ว” เมฆส่ายหน้าช้าๆก่อนจะยื่นมือไปจับมือถือของเนตรเอาไว้ก่อนที่เนตรจะโทรออก
” หมายความว่าไง หัวหน้ากิลด์โพลีก้อนมีอํานาจในโลกข้างนอกตั้งเยอะ เขาไม่มีทางปล่อยฉันไปหรอกนะ”เนตรว่าพลางดึงมือถือคืนมา
“กวีบอกมาแบบนั้น” แม้เนตรจะไม่เชื่อเมฆ แต่ถ้าเป็นกวีละก็
“กวีเนี่ยนะ…ถึงในเกมจะทําได้ แต่โลกข้างนอกกวีไม่มีอํานาจแบบนั้นสักหน่อย”เนตรขมวดคิ้วด้วยท่าที่ประหลาดใจ กวี เป็นราชันของโลกเกมออนไลน์อย่างแท้จริง เรื่องนั้นไม่มีใครเถียงหรอก อิทธิพลของกวีที่อยู่ในเกมออกมาถึงโลกภายนอก แต่ก็จํากัดในวงผู้เล่นเกมสมัยก่อนเท่านั้น อย่างมากก็มีเส้นสายกับพวกเจมส์ที่เป็นผู้มีอิทธิพลในถิ่นหนึ่ง แต่นี่มันนายทุนเชียวนะ ในโลกความจริงคนพวกนี้เหมือนกับขุนนางนั่นล่ะ พวกเขามีทั้งเงินและอํานาจ ไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่ายๆ
“กวีบอกมาแบบนั้น” เมฆยืนยันคําเดิมแต่ก็ไม่ได้ไปแย่งมือถือของเนตรอีก ถ้าบอกแค่นั้นแล้วเนตรยังไม่เชื่อก็แล้วแต่การตัดสินใจของเนตรเลย
“บ้าน่า ไม่มีทางหรอก”เนตรส่ายหน้าช้าๆก่อนจะปิดมือถือของตัวเองไปช้าๆ แม้ตามเหตุผล แล้วเนตรควรจะแจ้งตํารวจเพื่อกันเหนียวเอาไว้ แม้จะสู้กับพวกนายทุนข้างนอกนี้ไม่ได้ แต่เนตรก็มีทางเอาตัวรอดของตัวเองอยู่ แต่พอกวีบอกว่าไม่ต้อง เหตุผลต่างๆของเนตรก็สั่นคลอนอย่างง่ายดาย
“คุณกวี ทางนี้ครับ” อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของกวี หลังจากแยกทางกับพวกเมฆแล้วตัวเขาก็เดินไปตามทางที่นัดเอาไว้จนพบกับชายตรงหน้าที่กําลังรอเขาอยู่พอดีเช่นกัน
“ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่ต้องรบกวน” กวีว่าพลางเดินเข้าไปหาชายวัยกลางคน ตรงหน้าด้วยท่าที่ยิ้มแย้ม
“ไม่หรอกครับ คุณกวีต้องการอะไรก็สามารถบอกผมได้ทันทีเลยครับ อย่าเกรงใจกัน เลย” ชายวัยกลางคนคนนั้นพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าที่เป็นมิตรอย่างมาก แถมยังยิ้มอย่างดีใจอีกด้วยที่ได้พบกับกวี
“ว่าแต่คุณกวีมีธุระอะไรกับโยธินเหรอครับ” ชายวัยกลางคนถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย อยู่ๆกวีก็ติดต่อมาว่าอยากเจอคนชื่อโยธินเสียหน่อย แม้จะยังไม่ทราบเหตุผลแต่กวีขอมาแบบนี้เขาก็ต้องนัดให้ตามที่ขอเสียด้วย
“ดูเหมือนลูกชายของเขาจะทําตัวเสียมารยาทนิดหน่อย ผมก็เลยอยากจะไปเตือนเขาเท่านั้นเอง” กวีตอบพลางยิ้มบางๆออกมา
“เสียมารยาทกับคุณกวี ไอ้เด็กนั้นมันยังมีสมองอยู่หรือเปล่า ไปเถอะครับคุณกวีผมจะพาไปที่บ้านของเจ้าโยธินเอง” ชายวัยกลางคนผู้นั้นได้ยินก็แสดงท่าที่โมโหออกมาทันที
“ไม่ต้องโมโหหรอกครับ ลูกชายของคุณโยธินไม่รู้จักผมก็เลยทําแบบนั้นลงไป คราวนี้แค่ไปสั่งสอนก็พอ” กวีตอบพลางเดินตามชายวัยกลางคนเข้าไปในรถคันหรูที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว
“ไปบ้านนคราเดี๋ยวนี้ ด่วนเลย” ชายวัยกลางคนเห็นกวีเข้ามานั่งในรถแล้วก็สั่งให้คนขับรถออกตัวให้เร็วที่สุดทันที ปกติชายวัยกลางคนไม่เคยโมโหแบบนี้มาก่อนทําเอาคนขับรถมือสันรีบออกตัวให้เร็วที่สุดตามที่เจ้านายของตนสั่ง
เอี๊ยด
ใช้เวลาไม่กี่นาที รถของชายวัยกลางคนก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ขนาดที่เรียกว่าคฤหาสน์ก็ยังไม่ผิดเพี้ยนนัก แถมมันยังถูกสร้างเอาไว้อยู่บนเนินเขาของจังหวัดเชียงใหม่ตรงจุดที่วิวดีเสียด้วย
“คุณเอกภพ…ไม่ทราบมีเรื่องอะไรเหรอครับถึงได้มากะทันหันแบบนี้”ร่างของชายวัยกลางคน ยังไม่ทันออกมาจากรถ ประตูบ้านขนาดใหญ่ก็เปิดออกพร้อมร่างของชายวัยกลางคนอีกคนที่เดินออกมาด้วยท่าทีแตกตื่น เขาคนนี้ท่าทางจะเป็นชายที่ชื่อโยธินแน่ๆ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”เอกภพที่พากวีมายังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป กวีก็เป็นฝ่ายเดินออกมาจากรถแล้วกล่าวทักทายชายที่ชื่อโยธินด้วยตัวเอง
“คุณ….”โยธินมองไปทางกวีด้วยท่าทีตกใจ เขาคุ้นหน้ากวีอยู่หรอก แต่เหมือนว่าจะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่คนที่จะมากับท่านเอกภพได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้วแน่ๆ
“จําไม่ได้เหรอครับ ประมาณสองปีก่อนพวกเราเจอกันมาแล้วนี่นา” กวียิ้มด้วยใบหน้าอ่อนโยนก่อนจะเดินเข้าไปหาโยธินหนึ่งในนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยด้วยท่าทีสบายๆราวกับทําเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเสียอย่างนั้น