Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 136
ตอนที่ 136
ท่องเที่ยว
“กําลังเครียดงั้นเหรอ” หลังจากแก้วจับได้เรื่องยักยอกเงินกิลด์ พายัพก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับใครอีกเลย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน อาร์ม กลับเข้ามาพบพายัพด้วยตัวเองแถมยังทักพายัพเรื่องความเครียดอีกทั้งๆที่ช่วงนี้ไม่น่าจะมีเรื่องเครียดอะไรแท้ๆ
” ก็นิดหน่อยครับ…” พายัพถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปทางอาร์มที่กําลังเดินเข้ามา เรื่องจะโดนเปิดโปงคงไม่เท่าไหร่เพราะแก้วยังให้โอกาสพายัพอยู่ แต่หลังจากนี้แก้วจะหาคนมาช่วยทําบัญชีกับเขาด้วย แบบนั้นมีหวังโดนตรวจสอบจนเรื่องที่ร่วมมือกับอาร์มรัวไปแน่ๆ แม้จะหาทางเอาตัวรอดได้โดยการเอาเงินกองทุนกิลด์ไปจ่ายโบนัสให้ลูกกิลด์ก็ตาม แต่คนที่เคยได้มีหรือจะไม่เสียดาย หลังจากนี้ถ้ายักยอกไม่ได้ นอกจากจะไม่ได้เงินอย่างเคยแล้วเขายังต้องเสียข้อตกลงกับอาร์มไปอีก แล้วการทําให้อาร์มเสียข้อตกลงก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แถมเจ้าตัวก็เดินเข้ามาหาอีกต่างหาก
“เรื่องแก้วสินะ” อยู่ๆพายัพก็เปิดตัวออกมาเองเลยว่าตนเองรู้เรื่องของแก้วอยู่แล้วทําเอาพายัพสะดุ้งโหยงเพราะคิดจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแท้ๆ
“คุณอาร์มรู้ได้ไงครับ” พายัพถามก่อนจะมองไปรอบๆ โชคดีที่ในห้องมีแค่เขากับอาร์มเท่านั้น ไม่มีใครได้ยิน
“วันก่อนอยู่ๆแก้วก็เข้ามาที่โรงแรม บุกเข้าไปถึงในบ่อน” อาร์มตอบออกมาช้าๆก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับพายัพ เขาจงใจเล่าโดยไม่บอกว่าสาเหตุที่แก้วมาหาเขาก็คือตัวเขาไปชวนมาเอง แถมจะบอกว่าที่ความลับของพายัพแตกเนี่ยเป็นเพราะอาร์มเองก็ไม่ผิดหรอก
” ดูเหมือนจะตามสืบเรื่องอะไรบางอย่างก็เลยคิดว่าแก้วน่าจะรู้เรื่องของแกแล้ว” อาร์มว่าพลางมองไปทางพายัพเหมือนคนรู้ทัน ที่พายัพหน้าซีดแบบนั้นมาทั้งวันก็เพราะเรื่องของแก้วแน่ๆ มันเป็นไปตามแผนที่กวีบอกเอาไว้ตลอดเลย
“ไปถึงบ่อนเลยงั้นเหรอ” พายัพยิ่งได้ฟังก็ยิ่งหน้าซีดไปกว่าเดิมเสียอีก ตอนแรกแค่ความลับแตกกว่าแย่แล้ว นี่แก้วรู้กระทั่งว่าเขาไปเล่นพนันจนเป็นหนี้เลยงั้นเหรอ ไม่สิ แบบนั้นแย่มากๆเลยไม่ใช่หรือไง เรื่องเงินได้น้อยลงยังไม่เท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไรพายัพก็ยังมีเงินเดือนจํานวนมากจากการเป็นหัวหน้ากิลด์อยู่ แต่แบบนี้แก้วอาจจะตามไปถึงบ่อนแล้วห้ามเขาไม่ให้เล่นพนั้นเลยก็ได้ สําหรับผีพนันแบบพายัพแล้วมันทําใจลําบากมากกว่าเสียอีก
“ว่าไง โดนจับได้แบบนี้จะจัดการยังไง อย่าบอกนะว่าจะให้นั่งนั่นมาฟังข้อตกลงของ เรา” พายัพถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าที่ไม่พอใจนัก เพราะการใช้หนี้แบบนี้ทําให้บ่อนได้กําไรดีทีเดียว คนที่ติดหนี้บ่อนบางคนก็เข้ากิลด์มาเพื่อจ่ายหนี้ด้วยการใช้แรงงาน ระบบมันถูกวางมาแล้วจะให้พังทิ้งก็คงไม่ได้จริงไหมล่ะ
“เอ่อ….ผมจะพยายามเก็บเรื่องของเราเป็นความลับ” พายัพเค้นสมองคิดอย่างหนักเพราะเรื่องมันใหญ่กว่าที่เห็นมาก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ฝังอาร์ม แม้แต่ฝั่งพายัพเองยังได้รับคําชมจากกิลด์อื่นๆเรื่องเรดของอาร์มที่ขยันขันแข็งกันอย่างมาก แต่เดิมกิลด์เสียดฟ้ามีชื่อแค่เพราะแก้ว ตอนนี้กลับเริ่มมีชื่อเสียงในด้านอื่นแล้ว อยู่ๆเกิดแผนล่มแล้วพวกอาร์มลาออกไปหมดเขาก็คงตอบคําถามของรองหัวหน้าหรือเสนาธิการไม่ได้แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางไหนมันก็เจ็บปวดมากเลยไม่ใช่หรือไง
“ไม่ได้ ต้องกําจัดแก้วซะ” อาร์มส่ายหน้าช้าๆก่อนจะเลือกคําตอบให้พายัพด้วยใบหน้าจริงจัง และดุดันอย่างมาก พออาร์มทําแบบนั้นแล้วก็เหมือนจะไปฆ่าไปแกงกันเลย
“กําจัด…” พายัพได้ยินแบบนั้นก็อดกลืนน้ําลายลงคอไม่ได้ เขาอยู่ในบ่อนประจําก็เลยเห็นเวลาพวกอาร์มจัดการพวกคู่อริที่พยายามมาก่อกวนบ่อนหรือจัดการลูกหนี้ของตนเอง พวกอาร์มไม่เหมือนผู้เล่นคนอื่นๆ ถ้าเป็นนอกเกมละก็พวกเขาก็คือแก๊งมาเฟียของจริงเลย วันนั้นถ้าพวกอาร์มพกอาวุธไปด้วยก็ไม่แน่ว่าแก้วจะจัดการได้หรือเปล่าด้วยซ้ํา
” ปัญหามันเกิดจากนังนั่น ก็ต้องกําจัดทิ้งไม่ใช่หรือไง พวกเราไม่ได้เล่นขายของกันอยู่นะโว้ย” อาร์มลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปทุบโต๊ะของพายัพอย่างจัง แม้เลเวลจะต่ํากว่าแต่เพราะเป็นอาร์มคนนั้นพายัพเลยสะดุ้งโหยงโดยไม่รู้ตัว
“ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ได้จะฆ่าจะแกงกันหรอก แต่มันมีวิธีอยู่ วิธีที่จะทําให้ทุกคนไม่ยอมเชื่อยัยนั่น”อาร์มยิ้มเหี้ยมก่อนจะมองใบหน้าของพายัพนิ่งเหมือนกําลังรอการตัดสินใจจากพายัพ ตอนนี้ขอเพียงกําจัดแก้วออกไปได้ แผนงานต่อไปของอาร์มก็จะเดินหน้าอย่างราบรื่น ไม่ใช่แค่นั้น คนที่จะทําให้พายัพเสียรายได้อย่างแก้วเองก็จะหายไปด้วย แค่ตัดใจทิ้งแก้วเท่านั้น ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้เสวยสุขเหมือนเดิม
“ครับ…เข้าใจแล้วครับ” พายัพพยักหน้าช้าๆก่อนจะกลืนน้ําลายลงคอ อย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่าไม่ได้แกงกันนี่นา แถมตอนนี้ชื่อเสียงของกิลด์เสียดฟ้าก็พุ่งสูงขึ้นจนไม่ต้องสนใจตําแหน่งมือธนูอันดับ 2 อย่างแก้วด้วย
“เอ๊ะ…เที่ยวเชียงใหม่?” เจผู้ที่เพิ่งจะได้เข้ากิลด์บูรพาเสียที่พูดออกมาด้วยท่าที่งุนงง เพราะอยู่ดีๆกวีก็ชวนเจไปเที่ยวเชียงใหม่เสียอย่างนั้น
“ใช่ วันนี้ว่างก็เลยอยากจะไปเที่ยวสักหน่อย” กวีตอบพลางยิ้มบางๆออกมาเหมือนกําลังชวนเพื่อนไปเดินเล่นแถวหน้าปากซอยเสียอย่างนั้น
“ก็ได้หรอกครับ แต่จะไปเชียงใหม่ทําไมเหรอครับ”เจถามด้วยท่าที่งุนงง ไม่นึกว่ากวีจะอยากไปเที่ยวขึ้นมาเฉยๆ
” จริงสิ เบล อยู่เชียงใหม่ใช่หรือเปล่า ช่วยเป็นไกด์นําเที่ยวให้หน่อยได้ไหม” กวีไม่ได้ตอบเจ แต่กลับหันไปถามเบลแทนเสียอย่างนั้นทําเอาเบลที่เพิ่งเข้ากิลด์มาทําตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ช่วยไม่ได้หรอกกวีเป็นคนระดับเดียวกับหัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กเลยนี่นา คนระดับนั้นเบลแทบไม่มีโอกาสได้เจอเลย
“ได้ค่ะ…”เบลพยักหน้าช้าๆก่อนจะมองกวีด้วยท่าทีเกร็งๆ แต่ที่เบลรู้สึกประหม่าที่สุด คงเป็นเรื่องของเจมากกว่า เจเพิ่งจะเลิกกับมายด์ไปแท้ๆก็ได้เจอกับเขาที่โลกความจริงเลย แบบนี้มันจะดีงั้นเหรอ..
“ดี งั้นเจอกันที่สนามบินนะเจ พี่ซื้อตั๋วให้แล้ว” กวีพูดจบก็ออกจากเกมไปเสียอย่างนั้นทําเอาเจกับเบลได้แต่กะพริบตาปริบๆมองร่างของกวีที่กําลังหายไปโดยไม่ได้พูดอะไร
ยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไร เจก็เดินทางมาสนามบินแล้วโดนกวีลากขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ซะแล้ว รู้ตัวอีกทีก็มายืนที่สนามบินเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แถมคนที่มาด้วยยังมี กวี เมฆ แล้วก็มีนอีกต่างหาก ถ้ารวมไอช่าอีกคนนี่ก็เกือบจะเป็นปาร์ตี้หลังจากลงมาที่แผ่นดินในเกมเอคโค่ครั้งแรกแล้วนะเนี่ย
” พี่กวี นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”เจถามพลางเดินตามกวีออกมาจากสนามบินไปด้วยท่าทีสงสัยคนของกิลด์บูรพามีตั้งมากมาย คนที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ไม่ใช่แค่เบลแน่ๆ แต่กวีก็ยังให้เบลเป็นคนนําเที่ยว แบบนี้มันมีอะไรแอบแฝงแน่ๆไม่ใช่หรือไง
“ถือเป็นการไถ่โทษเรื่องที่ให้เจทนอยู่กับมายด์ไง” กวีหัวเราะออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในรถที่เข้ามาจอดเพื่อรับพวกกวีโดยเฉพาะ แถมคนที่ขับรถมายังเป็นคนในกิลด์บูรพาอีกต่างหาก
“ไถ่โทษ…หรือว่า”เจได้ยินแบบนั้นก็มองซ้ายมองขวาด้วยท่าที่ตกใจ หรือว่าที่ชวนมาเที่ยวนี้
”เดทให้สนุกนะคะ เดี๋ยวพวกเราจะหาข้ออ้างออกไปกลางทางเอง”มีนหัวเราะออกมาด้วยท่าทีขําๆ เพราะการชวนเจมาอย่างกะทันหันครั้งนี้ก็เพราะต้องการให้เจได้ไปเที่ยวเล่นกับเบลเสียหน่อย แม้มีนจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่คราวก่อนได้ยินว่าเจมาขอร้องให้ยกเลิกคําสั่งเรื่องของมายด์ เพราะตัวเองได้พบคนพิเศษเข้าแล้ว แน่นอนว่าคนๆนั้นคือใครกวีสามารถหาข้อมูลมาได้ไม่ยากเลย ไม่สิ แม้แต่มีนที่ไม่ได้หาข้อมูลมาแค่มองพริบตาเดียวก็รู้แล้วว่าใครคือคนๆนั้น
“ห้ะ นี่พี่กวีจัดฉากงั้นเหรอ”เจกลืนน้ําลายลงคอก่อนจะนึกถึงใบหน้าของเบลขึ้นมา อยู่ๆก็มาหาในโลกความจริงเลยแบบนี้ดีแล้วเหรอ แม้จะรู้สึกว่าเบลน่าจะใจตรงกันก็เถอะ แต่จะรีบรุกแบบนี้ดีแล้วแน่นะ
ครืด….
ยังไม่ทันได้ทําใจ อยู่ๆรถของพวกกวีก็จอดที่ข้างทางตรงจุดที่มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนรออยู่พอดี แต่ถึงจะอยู่นอกรถเจก็เห็นได้ชัดเจนว่าคนที่มารอก็คือเบลแน่ๆ แถมเธอยังแต่งชุดมาเสียน่ารักมากๆอีกด้วยเล่นเอาเจใจเต้นเลย
“มะ มารอนานหรือเปล่า”เจเปิดประตูรถออกไปยืนข้างนอกอย่างรวดเร็วเสียอย่างนั้น ทําเอากวีกับเมฆอดที่จะจําไม่ได้ ท่าทางเจจะเกร็งมากที่เจอกับเบลข้างนอกเป็นครั้งแรกสินะ
“ไม่นานหรอกค่ะหัวหน้า พวกหัวหน้ามาเร็วมากเลย”เบลเองก็ประหม่าไม่ต่างกัน ชุดที่ใส่มา แม้จะซื้อมาเพราะน่ารักดี แต่กลับไม่เคยใส่เพราะรู้สึกอายนิดหน่อย พอเจอเจเข้าตรงๆก็ยิ่งกังวลว่าสวมชุดมาถูกหรือเปล่า เล่นเอาตื่นเต้นจนอกแทบระเบิดแน่ะ
“งั้น…เอ่อ…เข้ามาสิ” เจว่าพลางเปิดประตูรถให้เบลเข้ามานั่งร่วมกับพวกกวี เห็นความประหม่าของทั้งสองคนแล้วทําเอาพวกกวีได้แต่แอบขําในใจ ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนเจอกันในเกมเป็นเรื่องปกติหรือไง แถมหน้าตาก็ไม่ได้ต่างจากโลกความจริงเลยสักนิด ทําไมแบบนี้ถึงมัวแต่เขินเล่า
“ขอโทษนะเบล พอดีพวกเรามีธุระต้องไปทํากันก่อน เบลช่วยพาเจไปเที่ยวก่อนได้ หรือเปล่า” หลังจากพาเบลเข้ามาในรถแล้ว อยู่ๆกวีก็พูดตามแผนออกมาอย่างง่ายดาย นี่มันพูดแบบไม่ได้คิดด้วยซ้ําว่ามันจะฟังดูสมจริงหรือเปล่าไม่ใช่หรือไง
“เอ๊ะ แต่แบบนั้นมัน…”
“ไม่มีแต่ จอดตรงนี้ล่ะ”ไม่รอให้เบลตอบว่าได้หรือไม่ กวีกลับหันไปหาคนขับแล้วบอกให้คนขับรถจอดข้างทางทันที
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะ” กวีโบกมือลาก่อนจะลงรถไปพร้อมกับพวกเมฆและมีนอย่างรวดเร็ว
ปัง!!
บอกลาเสร็จกวีก็ปิดประตูรถเพื่อตัดบทพร้อมกับตัวคนขับที่รุ้งานรีบเหยียบคันเร่งพารถออกห่างจากพวกกวีไปอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ แล้วเจอกัน” กวีมองตามรถไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองทางเมฆและมีน การมาเชียงใหม่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อช่วยจับคู่เจเท่านั้นหรอก แต่กวียังมีงานอื่นต้องมาทําด้วย
“เข้าใจแล้ว”เมฆพยักหน้าช้าๆก่อนจะพามีนเดินแยกออกไปอีกทางเพื่อไปทําหน้าที่ของตนเอง