Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 134
ตอนที่ 134
คนแปลกหน้า
“อย่ามาแกล้งโง่เลย วันนั้นกวีเป็นคนส่งพวกนายมาไม่ใช่หรือไง” แก้วได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที แม้กวีจะบอกด้วยตัวเองในกิจกรรมยักษ์แห่งหุบเขากระดูกว่าตนเองไม่ได้ส่งคนไปทําร้ายแก้วนอกเกม แต่ถึงอย่างนั้นจะให้แก้วเชื่อคําพูดจากศัตรูได้ยังไงกัน ต่อให้กวีเอาหลักฐานมากองเอาไว้ตรงหน้า แก้วก็คงไม่เชื่อหลักฐานนั้นแล้วปฏิเสธข้อมูลของกวีไปแน่ๆ
“ตอนนั้นพวกเรามาทวงเงินให้เจ้านายต่างหาก พวกแกรู้จักคนชื่อกวีหรือเปล่า”อาร์มเห็นแก้วไม่เชื่อก็เลยหันไปถามลูกน้องของตนที่อยู่ข้างหลัง
“ไม่ครับ ลูกพี่ของพวกเราคือคุณโกสน ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องคนชื่อกวีเลย” พวกลูกน้องพอได้ยินก็พากันมองหน้ากันไปมาแล้วปฏิเสธออกมาทันที
“คุณโกสน?” แก้วได้ยินชื่อเจ้านายของพวกอาร์มก็แสดงท่าที่ประหลาดใจออกมาทันที คุณโกสนเป็นเจ้าของโรงแรมในเขตบ้านของแก้วเอง ท่านเป็นคนใจดีและมักจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ทําให้แก้วได้ยินชื่อมาบ้าง เป็นไปได้งั้นเหรอที่คนของคุณโกสนจะสั่งให้พวกอาร์มมาทวงเงิน?
“ถ้าไม่เชื่อจะไปเจอพวกเราที่ข้างนอกก็ได้ พวกเรายังทํางานให้คุณโกสนอยู่ ไปที่โรงแรมแล้วบอกว่ามาหาผม เดี๋ยวลูกน้องของผมจะพาคุณเข้ามาเอง” อาร์มยื่นข้อเสนอออกไปให้แก้วรับฟังหากทําแบบนั้นจะพิสูจน์ความจริงได้ง่ายที่สุดแล้ว เพราะหากเจ้านายของพวกอาร์มไม่ใช่คุณโกสน พวกเขาก็คงเข้าไปทํางานในโรงแรมไม่ได้
“…….”แก้วได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ทราบจะเชื่ออะไรดี หากเรื่องที่อาร์มพูดมาเป็นเรื่องจริง งั้นเรื่องที่เธอเข้าใจก็อาจจะเป็นความเข้าใจผิดงั้นเหรอ ไม่สิ คนที่บอกว่าพวกอาร์มเป็นคนที่กวีส่งมาคือพายัพเอง แถมยังไปแจ้งความกับเธอที่สถานีตํารวจด้วย
กึก…
หลังจากได้ฟังเรื่องนี้ แก้วก็ขอลาน้องๆแล้วออกมาจากเกมเพราะไม่สามารถตั้งสมาธิกับการล่าได้ ช่วงนี้พายัพเองก็เปลี่ยนไปด้วย ทําให้แก้วสับสนไปหมด แต่เดิมเธอกับพายัพเป็นเด็กที่โตมาในละแวกเดียวกันเพราะบ้านของพ่อแม่ของแก้วและพายัพอยู่ไม่ห่างกันนัก พายัพเป็นคนชวนแก้วเข้ามาเล่นเกม หากถามว่าความสัมพันธ์ของแก้วกับพายัพเป็นอย่างไร ก็คงคล้ายๆกวีกับวินนั่นล่ะ เพราะแบบนั้นเรื่องที่พายัพบอกเลยกลายเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้วสําหรับแก้ว จนกระทั่งเรื่องมันแปลกเกินไปจนแก้วต้องหยุดคิดดูสักครั้ง
“หนู คดีของหนูมันจบไปแล้วนะ ดูเหมือนพี่ชายของหนูจะถอนฟ้องไปแล้วพวกเราก็เลยไม่ได้ทําคดีต่อ”แก้วออกจากบ้านไปที่สถานีตํารวจเพื่อสอบถามเรื่องคดีเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะตอนนั้น แก้วบาดเจ็บก็เลยให้พายัพเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ พายัพก็บอกว่า คดียังไม่คืบ แล้วอ้างว่ากวีเป็นคนเข้ามากดดันพวกตํารวจด้วยเส้นสายทําให้พวกเขาไม่ยอมสืบต่อ
แต่เมื่อเข้ามาสอบถามตํารวจด้วยตัวเองแล้วกลับพบว่าคนที่ทําให้คดีไม่คืบหน้าก็คือตัวพายัพเอง ในเอกสารที่ตํารวจเอาออกมาให้ดู คนที่เซ็นยอมยินยอมจะถอนฟ้องก็เป็นพายัพเอง แถมยังเซ็นเอาไว้ในวันเดียวกันกับที่พายัพเอาเอกสารมาให้แก้วดูอีกด้วย
ถ้ามันเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าทันทีที่พายัพเอาเอกสารให้แก้วดูที่โรงพยาบาล คล้อยหลังไม่ทันได้ พายัพก็มาถอนฟ้องแล้วงั้นเหรอ? นี่มันเรื่องอะไรกัน ทําไมพายัพต้องทําอย่างนั้นด้วย
แต่…ถ้าอิงตามที่พวกอาร์มพูด ถ้าพวกอาร์มไม่เคยรู้จักกวีมาก่อน แล้วเข้ามาทวงหนี้พายัพจนเกิดเรื่องขึ้น เรื่องราวทั้งหมดก็จะลงล็อกอย่างประหลาด ขอเพียงตัดตัวแปรที่ชื่อกวออกไปเรื่องราวก็จะไหลลื่นจนน่าตกใจ กวี เป็นเพียงชื่อที่พายัพใช้อ้างเพื่อปกปิดบางอย่างจากแก้ว เท่านั้นงั้นเหรอ?
“สวัสดีค่ะ คนชื่ออาร์มบอกว่ามาหาเขาได้ที่นี่” หลังจากได้ทราบเรื่องจากสถานีตํารวจ แก้วก็เดินทางมายังโรงแรมของคุณโกสนที่พวกอาร์มบอกว่าเป็นเจ้านายของพวกตน โรงแรมของคุณโกสนเป็นโรงแรมใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกลางเมือง แต่ถึงค่าพักจะแพงมาก แต่รถที่จอดอยู่รอบโรงแรมกลับไม่เคยลดน้อยลงเลย
“ใช่คุณแก้วหรือเปล่าครับ” ทันทีที่แล้วเข้าไปสอบถามถึงอาร์ม ชายหนุ่มที่ทําหน้าที่ประชาสัมพันธ์ก็ถามถึงเธอขึ้นมาทันที เหมือนว่าอาร์มจะสังเอาไว้แล้วว่าถ้ามีผู้หญิงที่ชื่อแก้วมาหาให้พา เข้ามาพบเข้าได้เลย
“ค่ะ ฉันเอง”แก้วตอบพลางกลืนน้ําลายลงคอช้าๆ ตอนนี้แก้วรู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นสิ่งที่พายัพพยายามปกปิดเอาไว้ และความรู้สึกของเธอก็กําลังบอกว่าคําตอบของสิ่งที่พายัพปกปิดเอาไว้อยู่ภายในโรงแรมแห่งนี้นั่นเอง
“เชิญครับ” ชายหนุ่มฝ่ายประชาสัมพันธ์พาแก้วเข้ามาที่ห้องด้านหลัง ซึ่งมันควรจะเป็นห้องจัดเลี้ยงสําหรับจัดประชุมหรืออะไรสักอย่าง เพียงแต่ทันทีที่เปิดประตูออก แก้วก็พบว่าห้องนี้มันไม่ใช่ห้องจัดเลี้ยงแน่ๆ แถมมันคงไม่เคยเป็นห้องจัดเลี้ยงมานานมากแล้ว เพราะภายในห้องประชุมขนาดใหญ่แห่งนี้ เต็มไปด้วยโต๊ะการพนันเต็มไปหมด ทั้งเครื่องเล่นหรือโต๊ะที่ทําขึ้นเฉพาะสําหรับใช้เล่นพนันที่แก้วไม่รู้ด้วยซ้ําว่าพวกมันเล่นอย่างไร
“……”ระหว่างเดินตามประชาสัมพันธ์เข้าไปด้านใน แก้วก็ทราบแล้วว่าสาเหตุที่พายัพ ต้องเอากวีมาอ้างคืออะไร พายัพไม่อยากให้แก้วรู้เรื่องที่เขาติดหนี้พวกอาร์มก็เลยบอกว่าอาร์มแค่ มาดักทําร้ายอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถ้าหากแก้วรู้เข้าว่าเขาติดหนี้ก็คงสงสัยมากขึ้นจนต้องสืบให้รู้เข้าจนได้ว่าพายัพติดหนี้แบบไหน
“ไงคุณแก้ว ทีนี้เชื่อหรือยัง” อาร์มที่ออกจากเกมตั้งแต่แยกทางกับแก้วในเกมเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เป็นไปตามที่กวีบอกจริงๆด้วยเป๊ะแม้กระทั่งเวลา
“ฮะๆ…..นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย” แก้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะมองไปรอบๆด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ ภาพพายัพพี่ชายที่แสนดีของเธอแทบจะพังไม่มีชิ้นดี ตลอดมาพายัพมาเล่นพนันที่นี่ ตลอดเวลาเลยงั้นเหรอ เพราะแบบนี้เองสินะพายัพถึงได้ติดเงินคุณโกสนทั้งๆที่หาเงินได้มหาศาลจากในเกมแท้ๆ
“……”อยู่ๆในหัวของแก้วก็นึกถึงภาพของกวีในวันที่เธอได้รู้ความจริงว่ากวีที่เธอรู้จักในเกมโลกเสมือนจริงนั้นเป็นคนเดียวกับหัวหน้ากิลด์คู่อริของเธอ กวีบอกกับเธอเอาไว้ว่า…ราคาไอเทมที่กิลด์เมฆาได้รับจากกิลด์เสียดฟ้ามันดูแปลกๆ
“ไหนๆก็มาแล้ว คุณแก้วมาเล่น…”อาร์มพูดชวนยังไม่ทันจบ แก้วก็หันหลังวิ่งออกไปจากห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมทันที
“น่าเสียดาย ถ้ามาเล่นกันสักหน่อยอาจจะได้ลูกค้าเพิ่มก็ได้”อาร์มหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทํางาน สมแล้วที่เป็นคนที่คุณหนูเจมส์นับถือ ทุกอย่างเหมือนกับสิ่งที่เขาบอกเอาไว้ไม่มีผิด อย่างกับมองเห็นอนาคตแนะ
“เอ…พอยัยนั่นวิ่งออกไปแล้วก็ให้ไปเตรียมแผนขั้นต่อไปสินะ” อาร์มหยิบสมุดจดออกก่อนจะเริ่มกลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
“นี่มัน…”แก้วกลับมาที่บ้านของตนเองก่อนจะเข้าไปในเกมอย่างเร่งด่วน แก้วเป็นหัวหน้ากิลด์ย่อยของกิลด์เสียดฟ้า แม้จะไม่ได้ใช้ชื่อเดียวกันแบบกิลด์ย่อยอื่นๆ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าแก้วเป็นคนสนิทและมีฐานะพอสมควรในกิลด์เสียดฟ้า ทําให้แก้วสามารถเข้าถึงข้อมูลของกิลด์ได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะค้นในฐานข้อมูลของกิลด์มากแค่ไหน แก้วก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการขายไอเทมของกิลด์เสียดฟ้าได้เลย แม้จะเข้าใจว่ามันเป็นความลับของกิลด์ แต่แก้วมีอํานาจพอๆกับรองหัวหน้ากิลด์เลยนะ งั้นก็หมายความว่าแม้แต่รองหัวหน้ากิลด์ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการขายไอเทมได้งั้นเหรอ
จริงด้วย…พายัพมักจะทําบัญชีด้วยตัวเองไม่เคยให้ใครเข้ามายุ่งเลย เขาอ้างว่าการทําคนเดียวจะทําให้ความผิดพลาดมีน้อยลง และเขาก็อยากรับผิดชอบตรงส่วนนี้ด้วย แต่มาวันนี้แก้วกลับไม่สามารถเชื่อสิ่งที่พายัพพูดมาได้อีกแล้ว ตอนนี้สําหรับแก้วมันเหมือนกับพายัพกลายเป็นคนอื่นไปแล้วเลย
“จริงสิ เล่มบัญชี…” หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ในที่สุดแก้วก็นึกออก พายัพไม่เคยเอาบัญชีเข้าระบบเกม แต่เขาจะใช้วิธีเขียนด้วยมือและเก็บเอกสารเอาไว้ในห้องของเขา ซึ่งภายในห้องทํางานของพายัพคนนอกไม่สามารถเข้าได้ แต่แก้วไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย
ตึง…
แก้วเดินทางมายังอาคารกิลด์ของกิลด์เสียดฟ้าในทันทีก่อนจะบุกเข้าไปในห้องของพายัพแบบเปิดเผยเพราะการที่แก้วจะเข้าไปในห้องของพายัพนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้แต่สมาชิกกิลด์ยัง ไม่คิดจะสนใจด้วยซ้ํา
“…..” แต่ถึงแก้วจะพยายามคิดแผนเพื่อจะแอบดูเล่มบัญชีของพายัพมาระหว่างทางแล้ว แต่ท่าทางแผนพวกนั้นคงจะไม่ต้องใช้ซะแล้วเพราะพายัพไม่อยู่ในห้องด้วยซ้ํา แก้วที่เร่งรีบเข้ามาไม่ได้ฟังประชาสัมพันธ์หน้าห้องบอกด้วยซ้ําว่าพายัพไม่อยู่ทําให้ในห้องตอนนี้มีแค่แก้วคนเดียวเท่านั้น
ในเมื่อเจ้าตัวไม่อยู่แล้ว แก้วก็เดินไปที่โต๊ะของพายัพแบบไม่ต้องเกรงใจ ก่อนจะเปิดลิ้นชักที่ใส่รหัสเป็นวันเกิดของแฟนคนแรกของพายัพออกอย่างง่ายดาย เพราะรู้จักกันมานานทําให้แก้วสามารถเข้าถึงเล่มบัญชีที่พายัพเก็บซ่อนอย่างดีได้ราวกับเป็นเรื่องปกติ
“ทําไม พี่กวีถึงไม่เอาหลักฐานพวกนี้ไปให้พี่แก้วดูเองล่ะครับ” เมษ น้องชายของมีนพูดออกมาด้วยท่าที่ประหลาดใจ เพราะเมษกับมีนเป็นพี่น้องกัน เป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะไม่ได้คุยกัน เลยหลังจากกิจกรรมยักษ์แห่งหุบเขากระดูก
แต่เดิมเมษก็แพ้ทางพี่สาวตัวเองอยู่แล้ว พอโดนขอร้องหลายๆรอบเข้าก็ยอมมาดูหลักฐานจากกวีอย่างง่ายดาย เมษไม่คิดจะทรยศพี่แก้วหรอก แต่แค่มาดูหลักฐานตามที่พี่สาวขอร้องเท่านั้น ส่วนจะทําอย่างไรต่อจากนี้ ก็ดูที่ความน่าเชื่อถือของหลักฐานอีกที
“ไม่ได้หรอก แก้วหัวแข็งกว่าที่คิด ต้องให้เธอได้รู้ความจริงด้วยตัวเองถึงจะตาสว่าง” กวีตอบพลางยิ้มบางๆออกมา หลังจากเอาหลักฐานทั้งหมดให้เมษดูเมษก็เข้าใจอะไรมากขึ้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังจบกิจกรรม เมษก็วางใจในตัวกวีมากขึ้น
“นั่นสินะครับ…”เมษตอบพลางมองรายงานราคาไอเทมที่สมาคมการค้าของเรย์เอามาให้รายการพวกนี้ทําให้เมษเห็นว่าราคาซื้อขายของไอเทมต่างๆที่พายัพหลอกเอาไว้มีมากแค่ไหน แม้แต่ละรายการจะมีส่วนต่างไม่เท่าไหร่ แต่พอเอาหลายๆรายการมารวมกันแล้วก็กลายเป็นเงินทอน มหาศาล พอรู้ว่าพวกตนโดนกิลด์เสียดฟ้าหลอกใช้มาตลอดเมษก็รับไม่ได้อย่างแรง ยิ่งมาทํากับพี่น้องในกิลด์ด้วยแล้วยิ่งน่าโมโห
“งั้นก็…ฝากเรื่องนั้นด้วยล่ะ” กวีว่าพลางมองเมษด้วยท่าที่ยิ้มแย้ม แม้กวีจะเล่นงานพวกเขามามาก แต่การกระทําพวกนั้นก็เพราะกวีเป็นศัตรูกับพวกเขา เพื่อชิงชัยกันทั้งสองฝ่ายก็ต้องเล่นงานกันอยู่แล้ว เทียบกับฝั่งเดียวกันที่แอบเล่นงานพวกตนแล้ว แบบหลังเจ็บปวดกว่ากันหลายเท่า
” ครับ ผมเองก็ไม่อยากให้พี่แก้วโดนหลอกต่อไปเหมือนกัน” เมษตอบด้วยท่าที่จริงจัง ไม่ใช่ว่าเขาจะเข้ามาเป็นพวกกับกวีหรอกนะ แต่แค่ร่วมมือชั่วคราวเท่านั้น