Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 132
ตอนที่ 132
เสนอ
” หัวหน้ากิลด์…”เจได้ยินที่เก้าพูดก็ชะงักไปครู่หนึ่ง หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กงั้นเหรอ เขาต้องการจะพูดอะไรกัน…แล้วทําไมเขาไม่มาด้วยตัวเองแต่ส่งเก้ามาแทนล่ะ??
“ใช่ เปิดประตูได้หรือยัง” เก้าถามพลางเคาะประตูอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เขาเคาะแรงไปหน่อยเพื่อนบ้านของเจเลยเริ่มมองมาทางเขาแล้ว
“ก็ได้ เข้ามา”เจคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมให้เก้าเข้าประตูมา อย่างไรหน้าบ้านของเจก็ มีกล้องวงจรปิดอยู่แล้วไม่คิดว่าเก้าจะหาเรื่องติดคุกนอกเกมหรอก
“ได้ข่าวว่าแกอยู่กับแฟนไม่ใช่เหรอ แล้วยัยนั่นไปไหนแล้วล่ะ” เก้าถามพลางเดินเข้าไปในบ้านของเจก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างถือวิสาสะ
“ไปข้างนอก”เจไม่คิดจะพูดเล่นอะไรกับเก้าอยู่แล้วเข้าเพียงเดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยท่าที่เคร่งเครียดเท่านั้น
”ดี ไม่อยากให้ยัยนั่นมาเกะกะอยู่แล้ว”เก้าหัวเราะออกมาด้วยท่าที่สบายๆ ท่าทางเก้าตอนนี้ ไม่เหมือนปกติเท่าไหร่ ราวกับไม่มีจิตสังหารที่มักจะมีตลอดเสียอย่างนั้น
“แล้วหัวหน้ามีเรื่องอะไร”เจถามออกไปด้วยท่าที่เครียดจัด บอกตามตรงว่าตอนนี้เจมีเรื่องให้ปวดหัวเต็มไปหมด
“ก็ง่ายๆ เขาอยากให้นายตัดขาดจากกวี แล้วกลับมาเป็นหัวหน้ากิลด์ย่อยให้เขาเหมือนเดิม” เก้ายื่นข้อเสนอที่หัวหน้ากิลด์ฝากมาด้วยท่าที่สบายๆ นึกว่าเก้าจะแสดงท่าที่ไม่ชอบใจออกมาซะอีกที่หัวหน้าอยากให้เจกลับไป
“ง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ แกเพิ่งจะเปิดโปงฉันไปไม่ใช่หรือไง”เจถามด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ เก้าเพิ่งจะหาเรื่องโจมตีเจไปหยกๆ อยู่ๆก็นําข่าวดีมาให้ว่าหัวหน้ากิลด์จะยกโทษให้เนี่ยนะ ง่ายเกินไปหรือเปล่า
“มันไม่ง่ายอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ตัดขาด แค่แกยอมเอาข้อมูลของกวีมาให้พวกเรา พวกเราก็จะอ้าแขนรับพวกนายกลับมา แถมจะย้ายไปทํางานในแผนที่ที่ดีกว่านี้ด้วย”เก้าว่าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าที่เป็นมิตร เล่นเอาเจไม่คุ้นกับท่าทีของเก้าตอนนี้เลย
“ข้อมูลของกวี….”เจได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปทันที ตอนนี้แผนของกวีเป็นอย่างไรบ้างเขาก็ไม่ทราบ แต่ถ้ารับข้อเสนอของเก้าก็จะกลับไปใช้ชีวิตในกิลด์กระทิงเหล็กได้งั้นเหรอ แม้มันจะไม่น่าเชื่อเหมือนแผนลวงให้เจยอมคายความลับของกวีออกมาก็เถอะ แต่ก็มีวูบหนึ่งที่เจอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ไม่ใช่เพราะตําแหน่งหรืออํานาจ แต่เพราะถ้าทําแบบนั้นแล้วได้กลับไปเป็นหัวหน้ากิลด์ย่อยจริง เจก็คงไม่ต้องทนกับมายด์แล้วได้เริ่มสานสัมพันธ์กับเบลดู…
“ไม่ได้”เจกําหมัดแน่นก่อนจะส่ายหัวช้าๆเจยังจําตอนที่เจสัญญากับกวีเอาไว้ได้ ตอนนั้นเจสาบานว่าจะจกรักภักดีกับกวี แล้วจะให้เขาเอาข้อมูลของกวีไปบอกฝ่ายตรงข้ามได้ยังไง
“หมายความว่าไงว่าไม่ได้ รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้แกตายอยู่ในเมืองของกิลด์กระทิงเหล็ก เข้าเกมไปตอนนี้ก็มีแต่ตายแล้วตายอีกเท่านั้น สู้ยอมมาอยู่ฝั่งเราแล้วสร้างผลงานจริงๆไม่ดีกว่าหรือไง คนอย่างแกหัวหน้าออกจะชอบแท้ๆ”เก้ากระทืบเท้าแรงๆที่หนึ่งเหมือนจะพยายามกดดันเจ การเลือกเจ้านายให้ถูกก็ถือเป็นทางเลือกสําคัญของสมาชิกกิลด์เหมือนกัน ถ้าคิดถึงอนาคตแล้วเจต้องเลือกให้มันดีกว่านี้
“ขอโทษด้วย แต่กลับไปบอกหัวหน้าเถอะว่าผมไม่มีทางทรยศกวีเด็ดขาด” พอนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ไม่ใช่แค่ในวันที่เจตัดสินใจจะติดตามกวี ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเกมมาจนได้รู้จักกับกวี ตั้งแต่เรื่องที่ได้ลองเล่นสายแทงค์ดูเทวรูปองค์ที่ 5 เองก็เป็นกวีที่ให้ความลับนี้กับเขา อาชีพที่ทําให้ ได้เปรียบอยู่ทุกวันนี้ก็มาจากการที่กวีพาไปทั้งนั้น แถมในระหว่างลอบเข้ากิลด์กระทิงเหล็กมา หากไม่ใช่เพราะกวีช่วยชี้นําเจคงสร้างผลงานไม่ได้แบบนี้ตั้งแต่แรก บุญคุณมากมายขนาดนี้แล้ว จะให้เจทรยศกวีได้ยังไง ต่อให้เขาต้องทิ้งความรักอย่างเบลไปก็ไม่สนหรอก ต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักอย่างมายด์ต่อไปเขาก็ทําได้
“เรื่องนี้ก็แล้วแต่แกตัดสินใจ หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กคงผิดหวังน่าดู”เก้าเห็นเจตอบแบบนั้นก็ลุกขึ้นยืนเหมือนจะกําลังออกไปข้างนอก ท่าทางเจจะไม่ตอบรับข้อเสนอเพื่อแลกกับการทรยศกวีจริงๆ
“จริงสิ ช่วงสองทุ่มถึงสี่ทุ่มคนของเราจะเป็นคนเฝ้ายามที่หน้าจุดเกิด ให้คนของแกกลับเข้าเกมตอนนั้นพวกเราจะปล่อยให้แกหนีไปจากเมือง” อยู่ๆเค้าก็พูดเรื่องแปลกๆออกมาเสียอย่างนั้น ทําเอาเจได้แต่ขมวดคิ้วด้วยท่าที่ไม่เข้าใจ นี่มันเรื่องอะไรกันอีก จะหลอกอะไรกันอีกงั้นเหรอ
“อย่าลืมว่าตัวเองมาจากไหน แล้วจะไปไหน สงครามครั้งหน้าฉันจะเล่นงานแกให้ยับ”ยิ่งได้ยินประโยคหลังเจยิ่งสะดุ้งจนต้องรีบลุกขึ้นยืนจากโซฟา ประโยคนี้มัน
“สงครามที่ไหนงั้นเหรอ”เจถามออกไปด้วยท่าที่ไม่มั่นใจนัก ถ้ามันเป็นอย่างที่เจเข้าใจละก็ เรื่องทั้งหมดก็…
“แน่นอน ก็ต้องที่สมรภูมิ ณ สุดขอบบูรพายังไงล่ะ” เก้าตอบก่อนโบกมือลาแล้วเดินออกจากบ้านของเจไป มิน่าล่ะข้อมูลที่เจได้รับถึงได้ละเอียดนัก ที่แท้กิลด์บูรพาก็มีสายสืบระดับอาวุโสอยู่ แต่แรกแล้วนี่เองแล้ว…กวีส่งเขาเข้าไปในกิลด์กระทิงเหล็กเพื่ออะไรกัน?
ติ๊ด…!!
ระหว่างกําลังสับสนอยู่นั้น อยู่ๆโทรศัพท์มือถือของเจก็มีสายโทรเข้ามาเสียอย่างนั้น แถมสายนี้ยังเป็นสายที่เจพยายามจะติดต่อมาร่วมชั่วโมงแล้วอีกต่างหาก
“ครับพี่…”เจรับสายก่อนจะพูดออกไปด้วยท่าทีหวั่นๆ พอเก้าออกไปกวีก็โทรมาเลย นี่พวกเขานัดกันล่วงหน้าไว้แล้วหรือยังไงกัน
“คงกําลังสงสัยสินะว่าทําไมถึงถูกส่งเข้าไปในกิลด์กระทิงเหล็ก” คําแรกที่กวีพูดออกมาก็ทําเอาเจถึงกับหยุดหายใจ เพราะคํานี้เจเพิ่งจะคิดอยู่ในหัวไปเมื่อไม่กี่วินาทีนี่เอง
“ครับ…”เจตอบพลางพยักหน้าช้าๆ การที่กวีโทรมาตอนนี้เหมือนรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว บางที่อาจจะเป็นเพราะเก้าถือสายของกวีทิ้งไว้ตั้งแต่เข้ามาในห้องแล้วก็ได้ งั้นเรื่องทั้งหมดที่คุยกับเก้าก็รู้ถึงหูกวีหมดแล้วนะสิ
“เป้าหมายหลักที่ส่งนายไปก็เพื่อดันเก้าให้เข้าไปเป็นปาร์ตี้หลักของหัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็ก ผลงานการจับสายสืบของเราได้จะทําให้หัวหน้ากิลด์กระทิงเหล็กเชื่อใจมากขึ้น ขอโทษที่ที่ต้ องใช้นายเป็นเหยื่อ” กวีตอบกลับมาด้วยน้ําเสียงเรียบๆ ไม่ได้มีท่าทีสํานึกผิดอย่างที่พูดแต่อย่างไร
แต่เดิมกิลด์กระทิงเหล็กที่เป็นกิลด์ใหญ่ของฝั่งนายทุนนั้นมีสายของกวีเข้าไปแทรกซึมอยู่นานแล้ว ซึ่งคนที่ทําหน้าที่ได้ดีที่สุดก็คือ เก้า นั่นเอง แต่เพราะกิลด์กระทิงเหล็กมีคนฝีมือดีไม่น้อย การจะขึ้นไปเป็นระดับผู้นํานั้นยากมากๆ โดยเฉพาะการเป็นหนึ่งในปาร์ตี้หลักของหัวหน้ากิลด์ แม้เก้าจะขึ้นไปเป็นตัวเต็งได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่พร้อมจะเข้ามาแย่งตําแหน่งกับเก้า กวีเลยส่งเจเข้าไปรับบทเป็นผู้โดนเปิดโปงยิ่งเจเป็นสายสืบที่แนบเนียนเท่าไหร่ การเปิดโปงเจก็ยิ่งทําให้เก้าได้รับ ความเชื่อใจมากขึ้นเท่านั้น
“ส่วนเป้าหมายรอง…ก็เพื่อทดสอบความสามารถของเจเองด้วย” พอได้ยินเป้าหมายรอง เจก็มีท่าทีสงสัยออกมาทันที
“ความสามารถของผม?”เจถามย้ําออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ทําไมการทดสอบความสามารถของเจถึงได้อยู่ในแผนการนี้ด้วยล่ะ
“บอกตามตรง ฝีมือของเจก่อนหน้านี้ยังไม่เข้าขั้นจะเข้ากิลด์บูรพาด้วยซ้ํา ถ้าเจยังเป็นแทงค์ของปาร์ตี้ผมอยู่จะมีคนครหาได้ ผมก็เลยให้เจไปฝึกฝีมือที่กิลด์กระทิงเหล็กและพิสูจน์ผ่านการรบกับกิลด์อื่นๆว่าเจมีฝีมือพอจะเป็นผู้นําคนหนึ่งของกิลด์บูรพา” กวีตอบออกมาด้วยน้ําเสียงราบเรียบอย่างมาก แต่เจที่ได้ยินกลับอดที่จะกลืนน้ําลายลงคอไม่ได้ ความสามารถของเจก่อนหน้านี้ไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้ากวีเอามาตรฐานของกิลด์บูรพาที่ผู้เล่นแต่ละคนต่างมีฝีมือในระดับแนวหน้าทั้ง นั้นมาเทียบ เจก็ถือว่าฝีมือไม่ถึงขั้นจริงๆ ยิ่งไม่ต้องไปเทียบกับปีศาจอย่างเมฆหรือมีนเลย ยิ่งเทียบ กับวินที่เป็นแทงค์เหมือนกันแล้ว เจคงมีดีแค่เป็นกระสอบทรายที่ทนหน่อยเท่านั้น
“แล้ว…ผ่านหรือเปล่าครับ”เจถามออกไปด้วยท่าทีหวั่นๆ พอต้องเอาตัวเองไปเทียบกับปีศาจ พวกนั้นแล้วเจก็อดหวั่นใจไม่ได้ผลงานที่เจทําก่อนหน้านี้จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่โดดเด่นก็คงได้
“พอคาบเส้น” พอกวีตอบออกมา เจก็หน้าเงื่อนไปทันที ระดับผู้นําของกิลด์บูรพาแต่ละคนฝีมือคงไม่ด้อยไปกว่านนท์ที่เจเคยเจอแน่ๆ หากต้องสู้กันก็คงแพ้หมดรูปเหมือนตอนสู้กับนนท์นั่นละ แค่คาบเส้นแบบนี้ก็ดีใจแล้ว
“แต่เรื่องความซื่อสัตย์…เจผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยเลย” อยู่ๆกวีก็เผยคะแนนสําหรับรับเข้ากิลด์ อีกอันออกมาเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าเรื่องความสามารถเจยังต้องฝึกอีกมาก แต่เรื่องความซื่อสัตย์ และทําตามคําสั่ง เจถือว่าทําได้ดีเกิดความคาดหมายไปมาก ทั้งเรื่องที่ไม่ยอมทรยศกวี รวมถึงเรื่องที่ยังยอมทนอยู่กับมายด์ทั้งๆที่เกลียดแทบเข้าไส้แท้ๆ เมื่อนําข้อนี้มาพิจารณาแล้ว การพาเจเข้ากิลด์บูรพาย่อมไม่มีใครคัดค้านแน่ๆ
“ความซื่อสัตย์”เรื่องไม่ทรยศกรีตอนเก้าเข้ามานั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่เจสงสัยที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของมายด์ อย่าบอกนะว่าที่สั่งให้เขาทนอยู่กับมายด์นั่นก็เพราะจะทดสอบว่าเขาจะยอมทําตามคําสั่งหรือไม่แม้จะสั่งให้อยู่กับคนที่เกลียดก็ตาม..
“จริงสิ เด็กคนนั้นชื่อเบลสินะ ได้ยินว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักไม่เลวเลย จะพาเด็กคนนั้นเข้ากิลด์ มาด้วยก็ได้ถือว่าเป็นรางวัล” กวีไม่ได้ตอบคําถามในใจของเจออกมาตรงๆ รวมถึงไม่ได้พูดเรื่องของมายด์ด้วย แต่การที่กวีพูดออกมาแบบนั้นก็หมายความว่าเรื่องที่สั่งให้เจต้องทนอยู่กับมายด์นั้นยกเลิกได้แล้ว และให้เจไปทําตามหัวใจได้แล้วนั่นเอง
“จริงเหรอ…ผมไม่ต้องทนอยู่กับมายด์อีกแล้วงั้นเหรอ” เจได้ยินแบบนั้นก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองรีบถามกวีเพื่อขอคํายืนยันทันที
“แน่นอนสิ บททดสอบมันจบแล้วนี่ จริงสิตอนซื้อห้องเอาไว้ได้ทําตามที่ผมบอกหรือเปล่า” กวีถามพลางเผยรอยยิ้มออกมา
“แน่นอนครับ งั้นผมย้ายออกวันนี้เลยนะ” เจว่าพลางวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า วันที่เลือกห้องกันเจให้มายด์เลือกห้องที่มายด์ถูกใจ เพราะแบบนั้นห้องเลยราคาแพงมากๆ แต่เจไม่ได้เช่าอยู่หรอกนะ แต่ทําสัญญาซื้อขายเลยต่างหาก และที่สําคัญสัญญาซื้อขายนั่นไม่ใช่ชื่อของเจ แต่เป็นมายด์ต่างหาก ตอนนั้นมายด์ที่มาพึ่งพิงเจไม่คิดจะสงสัยเจสักนิด ขอเพียงเจเลิกจ่ายค่าผ่อนซะมายด์ก็จะโดนไปเต็มๆ
“พี่กวี ผมมีเรื่องอยากจะถามได้หรือเปล่าครับ”เจที่กําลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าพูดออกเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรออกเสียอย่างนั้น
“เบล…เป็นคนที่พี่ส่งมาหรือเปล่า” ไม่ทราบว่าโดนกวีใช้งานมากไปหรือเพราะระแวงสงสัยไปหมดกันแน่ เจเลยอดคิดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วเบลเองก็เป็นคนที่กวีส่งมาเพื่อทดสอบเจหรือไม่
“อย่าคิดมากเลย เบลเป็นคนที่ไบรท์ไปหามาต่างหาก ก็เป็นลูกกิลด์ที่เข้ามาปกตินั่น ล่ะ” กวีตอบออกมาตามตรง ทั้งเรื่องที่ติดต่อกับไบรท์อยู่ก่อนแล้ว รวมถึงเรื่องที่ตนไม่ได้ส่งเบลเข้าไปหาเจแต่อย่างไร จริงๆแล้วกวีสั่งให้ไบรท์รับผู้หญิงเข้ากิลด์มาแล้วให้พวกเธอได้ใกล้ชิดเจเท่านั้น ขอเพียงเจรู้สึกชอบใครสักคนเพื่อเป็นแรงกดดันเรื่องของมายด์เท่านั้นก็พอ
“เอาเถอะ ถึงเธอจะโดนพี่ส่งมาผมก็ไม่สนหรอก”เจยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตนเองแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยท่าที่ผ่อนคลายอย่างมาก