Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 130

ตอนที่ 130

“หัวหน้า ระวังนะคะ”เบลเห็นพลังชีวิตของเจลดลงไปเยอะจนน่าตกใจก็รีบใช้สกิลรัก ษาของนักบวชต้องสาปทันทีแม้ความสามารถรักษาของนักบวชต้องสาปจะน้อย แต่เมื่อรวมกับการฟื้นตัวของเจแล้วก็ทําให้พลังชีวิตของเจเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

“ ”ฝ่ายเจพอเจอกับนนท์เข้าก็ทําอะไรไม่ถูกไปเหมือนกัน ครั้งแรกที่เจได้เห็นนนท์ต่อหน้าต่อตาคือในสงครามเมืองการ์กันสมัยที่แก๊งหมีใหญ่กับดาวแดงยึดเมืองการ์กันเอาไว้ ครั้งนั้นนนท์กับกวีต่อสู้กันอย่างสูสีจนกินกันไม่ลง แถมการต่อสู้ครั้งนั้นยังจบลงด้วยการที่เมฆเข้าไปขวางอีกต่างหาก จะบอกว่านนท์คนนี้คือจอมเวทระดับเดียวกับกวีก็ไม่ผิดเลย

“ถอยก่อนเถอะเจ เจอกับเจ้านี่เราไม่ไหวหรอก”ไบรท์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเจเห็นนนท์เข้าก็ใจฝ่อแทบจะทันที เขาไม่เคยเจอนนท์ แต่รู้ว่านนท์คือจอมเวทอันดับ 1 ของเกม แถมยังได้ข่าวว่านนท์เร่งอัพเลเวลไวกว่าเกมก่อนๆเสียอีก ไม่ใช่แค่นั้นได้ข่าวว่านนท์เปลี่ยนอาชีพขั้นที่ 3 ไปแล้วด้วย ระดับมันเหนือกว่าพวกตนเองมากเกินไป

“เข้าใจแล้ว”เจพยักหน้าช้าๆก่อนจะมองไปรอบๆ กิลด์ของเจเพิ่งจะรับคนเข้ามาใหม่เพื่อให้เต็ม 500 คนตามเลเวลของกิลด์ ลําพังเรื่องปะทะกับกิลด์ย่อยของกิลด์หัตถ์อสูรตรงๆยังไม่รู้เลยว่าจะไหวหรือเปล่า ไม่ต้องพูดถึงการปรากฏตัวของนนท์เลย

“ทุกคนถอยให้หมด อย่าเสียเลเวลอย่างศูนย์เปล่า”เจสั่งก่อนจะมองไปทางนนท์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพอหมอกสีดําเริ่มจางไป เจถึงได้เห็นว่าผู้เล่นฝั่งตนเองตายไปไม่น้อยเลย แค่พริบตาเดียวที่หมอกแปลกๆนั่นปกคลุมพื้นที่ กิลด์ของเจก็เสียเปรียบไปแล้ว แม้ตัวแทงค์จะเก่งแต่ถ้าไม่มีเวทรักษาจากนักบวชเลยก็รอดยากเหมือนกัน

“เร็วเข้า ถอยลงเขาไป”เสียงสั่งการซ้ําของพวกหัวหน้าเรดดังขึ้นก่อนที่แถวหลังของกิลด์เจจะเริ่มหันหลังวิ่งออกจากสนามรบไป

วูป…

ระหว่างสมาชิกกิลด์กําลังถอยทัพ ฝ่ายกิลด์ย่อยของกิลด์หัตถ์อสูรก็พุ่งสวนเข้าไปหมายจะเก็บพวกกิลด์ของเจให้สิ้นซากอย่างน้อยก็ทําให้พวกมันเลเวลลดจะได้มาซ่าอีกไม่ได้นั่นคือเรื่องปกติที่กิลด์ต่างๆจะคิดกันเมื่อเห็นศัตรูถอย

เปรี้ยง

เจที่อยู่แนวหน้าสุดใช้ร่างของตนเองเข้ากระแทกศัตรูที่วิ่งเข้ามา เขาคนเดียวไม่สา มารถป้องกันทั้งกองทัพได้พวกผู้เล่นของกิลด์ย่อยก็ปล่อยให้ผ่านไป อย่างน้อยก็ไม่สามารถตามเก็บคนของเจได้หมด แต่ที่เจจะปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้ก็คือ นนท์

“อ๊ากกกก” เสียงร้องของคนที่เจเพิ่งเข้าไปชนดังออกมาหลังจากเจใช้ดาบแทงร่างของเขาจนทะลุถึงจะเป็นแทงค์แต่เลเวลของเจตอนนี้สามารถฆ่าศัตรูได้สบาย ถ้าศัตรูเลเวลพอๆกันละก็…

“ช่วงนี้นายเริ่มจะดังเหมือนกันนะ นักรบอมตะแห่งกิลด์กระทิงเหล็ก”นนท์พูดพลางเดินเข้ามาหาเจด้วยท่าที่นิ่งๆ แต่ในหัวของเขาคงกําลังร่ายเวทมนตร์อยู่แน่ๆ

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยครับที่คุณรู้จักผม”เจยิ้มเงื่อนๆออกมาก่อนจะตั้งโล่เตรียมพร้อมรับมือนนท์คนในกิลด์ย่อยของกิลด์หัตถ์อสูรไม่มีท่าที่จะเข้ามาโจมตีเจอีกเลย ท่าทางนนท์จะบอกให้พวกเขาปล่อยเจเอาไว้สินะ

วูบ…

ยังไม่ทันได้ขยับ อยู่ๆเท้าของเจก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างดึงเอาไว้ พอก้ม ลงมองเจก็พบว่าใต้เท้าของตนเองเปลี่ยนสภาพจากหิมะสีขาวกลายเป็นแอ่งน้ําสีดําไปเสียแล้วแถมสิ่งที่จับขาของเจเอาไว้ก็เป็นโครงกระดูกหน้าตาน่ากลัวอีกต่างหาก ท่าทางเจ้านี่จะเป็นเวทมนตร์ลดความเร็วแน่ๆ แต่เจไม่ได้ใช้ความเร็วอยู่แล้ว

เปรี้ยง

เจพุ่งวาบเข้าไปใส่ร่างของนนท์ แต่ด้วยความเร็วที่ลดลงทําให้เจเข้าไปหานนท์ได้ช้ามากแต่เดิมนนท์ควรจะหลบการโจมตีของเจได้สบาย แต่ไม่ทราบทําไมนนท์ถึงได้ไม่ยอมหลบแต่อย่างไร เขาใช้ไม้เท้าของจอมเวทรับการโจมตีของเจก่อนจะเบี่ยงอาวุธของเจออกแล้วแทงด้ามไม้เท้าเข้าใส่เจอย่างจัง

เปรี้ยง

ไม้เท้าของนนท์โดนโล่ของเจหยุดเอาไว้ แน่นอนว่าจอมเวทที่ต้องอัพค่าปัญญาไม่มีทางโจมตีเจเข้าแน่ๆแต่เจกลับกระแทกไม้เท้าของนนท์กลับไปไม่ได้เสียอย่างนั้น

“ลดกําลังด้วยงั้นเหรอ”เจมองลงไปยังบึงเบื้องล่างก่อนจะกัดฟันด้วยท่าที่เจ็บใจ ท่าทางเวทมนตร์ที่วางเอาไว้บนพื้นจะทํามากกว่าลดความเร็วเสียแล้ว

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง

ในจังหวะนั้นเจพยายามโจมตีกลับใส่นนท์ แต่ไม้เท้าของนนท์กลับเหวี่ยงเข้ามาขัดจังหวะเจอย่างต่อเนื่องแม้จะสร้างความเสียหายไม่ได้ แต่ก็หยุดสกิลของเจได้อย่างง่ายดาย และที่แย่ที่สุดก็คือเจไม่สามารถหยุดการร่ายเวทของนนท์ได้เลย ปฏิกิริยาการตอบสนองของนนท์น่าจะพอๆกับมีนเลยมั้ง

ระหว่างกําลังพยายามโจมตีนนท์อยู่นั้น อยู่ๆนนท์ก็เปลี่ยนจากใช้ปลายไม้เท้ามาใช้หัวไม้เท้าแทนแต่ที่นนท์เปลี่ยนไม่ใช่เพราะด้านหัวของไม้เท้าโจมตีได้แรงกว่าแต่อย่างไร แต่เป็นเพราะเขาอาศัยจังหวะนี้ยิ่งเวทมนตร์กระสุนความมืดเข้าใส่ร่างของเจนั่นเอง

เปรี้ยง

แต่ดูเหมือนคราวนี้นนท์จะเป็นฝ่ายดูถูกเจเกินไปหน่อย ระหว่างยิงกระสุนความ มีดออกไปแล้วเตรียมจะร่ายเวทเคียวยมทูตเพื่อลดพลังชีวิตของเจ ฝ่ายเจที่ควรจะชะงักไปเพราะกระสุนความมืดกลับเหวี่ยงโล่ขึ้นมากระแทกร่างของนนท์เข้าให้ร่างกายของเจไม่รับความเจ็บปวดแถมยังไม่ชะงักอีกด้วยทําให้โดนอีกฝ่ายคอมโบต่อกันได้ยากมาก

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง

เจได้ที่ก็ไล่โจมตีต่อเนื่องในทันที จังหวะที่นนท์ชะงักไปทําให้เจสามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องระวังไม้เท้าของนนท์เลย กับจอมเวทแล้วต่อให้เลเวลสูงกว่ามากๆก็ยังโดนโจมตีจนชะงักได้อยู่ดี

วูบ…

“ปล่อยให้ได้ใจเกินไปสินะ” อยู่ๆร่างของนนท์ก็สลายกลายเป็นควันก่อนจะไปโผล่ที่ด้านหลังของเจเสียอย่างนั้นเวทมนตร์เทเลพอร์ตของจอมเวทสายความมืดนั้นเจเห็นมาแล้วตอนที่กวีสู้กับนนท์แต่ก็ไม่คิดว่านนท์จะร่ายออกมาระหว่างโดนคอมโบได้

เปรี้ยง

กระสุนความมืดถูกยิงเข้าใส่เจจากทางด้านหลัง แต่แค่เวทระดับต่ําที่ร่ายออกมาอย่างรวดเร็วนั้นไม่ทําให้เจเสียพลังชีวิตไปหรอก

เปรี้ยง

เจฝืนตัวเองเหวี่ยงดาบเข้าใส่นนท์ เทเลพอร์ตนั้นคงใช้ต่อเนื่องกันไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ต้องมีคูลดาวน์บ้าง

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง

การต่อสู้ของเจกับนนท์เป็นภาพที่เหล่าคนของหัตถ์อสูรไม่อยากจะเชื่อสายตามากๆ สําหรับพวกเขาแล้วเจเป็นผู้เล่นที่เพิ่งจะโดดเด่นขึ้นมาเท่านั้น เมื่อนึกเปรียบเทียบกับนนท์ ที่เป็นจอมเวทอันดับ1มานานแล้ว พวกเขาคิดว่าเจคงโดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวแน่ๆ แต่กลับไม่ใช่เลยแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะอาชีพของเจก็ตามแต่เจก็สามารถฝืนสู้กับนนท์ได้อย่างดุเดือด

เปรี้ยง ตูม

อาจจะเพราะนนที่ไม่ประมาทอีกแล้ว เขาก็เลยเลือกเวทมนตร์ระดับสูงขึ้นเพื่อรับมือกับเจ กระสุนความมืดทําอะไรเจไม่ได้นนท์ก็เลยเปลี่ยนไปปะทะกับเจด้วยไม้เท้านานขึ้นเพื่อจะร่ายสกิลที่ใหญ่ขึ้นแทน

ตูม ตูม ตูม

ยิ่งเวลาผ่านไป นนท์ก็ยิ่งใช้สกิลอัดกระแทกร่างของเจหลายต่อหลายครั้ง ทั้งกางเขนปีศาจที่แทงทะลุร่างของเจ เคียวยมทูตที่ฟันโดยไม่สนใจเกราะ หรือแม้แต่กิโยตินเวทระดับ 7 ที่เรียกลงมาโจมตีเจเพียงคนเดียวยังไม่สามารถฆ่าเจได้ทั้งๆที่เขายังไม่มีนักบวชคอยรักษาแล้วแท้ๆ

“อย่างกับแมลงสาบ”นนท์ที่เสียพลังเวทไปเป็นจํานวนมากมองร่างของเจที่ยังยืนอยู่เบื้องหน้าตน พอต่อสู้ไปได้สักพักความต่างของเจกับนนท์ก็แสดงออกมาได้ชัดเจนแล้วแม้เจจะโจมตีโดนแต่นนท์ก็มีเวทมนตร์โล่พลังงานป้องกันตัวเองอยู่เลยเสียพลังชีวิตไม่มากแถมกว่าจะโจมตีโดนนนท์ แต่ละครั้งก็ใช้เวลานาน ทําให้พลังชีวิตของนนท์แทบไม่ลดเลยตรงกันข้ามพลังชีวิตของเจลดลงไปแล้วถึง 9 ใน 10 ส่วน แม้จะฟื้นขึ้นมาเรื่อยๆแต่เจจะตายตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

“อย่างน้อยก็เรียกนักรบอมตะแบบก่อนหน้านี้เถอะครับ แมลงสาบเนี่ยไม่ ชอบเลย”เจว่าพลางยันตัวลุกขึ้นมายืนอีกครั้งยอดเลย นี่สินะจอมเวทอันดับ 1 ทั้งๆที่เจเคยรับการโจมตีของจอมเวทเป็นสิบๆคนในที่เดียวแท้ๆ แต่ยังไม่รู้สึกว่าพลังชีวิตหายวูบแบบนี้เลย

“ก็ได้ นักรบอมตะก็ได้ ฉันจะจําเอาไว้”นนท์พูดจบก็ชี้ไม้เท้ามาทางเจ จริงๆแล้วที่นนท์ไม่ได้นิ่งไปตอนแรกตั้งแต่ช่วงที่กิลด์ของเจเริ่มถอยทัพไม่ใช่เพราะต้องการดูท่าที่อะไรหรอก แต่เพราะนนท์เตรียมเวทมนตร์ใหญ่เอาไว้เผื่อในกรณีที่ต้องใช้ แต่เพราะเจสั่งถอยทัพไปก่อนก็เลยไม่จําเป็นต้องใช้แต่ไหนๆก็ร่ายเอาไว้แล้ว

“อาณาจักรแห่งความตาย”นนท์ร่ายมนตร์บทสุดท้ายออกมาด้วยปากของตัวเอง ก่อน ที่รอบๆตัวเจจะปรากฏเสาที่สร้างจากโครงกระดูกขึ้นมาหลายสิบเสา เวทมนตร์ระดับ 9 บทแรกของเกมที่ถูกร่ายออกมานั้นเป็นเวทมนตร์วงกว้างที่สร้างความเสียหายรุนแรงโดยไม่สนเกราะป้องกัน การที่ศัตรูยืนอยู่บนวงล้อมของเสากระดูกนี้ก็แทบจะอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังอยู่แล้ว

วีดดดดดดดดดด

ทันทีที่เสาโครงกระดูกปรากฎจนครบทั้งเสา บนพื้นที่เคยเป็นแอ่งน้ําสีดําก็เปลี่ยนเป็นวงแหวนเวทขนาดใหญ่ที่ส่องแสงสีม่วงออกมา พริบตานั้นเหล่าวิญญาณร้ายก็พุ่งขึ้นมาจากวงแหวนเวทก่อนจะอาละวาดไปทั่วเขตแดนของเสาโครงกระดูก

“เป็นผีดิบแล้วต้องมาโดนผีเล่นงานอีกงั้นเหรอ”เจยิ้มเจื่อนๆออกมาเมื่อเห็นเหล่าวิญญาณร้ายที่กําลังพุ่งเข้ามาหาตนเอง พลังชีวิตแค่ 1 ใน 10 คงทนรับท่านี้ไม่ไหวแน่ๆแต่ใจหนึ่งก็แอบภูมิใจนะที่ตายเพราะจอมเวทอันดับ 1 แบบนี้

“เฮ้อ พวกอันดับหนึ่งนี้เหมือนอยู่กันคนละโลกเลย”เจถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่ง ลงบนเครื่องสร้างโลกเสมือนจริงเพราะถูกดีดออกมาจากเกมหลังจากตายไปแล้ว แม้เจจะเก่งขึ้นมากหลังจากสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้ประกอบกับอาชีพที่เหนือกว่าคนอื่น แต่พอเจอของจริงเข้าก็ยังต่างกันอยู่ดี

แต่อย่างน้อยคนในกิลด์ของเจก็หนีออกไปได้มากกว่าครึ่งเสียอีก ถ้าฝืนสู้แล้วโดนเวทมนตร์ระดับ 9 เข้าทั้งกิลด์ละก็ไม่รู้จะมีคนรอดเหลือเท่าไหร่

ติด!

เจนั่งพักอยู่ในโลกภายนอกได้ไม่เท่าไหร่ อยู่ๆที่หน้าจอโทรศัพท์ก็มีข้อความจากไบรท์เข้ามาโดยเนื้อหาระบุว่าหัวหน้ากิลด์สั่งให้เข้าประชุมทันที ท่าทางจะต้องการรายงานเรื่องที่แพ้กิลด์ย่อยของกิลด์หัตถ์อสูรแน่ๆ แต่เจอกับนนท์เข้าคิดว่าหัวหน้ากิลด์คงไม่ต่อว่าอะไรหรอก