Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 110
ตอนที่ 110
ทําร้าย
แกร๊ก…
ชายหนุ่ม 2 คนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่เปิดประตูเหล็กออกให้รถของกวีเข้าไปได้ทันทีที่กวีขับรถเข้ามา พวกเขาทั้งสองคนได้รับเรื่องจากเจมส์เอาไว้แล้วว่าจะมีคนมาหา
“ไง พี่กวีนั่งก่อนๆ ” ทันที่ที่กวีลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านของเจมส์ กวีก็พบว่าเจมส์กําลังนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องรับแขกพร้อมลูกน้องอีก 4 คนที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ข้างหน้า
” ตามสบายเลยนะพี่ ผมบอกลุงเอาไว้แล้วไม่ต้องเกรงใจ ถ้าจําเป็นจะลงไม้ลงมือก็ได้”เจมส์ว่าพลางมองไปทางลูกน้องทั้ง 4 คนของลุงที่ยืนอยู่ข้างๆ ดูจากหน้าตาของแต่ละคนแล้วคงดูกันไม่น้อย แต่เพราะเจมส์เป็นหลานชายของหัวหน้าก็เลยต้องทําตามอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้ายอมตอบคําถามดีๆก็ไม่ต้องทําอะไรหรอก” กวีว่าพลางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวที่อยู่ตรงกันข้ามกับพวกลูกน้องที่ยืนเรียงกันอยู่พอดี ถึงหน้าจะดูแค่ไหน แต่ตอนนี้ทั้ง 4 ก็ได้แต่ทําหน้าเจี๋ยมเจี้ยมกุมมือมองกวีด้วยท่าทีเกร็งๆเสียอย่างนั้น เจมส์นอกจากจะเป็นหลานชายของหัวหน้าแล้วยังเป็นเหมือนผู้สืบทอดอีกด้วย เพราะตัวลุงของเจมส์นั้นไม่มีลูก ส่วนกวีก็เป็นคนที่เจมส์กําชับเอาไว้ว่าห้ามเสียมารยาทด้วย ต่อให้ถูกทําร้ายก่อนก็ห้ามตอบโต้เด็ดขาด
” พี่กวีเขาถามอะไรก็ตอบเขาไปห้ามโกหก ถ้าโดนจับได้ที่หลังรับรองว่าไม่จบง่ายๆแน่”เจมส์ว่าพลางเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าที่สบายๆตรงกันข้ามกับพวกลูกน้องที่กําลังเหงื่อตกเลย
“แน่นอนครับ พวกเราไม่กล้าโกหกเพื่อนของคุณเจมส์หรอกครับ” ท่าที่มีมารยาทของคนพวกนี้ดูแปลกตาจริงๆ แต่ก็ดีถ้ายอมตอบง่ายๆก็ไม่มีปัญหา
“จําวันที่สิบสองเมษาปี**ได้หรือเปล่า”กวีถามพลางจ้องมองคนตรงหน้าด้วยท่าที่ยิ้มแย้มเหมือนปกติที่ทําในเกม แม้จะอยู่ในโลกความจริงกวีก็ไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปเลยทําให้เจมส์อดที่จะอมยิ้มไม่ได้
“เอ่อ…มันนานมากแล้วนะครับ พวกเรา ” ทั้ง 4 คนได้ยินวันที่ก็มองหน้ากันไปมาด้วยท่าทีลําบากใจ ท่าทางเจ้าพวกนี้จะจําอะไรไม่ได้สินะ แต่เวลามันผ่านมานานแล้วจะจําไม่ได้ก็ไม่แปลก
“แล้วรู้จักคนในรูปนี้หรือเปล่า”กวีถามพลางเอารูปของแก้วกับพายัพออกมา แม้จะเป็นแค่รูปในเกม แต่ทั้งสองคนไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาตัวละครก็เลยเหมือนในโลกความจริงมาก พวกเขาทั้ง 4 คนกัดทําร้ายพายัพกับแก้วอย่างน้อยก็ต้องรู้จักหน้าตาเป้าหมาย บางทีอาจจะจําหน้าตาได้ก็ได้
“ยัยนั่น…” ทันทีที่เห็นรูปของแก้ว พวกลูกน้องของเจมส์ก็ทําท่าที่ตกใจออกมาทันที
“จําได้งั้นเหรอ” กวีถามพลางเลิกคิ้วออกมาด้วยท่าทีสงสัย
“ลืมไม่ลงหรอกครับ วันนั้นพวกเราไปทําหน้าที่ตามปกติ พอเข้าไปโจมตียัยนี่ก็คลั่งขึ้นมาแล้วอัดพวกเรายับเลย” ลูกน้องของเจมส์ตอบด้วยใบหน้าซีดๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุห่างกับพวกเขาเป็นสิบปี แถมยัง 4 ต่อ 1 แต่แก้วกลับหันมาสู้แล้วก็เล่นพวกเขาเสียกระเจิงเลย นอกจากจะเจ็บตัวแล้วยังน่าโคตรอายอีกต่างหาก
“ยัยนั่น…ขนาดผมใช้ขวดปากฉลามขู่ว่าอย่าเข้ามาก็ยังบุกเข้ามาไม่มีท่าที่จะกลัวเลย รู้ตัวอีกทีผมก็ไปนอนที่โรงพยาบาลแล้ว” ชายอีกคนตอบพลางแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา บาดแผลที่ท้องของแก้วก็เปิดจากขวดปากฉลามนั่นล่ะ แต่แค่เขาไม่ใช่คนแทง แต่เป็นแก้วที่วิ่งเข้าใส่ต่างหาก
“รู้ตัวอีกทีก็โดนเตะเข้าที่ก้านคอแล้ว ยัยนั่นมันปีศาจชัดๆ” ชายอีกคนตอบพลางจับไปที่คอของตัวเอง เล่นเอาเจมส์กับกวีได้แต่กะพริบตาปริบๆกับสิ่งที่ทั้ง 4 คนเล่ามา
“ฮ่าๆ ยัยแก้วนั่นแม้แต่โลกจริงก็ไม่เว้นงั้นเหรอ”เจมส์ที่อยู่ข้างๆหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ยัยนั่นในเกมเก่งมากอยู่แล้ว แม้แต่เจมส์ยังเคยแพ้เลย ถึงจะไม่มีค่าสถานะหรือสกิลในเกมให้ใช้ท่าทางแก้วก็ยังสู้ได้สินะ
” อย่างงั้นเหรอ”กวียิ้มเงื่อนๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็นะเขาเองก็เคยสู้กับแก้วมาก่อน แก้วมีปฏิกิริยาที่ไวมาก ถ้าไม่ใช่เมฆ พี่วิน หรือตัวกวีเองก็ยากที่จะจับเธอเอาไว้ได้ เรื่องนี้กวีเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ ก็แค่อึ้งนิดหน่อยที่แก้วสู้แบบเลือดขึ้นหน้าขนาดไม่กลัวอาวุธจริงๆเลยเท่านั้น
“อย่าหัวเราะสิครับคุณเจมส์ เรื่องนี้พวกเราอายมากก็เลยไม่เล่าให้คนอื่นฟังนะครับ” ชายหนึ่งในสี่คนตอบพลางก้มหน้าลงด้วยท่าที่หดหู นักเลง 4 คนโดนผู้หญิงคนเดียวอัดยับจนตํารวจต้องมาพาพวกเขาไปส่งโรงพยาบาลเนี่ย.. อย่าได้เล่าให้คนอื่นฟังเชียวนะ
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แล้วทําไมถึงต้องไปโจมตีพวกแก้วด้วยล่ะ” กวีถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย เรื่องแพ้ชนะไม่เกี่ยวอะไรหรอก แต่ที่กวีมาก็เพื่อถามหาต้นสายปลายเหตุเท่านั้น
“เรื่องนั้นพวกเราไม่ได้มีเป้าหมายที่ตัวผู้หญิงหรอกครับ แต่เป็นผู้ชายต่างหาก” ชายคนหนึ่งตอบพลางชี้ไปที่รูปของพายัพที่อยู่ข้างๆรูปของแก้ว
“พายัพ?” กวีได้ยินแบบนั้นก็เอนหลังลงเตรียมฟังสาเหตุ พายัพเป็นหัวหน้ากิลด์เสียดฟ้า แถมยังเป็นเพื่อนกับแก้วในโลกความจริงด้วย แล้วเจ้านั่นมันมาเกี่ยวอะไรกับคนของเจมส์กัน
“เจ้านั่นติดหนี้พนันที่บ่อนเอาไว้หลายแสนเลยครับ หัวหน้าก็เลยบอกให้พวกเรามาเตือนมันหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะโดนเล่นกลับแบบนั้น” ชายคนหนึ่งตอบพลางยิ้มเงื่อนๆออกมา
” พนัน…”กวีก็พอทราบงานที่ลุงของเจมส์ดูแลอยู่หรอกเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่ประหลาดใจก็คือ พายัพ คนนั้นนะเหรอติดหนี้พนัน เจ้านั่นมีชื่อเสียงเรื่องเป็นพ่อพระไม่ใช่เหรอ แถมยังเป็นหัวหน้ากิลด์เสียดฟ้าที่มีความสามารถด้านการหาไอเทมได้มากที่สุดด้วย ต่อให้เป็นในสมัยเกมคอมพิวเตอร์ที่เงินในเกมยังไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้อย่างเปิดเผยเหมือนตอนนี้ แต่ก็ได้ข่าวว่าเจ้านั่นมีรายรับไม่น้อยเลยนี่นา
“เจ้านั่นมือหนักแต่ดวงห่วยมากก็เลยเสียให้บ่อนไปเยอะ พอเงินหมดก็ยืมจากบ่อนทันที เห็นบอกว่าสามารถหามาคืนได้ง่ายๆนะครับ” ชายคนหนึ่งตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา
“ปกติมันก็หามาคืนได้นะครับ แต่รอบนี้มันช้าผิดปกติพวกเราก็เลยไปทวง แต่เจ้านั่นดันเอาผู้หญิงคนนั้นมาด้วย นอกจากจะโดนอัดแล้วยังโดนแจ้งความอีก ดีที่เจ้าพายัพมันไปถอนแจ้งความให้” ชายที่อยู่ตรงกลางตอบพลางแสดงท่าทีเบื่อหน่ายออกมา ถ้ามีแค่พายัพคนเดียวก็คงไม่แจ้งความหรอก เพราะเรื่องที่ตัวเองเล่นพนันก็จะแดงไปด้วย
“แบบนี้นี่เอง”กวีถอนหายใจออกมาด้วยท่าที่เหนื่อยใจ นี่มันเป็นความผิดของเจ้าพายัพทั้งหมดเลยไม่ใช่หรือไง ไปเล่นพนันจนติดหนี้จนโดนทวง เดาว่าคนที่ป้ายสีความผิดให้กวีก็คงเป็นพายัพเองด้วย แต่จะบอกว่ากวีเองก็มีส่วนผิดก็คงไม่ผิด ตอนนั้นกวีโจมตีแหล่งฟาร์มของกิลด์เสียดฟ้าอย่างหนักเพื่อตัดกําลังของฝ่ายพันธมิตร ที่พายัพหาเงินมาไม่ทันก็น่าจะมาจากสถานการณ์ตอนนั้นด้วย
“แล้วเจ้าพายัพมันใช้หนี้หมดหรือยัง” กวีถามพลางหันไปมองทางเจมส์ เจ้านี้ดูแลกิจการของลุงไปด้วย น่าจะรู้อะไรบ้าง
“พอเกมระบบโลกเสมือนจริงมา การหาเงินในเกมมันก็ง่ายขึ้นเจ้านั่นเลยมีรายได้เพิ่มจนใช้หนี้หมดนานแล้วล่ะ”เจมส์ตอบพลางยักไหล่ด้วยท่าที่ไม่สนใจ
“แต่ผีพนันอย่างมันแก้นิสัยไม่ได้นี่สิ พอหาได้เยอะขึ้นมันก็เล่นหนักขึ้นตอนนี้ก็เลยสร้างหนี้ใหม่เอาไว้บานเลย”เจมส์ตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ สําหรับเจ้าของบ่อนหรือเจ้ามืออย่างพวกเขาแล้ว ผีพนันพวกนี้ละรายได้ชั้นดีเลย ถ้ารู้ว่าเงินที่กิลด์เสียดฟ้าหามาได้มาลงที่บ่อนเป็นส่วนใหญ่ละก็มีหวังลูกกิลด์ได้โวยวายแน่ๆ แต่ถึงเจมส์จะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเจมส์ก็ไม่คิดจะบอกกวีแต่อย่างไร นั่นเพราะ…
“เจ้านั่นมันเป็นบ่อเงินบ่อทองของผมนะ พี่กวีคิดจะทําอะไรมันละก็…”เจมส์เปลี่ยนท่าที่ไปนิดหน่อยก่อนจะจ้องกวีนิ่ง เจมส์ไม่เหมือนเมฆที่ยอมติดตามกวีแบบไม่มีเงื่อนไข เจมส์ติดตามกวีเพราะมันสนุกแล้วก็ตื่นเต้น แต่ถ้ากวีจะทําให้ธุรกิจของตัวเองเสียหายก็คงยอมไม่ได้
“เห็นฉันเป็นไอ้โง่หรือไง” กวีถามพลางมองไปทางเจมส์ด้วยท่าที่จริงจังเช่นเดียวกัน เจ้าหมอนี่กล้าคิดดูถูกกันงั้นเหรอ
“หึ…” เจมส์ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นการยอมแพ้
“นั่นสินะ ผมก็ต้องเชื่อพี่กวีอยู่แล้ว คนอย่างพี่ไม่ทําให้ผมเดือดร้อนหรอก”เจมส์ว่าพลางกลับไปใช้ท่าทีสบายๆเหมือนเดิม คนอย่างกวีไม่ทําให้ลูกน้องเสียผลประโยชน์โดยไม่จําเป็นหรอก แม้เจมส์จะมีฝีมือพอๆกับแก้วหรืออาจจะน้อยกว่านิดหน่อย แต่เจมส์ทําหน้าที่อื่นได้มากกว่าหลายเท่า การจะดึงแก้วมาแล้วสร้างรอยร้าวกับเจมส์นั้นเป็นตัวเลือกที่กวีไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว
“รู้ก็ดีแล้ว…”กวีตอบพลางมองไปทางลูกน้องของเจมส์ทั้ง 4 คน กวีก็อยากจะให้เรื่องเข้าใจผิดคลี่คลายเหมือนกัน แต่ถ้าทําไม่ดีจะกระทบเจมส์ได้ แบบนั้นกวีเลยต้องคิดให้ดีเสียก่อน ไหนจะเรื่องกิจกรรมที่กําลังจะเข้ามาอีก
“………..” พวกลูกน้องของเจมส์เห็นภาพตรงหน้าต่างก็พากันเงียบปากไม่กล้าสอดเลยสักนิด เจมส์เป็นหลานชายของหัวหน้า ชีวิตนี้แทบไม่เคยต้องกลัวใคร ตอนนี้กลับโดนชายคนนี้ต่อว่าได้หน้าตาเฉย แถมเจมส์ยังเป็นฝ่ายยอมอีกต่างหาก
“เจมส์ ขอยืมเจ้าพวกนี้หน่อยได้หรือเปล่า” กวีถามพลางชี้ไปที่คนทั้ง 4 ที่ยืนอยู่ข้างหน้า
“ได้แน่นอนครับ เดี๋ยวผมบอกลุงให้พี่จัดการได้เต็มที่เลย”เจมส์ตอบพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อไปหาลุงทันที แน่นอนว่าแค่ลูกน้อง 4 คนลุงของเจมส์ยินดีให้ยืมอยู่แล้ว
“ พวกนาย…มีเครื่องสร้างโลกเสมือนจริงหรือเปล่า ถ้ามีก็เข้าเกมมาซะแล้วติดต่อกับเจมส์ในนั้นอีกที” กวีถามพลางลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ตอนนี้กิจกรรมกําลังใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้กวีต้องกลับไปจัดการแผนรับมือกิลด์อัศวินนภากับกิลด์เมฆาก่อน