Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 171
ตอนที่ 171 รับไม่ไหว
“ไม่เข้าใจเลย…ทําไมคนอย่างคุณเมฆถึงได้ไปอยู่กิลด์ของคนแบบนั้น”ขณะกวีกําลังเก็บเลเวลอยู่ในดันเจี๊ยนชั้นที่ 3 ของดันเจี้ยนก้นหอย ชายคนหนึ่งกําลังบ่นเรื่องของเมฆด้วยท่าทีไม่พอใจพร้อมกับเปิดรูปของกวีออกมาดูภายในร้านเครื่องดื่มร้านหนึ่งในเขตเมืองของอาณาจักรทริช
กวี แม้สมัยก่อนจะเป็นจอมเวทที่มีชื่อเสียงมาก แต่เพราะหายไปนานทําให้เด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่เคยได้ยินชื่อเลย แถมการเล่นเกมในระบบโลกเสมือนจริงก็ไม่เหมือนกับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ด้วย มีผู้เล่นจํานวนไม่น้อยที่เก่งในสมัยเกมคอมพิวเตอร์แต่ก็ไม่สามารถแสดงความสามารถในโลกเสมือนจริงได้เพราะรูปแบบการเล่นนั้นแตกต่างกันโดยเฉพาะสายอาชีพจอมเวทและนักธนูที่มีผู้เล่นจํานวนมากไม่สามารถเล่นได้อย่างที่เคย เพราะในโลกเสมือนจริงการเล็งโจมตีแม้จะมีผลของสกิลคอยช่วยแต่ผู้เล่นสายธนูก็ต้องจัดมีความแม่นยําพอสมควร เช่นเดียวกันกับผู้เล่นสายจอมเวท พวกเขานอกจากจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับสกิลแล้วยังต้องมีทักษะการร่าย เวทมนตร์ด้วย ชื่อของกวีที่เคยเป็นจอมเวทอันดับ 1 สมัยเกมคอมพิวเตอร์เลยโดนเข้าใจผิดไปว่าหายไปแบบนั้นกระมัง
ตอนนี้เบื้องหน้าของแดนเลยมีแต่ข้อมูลจอมเวทไร้อันดับเท่านั้น หัวหน้ากิลด์ของคุณเมฆช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน ตอนแรกคิดว่าหากเป็นคนที่ยอดเยี่ยมก็อาจจะยอมรับได้ แต่ไม่ว่าจะหาข้อมูลอย่างไรกวีก็ยิ่งออกห่างจากสิ่งที่แดนคิดเอาไว้มาก
“ยอมไม่ได้ จะให้เจ้าคนแบบนี้มาเป็นหัวหน้ากิลด์ของคุณเมฆได้ยังไง”แดนกําหมัดแน่นด้วยท่าที่เจ็บใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปจากร้านด้วยความรู้สึกขุ่นมัวทันที
วูบ…เปรี้ยง!!!
เสาสีทองเสาหนึ่งพุ่งลงมาบนพื้นที่เต็มไปด้วยน้ําเจิ่งนองท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์รูปร่างครึ่งคนครึ่งปลาที่กําลังล้อมโจมตีบอมกันอย่างสนุกสนาน เสาสีทองนั่นไม่ได้ปักลงบนร่างของมอนสเตอร์มนุษย์มัจฉาพวกนั้นแต่อย่างไร แต่ทันทีที่มันปักลงพื้น กระแสไฟฟ้าสายหนึ่งก็พุ่งลงมาจากความว่างเปล่าผ่าเข้ากลางเสาสีทองก่อนที่เสาสีทองจะเปล่งประกายไฟฟ้าออกไปรอบๆช็อตร่างของมนุษย์มัจฉาจํานวนมากที่อยู่ตรงนั้นกันถ้วนหน้า
เสาบูชาเทพอัสนี เป็นเวทมนตร์ธาตุไฟฟ้าขั้นที่ 6 ที่กวีเพิ่งจะปลดล็อกได้สําเร็จ เวทมนตร์ขั้นที่ 6 กินพลังเวทมากจนน่าตกใจเลย ต่อให้เป็นกวีก็คงร่ายได้แค่ไม่กี่ครั้งหากไม่ดื่มน้ํายาฟื้นฟูพลังเวท แถมการร่ายยังกินเวลานานมากกว่าจะร่ายเสร็จทําให้การใช้แต่ละครั้งสิ้นเปลืองสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นพลังทําลายของมันก็ทําให้พวกกวี สามารถลงมาเก็บเลเวลที่ชั้น 4 ได้เสียที
ตูม!!!! ฟุบๆๆๆๆ
ทันทีที่เสาบูชาเทพอัสนีโจมตีโดนฝูงมนุษย์มัจฉาพวกมันก็ชะงักไปครู่หนึ่งเพราะกระแสไฟฟ้าที่กําลังแล่นไปทั่วร่าง จังหวะนั้น บอล และ เพลง ก็ร่ายเวทมนตร์ของตัวเองโจมตีใส่ร่างของพวกมันทันทีพร้อมๆกับกวีและแฟรงค์ที่ช่วยกันโจมตีเสริมด้วยธนูและเวทมนตร์ธาตุลมระดับต่ําอีกที
การเก็บเลเวลที่ชั้น 4 ที่มีแต่มอนสเตอร์เลเวล 150 แบบนี้อันตรายมากเพราะแม้แต่คนเลเวลสูงที่สุดในปาร์ตี้อย่างบอมก็ยังเลเวลเพียง 132 เท่านั้น หากไม่ใช่เพราะมีเวทมนตร์สายฟ้าของกวีที่สร้างความเสียหายวงกว้างแถมยังทําให้พวกมันชะงักได้ด้วยแล้วพวกบอมไม่มีทางคิดจะลงมาเก็บเลเวลที่นี่แน่ แต่ความเสี่ยงก็ย่อมมีผล ตอบแทนที่เกินกว่าปกติอยู่แล้ว ค่าประสบการณ์ที่พวกกวีได้รับในแต่ละครั้งที่ฆ่าฝูงมนุษย์มัจฉาของชั้น 4 ได้เยอะจนพวกบอมไม่สนว่าจะมีโอกาสตายเลยด้วยซ้ํา บางทีตายสักรอบสองรอบก็ยังไม่เสียหายเลยหากเทียบกับเลเวลที่เพิ่มมาในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
“พักก่อนเถอะ พลังเวทหมดแล้ว”คนที่ยกมือเพื่อจะขอพักไม่ใช่บอล กวี หรือ เพลง แต่อย่างไร เพียงแต่ว่า คนที่ยกมือขอพักกลับเป็นลิเลียแทน มอนสเตอร์พวกนี้โจมตีแรงมากพลังชีวิตของบอมไหลเป็นน้ําเลย ลิเลียที่เป็นนักบวชของปาร์ตี้ต้องใช้เวทรักษาแทบจะตลอดเวลาเพื่อยื้อชีวิตบอลเอาไว้ แถมเพราะพลังชีวิตของบอลลดไวและต่อเนื่อง ทําให้ลิเลียเป็นคนที่พลาดไม่ได้เลย การทําแบบนั้นกินพลังใจของเธอไม่น้อยต่อให้พลัง เวทสามารถดื่มน้ํายาเติมได้ แต่การใช้งานสมองหนักๆต่อกันไม่ใช่ว่าทุกคนจะทําได้
“พี่กวีเนียร่ายเวทมนตร์หลายๆบทต่อๆกันแบบนั้นได้ยังไงคะ ลิเลียร่ายบทเดียวหลายๆครั้งยังปวดหัวเลย”ลิเลียที่เดินไปนั่งพักก่อนคนอื่นมองมาทางกวีด้วยท่าทีสงสัย กวีร่ายเวทเร็วแถมยังร่ายต่อๆกันแบบไม่มีพักด้วย และสิ่งที่ลิเลียยังไม่รู้ก็คือกวียังร่ายเวทซ้อนกัน 2 บทในเวลาเดียวกันอีกด้วยเพื่อทําให้เวทมนตร์ออกมาอย่าง ต่อเนื่องที่สุด ทักษะนี้ไม่ใช่ใครจะลอกเลียนได้ง่ายๆถ้าก็ไม่เจออุบัติเหตุทางระบบประสาทเข้าเสียก่อนก็อาจจะทําได้ไม่เท่าตอนนี้ก็ได้
“นั่นสิ พี่กวีเก่งขนาดนี้ทําไมผมไม่เคยเห็นพี่ในตารางอันดับจอมเวทเลยล่ะครับ ผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่อันดับพันกว่าๆ พี่กวีเก่งกว่าหมอนั่นเยอะเลยนะครับ”บอลตอบพลางเปิดหน้าต่างระบบของตนขึ้นมาเหมือนกําลังไล่หารายชื่อของกวีในตารางอันดับของจอมเวท แต่น่าเสียดายตอนนี้บนตารางผลงานยังไม่มีรายชื่อของกวีอยู่บนนั้นแต่อย่างไร
“จริงๆชื่อของผมอยู่อันดับศูนย์ ก็เลยไม่ได้ถูกใส่ในตารางนะสิ” กวีตอบพลางยิ้มด้วยท่าที่เหมือนจะล้อเล่น แม้จะยังไม่ได้ต่อสู้ตัดสินกันกับนนท์ในตอนนี้ แต่สมัยก่อนนนท์ก็ไม่เคยชนะกวีได้เลยนะ
“ทุกคน….เราคงต้องกลับเมืองกันสักพักแล้วล่ะ” ระหว่างที่พวกกวีกําลังพูดกันเรื่องตารางอันดับจอมเวทอยู่ๆบอมที่เพิ่งจะเดินกลับเข้ามารวมกลุ่มก็พูดออกมาด้วยท่าที่ลําบากใจเสียอย่างนั้น
“มีอะไรเหรอ”ลิเลียถามด้วยท่าทีสงสัย ก็…ไหนบอมบอกว่าจะเก็บเลเวลกันที่นี่ยาวๆจนกว่าจะเลเวล 150 เลยล่ะ
“ก็ นี่ไง”บอมว่าพลางยื่นโล่เหล็กสีฟ้าออกมาให้คนในปาร์ตี้ดู โล่ของบอมเป็นโล่ที่ทําจากโลหะธาตุน้ําที่มีสี ฟ้าสดใส เป็นโล่เลเวล 120 ที่เหมาะจําเอามาใช้ในดันเจี้ยนกันหอยอย่างมาก แต่ทว่าตอนนี้ที่โล่กลับมีรอยแต กร้าวรอยใหญ่ให้เห็นได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่านอกจากตัวโล่ที่มีรอยแตกแล้วในข้อมูลของโล่อันนี้ก็ยังระบุอีกด้วยว่าค่าความทนทานของโล่อันนี้จาก 100 เหลือเพียง 8 เท่านั้น มันใกล้จะใช้งานไม่ได้เต็มที่แล้วนั่นเอง
“งั้น….ก็ช่วยไม่ได้หรอก พวกเราคงต้องกลับเมืองกันก่อน”เพลงตอบพลางมองไปทางทุกคน ซึ่งคนในปาร์ตี้เองก็มีท่าที่เห็นด้วยกันถ้วนหน้า วิธีการเก็บเลเวลของปาร์ตี้บอมในตอนนี้เป็นวิธีที่ได้ค่าประสบการณ์ไวมากก็จริง แต่ก็มีข้อเสียด้านอื่นไม่น้อย
เพราะมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าทําให้พวกมันโจมตีได้รุนแรงมาก อย่างแรกเลยคือบอมและลิเลียต้องเปลืองน้ํายาฟื้นพลังและน้ํายาฟื้นพลังเวทกันไม่ใช่น้อย และไอเทมที่ได้รับก็จะน้อยกว่าการเก็บเลเวลปกติด้วย เพราะ พวกกวีต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการกําจัดมอนสเตอร์กลุ่มหนึ่ง เมื่อเทียบกับการไล่ฆ่ามอนสเตอร์ง่ายๆไปเรื่อยๆ ไอเทมที่ได้มาย่อมน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ทุกคนตัดสินใจทําแบบนี้ก็เพราะต้องการเลื่อนเลเวลขึ้นไปสูงๆ ก่อน หลังจากนั้นค่อยมาหากําไรเอาทีหลังก็ยังทัน
“ไม่รู้ว่าจะโดนค่าซ่อมไปเท่าไหร่ แบบนี้อาจจะเข้าเนื้อก็ได้นะ”บอมถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเสียดาย โล่อันนี้บอมลงทุนซื้อมาเพื่อลงดันเจี้ยนก้นหอยโดยเฉพาะ พวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่มีเงินนักก็เลยต้องใช้เงินที่บอมสะสมมาตั้งแต่เริ่มเล่นเกมซื้อมา แม้เลเวลจะเพิ่มขึ้นจนน่าพอใจแต่ก็แอบอดเสียดายไม่ได้อยู่ดี
“งั้นผมจะหาโล่อันใหม่มาแทนให้ดีหรือเปล่าครับ”กวีถามพลางมองไปทางบอมด้วยท่าที่เป็นมิตร โล่ของบอมเป็นสิ่งสําคัญในการเก็บเลเวลของกวีตอนนี้ ถ้าเงินของบอมไม่พอจะซ่อมหรือเปลี่ยนโล่ขึ้นมามีหวังการเก็บเลเวลได้ชะงักแน่ๆ ตอนนี้กวีเริ่มจับจังหวะของคนในปาร์ตี้นี้ได้แล้วจะเปลี่ยนปาร์ตี้ก็เสียดาย
“แบบนั้นไม่ได้หรอกครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นบอมก็แทบจะปฏิเสธทันที แต่กวีเองก็คิดว่าบอมจะพูดแบบนั่นอยู่แล้ว
“ผมเป็นคนเสนอแผนการนี้เอง ถ้าไม่ใช่เพราะแผนนี้โล่ของบอมคงไม่พังไวแบบนี้ เพราะงั้นให้ผมรับผิดชอบเถอะครับผมจะได้สบายใจเหมือนกัน” กวีรีบรับบทคนผิดแล้วบังคับให้บอมรับโล่จากตนไปแต่โดยดี กวีเองก็ต้องรีบเก็บเลเวลตามพวกเมฆไปเหมือนกัน พวกนั้นเล่นอีเวนท์กันตลอดเลเวลเลยยังเยอะกว่ากวีเสียอีก เขาไม่ยอม ให้บอมมัวแต่เกรงใจหรอกนะ
กึก…
เพราะโล่ของบอมเหลือค่าความทนทานแค่ 8 เท่านั้นทําให้พวกกวีเลือกที่จะเลี่ยงการปะทะกับมอนสเตอร์ เพื่อจะขึ้นมาบนดันเจี้ยน ทําให้พวกกรีต้องใช้เวลานิดหน่อยในการกลับขึ้นมาถึงทางเข้าดันเจี้ยนความจริงกวีจะสั่งให้คนของเรย์เดินทางเอาไอเทมมาส่งที่ทางเข้าดันเจี้ยนหรือแม้กระทั่งลงไปส่งในดันเจี้ยนก็ยังได้ แต่เพราะ ลิเลียท่าทางจะเหนื่อยๆกวีก็เลยอยากถือโอกาสนี้ในการพักผ่อนกันสักครึ่งวันพอดี
“พี่กวี…คนนั้นเขาทําอะไรเหรอครับ”ระหว่างเดินทางกลับเมือง อยู่ๆกลุ่มของกวีก็สะดุดตาเข้ากลับชายคนหนึ่งที่กําลังยืนจังก้าอยู่กลางถนนที่เป็นเส้นทางมุ่งไปยังถนนใหญ่เพื่อกลับเมืองเข้าเสียก่อน ชายคนนั้นเดินออกมายืนกลางถนนในจังหวะที่พวกกวีมาพอดีราวกับจงใจขวางพวกกวีเสียอย่างนั้น
“หรือว่าเป็นโจร”บอมขมวดคิ้วมองชายตรงหน้าด้วยท่าทีสงสัย แต่ที่มือของเขาก็มีแหวนของผู้เล่นอยู่ ไม่น่าจะเป็นพวกโจรที่ออกมาปล้นคนตามทางนี่นา
วูบ…
“เจอแล้ว…..”ไม่พูดพร่ําทําเพลง ชายที่ยืนขวางพวกกวีอยู่ชักดาบออกมาจากฝึกก่อนจะเปิดออร่าสีแดงรอบตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน การเปิดใช้งานออร่าแบบนี้ย่อมหมายความว่าเขาต้องการจะโจมตีผู้เล่นด้วยกันนั่นเอง แต่บนเส้นทางนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากกวีและคนในปาร์ตี้แล้วนี่สิ