Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 439
2 วันต่อมา ณ แคว้นบิสลี หนึ่งในแคว้นทั้งเจ็ด ดยุคเนเฮ็ม เบจ กำลังสวดภาวนาอยู่ในวิหารที่ใหญ่ที่สุดของศาสนจักรแห่งแสงสว่างที่อยู่ภายในแค้วนของเขา
วิหารแห่งนี้เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นบิสลี และมีนักบวชขาวและอัศวินของศาสนจักรแห่งแสงสว่างประจำการอยู่นับพัน รอบ ๆ ห้องโถงใหญ่ มีคนของศาสนจักรฯ คอยเฝ้าคุ้มกันความปลอดภัยของเนเฮ็ม เบจ ซึ่งสวดภาวนาอยู่ด้านใน
ในฐานะดยุคแห่งแคว้นบิสลี เนเฮ็ม เบจ จึงมีฐานะที่สูงส่ง หลังจากครอบครองอำนาจของแคว้นบิสลีได้แล้ว เนเฮ็ม เบจ ผู้ซึ่งเป็นสาวกของศาสนจักรแห่งแสงสว่างมาตั้งแต่แรกเริ่ม เขาจึงสนับสนุนศาสนจักรฯ ให้แพร่หลายภายในแคว้น และทำให้ประชาชนและบรรดาขุนนางในแคว้นต่างศรัทธาในเทพแห่งแสงสว่าง และแสดงออกถึงความเชื่ออันบริสุทธิ์ของพวกเขา
ในฐานะอัศวินนภา ความแข็งแกร่งของ เนเฮ็ม เบจ นั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว และศาสนจักรแห่งแสงสว่างก็ยังจัดยอดฝีมือจำนวนมากมาคอยอารักขาเขา ขณะที่ศาสนจักรฯ กระจายตัวไปทั่วทุกหัวระแหงภายในแคว้นบิสลี ทำให้ประชาชนของแคว้นบิสลี ได้รับความโชคดีจากเทพแห่งแสงสว่างมากขึ้น
เนเฮ็ม เบจ ยังเป็นหนึ่งในอัศวินเทมพลาร์แห่งศาสนจักรแห่งแสงสว่าง และมีศรัทธอันแรงกล้าต่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ทุก ๆ 2-3 วัน เขาจะมาที่วิหารแห่งแคว้นบิสลีเพื่อสวดภาวนา และสัมผัสถึงเทพแห่งแสงสว่างที่สถิตย์อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และเพื่อรับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวของเขาเอง
เขาหันหน้าไปทางรูปปั้นและโค้งคำนับ เนเฮ็ม เบจ สามารถสัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขาอย่างช้า ๆ พลังงานศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ทำให้เขารู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก ความศรัทธาของเขาที่มีต่อเทพแห่งแสงสว่างก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนเองได้รับพลังที่ไร้ขีดจำกัด
ทันใดนั้น เสียงประหลาดบางอย่างก็ดังขึ้นในหูของ เนเฮ็ม เบจ ขณะที่กำลังรับพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างอยู่นั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกประหลาดที่กำลังใกล้เข้ามา เขาขมวดคิ้วและลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะหันพูดกับบิชอปเคโทสที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น? ข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกประหลาดที่กำลังใกล้เข้ามาทางนี้”
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
เคโทสถูกส่งมาจากศาสนจักรแห่งแสงสว่าง เพื่อสอนศาสตร์ลี้ลับในวิหาร นอกจากจะเป็นสาวกของศาสนจักรฯ ที่เคร่งครัดอย่างมาก เขายังเป็นนักบวชที่มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดามากเลยทีเดียว แต่ความเชี่ยวชาญของเขาคือการเข้าใจในหลักคำสอนของศาสนจักร เช่นเดียวกับเนเฮ็ม เบจ เขาเองก็มีศรัทธาและทุ่มเททุกอย่างเพื่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่างด้วยเช่นกัน
“จริงด้วย เจ้าคนนอกรีตบ้าระห่ำนี่เป็นใครกัน? ถึงได้กล้าเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่!”
เคโทสเองก็รู้สึกได้ถึงพลังแปลกประหลาดที่กำลังใกล้เข้ามา อย่างไรก็ตาม เคโทสก็ตระหนักถึงความสามารถในการป้องกันของพระวิหารเป็นอย่างดี จึงไม่สนใจออร่าชั่วร้ายนั้นมากนัก
“นั่นสินะ แม้แต่คนของศาสนจักรแห่งความหายนะยังไม่กล้าบุกรุกเข้ามาในแคว้นบิสลี แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าเข้ามาที่นี่ สุดท้ายก็ต้องพบกับจุดจบของตัวเองอยู่ดีนั่นแหละ!”
เนเฮ็ม เบจ แสยะยิ้มและเห็นด้วยกับเคโทส
“หึหึหึ ศาสนจักรฯ รู้สึกพอใจกับความสำเร็จของเราในแคว้นบิสลีมากทีเดียว ครั้งหน้า เมื่อเรากลับไปยังศูนย์บัญชาการใหญ่ เราก็จะได้ใกล้ชิดกับเทพแห่งแสงสว่างมากขึ้น ซาบซึ้งกับตัวตนอันไร้ที่สิ้นสุดของท่าน และได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมากขึ้นอีก”
เคโทส พูดกับ เนเฮ็ม เบจ ด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่า เนเฮ็ม เบจ จะเป็นดยุคของแคว้นบิสลี แต่ส่วนตัวแล้วในศาสนจักรแห่งแสงสว่าง ฐานะของเขายังถือว่าต่ำต้อยกว่าเคโทส ดังนั้น เคโทสจึงไม่ได้แสดงความเคารพต่อ เนเฮ็ม เบจ มากนัก และพูดกับเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ใช่แล้วล่ะ นึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่จะเติมเต็มในร่างกายข้าขึ้นมาทีไร ข้าก็รู้สึกตื่นเต้นไปเสียทุกที ดูเหมือนว่าพวกเราต้องทำงานหนักขึ้นอีกแล้วสิ เฮ้อ เสียดายจริงที่เจ้าคนนอกรีตที่ชื่อไบรอันนั่นหายตัวไปเสียนาน ไม่อย่างนั้น ถ้าเราสามารถฆ่ามันได้ล่ะก็ ความดีความชอบที่เราทำคงจะมากพอให้เราได้รับทั้งพลังศักดิ์สิทธิ์และน้ำมนต์มาเลยก็ได้นะ”
เนเฮ็ม เบจ ตอบเคโทส
เคโทสฝืนยิ้มพลางส่ายศีรษะ
“ข้าว่าเจ้าควรเลิกเพ้อฝันแบบนี้ได้แล้ว ขนาดท่านเบลานท์ยังไม่สามารถต่อกรกับเจ้าหมอนั่นได้เลยนะ แล้วเราจะมีปัญญาไปรับมือกับเขาได้ยังไงกัน? ความดีความชอบที่เจ้าว่าไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้มาง่ายนักหรอก”
“เอาเถอะ ท่านก็อย่าเพิ่งแน่ใจไป ท่านเบลานท์มีพลังความแข็งแกร่งมากก็จริง แต่เขาลุยตัวคนเดียวโดยไม่มีใครช่วยเหลือเลย ถึงความแข็งแกร่งของพวกเราจะไม่สามรถเทียบได้กับท่านเบลานท์ได้ก็เถอะ แต่เราก็ยังมีแคว้นบิสลีเป็นพวก บางครั้ง ความแข็งแกร่งของคนมากมายอาจจะยิ่งใหญ่กว่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์เพียงคนเดียว ข้าเชื่อว่า ถ้าเรารู้ว่าเจ้าคนนอกรีตนั่นอยู่ที่ไหน เราก็อาจจะมีโอกาสก็ได้นะ”
เนเฮ็ม เบจ พูดด้วยความทะเยอทะยาน
ตูม…. ตูม….
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวลั่นขึ้นจากทางด้านนอก ราวกับเสียงของฟ้าผ่า
อ๊ากกกกก….
เสียงร้องน่าสังเวชดังมาจากด้านนอกประตู ตามมาด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมไร้ที่สิ้นสุดที่สั่นคลอนเขตแดนเวทมนตร์ที่กางอยู่รอบห้องโถงใหญ่
เนเฮ็ม เบจ และเคโทส มองหน้ากันไปมา พวกเขาต่างมีสีหน้าตระหนกตกใจ ทั้งคู่ต่างตระหนักดีว่ามียอดฝีมืออยู่ภายนอกห้องโถงใหญ่เป็นจำนานมาก และยังรู้ว่าเขตแดนเวทมนตร์ภายในห้องโถงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ทุกครั้งที่เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าเขตแดนเวทมนตร์ธาตุแสงที่สร้างขึ้นโดย จอมขมังเวทย์ธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์บอร์โด ของศาสนจักรแห่งแสงกำลังสั่นสะเทือน หัวใจของพวกเขาจึงเริ่มเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ใครกัน! เขตแดนเวทมนตร์ธาตุแสงนี้สร้างขึ้นโดยท่านบอร์โดเลยเชียวนะ ใครกันที่ทำให้เขตแดนสั่นสะเทือนได้ขนาดนี้?”
เคโทสพูดกับ เนเฮ็ม เบจ ขณะที่ตัวของเขาสั่นเทิ้มไปพร้อมกับสิ่งที่อยู่โดยรอบ
“ข้าก็ไม่รู้แหมือนกัน แต่คนของเรากำลังถูกฆ่าตาย เราต้องช่วยพวกเขา ศัตรูจะต้องแข็งแกร่งมากแน่ ๆ”
เนเฮ็ม เบจ พูดขึ้น แลเรียกอาวุธและชุดเกราะสีซีด ๆ ออกมาจากแหวนมิติ เขาเริ่มสวมใส่พวกมันด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
เปรี้ยง…!!!
เสียงหวีดแหลมดังขึ้นบนยอดสูงสุดของห้องโถงใหญ่ ราวกับเสียงแก้วน้ำที่ถูกเขวี้ยงใส่ก้อนหินจนแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ
เมื่อเนเฮ็ม เบจ และเคโทส ได้ยินเสียงแหลมนั้น ความหวาดผวาก็เอ่อล้นขึ้นมาในหัวใจของพวกเขา เนเฮ็ม เบจ ซึ่งสวมใส่ชุดเกราะอัศวินเรียบร้อยแล้วพลันร้องตะโกนขึ้น
“คุณพระช่วย! เขตแดนเวทมนตร์ของท่านบอร์โดพังทลายลงแล้ว!”
“จะทำยังไงดี? พวกเราจะทำยังไงดี? เจ้าคนที่มานี่จะต้องแข็งแกร่งพอ ๆ กับท่านบอร์โดแน่ ๆ เลย ข้ากลัวว่าเรา 2 คนจะรับมือมันไม่ไหวแล้วล่ะ!”
เคโทสพูดกับ เนเฮ็ม เบจ ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก สีหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
“ตอนนี้เราถอยกันก่อนดีกว่า!”
เนเฮ็ม เบจ ยังคงมีท่าทีสงบ เมื่อพูดจบ เขาก็หยุดสวมชุดเกราะอัศวิน และรีบมุ่งไปทางประตูด้านข้าง
เมื่อเคโทสเห็นว่า เนเฮ็ม เบจ กำลังจะออกไปโดยไม่ลังเล เขารีบตามหลังไปทันที และลืมเรื่องที่จะออกไปช่วยคนของเขาที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายอยู่ด้านนอกโถงใหญ่ไปเสียสนิท
ฟึ่บ!
เสียงแทรกผ่านอากาศดังขึ้น และเงาของชายคนหนึ่งก็หยุดลงที่ประตูด้านข้างได้อย่างเหมาะเจาะ พลางจ้องมองมายังคนทั้ง 2 ด้วยรอยยิ้มกว้างที่แสนเย็นชา
“เจ้า… เจ้าเป็นใครกัน?”
เนเฮ็ม เบจ ตัวแข็งทื่อและหยุดเดิน พลางมองไปยังหานซั่วและถามด้วยความตื่นตระหนก
เนเฮ็ม เบจ ถือครองอำนาจภายในแคว้นบิสลีมานานหลายปี และได้สู้รบในศึกใหญ่น้อยมามากมาย ด้วยพื้นฐานนั้น เขาย่อมไม่สูญเสียการควบคุมตนเองไปอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้ เมื่อหานซั่วปรากฏตัวขึ้น เสียงร้องโหยหวนน่าสมเพชยังคงดังอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แม้แต่เขตแดนเวทมนตร์ธาตุแสงที่สร้างขึ้นโดยจอมขมังเวทย์ธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์บอร์โดยังถูกทำลายลง ทำให้เขาตกใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงลืมตัวไปชั่วขณะ
“เขาคือไบรอัน ข้าเคยเห็นรูปของเขามาก่อน เขาเป็นเจ้าคนนอกรีตตัวเป้งเลยเชียวล่ะ!”
ด้านหลัง เนเฮ็ม เบจ บิชอปเคโทสแห่งศาสนจักรแห่งแสงสว่าง ชี้นิ้วที่สั่นเทิ้มไปยังหานซั่ว
“ถูกต้องแล้ว หึหึหึ ข้าว่า ข้าได้ยินใครบางคนพูดว่าอยากจะฆ่าข้าอยู่นะ เพื่อที่จะได้พลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอย่างนั้นรึ? น่าสนใจจริง ๆ”
หานซั่วพ่นลมอย่างดูถูกพลางจ้องมองไปยังเนเฮ็ม เบจ
“เบลานท์อยู่ที่ไหน? ถ้าพวกเจ้ายอมบอกข้าดี ๆ ว่าเขาอยู่ที่ไหน ข้าจะให้พวกเจ้าได้ตายแบบไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยล่ะ”
“ทหาร! ทหาร! ฆ่าเจ้าคนนอกรีตนี่ซะ!”
เนเฮ็ม เบจ ตะโกนลั่นขึ้นมาทันที ดาบยาวที่ส่องประกายถูกชักออกมา ประกายแสงออร่าต่อสู้สีเงินสว่างไสวแผ่ออกมาราวกับฝึกฝนมาอย่างดี และในออร่าต่อสู้ของเขาก็มีพลังศักดิ์สิทธิ์รวมอยู่ด้วย ทำให้ท่าทีของเขาแลดูน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
ที่มุมปาก หานซั่วเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แสนชั่วร้าย เขาจ้องมองไปยัง เนเฮ็ม เบจ อย่างเลื่อนลอย ขณะที่พุ่งตัวไปข้างหน้า จนกระทั่งไปอยู่หยุดอยู่เบื้องหน้าเขา ในตอนนั้นเอง หานซั่วก็ปล่อยหมัดที่ดูไม่รุนแรงนักออกไป
แล้วพลังที่คุ้มคลั่งก็ปะทุออกมา เป็นแรงกดดันที่ราวกับมีภูเขาทั้งลูกบีบอัดพื้นที่โดยรอบ แม้แต่เคโทสซึ่งอยู่ห่างออกไปยังรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ จนอยากจะอาเจียนออกมา
ครืนนนนนน………..
หมัดที่หานซั่วปล่อยออกไปทำให้ออร่าต่อสู้ของ เนเฮ็ม เบจ แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดาบยาวของเขาโค้งงอและตกลงสู่พื้น พลังประหลาดที่หลงเหลืออยู่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเนเฮ็ม เบจ แล้วเสียงแตกหักบางอย่างก็ดังออกมาจากร่างของเขา หลังจากเสียงนั้นหยุด เขาก็ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น กระดูกภายในร่างของ เนเฮ็ม เบจ แตกละเอียด แต่ทว่า อวัยวะภายในของเขายังคงสภาพเดิมและไม่ถูกทำลาย
หานซั่วแสยะยิ้ม เมื่อมาถึงเบื้องหน้าของ เนเฮ็ม เบจ เขาก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนหน้าอก ก่อนที่หานซั่วจะถามอย่างเฉื่อยชา
“พูดมา อัศวินศักดิ์สิทธิ์เบลานท์อยู่ที่ไหน?”
“แค่ก… เจ้าคนนอกรีต… ข้าไม่…”
“อ๊ากกกกกก…!!!”
โดยที่ไม่รอให้ เนเฮ็ม เบจ พูดจบประโยค เท้าข้างหนึ่งของหานซั่วก็กระทืบลงไป พลังขาอันแข็งแรงของเขาบดขยี้หน้าอกของ เนเฮ็ม เบจ ซึ่งใส่เกราะนักรบสีเงินอยู่จนแตกละเอียด ในตอนนั้น เมื่อหานซั่วชักเท้ากลับ เนเฮ็ม เบจ ก็หยุดหายใจเรียบร้อยแล้ว
**********************************