Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 435
“ท่านพ่อ มากับข้าสิ!”
หลังจากที่บินออกมาจากทะเลแห่งความตาย เจ้าโครงกระดูกก็ส่งกระแสจิตมายังหานซั่ว
โดยไม่รอคำตอบ อสูรกระดูกซึ่งหานซั่วขี่อยู่ก็เคลื่อนไหวทันทีที่ได้รับสารนั้น มันบินวนรอบหนึ่งโดยมีหานซั่วขี่อยู่บนหลัง ก่อนจะบินตรงไปหาเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก
ฟิ้วววว…
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กลงมายืนบนร่างของอสูรกระดูก และบินลงไปที่ทะเลทันที เพียงชั่วพริบตาเดียว มันก็จมลงไปในทะเลแห่งความตาย และดำดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ
แม้ร่างโครงกระดูกที่หานซั่วหล่อหลอมขึ้นมาจากออร่าแห่งความตายนั้นจะแข็งและทนทานอย่างที่สุด แต่ร่างกายของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กและอสูรกระดูกนั้นกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าร่างที่หานซั่วสร้างขึ้นมา พวกมันไม่เกรงกลัวแม้น้ำทะเลจะมีฤทธิ์กัดกร่อน ความเร็วในการจมลงสู่ห้วงลึกแห่งท้องทะเลแห่งความตายนั้นช้าลงเล็กน้อยเนื่องจากแรงลอยตัวจากความหนาแน่นของน้ำ
ลึกลงไปในทะเลแห่งความตาย มีเพียงความมืดมิดและสีดำสนิท การใช้สายตาของพวกเขาไร้ซึ่งประโยชน์ ณ ที่แห่งนั้น ทั้งหานซั่วและเจ้าโครงกระดูกต่างใช้ประสาทสัมผัสเพื่อรับรู้เส้นทางเบื้องหน้า จิตของหานซั่วกล้าแข็งเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมายังมิติมืดจากอีกโลกหนึ่ง แต่จิตของเขาก็ยังคงสามารถรับรู้ถึงพื้นที่โดยรอบได้อย่างแม่นยำและชัดเจน
ในความลึกของท้องทะเล ไม่ได้มีอสูรอยู่มากนัก และทะเลแห่งความตายอันเงียบสงัดก็ยังเป็นแหล่งของพืชพรรณแปลก ๆ มากมาย แต่นอกจากน้ำทะเลสีดำสนิทแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรดึงดูดความสนใจของหานซั่วมากเป็นพิเศษ
“พวกเราจะไปไหนกันรึ?”
หานซั่วถามเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก
“ลึกลงไปในทะเลแห่งความตายมีพืชที่พิเศษมาก ๆ เติบโตอยู่ต้นหนึ่ง เหตุผลที่ข้าต้องการจะยึดครองทะเลแห่งความตายฝั่งตะวันออก นอกจากจัดการกับเจ้าทูโมยาแล้ว ก็เพื่อที่จะได้พืชนั่นมานี่แหละ”
เจ้าโครงกระดูกตอบ
เมื่อเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กอธิบายดังนั้น หานซั่วก็รู้สึกกระหายใคร่รู้ขึ้นมาในทันที เขาไม่คิดว่าโลกมิติมืดเป็นเพียงดินแดนที่รกร้าง หนาวเหน็บ และว่างเปล่าอีกต่อไป ตั้งแต่ที่เขาได้รับพลังจากอัญมณีบริสุทธิ์และนิลทรหด หานซั่วก็ตระหนักได้ว่ามิติมืดนั้นช่างเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย
ภายในมวลน้ำทะเลสีดำที่นิ่งสนิทของทะเลแห่งความตาย หานซั่วยังไม่สามารถรับรู้ถึงพืชพรรณเลยสักต้น แต่ในเมื่อเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กอธิบายเหตุผลว่าที่กำจัดทูโมยา ก็เพื่อที่จะได้ครอบครอบพืชพิเศษที่อยู่ในทะเลแห่งความตายนี้ หานซั่วก็คิดว่าพืชชนิดนั้นต้องเป็นสิ่งที่หายากและมีค่ามากอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นแล้ว เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กคงไม่ลงทุนลงแรงไปมากมายถึงเพียงนี้
“มันคือพืชอะไรกัน? แล้วมันมีความพิเศษยังไง?”
หานซั่วถามต่อ
บุ๋ง… บุ๋ง… !!!
ทันใดนั้นเอง เสียงแปลกประหลาดของน้ำก็ดังขึ้นจากที่ไกล ๆ จิตของหานซั่วสามารถสัมผัสถึงอสูรมิติมืดจำนวนมากที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา แม้ว่าอสูรเหล่านี้จะอ่อนแอเมื่อเทียบกับทูโมยา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าพวกอสูรชั้นต่ำที่ของทะเลแห่งความตายที่ได้ต่อสู้กันมาก่อนหน้านี้
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กไม่ได้ตอบคำถามของหานซั่วในทันที เห็นได้ชัดว่า ตัวมันเองก็สัมผัสถึงเหล่าอสูรที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ได้เช่นกัน เนตรอสูรสีม่วงที่เคยริบหรี่ พลันเปล่งประกายฉายลำแสงสีม่วงออกมา พร้อมกับพลังอันร้ายกาจที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของมัน
“ข้าฆ่าทูโมยาไปแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อข้า ไม่อย่างนั้น ก็จงหายไปตลอดกาลเหมือนทูโมยา พวกเจ้าเลือกเองก็แล้วกัน!”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กส่งกระแสจิตอันทรงพลัง ซึ่งสะท้อนก้องออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ตอนนั้นเอง หานซั่วก็พบว่าอสูรจากทะเลแห่งความตายที่กรูกันเข้ามา ต่างเป็นอสูรที่มีรูปร่างหน้าตากลายพันธุ์มาจากปลาที่พบเห็นได้ในอาณาจักรแห่งความลึกล้ำ บางตนมีรูปร่างของอสูรทั่วไปงอกเงยออกมาจากโครงร่างหลักที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดปลา ดูน่าประหลาดยิ่งนัก
เห็นได้ชัดว่าสารอันทรงพลังที่เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กส่งออกไปนั้นส่งผลกระทบต่อเหล่าอสูรพิกลพิการจากทะเลแห่งความตายเป็นอย่างมาก เหล่าอสูรที่กำลังพุ่งเข้าโจมตีอย่างสุดแรงเกิด พลันหยุดมุ่งหน้าไปยังเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก และเริ่มสื่อสารเพื่อพูดคุยกันเอง
“พวกเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถ้าไม่มีทูโมยา พวกเจ้าก็ไร้ค่าสำหรับข้า จงยอมแพ้เสียเดี๋ยวนี้ และยอมสวามิภักดิ์แก่ข้า ไม่อย่างนั้น หนทางเดียวของพวกเจ้าก็คือต้องหายไปตลอดกาล!”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กกดดันพวกมัน
“พวกเราน้อมรับใช้ท่าน!”
โดยที่ไม่ปล่อยให้รอนาน อสูรเหล่านั้นก็ยอมจำนนต่อความยิ่งใหญ่ของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กในที่สุด พวกมันสาบานว่าจะยอมสวามิภักดิ์ต่อเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กทีละตน ๆ ตราบใดที่จิตวิญญาณของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กยังคงอยู่ อสูรเหล่านั้นก็จะไม่มีทางทรยศมันได้
ถือเป็นเหตุการณ์ที่แสนธรรมดาของมิติมืด เมื่อผู้นำเดิมถูกโค่นลง ผู้ชนะย่อมสามารถยึดครองกองกำลังของฝ่ายตรงข้ามได้ และเป็นเรื่องปกติที่อสูรชั้นต่ำจำต้องเป็นผู้คอยรับใช้เหล่าอสูรชั้นสูงอยู่แล้ว ด้วยการสาบาน จึงไม่มีเรื่องความจงรักภักดี หรือการทรยศภายในโลกมิติมืดแห่งนี้
“ดีมาก พาข้าไปที่ต้นไม้แห่งวิญญาณที่พวกเจ้าเฝ้าอยู่เดี๋ยวนี้!”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กสื่อสารออกไป
“นายท่าน ได้โปรดมากับพวกเรา!”
เหล่าอสูรในท้องทะเลแห่งความตายนำเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กและหานซั่วไปด้วยความเคารพ และเดินทางลึกลงไปในทะเลแห่งความตายมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ท่านพ่อ ใต้ทะเลทางทิศตะวันออกของทะเลแห่งความตาย มีพืชพิเศษที่เรียกว่า ต้นไม้แห่งวิญญาณ ผลของมันเรียกว่า ไข่มุกแห่งวิญญาณ ถ้าได้กลืนกินมันเข้าไป จะช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาของเราให้มากขึ้นได้ สำหรับเจ้าดิน เจ้าทอง และตนอื่น ๆ จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาได้เร็วขึ้นอีกด้วย แต่ไม่ว่ายังไง สติปัญญาก็เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ในหมู่อสูรระดับสูง และมีเพียงอสูรระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถดูดกลืนพลังที่ทำให้สติปัญญาเพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้าเป็นอสูรอย่างพวกนักรบผีดิบกับนักรบแห่งความเกลียดชัง ถ้าพวกมันกินเข้าไป ไข่มุกแห่งวิญญาณจะไม่ส่งผลใด ๆ กับพวกมันเลย”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กอธิบายให้หานซั่วฟัง
“พืชที่ช่วยเพิ่มพูนสติปัญญางั้นรึ? หมายความว่ายังไงกัน?”
หานซั่วถามขึ้นด้วยความตกตะลึงที่พลุ่งพล่านในหัวใจ
ดูเหมือนว่าเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ชัดเจนนัก หลังจากที่หานซั่วถามคำถามออกไป เนตรอสูรสีม่วงของมันก็กลอกไปมาครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะข้าก็ไม่เคยเห็นไข่มุกแห่งวิญญาณนั่นสักที ข้าแค่ได้ยินมาเท่านั้นเอง ส่วนรายละเอียดที่มากกว่านั้น พวกเราคงได้คำตอบเมื่อได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองแล้วนั่นแหละ”
หานซั่วเกิดความกระหายใคร่รู้อย่างมาก แต่หลังจากที่ได้ยินคำตอบ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป เขายังคงพุ่งความสนใจไปยังสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วยจิตของเขา พลางคาดเดาอย่างเงียบ ๆ ว่าไข่มุกแห่งวิญญาณจะสามารถเพิ่มสติปัญญาของอสูรมิติมืดได้อย่างไร
ไม่นานนัก เหล่าอสูรที่นำทางเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กและหานซั่วก็มาถึงอาณาเขตที่หนาแน่นไปด้วยน้ำสีดำราวกับหมึก จิตของหานซั่วรับรู้ได้ถึงพลังงานวิญญาณที่สับสนวุ่นวายมากมายซึ่งกำลังพลุ่งพล่านไปทั่วทุกแห่งได้อย่างชัดเจน
หานซั่วชะงักไปทันที นี่เป็นครั้งแรกที่จิตของเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานเช่นนี้ พลังที่หนาแน่นทำให้จิตของหานซั่วรู้สึกปั่นป่วนไม่น้อย อย่างไรก็ตาม หานซั่วได้ฝึกฝนเวทย์ปีศาจมานานหลายปี และได้เรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการควบคุมสติของเขา ทันใดนั้นเอง จิตสำนึกของเขาก็ตัดการเชื่อมต่อกับบริเวณโดยรอบราวกับถูกสับด้วยคมมีด
พลังงานที่ถาโถมเข้าสู่จิตของหานซั่วถูกตัดขาดโดยทันที จนไม่เหลือพลังวิญญาณใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเขา เมื่อเขาหันไปข้าง ๆ ก็เห็นเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กและอสูรกระดูกต่างจ้องมองออกไปด้วยแววตาที่เลื่อนลอย ราวกับถูกแช่แข็งด้วยพลังวิญญาณเหล่านั้น
ด้วยความเชื่อมโยงที่มีต่อเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก ความคิดต่าง ๆ ได้ถูกส่งไปยังเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก หลังจากที่ความคิดของจิตหานซั่วเข้าไปยังเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กที่กำลังมึนงง มันก็เริ่มได้สติขึ้นมา เนตรอสูรสีม่วงของมันฉายแสงเป็นประกาย ภาวะจิตใจที่มึนงงถูกกำจัดออกไปในที่สุด หลังจากนั้น ด้วยความเชื่อมโยงที่มันมีต่ออสูรกระดูก เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กก็ถ่ายทอดความคิดของมันเพื่อปลุกให้อสูรกระดูกตื่นขึ้นมา
หลังจากที่ฟื้นคืนสติแล้ว ร่ายกายมหึมาของอสูรกระดูกก็สั่นเทิ้มเล็กน้อย ก่อนจะส่งกระแสจิตตอบกลับมา
“นายท่าน เจ้าพวกลิ่วล้อหน้าใหม่นี่ไม่ได้เตือนท่านเกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นี่เลยสักนิด พวกมันต้องมีเจตนาร้ายกาจแฝงอยู่แน่ ๆ!”
อสูรกระดูกคำรามอย่างดุร้าย และพุ่งตัวไปยังอสูรทะเลแห่งความตายตนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมัน ก่อนที่อสูรตนนั้นจะทันได้ตั้งตัว อสูรกระดูกก็เคี้ยวมันจนแหลกเป็นผง
“นายท่าน ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วย เราคิดว่าถ้าท่านสามารถฆ่าทูโมยาได้ ท่านก็คงหลีกเลี่ยงพลังที่อยู่รอบ ๆ ต้นไม้แห่งวิญญาณนี่ได้ง่าย ๆ พวกเราเสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้เตือนท่านก่อนล่วงหน้า”
เหล่าอสูรทะเลแห่งความตายรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ และรีบขอโทษขอโพยเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กทันที
“ช่างเถอะ อย่างสนใจพวกมันเลย หึ! ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงอยากจะทดสอบความแข็งแกร่งของข้ามากกว่า คราวนี้ข้าจะปล่อยไปก่อน แต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าให้มีตัวตนอยู่ในมิติมืดนี้สักตนเดียว!”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กตอบ
ด้วยคำสั่งของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก อสูรกระดูกก็หยุดอาละวาด ส่วนเหล่าอสูรทะเลแห่งความตายก็ไม่ได้ตอบโต้กลับแต่อย่างใด และร้องอ้อนวอนขอการให้อภัยแทน ในตอนนั้น น้ำทะเลสีดำราวน้ำหมึกจางหายไปในทันที แล้วภาพของต้นไม้ใหญ่ซึ่งเกิดจากกิ่งก้านสีน้ำตาลพันเกี่ยวกันไปมาก็ปรากฏแก่สายตา รากของมันฝังลึกไปใต้ก้อนหิน และมีผลทรงรีขนาดเท่ากำปั้นประมาณ 10 ผล แขวนห้อยอยู่บนต้นไม้
น้ำทะเลรอบต้นไม้ใหญ่นั้นเป็นสีเทา พลังวิญญาณที่ดูเหมือนชิ้นส่วนของความทรงจำหลั่งไหลอยู่รอบต้นไม้ใหญ่อย่างไร้ระเบียบ ราวกับว่า หากวิญญาณของพวกเขาลอยเข้าไปสู่ใจกลางของต้นไม้ใหญ่ บางทีพลังของมันอาจจะเป็นเหมือนกับอาหารหล่อเลี้ยงที่ต้นไม้นั่นต้องการก็เป็นได้
“รอบ ๆ ต้นไม้แห่งวิญญาณเป็นพลังงานของความทรงจำที่ล่องลอย ซึ่งทะเลแห่งความตายได้ดูดซับเอาไว้ ต้นไม้แห่งวิญญาณจะกลั่นกรองอารมณ์และความทรงจำเหล่านั้น และดูดกลืนเข้าไป จากนั้นก็จะสร้างไข่มุกแห่งวิญญาณขึ้นมา ไข่มุกแห่งวิญญาณเหล่านี้สามารถกลืนกินได้โดยตรง และสามารถทำให้อสูรระดับสูงที่โง่เขลามีสติปัญญาและฉลาดหลักแหลมขึ้นอย่างมาก”
อสูรทะเลแห่งความตายอธิบายกับเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก
“ท่านพ่อ นี่คือไข่มุกแห่งวิญญาณ ว่ากันว่ามันช่วยเพิ่มพูนสติปัญญาได้จริง ๆ ท่านน่าจะลองดูนะ!”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กอธิบายกับหานซั่ว
ด้วยความสงสัยใคร่รู้อย่างที่สุด หานซั่วก็เดินตรงเข้าไปยังต้นไม่แห่งวิญญาณ และเด็ดไข่มุกแห่งวิญญาณใส่เข้ามาภายในจิตของเขา จากนั้น เขาก็ใช้พลังของจิตบดให้แตกและปอกเปลือกแข็งของมันออก
ทันใดนั้น อารมณ์ที่วุ่นวายยุ่งเหยิงต่าง ๆ รวมทั้งความทรงจำและความรู้สึกนึกคิดต่างถาโถมเข้าสู่จิตใจของหานซั่ว ไข่มุกแห่งวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากอสูรที่อยู่ในโลกมิติมืดหรือไม่ ท่ามกลางประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น หลายสิ่งหานซั่วก็ไม่สามารถอธิบายได้ แม้แต่ความคิดน่าเหลือเชื่อบางอย่างที่หานซั่วไม่เคยได้ยินมาก่อน
ขณะที่จิตใจของหานซั่วกำลังวุ่นวายอย่างที่สุด ทันใดนั้นเอง ความทรงจำเกี่ยวกับการฝึกควบคุมความปรารถนารวมทั้งการคลายจิตใจอันดื้อดึงของผู้อื่นก็ผุดขึ้นในหัวของเขา แล้วหานซั่วที่กำลังเคร่งเครียดอยู่กับความยากลำบากในการบรรลุสู่อาณาจักรพลังกามอสูรจนจมจ่อมอยู่ในภาวะเฉื่อยชา ก็พลันรู้สึกว่าตนเองกระจ่างแจ้งขึ้นมาในทันที!