Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 422.1
แม้ว่าลำแสงที่คล้ายกับริบบิ้นนั้นจะพันรอบตัวของหานซั่วไว้แน่น แต่หานซั่วกลับไม่ได้มีความรู้สึกว่าโดนคุกคามแต่อย่างใด
ลำแสงเหล่านั้นค่อย ๆ ซึมซาบเข้าไปในผิวหนังของเขา เกิดเป็นความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ราวกับว่าเขากำลังนอนแช่อยู่ในทะเลสาปที่แสนเย็นสบาย
เมื่อเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กเห็นว่า ร่างของหานซั่วถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังของผลไม้สีดำทันทีที่เขารับผลไม้ลูกนั้นไป มันก็คลายมือสีขาวราวหิมะของมันออกมา เผยให้เห็นแร่ที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือจำนวนหนึ่งวางอยู่บนมือ เนตรอสูรสีม่วงของมันส่องแสงเป็นประกาย ราวกับว่ามันกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่ง
หลังจากจ้องมองอย่างเลื่อนลอยอยู่ครู่หนึ่ง มันก็ประกบมือเข้าด้วยกันและออกแรงบีบ ก่อให้เกิดเสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นในฝ่ามือ แล้วออร่าแห่งความตายอันรุนแรงก็แผ่ซ่านออกมา
มวลอนุภาคขนาดเล็กรูปร่างคล้ายเม็ดทรายสีเทาฟุ้งกระจายออกมาจากฝ่ามือของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก มันรีบพุ่งตัวไปอยู่ ๆ ข้างหานซั่ว และโรยผงทรายนั้นลงบนร่างของหานซั่วทันที
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
ขณะที่ผงเหล่านั้นกำลังหล่นลงบนร่างของหานซั่ว มันก็ส่องแสงเป็นประกายออกมาราวกับดวงดาวยามค่ำคืน แลดูแปลกตาแต่ก็สวยงามยิ่งนัก อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มันหล่งลงมาสัมผัสร่าง มันก็อันตรธานหายไปอย่างไรร่องรอย ราวกับน้ำที่ไหลลงสู่ทะเล และไม่มีประกายแสงให้เห็นอีกต่อไป
เนตรอสูรสีม่วงของเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กเองก็เปล่งแสงสวยงามออกมา มวลแสงเหล่านั้นเคลื่อนไหวไปมาขณะที่มันสำรวจไปทั่วร่างของหานซั่วซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังของผลไม้สีดำ มันโปรยผงที่อยู่ในมือลงไปยังร่างของหานซั่ว เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้พลาดบริเวณใดไป
ในตอนแรก หานซั่วมีความรู้สึกผ่อนคลายและเกียจคร้าน ราวกับว่าเขากำลังแช่อยู่ในสระน้ำที่แสนสบายและสดชื่น ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าและง่วงเหงาหาวนอนอย่างบอกไม่ถูก
อย่างไรก็ตาม ส่วนของร่างกายที่ผงเหล่านั้นหล่นลงไปกลับก่อให้เกิดความเจ็บปวดเหมือนถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง ราวกับว่าผงนั้นมีพลังวิญญาณที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่กระดูกของของหานซั่วอย่างช้า ๆ
แล้วหานซั่วที่เคยรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว กลับรู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักอึ้งขึ้นมาอย่างฉับพลันทันที ในบริเวณที่ผงเหล่านั้นสัมผัสโดน กระดูกที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จะรู้สึกราวกับถูกสาป แล้วหานซั่วก็รู้สึกตัวและได้สติขึ้นมาทันที ความรู้สึกหนักอึ้งนี้ไม่ใช่ภาพมายา แต่มันกำลังเกิดขึ้นจริง
หานซั่วใช้จิตของเขาตรวจสอบภายในร่างกายของตนเอง และพบว่ามีแสงระยิบระยับคล้ายดวงดาวค่อย ๆแทรกซึมเข้าไป เสริมสร้างและทำให้กระดูกของเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งคล้ายกับครั้งแรกที่หานซั่วรู้สึกราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่
ขณะที่ลำแสงจำนวนมากซึ่งระเบิดออกมาจากผลไม้ลูกนั้นค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างของหานซั่วจนหมดสิ้น เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กก็เลิกเดินไปมารอบตัวหานซั่ว พร้อมกันกับที่ผงละเอียดคล้ายเม็ดทรายจากมือของมันหลั่งไหลเข้าไปในโครงกระดูกของหานซั่วราวกับสายน้ำ ผสมผสานเข้ากับลำแสงของผลไม้ และเสริมแกร่งให้กับกระดูกของหานซั่วทุกตารางนิ้ว
ตลอดทั้งกระบวนการ กระดูกของหานซั่วรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกทิ่มแทงด้วยเข็มนับร้อยนับพัน แต่เป็นเพราะการที่เขาฝึกฝนเวทย์ปีศาจมาจนถึงระดับนี้ เขาจึงสามารถทานทนกับความเจ็บปวดได้ทุกรูปแบบ เมื่อเทียบกับตอนที่กะโหลกศีรษะของเขาปริแตกออก และต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ราวกับสมองของเขาถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดในตอนนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เขาสามารถทนได้อย่างง่ายดาย
เช่นนั้นแล้ว หานซั่วจึงไม่แสดงท่าทีว่าทนไม่ไหวเลยสักนิด เขาไม่แม้แต่จะร้องครวญคราง แต่กลับเงียบราวกับกำลังหลับใหล
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กซึ่งอยู่ข้าง ๆ หานซั่ว ก็จ้องมองเขาด้วยความงุนงง ราวกับว่าท่าทีของหานซั่วนั้นแปลกประหลาดอย่างที่สุด
หลังจากที่เวลาผ่านไปนานเท่าใดมิอาจรู้ได้ หานซั่วรู้สึกว่าความเจ็บปวดที่มีทั่วร่างกายนั้นค่อย ๆ ลดน้อยลง จนเขาไม่รู้สึกถึงอาการใด ๆ อีก ตอนนั้นเอง เขาก็ถอนหายใจออกมา และลืมตาขึ้น เมื่อมองลงไป หานซั่วก็ตระหนักว่าเขาได้ฟื้นฟูร่างกายเรียบร้อยแล้ว และไม่หลงเหลือความผิดปกติใด ๆ ภายในร่างกายเขาอีกต่อไป
เขาบิดคอ สลัดแขน ยืดกล้ามเนื้อและกระดูก หานซั่วมีท่าทีแปลกไปในทันที นั่นเป็นเพราะว่าหานซั่วรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นหนักขึ้นเป็น 10 เท่า ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงทีเดียว!
ผลไม้หน้าตาธรรมดานั้นทำให้กระดูกมีความแข็งแกร่งและความทนทานเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ และเมื่อกระดูกของเขาแข็งแกร่งขึ้น น้ำหนักของเขาจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แม้ว่าหานซั่วจะเตรียมใจไวแล้ว ว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกายของเขาอย่างแน่นอน แต่เมื่อความเปลี่ยนแปลงนั้นมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้ หานซั่วจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“นี่มันผลไม้อะไรกัน? มันทำอะไรได้บ้างเหรอ?”
หานซั่วที่กำลังตื่นตกใจและจ้องมองอย่างเลื่อนลอยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปถามเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก
“เราเรียกมันว่า “นิลทรหด” เหมือนกับ “อัญมณีบริสุทธิ์” ที่ท่านได้ไปก่อนหน้านี้ พวกมันคือสิ่งมหัศจรรย์ในโลกของเรา “อัญมณีบริสุทธิ์” จะทำให้จิตวิญญาณของแข็งแกร่งขึ้น และชำระล้างวิญญาณให้บริสุทธิ์ขึ้น ส่วน “นิลทรหด” จะทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และทนทานมากขึ้น
“นิลทรหด” ชิ้นหนึ่ง สามารถทำให้ร่างกายของอัศวินปีศาจแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว ส่วนข้าก็ใช้นิลทรหดกับตัวเองไปก่อนหน้านี้แล้ว ข้าต้องทนทรมานแทบแย่ แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากดูดกลืนพลังของนิลทรหดเข้าไป ข้าก็รู้สึกว่ากระดูกของข้าแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลย”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กอธิบายกับหานซั่ว มันหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจด้วยความชื่นชม “ท่านพ่อ ท่านนี่สุดยอดไปเลย ท่านไม่แสดงท่าทางเจ็บปวดเลยสักนิด!”
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
ปรากฏว่าผลไม้นั้นเป็นของมีค่าเช่นเดียวกับอัญมณีบริสุทธิ์ ไม่แปลกใจเลยที่มันให้ผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์ถึงเพียงนี้ ระหว่างที่หานซั่วเข้ามายังโลกมิติมืดก่อนหน้านี้ เขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าอสูรมิติมืดต่างต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งชิงอัญมณีบริสุทธิ์นั้นให้จงได้ เช่นนั้นแล้ว เขาจึงรู้ว่า “นิลทรหด” เองก็เป็นสิ่งที่เหล่าอสูรมิติมืดต่างปรารถนาและแย่งชิงเพื่อให้ได้มา
แต่ทว่า เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กกลับไม่เก็บของมีค่าเช่นนี้ไว้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตัวมันเองเพิ่มเติม มันกลับมอบให้หานซั่วโดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด ทำให้หานซั่วรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก หานซั่วมองไปที่เจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก และกำลังเอ่ยปากชม แต่ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
ตามปกติแล้ว ทุกครั้งที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกายของหานซั่ว เวลามักจะผ่านไปโดยไม่รู้ตัว เขาจึงไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วขณะที่ใช้นิลทรหดเสริมแกร่งให้กับกระดูกของเขา ในขณะที่นครออซเซ็นกำลังอยู่ในช่วงที่โกลาหลที่สุด เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมาก และในฐานะผู้ที่ต้องคอยสังเกตการณ์สถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น หานซั่วจึงเป็นคนที่ไม่ควรจะหายไปในช่วงระยะเวลาที่สำคัญเช่นนี้เลย
“เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?”
หานซั่วขมวดคิ้วขณะที่เขารีบถามเจ้าโครงกระดูกตัวเล็ก
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เจ้าโครงกระดูกตัวเล็กตอบอย่างใจเย็น
หานซั่วเริ่มได้สติในไม่ช้า สุสานแห่งความตายนั้นเป็นเหมือนกับโลกมิติมืดที่ไม่สามารถล่วงรู้เวลาได้ เพราะมันถูกปกคลุมไว้ด้วยม่านเวทมนตร์ที่แข็งแกร่ง ไม่มีแม้แต่แสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์เล็ดลอดเข้ามาได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกเวลาจากพระอาทิตย์หรือดวงจันทร์
เมื่อคิดถึงการต่อสู้ครั้งสำคัญที่ยังคงดำเนินอยู่ หานซั่วก็รู้สึกตระหนกขึ้นมาทันที เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในสุสานแห่งความตายอีกต่อไป หลังจากส่งเจ้าโครงกระดูกตัวเล็กกลับไปยังมิติมืดแล้ว เขาก็รีบเข้าไปยืน ณ ใจกลางวงเวทย์มิติเคลื่อนย้ายภายในสุสานแห่งความตายทันที
ทันใดนั้นเอง ทั้งเสียงฝีเท้าม้า เสียงของเวทมนตร์ต่าง ๆ ที่ระเบิดขึ้น และเสียงร้องโหยหวนของเหล่านักรบก็ประดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา ที่มาของเสียงนั้นดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง
เป็นที่แน่นอนว่าสงครามได้อุบัติขึ้นแล้ว หานซั่วรีบตั้งสติขณะเก็บแท่งเงินวงเวทย์มิติ แล้วจู่ ๆ การใช้เวทมนตร์ทุกประเภทถูกสะท้อนเข้ามาในสมองของเขา ทำให้เขาสามารถสังเกตการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
ตราบใดที่หานซั่วอยู่ในนครออซเซ็น ปีศาจอาคมก็จะสามารสามารถถ่ายทอดภาพทุกพื้นที่ในนครออซเซ็นมาสู่สมองของเขาได้ แต่หากหานซั่วอยู่ไกลจากนครออซเซ็นเกินไป สายสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างหานซั่วและปีศาจอาคมก็จะอ่อนแอเกินกว่าที่จะถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ภายในสุสานแห่งความตายยังมีม่านพลังเวทมนตร์ ทำให้หานซั่วไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนครออซเซ็นระหว่างที่เขาอยู่ในสุสานแห่งความตาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อหานซั่วกลับมาถึงนครออซเซ็นผ่านทางวงเวทย์มิติเคลื่อนย้าย สายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับปีศาจอาคมทั้ง 12 ตนก็เสถียรขึ้นในทันที ทำให้เขาสามารถกลับมาควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้อีกครั้ง
ด้วยวิสัยทัศน์ของปีศาจอาคม หานซั่วจึงมองเห็นการต่อสู้อันดุเดือดที่เกิดขึ้นอยู่หลายจุดรอบ ๆ ปราสาท นำโดยฟีเรนซี คาเรล และลอว์เรนซ์ ซึ่งกำลังต่อสู้กับกองกำลังของแอชเบิร์นและเจ้าชายชาลส์อย่างไม่ลดละ ความตายเกิดขึ้นได้ทุกชั่วขณะ
ปราสาทหลังนี้ เดิมเคยใช้เป็นคลังเก็บสรรพาวุธ และโชคดีที่บริเวณโดยรอบเป็นเพียงลานกว้างที่เปิดโล่ง ไม่มีบ้านพักอาศัยของชาวเมืองตั้งอยู่ จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับ 2 ฝ่ายที่จะทำสงครามกันได้อย่างเต็มที่
— จบตอนที่ 422 Part 1 —