Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 394
หลังจากที่ออกมาจากวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลน ในทีแรก หานซั่วตัดสินใจจะกลับไปยังคฤหาสน์ของตนเอง แต่แล้วเขาก็พบว่าเอมิลี่และฟีบี้กำลังเดินออกมาจากห้อง ด้วยการมองเห็นผ่านสายตาของปีศาจอาคม
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่หานซั่วคาดหวังไว้โดยสิ้นเชิง ดวงตาของเอมิลี่นั้นแดงก่ำ ราวกับว่าเธอเพิ่งร้องไห้มา และฟีบี้ซึ่งเดิมทีมาเพื่อตักเตือนเอมิลี่ กลับไม่ได้มีท่าทีโหดร้ายอย่างที่หานซั่วคิดไว้ และพร่ำปลอบประโลมเอมิลี่ไม่หยุด
ทั้งสองกุมมือกันและกัน มิตรภาพของพวกเธอนั้นลึกซึ้งมากขึ้นตั้งแต่ตอนที่อยู่ด้วยกันที่หุบเขาแสงตะวัน ดวงตาของเอมิลี่ยังคงแดงก่ำขณะที่เธอใช้กระดาษเช็ดมุมขอบตาอยู่ตลอดเวลา ความโศกเศร้าของเธอทำให้ใครที่เห็นต้องรู้สึกสงสาร ฟีบี้ถอนหายใจ แต่ก็ให้กำลังใจเธออย่างอ่อนโยน
“ท่านพี่เอมิลี่ ข้าหยาบคายเกินไปจริง ๆ ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าชีวิตของท่านจะเป็นแบบนี้”
“ให้มันแล้วไปเถอะ ฟีบี้ มันคงยากสำหรับเจ้าที่จะให้อภัยข้า ข้าเองที่เป็นคนผิดในเรื่องนี้ แค่ความจริงที่ไม่คาดฝันหลาย ๆ อย่างมันเกิดขึ้นพร้อมกันรวดเดียวเลยน่ะ ฮือ…”
เอมิลี่เช็ดน้ำตาขณะที่เธอระบายกับฟีบี้
“เอาล่ะ ๆ เกือบจะถึงประตูแล้ว ท่านควรจะกลับเข้าไปข้างในและอย่าให้ใครเห็นท่านในสภาพนี้ดีกว่าค่ะ ทุกอย่างเป็นความผิดของผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ท่าน ข้าจะสะสางกับเขาเอง จะได้ไม่มาทำให้ท่านต้องเดือดร้อนอะไรอีก”
ฟีบี้โน้มน้าวเอมิลี่ และดึงดันที่จะให้เธอกลับเข้าไปในห้อง
“ฟีบี้ ขอบใจนะ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ดีจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงชอบเจ้ามาก”
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
หลังจากที่กลับเข้าไปในห้อง เอมิลี่ก็กุมมือฟีบี้และพูดอย่างจริงใจ
“เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าชีวิตของท่านพี่จะเลวร้ายกว่าข้าเสียอีก ข้าคิดมาตลอดว่าในฐานะลูกสะใภ้แห่งตระกูลเบทเทอริดจ์ แถมยังมีพี่ชายเป็นผู้ที่ครอบครองอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ชีวิตของท่านน่าจะโชคดีกว่าข้ามาก ลืมมันซะเถอะ ข้าไปก่อนนะคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านควรพักผ่อนได้แล้วล่ะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ฟีบี้ก็ปล่อยมือของเอมิลี่และออกมาจากคฤหาสน์
หานซั่วได้ยินบทสนทนาทั้งหมดผ่านปีศาจอาคม ทำให้เขารู้สึกสับสนไม่น้อย เขาเชื่อว่าแม้ว่าทั้งสองจะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายใด ๆ แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังล้อเลียนและเหยียดหยามกันและกันอยู่อย่างบอกไม่ถูก ไม่นึกเลยว่าเรื่องจะออกมาในลักษณะนี้?
หานซั่วเปลี่ยนเส้นทางและมุ่งหน้าไปยังตระกูลเบทเทอร์ริดจ์ เอมิลี่ที่กำลังร้องไห้เสียใจต้องการการปลอบประโลมจากเขาในตอนนี้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร หานซั่วก็ไม่อยากให้เอมิลี่ต้องเจ็บปวด เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ เขาก็รีบไปหาเธอในทันที
เมื่อต้องวุ่นวายกับธุระในวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนเป็นเวลานาน ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงมากแล้วตอนที่หานซั่วจากมา มีเพียงผู้คนไม่กี่คนอยู่บนถนนท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงัด ในตอนนั้น หานซั่วเปรียบเสมือนกับปีศาจยามราตรี เขาเคลื่อนที่อย่างไร้สุ้มเสียงไปตามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของตระกูลเบทเทอริดจ์
หานซั่วไม่ได้กังวลใจเกี่ยวกับฟีบี้ซึ่งเพิ่งจะขึ้นรถม้าจากไปมากนัก เขาเพียงแค่ปล่อยให้ปีศาจอาคมตนหนึ่งติดตามเธอไปเพื่อให้มั่นใจว่าเธอปลอดภัย เขาเฝ้าสังเกตบทสนทนาของทั้งสองสาวและรู้ว่าอารมณ์ของฟีบี้นั้นดูจะปรกติดีและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ในตอนนี้ มีเพียงดวงตาแดงก่ำของเอมิลี่เท่านั้นที่ต้องการการปลอบโยนจากเขา ดังนั้น หานซั่วจึงสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ว่าใครสำคัญที่สุดในตอนนี้
แม้ว่าการคุ้มกันของตระกูลเบทเทอร์ริดจ์จะแน่นหนาเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีความหมายใด ๆ กับหานซั่วผู้ซึ่งครอบครองปีศาจอาคม เขาหลบเลี่ยงบรรดาทหารยามได้อย่างง่ายดาย และมาถึงด้านหน้าห้องของเอมิลี่อย่างเงียบเชียบ
ม่านพลังเวทมนตร์ของเอมิลี่ยังคงมีผลอยู่รอบ ๆ ห้อง ดังนั้นหานซั่วจึงไม่ดึงดันเข้าไป เพราะกลัวว่าเอมิลี่จะเข้าใจผิดและตอบโต้กลับมา เขาจึงเคาะประตูเบา ๆ แทน
“ใครน่ะ!”
เอมิลี่ร้องถามและค่อย ๆ เดินมาที่ประตู
“ข้าเอง!”
หานซั่วตอบอย่างแผ่วเบา
เอมิลี่รีบเร่งฝีเท้าของเธอและเดินไปที่ประตูเพียงชั่วอึดใจ ระหว่างที่เปิดประตู เอมิลี่เห็นหานซั่ว ดวงตาแดงก่ำของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที เธอมองไปรอบ ๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ ก่อนที่จะดึงเขาเข้าไปด้านในห้อง
“เจ้ามาที่นี่ทำไมกัน? ที่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูลเบทเทอริดจ์นะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าใครมาเห็นเข้า?”
หลังจากดึงหานซั่วเข้าไป เธอก็รีบปิดประตูและร่ายเวทย์ม่านพลังเวทมนตร์เพื่อกันเสียงอีกครั้ง ก่อนจะหันไปถามหานซั่ว
“ข้าก็เป็นห่วงเจ้าน่ะสิ”
หานซั่วสวมกอดเธอแน่นพลางตอบอย่างอ่อนโยน
“ข้าไม่เป็นไรหรอก ฟีบี้เพิ่งกลับไป เจ้าเจอเธอรึเปล่า?”
เอมิลี่ที่ถูกหานซั่วสวมกอดอยู่รู้สึกสงบในหัวใจ เธอถามอย่างอ่อนโยนเช่นกัน
“ไม่ได้เจอ หลังจากที่วันนี้เธอรู้เรื่องนี้แล้ว ข้ากลัวว่าเธออาจจะก่อเรื่อง ก็เลยไม่ได้ตามเธอไป แต่วันนี้ข้าก็คอยจับตาดูสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาเลยนะ ฟีบี้ทำอะไรเจ้ารึเปล่า? เจ้า… เจ้าร้องไห้นี่นา?”
หานซั่วรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขณะที่เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาของเธอ
“ฮะ ๆ ๆ แค่ได้รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้า เท่านั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ ฟีบี้เป็นเด็กดีนะ เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อก่อเรื่องอะไรเลย พวกเราก็แค่คุยกันแบบเปิดอก ฟีบี้ยังให้คำปรึกษากับข้าด้วย เจ้านี่ตาแหลมจริง ๆ นะ เรื่องผู้หญิงเนี่ย”
เมื่อได้สัมผัสความอ่อนโยนของหานซั่ว เธอก็รู้สึกว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากพอ
หานซั่วไม่ได้พูดอะไรอีก เขากอดเธอแน่นและจูบเธอ ในตอนนี้ สิ่งที่เอมิลี่ต้องการที่สุดคือการปลอบโยนจากหานซั่ว และเธอก็ทำได้เพียงตอบสนองอย่างกระตือรือร้น แม้กระทั่งการช่วยหานซั่วถอดเสื้อผ้าออก หลังจากที่ทั้งคู่กอดจูบกันอย่างดูดดื่ม เธอก็พาหานซั่วไปยังห้องนอนด้านใน
หานซั่วสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ปราถนาอันเร่าร้อนของเอมิลี่ ด้วยความคิดที่อยากจะชดเชยเพื่อไถ่โทษ หานซั่วจึงพยายามทำให้เธอพอใจมากเป็นพิเศษ มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเอมิลี่อย่างอ่อนโยน ในขณะที่ริมฝีปากของเขาก็รุกจูบเธออย่างต่อเนื่อง เมื่อเอมิลี่เริ่มหอบหายใจ หานซั่วก็กระซิบคำหวานข้าง ๆ หูของเธอ
ขณะที่มืออันใหญ่โตของหานซั่วกำลังบีบเค้นก้นอันกลมกลึงและนุ่มนวล เอมิลี่ก็เปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมดแล้ว เธอทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มสีชมพูที่อยู่ด้านหลัง และอวดเรือนร่างเปลือยเปล่าต่อหน้าหานซั่ว ดวงตากลมโตของเธอส่งสายตายั่วยวน และพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ไบรอัน ข้าไม่ต้องการให้เจ้าอ่อนโยน รุนแรงกับข้าได้เลย”
หานซั่วชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็โถมตัวเข้าใส่เธอ ละทิ้งซึ่งความอ่อนโยนไปอย่างสิ้นเชิง และปฏิบัติต่อเธออย่างรุนแรงตามที่เธอร้องขอ
เอมิลี่ในวันนี้ดูรุนแรงกว่าที่เคย เธอจู่โจมเข้าใส่หานซั่วจนกระทั่งถึงจุดที่ร่างกายบอบบางของเธอนั้นไม่สามารถทานทนต่อความรุนแรงของหานซั่วได้ไหว ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ผล็อยหลับไปในทันทีอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ขณะที่หานซั่วจ้องมองเอมิลี่ที่หลับไปแล้วด้วยความอิ่มเอมใจ เขาก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา เอมิลี่เป็นผู้หญิงคนแรกของเขา เขาขืนใจเธอตั้งแต่เริ่มแรก และมองเธอในฐานะสิ่งปรนเปรอความปรารถนาของเขามาเป็นเวลานานที่สุด
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
แต่ทว่าความพยายามของเธอที่มีต่อเขาอย่างเงียบ ๆ ทำให้เขาค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวตนของเธอแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถให้สถานะที่เหมาะสมกับเธอได้ ตามหลักแล้ว ฟีบี้ควรจะเป็นคนที่เขาคบอย่างเปิดเผย เอมิลี่ ซึ่งตกเป็นผู้หญิงของเขาทั้ง ๆ ที่มีสถานะที่ไม่ธรรมดา จึงนับว่ากลายเป็นเหยื่ออย่างแท้จริง
ตั้งแต่ที่เอมิลี่และหานซั่วได้รู้จักกัน เธอมักจะถือเอาความต้องการของหานซั่วเป็นหลักและพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา ขณะที่เขามองหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่ตรงหน้า หานซั่วก็เริ่มหวนรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมาโดยไม่ตั้งใจ ยิ่งคิดถึงเรื่องระหว่างพวกเขาทั้ง 2 ในอดีต เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
“เฮ้อ… ข้าติดค้างเจ้ามากจริง ๆ เจ้าคงจะลำบากมากสินะ”
หานซั่วถอนหายใจ และพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เขาลูบใบหน้าของเอมิลี่อย่างอ่อนโยน
“ทุกอย่างเป็นความตั้งใจของข้าเอง ข้าไม่เคยโทษเจ้าเลย อีกอย่าง เจ้าเองก็ดีกับข้า ไม่มีอะไรที่เจ้าต้องรู้สึกผิดหรอก”
ริมฝีปากของเอมิลี่เผยให้เห็นรอยยิ้มละมุน ขณะที่เธอลืมตาขึ้นหลังจากพูดจบ
“อ้าว ทำไมเจ้าตื่นเร็วนักล่ะ ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าเอมิลี่ตื่นแล้ว หานซั่วก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้านิ่วและดุเธอเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก หลังจากที่มีอะไรกับเจ้าแล้ว ข้ารู้สึกได้ถึงพลังลึกลับที่เจ้าทิ้งไว้ในตัวข้า พลังนั่นทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น เพราะอย่างนี้ข้าถึงฟื้นตัวได้เร็วไงล่ะ ไบรอัน ทุกอย่างเป็นเพราะความต้องการของข้าเองจริง ๆ นะ ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็รู้สึกเจ็บปวดเพราะข้าเหมือนกัน แต่ตราบใดที่เจ้ารักข้า ข้าก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากนี้ ตัวตนของข้าก็ถูกจำกัดไว้แล้วด้วย”
เอมิลี่ยื่นมือของเธอมาลูบที่ใบหน้าของหานซั่ว เธอยิ้มพลางพูดอย่างอ่อนโยน
“เจ้าจะต้องได้รับสถานะอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ ข้าสัญญาว่าจะทำเพื่อเจ้าให้ได้ และเจ้าคู่ควรจะได้รับมัน”
หานซั่วมองเอมิลี่ผู้ซึ่งทำเพื่อเขามามากมายและให้สัญญาอย่างเด็ดเดี่ยว
“ไบรอัน เจ้ารู้รึเปล่าว่าฟีบี้มีท่าทียังไงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา?”
เอมิลี่มีท่าทีอิ่มเอมใจ เธอจูบที่หน้าอกของหานซั่วก่อนจะยิ้มและเอ่ยปากถาม
“ไม่ว่าฟีบี้จะมีท่าทียังไง ก็ไม่มีวันกระทบกับความสัมพันธ์ของพวกเราหรอก ถึงเธอจะไม่ยอม จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน อย่าห่วงไปเลย ข้าจะคุยกับฟีบี้เรื่องนี้เอง”
หานซั่วให้สัญญาอีกครั้ง เขามุ่งมั่นที่จะทำให้เอมิลี่ไม่ต้องพบเจอกับเรื่องลำบากใจอีกแล้ว
“ฮิฮิ คำพูดของเจ้าทำให้ข้ามีความสุขจังเลย!”
เอมิลี่หัวเราะและพูดต่อ
“ยังไงก็แล้วแต่… ฟีบี้ยอมนะ”