Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ - ตอนที่ 388 (1)
GDK ตอนที่ 388 คำอ้อนวอนขององค์จักรพรรดิ Part 1
ชายชราผู้ที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของตนเองมาแล้วคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่บนบัลลังค์ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของช่วงเวลาเหล่านั้น พลังชีวิตดูเหมือนจะหลั่งไหลออกจากร่างกายได้ในทุกชั่วขณะ เขาทำได้เพียงประคองตนเองให้นั่งตัวตรงด้วยการเอนพิงกับบัลลังค์ ในขณะที่ดวงตาซึ่งเคยสดใส กลับขุ่นมัวและกลายเป็นสีเทา
หานซั่วตามคานไดด์เข้าไปด้านใน เขาจ้องมองไปยังอูห์เทร็ดที่ร่วงโรย และเข้าใจทันทีว่าความตายขององค์จักรพรรดิกำลังจะใกล้เข้ามาเต็มที ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบรรดาเจ้าชายแห่งจักรวรรดิแลนสล็อตถึงกำลังพยายามอย่างมากที่จะครอบครองอำนาจให้จงได้
“ฝ่าบาท เคานต์ไบรอันมาเข้าเฝ้าพระองค์แล้วพะย่ะค่ะ!”
คานไดด์พูดด้วยความเคารพหลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิ
อูห์เทร็ดไออย่างรุนแรง ดวงตาสีเทาของเขาค่อย ๆ ดูมีพลังขึ้นมาในทันที เขาบังคับให้ตัวเองนั่งตัวตรง และกวาดสายตามายังคานไดด์และหานซั่ว โดยจับจ้องไปที่หานซั่วมากเป็นพิเศษ และเอ่ยปากถามอย่างอ่อนแรง
“ไบรอัน คานไดด์พูดถึงผลงานของเจ้าที่นครเบรทเทลตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าทำได้ดีทีเดียวนะ”
“ฝ่าบาทชมข้าเกินไป นั่นเป็นหน้าที่ของข้า”
หานซั่วได้พูดคุยกับคานไดด์มาตลอดทาง และตระหนักดีว่าเขาควรจะระวังคำพูดเอาไว้เมื่อพูดกับคน ๆ นี้ และตอบในสิ่งที่ถูกถามเท่านั้น
“ข้าได้ยินข่าวที่เขาลือกัน ว่าเจ้าเองก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับศาสนจักรแห่งความหายนะ โฮ่ ๆ ๆ น่าสนใจดีจริง ถ้าดูจากประวัติขาวสะอาดของเจ้ากับสิ่งที่เจ้าเคยทำเพื่อจักรวรรดิแลนซล็อตมามากมาย แล้วมากล่าวหาว่าเจ้ามีส่วนพัวพันกับศาสนจักรที่ชั่วร้ายอย่างพวกมันได้ยังไงกัน!”
อูห์เทร็ดพึมพำ ราวกับว่าเขาพูดกับตัวเอง
“ฝ่าบาท พระองค์ควรรู้ดีที่สุดว่านั่นเป็นข่าวลือจากพวกศัตรูทั้งนั้นนะพะยะค่ะ”
หานซั่วตอบ
“ถ้าอย่างนั้น เจ้ารู้รึเปล่าล่ะ ว่าใครกุข่าวลือพวกนี้ขึ้นมา และทำไปเพื่ออะไรกัน?”
อูห์เทร็ดจ้องมองหานซั่วและถาม
หานซั่วตอบพลางส่ายศีรษะ
“ข้าก็ไม่ทราบเลยจริง ๆ”
“คานไดด์ เจ้าออกไปก่อน ข้ามีอะไรอยากจะพูดกับไบรอันตามลำพัง”
อูห์เทร็ดไม่ถามต่อถึงรายละเอียด หากแต่จ้องมองคานไดด์และสั่งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
คานไดด์ไม่ได้ตอบอะไร เขาโค้งคำนับอย่างสุภาพก่อนจะหันกลับและเดินออกไปจากห้องโถง เขาเพียงแต่หันมาส่งสายตาที่มีความหมายบางอย่างขณะเดินผ่านหานซั่ว เพื่อเตือนว่าเขาไม่ควรพูดอะไรที่ไม่สมควรออกไป
หลังจากที่คานไดด์ออกไปแล้ว อูห์เทร็ดก็ถอนหายใจและพูดขึ้น
“ในบรรดาโอรสของข้า ข้ารู้สึกติดค้างลอว์เรนซ์มากที่สุด ข้าได้ยินมาว่าเจ้สนิทกับลอว์เรนซ์มาก เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นรึ?”
หานซั่วสะดุ้ง และคาดเดาเจตนาของอูห์เทร็ดไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่ขุนนางชั้นสูงส่วนใหญ่ในนครออซเซ็นต่างรู้ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขาและลอว์เรนซ์ และอูห์เทร็ดเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน หานซั่วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างจริงใจและตอบกลับไป
“จริงพะย่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็จะให้การสนับสนุนเขา อย่างนั้นใช่รึเปล่า?”
อูห์เทร็ดถามขึ้นอีกครั้ง
“แน่นอนที่สุด ฝ่าบาท”
หานซั่วตอบ
อูห์เทร็ดนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่หานซั่ว เมื่ออูห์เทร็ดเห็นว่าหานซั่วเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ เขาจึงพูดขึ้น
“ไบรอัน ข้ามีบางอย่างที่อยากจะหารือกับเจ้า”
“ฝ่าบาท พระองค์สามารถตรัสกับข้าได้ทุกอย่าง ในฐานะราชบริพาร ข้ายินดีที่จะแบ่งเบาความกังวลของพระองค์บ้างเช่นกันพะย่ะค่ะ”
หานซั่วตอบอีกครั้ง
อูห์เทร็ดถอนหายใจ เขาจ้องมาที่หานซั่วและพูดขึ้น
“ไบรอัน ข้าหวังว่าเจ้าจะให้สัญญากับข้าข้อหนึ่ง ไม่ว่าลูกชายทั้ง 3 คนของข้าจะปฏิบัติต่อเจ้ายังไง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเขาด้วยนะ”
หานซั่วพูดไม่ออกไปชั่วขณะ พลางมองไปยังอูห์เทร็ดด้วยความงุนงงสงสัยและเอ่ยปากถาม
“ทำไมฝ่าบาทถึงตรัสอย่างนั้นล่ะพะย่ะค่ะ?”
“ไบรอัน ถ้าเจ้ายอมรับข้อเสนอของข้า ข้าก็จะมอบบัลลังค์ให้กับลอว์เรนซ์ และช่วยเจ้าทั้ง 2 รวบรวมอำนาจภายในจักรวรรดิแลนสล็อตให้ได้อีกครั้ง”
อูห์เทร็ดจับจ้องมาที่หานซั่ว และพูดขึ้นด้วยความเด็ดเดี่ยว
หานซั่วรู้สึกสับสนไปหมด และมองไปที่อูห์เทร็ดด้วยสีหน้าตกตะลึง หานซั่วไม่แน่ใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอูห์เทร็ดที่ทำให้เขาพูดในสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเช่นนั้นออกมา เขามองไปที่อูห์เทร็ดด้วยความมึนงง และหลงลืมที่จะตอบคำถามไปเสียสิ้น
“ตราบใดที่เจ้าให้สัญญา ข้าจะช่วยเจ้ากับลอว์เรนซ์ เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?”
อูห์เทร็ดย้ำอีกครั้งทันที ความกระวนกระวายบางอย่างเจืออยู่ในน้ำเสียง มากพอ ๆ กับท่าทีของความเว้าวอนที่ปราฏ
ในฐานะผู้ปกครองที่แท้จริงแห่งจักรวรรดิแลนสล็อต ตราบใดที่อูห์เทร็ดยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเขาจะป่วยมาก แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นผู้ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดของจักรวรรดิแลนสล็อตอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ น้ำเสียงของอูห์เทร็ดที่กำลังพูดกับหานซั่วนั้นฉายแววของความอ้อนวอนอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่หานซั่วไม่ได้คาดการณ์เอาไว้มาก่อนเลย
ในทีแรก หานซั่วคิดว่าอาการป่วยของอูห์เทร็ดคงจะหนักหนาเกินไป จนทำให้เขาคิดและพูดอะไรแบบนี้ออกมาโดยไม่มีสติรู้ตัว แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหานซั่วพินิจพิเคราะห์อูห์เทร็ดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็พบว่า แม้ร่างกายของอูห์เทร็ดจะอ่อนแอและเปราะบาง จิตวิญญาณของเขาไม่ได้สบสันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าภาวะอารมณ์ของเขาเป็นปกติ
ขณะที่หานซั่วยังคงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก และอูห์เทร็ดได้ถามขึ้นอีกครั้ง หานซั่วก็รีบใช้สมองใคร่ครวญอย่างรวดเร็วและตอบอูห์เทร็ดกลับไป
“ตราบใดที่ข้าไว้ชีวิตเจ้าชายทั้ง 3 อย่างนั้นรึพะย่ะค่ะ?”
อูห์เทร็ดดูมีท่าทีดีใจขึ้นมาทันที ขณะที่เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และรีบพูดต่อ
“ใช่แล้ว ตราบใดที่เจ้าไว้ชีวิตพวกเขา เจ้าสามารถยึดอำนาจทั้งหมดพวกเขามา หรือแม้แต่จะจับขังคุกเอาไว้เลยก็ได้ ตราบใดที่พวกเขามีชีวิตอยู่ก็พอ”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ยอมรับข้อตกลง ฝ่าบาท”
หานซั่วไม่ลังเลอีกแล้ว เขาตอบออกไปทันที
ในฐานะผู้ปกครองจักรวรรดิที่แท้จริง จักรพรรดิอูห์เทร็ดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ท่าทีอิดโรยของเขาปรากฏรอยยิ้มขณะที่เขาโบกมือ และพูดกับหานซั่ว
“ไบรอัน ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นมาร์ควิส แล้วข้าก็จะออกคำสั่งไปยังจอมขมังเวท์ห้วงมิติศักดิ์สิทธิ์ ซาบาคัส ให้สร้างวงเวทย์มิติเคลื่อนย้ายขึ้นที่นครเบรทเทล และจะช่วยจัดการกับข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเจ้าด้วย แล้วก็…..”
แล้วอูห์เทร็ดก็ร่ายยาวถึงสัญญามากมายที่เขาจะมอบให้ หานซั่วได้แต่ยืนตกตะลึงอยู่อย่างนั้น พลางจ้องมองด้วยสายตาว่างเปล่าและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอูห์เทร็ดในวันนี้ เมื่ออูห์เทร็ดพูดจบ เขาก็พูดขึ้นในที่สุด
“ไบรอัน เจ้าไปได้แล้วล่ะ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เอาเรื่องที่เราคุยกันวันนี้ไปบอกใคร แม้แต่กับคานไดด์หรือลอว์เรนซ์”
“ฝ่าบาท ข้าให้สัญญา แต่ไม่ว่ายังไง พระองค์โปรดบอกเหตุผลกับข้าสักหน่อยได้หรือไม่? ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมพระองค์ถึงตัดสินใจแบบนี้”
หานซั่วจ้องมองอย่างงุนงงไปที่อูห์เทร็ดขณะที่เขาเอ่ยปากถาม
อูห์เทร็ดส่ายศรีษะ พลางหัวเราะอย่างขมขื่น
“คงจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่รู้ นี่ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง เจ้าไปได้แล้วล่ะ”
หานซั่วยังคงไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง เขามองไปที่อูห์เทร็ดด้วยความสับสน สายตาของเขาว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้ว และโค้งคำนับอูห์เทร็ดก่อนออกไป เขารู้สึกฉงนสงสัยอย่างที่สุด และไม่รู้เลยว่าจะหารือกับใครได้
เมื่อหานซั่วจากไปแล้ว อูห์เทร็ดกลับดูชราภาพลงกว่าเดิม เขาถอนหายใจและพูดขึ้น
“ในฐานะของคนเป็นพ่อ ข้าทำในสิ่งที่ทำได้ให้พวกเจ้าทั้ง 3 คนแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากที่ข้าตายไปแล้ว”
ทันใดนั้นเอง จอมขมังเวทย์ห้วงมิติศักดิ์สิทธิ์ซาบาคัส และมาดามเกรซผู้ทำนาย ก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าอูห์เทร็ด มาดามเกรซนั้นแลดูซีดเซียวอย่างที่สุดและดูใกล้ตายยิ่งกว่าอูห์เทร็ดเสียอีก ราวกับว่าในร่ายกายของเธอไม่หลงเหลือซึ่งพลังชีวิตใด ๆ อีกแล้ว
เมื่ออูห์เทร็ดเห็นทั้ง 2 คนปรากฏตัวขึ้น เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง มองไปยังผู้ทำนาย มาดามเกรซ และพูดขึ้น
“มาดาม ข้าไม่เคยสงสัยการตัดสินใจของท่านมาตลอดหลายปี ท่านบอกว่าไบรอันจะช่วยให้จักรวรรดิแลนสล็อตเจริญรุ่งเรืองขึ้นจริง ๆ ใช่มั้ย?”
เกรซขยับริมฝีปากของเธอราวกับว่าต้องการจะคลายริ้วรอยหนา ๆ รอบริมฝีปาก และตอบด้วยเสียงอ่อนแรง
“ฝ่าบาท ตามที่ท่านร้องขอ ข้าได้ใช้พลังชีวิตของข้าเพื่อคำทำนาย ข้ารู้เพียงว่าใครก็ตามที่คนผู้นี้ให้การช่วยเหลือ คน ๆ นั้นก็จะได้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ ตราบใดที่เขาอยู่ในจักรวรรดิแลนสล็อต จักรวรรดิก็จะไม่มีวันพินาศอย่างเด็ดขาด เท่านั้นเอง…”
“นั่นก็เพียงพอแล้ว ข้าแค่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า คนที่มีอิทธิพลต่ออนาคตอันยาวไกลของจักรวรรดิแลนสล็อตจะเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
อูห์เทร็ดพึมพำกับตนเอง ก่อนจะมองไปยังซาบาคัสและเกรซ และพูดขึ้นอีกครั้ง
“วันของข้าใกล้เข้ามาทุกที ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะให้สัญญากับข้าขอหนึ่ง หลังจากที่ข้าตายไปแล้ว”
“ฝ่าบาท โปรดอย่างทรงคะยั้นคะยอข้าเช่นนั้นเลย ข้าคิดว่าข้าคงลาโลกนี้ไปก่อนพระองค์เสียอีก ข้าเองก็เหนื่อยล้ามามากในช่วงหลายปีมานี้ ชีวิตของข้าก็คงจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วเช่นกัน”
เกรซ แม่เฒ่าผู้ทำนายถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ขณะที่เธอตอบอูห์เทร็ด
“มาดาม ข้าต้องขอโทษด้วย ท่านเสียสละใช้พลังชีวิตของตัวเองเพื่อจักวรรดิแลนสล็อตมามากมายจริง ๆ”
อูห์เทร็ดตระหนักดีว่าทุก ๆ ครั้งที่ผู้ทำนาย มาดามเกรซ ทำนายสิ่งใด เธอจะต้องใช้พลังชีวิตของเธอเอง ยิ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยากมากเพียงใด เธอก็ยิ่งสูญเสียพลังชีวิตไปมากขึ้นเท่านั้น
** Please note : โปรดอ่านนิยายเรื่องนี้ จากบล็อกของผู้แปล gdk-th.blogspot.com เท่านั้น หากท่านกำลังอ่านจากเว็บไซต์อื่น แสดงว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับผู้ที่ขโมยผลงานของนักแปลมาแสวงหาผลกำไรให้ตนเอง **
คำทำนายในครั้งนี้เกี่ยวพันกับชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิแลนสล็อต ซึ่งได้ใช้พลังชีวิตของเธอไปจนเหือดแห้ง เรียกได้ว่าความตายของเธอขึ้นอยู่กับอูห์เทร็ดก็ไม่ผิดนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับจักรวรรดิ อูห์เทร็ดก็ไม่มีทางเลือกอื่น และจำต้องขอความชัดเจนจากมาดามเกรซผู้ทำนาย
หากแม้ไม่มีคำทำนายของมาดามเกรซ เรื่องราวก็อาจจะบานปลายไปมากกว่านี้ การแย่งชิงอำนาจระหว่างเจ้าชายคงนำมาซึ่งความเสียหายต่อความแข็งแกร่งของจักรวรรดิแลนสล็อท และเมื่อเป็นเช่นนั้น แม้ลอว์เรนซ์จะแย่งชิงบัลลังค์มาได้สำเร็จ ความแข็งแกร่งของจักรวรรดิแลนสล็อตก็คงไม่มั่นคงและแตกต่างจากเดิมไปมากทีเดียว
อูห์เทร็ดเกรงว่าสถานการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องร้องขอให้ผู้ทำนายชราเกรซใช้พลังชีวิตของตนเองเพื่อทำนายอนาคตอีกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสียหายและความสูญสิ้นซึ่งความแข็งแกร่งของจักรวรรดิ เพื่อที่ว่าเมื่อลอว์เรนซ์ได้ครอบครองบัลลังค์ จักรวรรดิแลนสล็อตจะยังคงเกรียงไกรเช่นเดิม
“พระองค์ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ท่านอาจารย์ของข้าเองก็ใช้พลังชีวิตจนหมดและยอมตายเพื่อจักรวรรดิแลนสล็อตมาแล้วเหมือนกัน บางที นี่อาจจะเป็นชะตาชีวิตของพวกเราในฐานะผู้ทำนายก็เป็นได้…”
ผู้ทำนายชรา มาดามเกรซถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะมองไปยังซาบาคัสและพูดขึ้น
“ในช่วงระยะเวลาจำกัดที่ข้ายังพอหลงเหลืออยู่ ข้าหวังว่าท่านจะส่งข้าไปยังที่ที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนนะ”
“อย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าที่ไหนที่ท่านอยากไป ข้าก็สามารถพาท่านไปได้ทั้งนั้นล่ะ”
ซาบาคัสยิ้มอย่างเป็นมิตรและตอบกลับไป จากนั้นเขาก็หันไปทางจักรพรรดิอูห์เทร็ดและร้องถาม
“ฝ่าบาท เมื่อครู่นี้ พระองค์อยากจะบอกอะไรกับข้ารึพะย่ะค่ะ?”
“ถ้าไบรอันไม่ยอมทำตามสัญญา… ข้าหวังว่าท่านจะช่วยฆ่าเขาให้ข้าด้วย”
อูห์เทร็ดลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบซาบาคัส
“ฝ่าบาท ข้าคงตอบได้เพียงว่า ข้าจะพยายามให้มากที่สุด หากวันนั้นมาถึง และข้าไม่สามารถรับมือกับเขาได้จริง ๆ ข้าก็หวังว่าพระองค์จะทรงอภัยให้ข้าด้วย”
จอมขมังเวทย์ห้วงมิติศักดิ์สิทธิ์ซาบาคัสคิดใคร่ครวญก่อนจะตอบอูห์เทร็ด
หากผู้ใดก็ตามที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกับซาบาคัส พวกเขาก็มักจะมีอำนาจการตัดสินใจของตนเอง แม้แต่องค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแลนสล็อตเองก็ไม่มีสิทธิ์สั่งให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ ในขณะที่ซาบาคัสนั้นเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับคำทำนายของมาดามเกรซ และนี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตอบอูห์เทร็ดกลับไปเช่นนั้น
อูห์เทร็ดพยักหน้าและยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็คงทำได้เพียงขอบคุณท่านล่ะนะ”
“เอาล่ะ ฝ่าบาทคงมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ พวกเราจะไม่รบกวนพระองค์อีก”
ซาบาคัสตอบอย่างเรียบเฉย ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตัว เขามองไปยังผู้ทำนายชรา เกรซขณะที่แสงสีขาวโอบล้อมคนทั้งคู่ไว้ จากนั้นพวกเขาก็หายวับไปในพริบตา แล้วองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแลนซล็อตก็เริ่มช่วยลอว์เรนซ์โดยปูหนทางให้เขาขึ้นสู่บัลลังค์
เมื่อหานซั่วกลับมาถึงคฤหาสน์ เขาก็พบว่าทั้งลอว์เรนซ์และฟีบี้ไม่ยอมรอจนถึงตอนเย็น และมารออยู่ที่นี่แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องการพบหานซั่วมากทีเดียว
ดวงตาของฟีบี้นั้นเป็นประกาย และไม่ยอมละสายตาไปจากหานซั่วเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อหานซั่วสั่งให้บรรดาคนรับใช้ออกไป และพาพวกเขาเข้าไปยังห้องรับแขกด้านในด้วยตนเอง พร้อมกับฟีบี้ที่เริ่มทักท้วงด้วยความขุ่นเคือง
“เจ้าเป็นผู้ชายแบบไหนกัน กลับมาถึงนครออซเซ็นแล้วยังไม่ยอมมาหาข้าอีก หรือเจ้ามีความสุขอยู่ที่นครเบรทเทลจนลืมข้าคนนี้ไปแล้ว?”
ระหว่างทาง หานซั่วยังคงสับสนไม่หาย เฝ้าคิดถึงแต่สิ่งที่อูห์เทร็ดพูดกับเขา และไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอูห์เทร็ด ถึงได้ยื่นข้อเสนอแปลก ๆ อะไรแบบนั้นออกมา
เมื่อเห็นว่าฟีบี้กำลังเคือง เขาจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นและตอบออกไป
“เจ้านี่น้า… ในบรรดาคนที่ข้าจะหลงลืมไปทั้งหมด ข้าไม่มีวันลืมเจ้าลงหรอก เจ้าน่าจะรู้ดีที่สุดนี่นา ว่าเมื่อไหร่ตามที่ข้าได้ของอะไรดี ๆ กลับมา คนแรกที่ข้าจะคิดถึงก็มีแต่เจ้า ไม่งั้นดาบดาราพรายจะมาถึงมือเจ้ารวดเร็วอย่างนั้นได้ยังไงกัน”
เมื่อได้ยินคำตอบของหานซั่ว ท่าทีงดงามของฟีบี้ก็เริ่มร่าเริงขึ้น แม้แต่น้ำเสียงของเธอก็นุ่มนวลขึ้นเช่นกัน ก่อนจะถามหานซั่วอย่างอ่อนโยน
“ถ้าอย่างนั้น มัวไปทำเรื่องร้ายกาจอะไรอยู่อีกล่ะ ทั้ง ๆ ที่กลับมาถึงนครออซเซ็นสักพักแล้ว ข้าแวะมาหาตั้งหลายครั้ง แต่พ่อบ้านบอกว่าเจ้าไม่อยู่ที่คฤหาสน์ตลอดเลย”
“ก็เพราะข้าต้องไปจัดการธุระสำคัญก่อนน่ะสิ ส่วนมากข้าก็ใช้เวลาอยู่ที่ศูนย์บัญชาการองครักษ์ชุดดำเพื่อเข้าร่วมการประชุมตั้งหลายเรื่อง แล้วข้าก็เพิ่งกลับจากพระราชวังมานี่เอง ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ข้าก็ไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนเลยนะ”
หานซั่วอธิบายกับฟีบี้
“เอาล่ะ ๆ เจ้าสองคนค่อยไปคุยกันหลังจากที่ข้าไปแล้วเถอะ”
ลอว์เรนซ์หยอกล้อก่อนจะมองไปที่หานซั่วและเอ่ยปากถาม
“ไบรอัน เจ้าเพิ่งกลับมาจากพระราชวัง เสด็จพ่อคุยอะไรกับเจ้าบ้างเหรอ?”
เมื่อลอว์เรนซ์พูดขึ้น ฟีบี้ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่าหลังจากที่ลอว์เรนซ์จากไปแล้ว เธอคงจะได้มีช่วงเวลาที่แสนวิเศษกับหานซั่วอีก เธอจึงนิ่งเงียบไปทันทีพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อ
หานซั่วรู้ดีว่าลอว์เรนซ์กำลังวิตกกังวลเรื่องอะไร เมื่อนึกถึงข้อตกลงระหว่างเขากับองค์จักรพรรดิ เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยกับเรื่องนั้นอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความลำบากใจและส่ายศรีษะ
“ลอว์เรนซ์ ข้าให้สัญญากับองค์จักรพรรดิว่าจะไม่บอกคนอื่นน่ะ องค์จักรพรรดิย้ำนักย้ำหนากับข้าก่อนจะออกมา ว่าไม่ให้บอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องที่คุยกัน”
ลอว์เรนซ์มีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นและวิตกกังวลขึ้นมาทันที เขาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะถาม
“ถ้าอย่าง เจ้าพอจะบอกข้าได้มั้ย ว่าเรื่องที่คุยนั้นเกี่ยวกับข้า และผลประโยชน์ของข้ารึเปล่า?”
—– จบตอนที่ 388 Part 1 —–