GM ไปต่างโลก - ตอนที่ 1
“ความสามารถล่ะ— ความสามารถเป็นยังไงบ้าง..?”
“ความแข็งแกร่ง…ต่ำกว่า…ปีศาจทั่วไป โอกาศรอดชีวิตต่ำมากครับ”
ท่ามกลางความงุนงง ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง… เสียงรุ่นพี่ ไม่ใช่สิ…….
เป็นเสียงของชายชรา
ผมได้ทำการตรวจสอบบริเวณรอบๆดู พบว่าพื้นดินแข็งและเย็นมาก
ถึงแม้ว่าผมจะออกกำลังกายเพื่อไม่ให้อ้วนก็เถอะ
แต่ตอนนี้ผมขยับร่างกายไม่ได้… สายตาของผมพร่ามัว และทั้งหมดที่ผมเห็นคือพื้นที่เป็นสีเทาและบริเวณที่มีแสงสลัวๆ
“อืม… ข้าอุส่าตั้งความหวังไว้สูงมากแท้ๆ… –แกออกไปก่อน–และเอาปลอกคอทาส—มาให้ข้าด้วย”
“รับทราบครับ!”
ความหวัง? พูดเรื่องอะไรกันน่ะ… ปลอกคอทาส? นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้ว ยังมีทาสอยู่อีกเหรอ?
จะยังไงก็ช่าง ผมยังไม่อยากตาย!
ผมจะไม่ตายด้วยเรื่องแบบนี้เด็ดขาด! ร..ร่างกายมันไม่ยอมขยับเลย..! ขยับสิ!…ขยับสักทีสิ!!
“บ้าอะไรเนี้ย?!”
ชายที่สวมผ้าคลุมและชายชราต่างกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ ชายชราสวมเสื้อคลุมสีแดงที่ดูหรูหรา สวมมงกุฏทองคำ และยังถือไม้เท้าดีบุกที่มีอัญมณีอยู่ตรงปลายด้วย เหมือนกับที่ผมเคยเห็นในนิยายเลย
“มันหมายความว่ายังไงกัน?!”
“ปลอกคออาจจะมันพังแล้วครับ ผมจะไปเปลี่ยนอันใหม่ให้ทันทีครับ!”
สติของผมค่อยๆ กลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะรีบมากเลย ถ้าขยับร่างกายได้ล่ะก็… ไม่ได้ มัน..ไม่ยอมขยับเลย
ผมเริ่มมองไปรอบๆ อีกครั้ง แหล่งกำเนิดแสงเพียงอย่างเดียวคือเทียนที่มุมทั้งสี่และบอกไม่ได้เลยว่าเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืนกันแน่
ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั่น ชายสวมผ้าคลุมก็นำปลอกคอใหม่มาให้ผม เขาพยายามจะสวมปลอกคออันใหม่ให้ผม แต่ปลอกคอใหม่ก็แตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“หมายความว่ายังไง ทำให้มันเป็นทาสไม่ได้?!”
“ผมเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่…ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความสามารถบางอย่างของเขานะครับ”
“ช่างเถอะ ตอนนี้โยนมันเข้าห้องขังไปก่อน”
“รับทราบครับ”
เมื่อผมได้ยินผมกลับพบว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องบ้าๆ บอๆ กันอยู่ เป็นเรื่องราวที่เหมือนกับหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนหรือนวนิยายเลยล่ะ
ผมถูกปลุกให้ตื่น ผมยังพูดหรือขยับตัวไม่ได้เลย แต่เมื่อมองดูชายชรา เขาดูไม่มีความสุขเลยและเอาไม้เท้าที่เขาถือมาตีที่หัวของผม
ผมขยับไม่ได้ เคลื่อนไหวไม่ได้เลย
“…ข้าให้เวลาแกหนึ่งสัปดาห์ ถ้าแกหาวิธีทำให้มันกลายเป็นทาสไม่ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ข้าจะฆ่ามันทิ้งเอง ตอนนี้รีบเอาไอ้ขยะนี่ไปเข้าคุกซะ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมตกใจตั้งแต่พ่อแม่ทุบตีผมตอนที่ยังเป็นเด็ก
เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมเห็นมือใครบางคนอยู่บนหัวของผม
เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่มีแสงสลัวๆ ผมเห็นแท่งเหล็กอยู่ข้างหน้าผม มันเป็นคุกของจริงเลยล่ะ
ถ้านี่เป็นภาพยนตร์หรือวิดีโอเกมล่ะก็ ผมคงจะตื่นเต้นที่ได้เห็นแบบนี้แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องจริงน่ะสิ ทั้งๆที่ผมกำลังจะได้กินราเม็งแล้ว แต่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน…?
โชคยังดีที่อย่างน้อยตอนนี้ ผมสามารถขยับร่างกายตัวเองได้แล้ว
บ้าเอ้ย.. ไอ้แก่นั่นทุบตีกันเบาๆ ไม่เป็นหรือยังไง..
ผมยืนขึ้นและมองไปรอบๆ เป็นเหมือนคุกที่รายล้อมไปด้วยหินเก่าๆ
ผมเรื่มสำรวจสิ่งต่างๆ และนึกถึงสิ่งที่ชายชราพูดอีกครั้ง
ชายชราบอกว่าผมมีความสามารถบางอย่าง… ผมไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไรกัน
ผมมองดูมือตัวเอง แต่มันเป็นเพียงแค่มือธรรมดา เป็นมือของผู้ชายธรรมดาที่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย
คราวนี้ผมพยายามมองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างบานเล็กเพียงบานเดียวที่เชื่อมต่อกับภายนอก ผมหวังว่ากรงเหล็กนี่มันจะหลุดออกมา แต่แน่นอนว่ามันไม่เป็นแบบนั้น
แต่ภาพที่ผมเห็นนั้นกลับทำให้ผมตกตะลึง
สิ่งที่ผมเห็นมันแตกต่างจากตึกที่ผมเคยเห็น มันเหมือนกับยุโรปยุคกลาง
ดูเหมือนกับฉากในหนัง และบนท้องฟ้าก็มีสัตว์ประหลาดเหมือนนกอินทรีตัวใหญ่… ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกเรียกว่ากริฟฟอน
ไกลออกไปคือทะเล ผมเห็นเรือขนาดใหญ่หลายลำในระยะไกล ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเรือรบที่ผมเห็นคือ Shiva Frigate Warship(คำอธิบายท้ายตอน).. ผมประทับใจมากที่ได้เห็นเรือจำนวนมากแบบนี้
มีเรือพาณิชย์บางลำจอดเทียบท่าอยู่ห่างจากเรือรบไม่มากนัก แม้แต่เรือที่ดูเหมือนกับเรือของโจรสลัดก็ยังจอดเทียบท่าอยู่เช่นกัน
แต่ผมก็ได้สงสัยอะไรบางอย่าง ผมจึงเอามือปิดตาเพื่อดูว่าทำไมสายตาของผมถึงได้ดีขึ้นมาก แม้ว่าแว่นตาของผมจะหายไป มันคงจะตกตอนที่ผมนอนก่อนหน้านี้ แต่เพราะเป็นแว่นตาที่ทำจากไทเทเนียม ผมจึงไม่กังวลว่ามันจะหักเลย
เป็นเรื่องดีที่สายตาของผมดีขึ้น แต่..ตอนนี้ผมต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อนที่จะครบหนึ่งสัปดาห์… หรือผมต้องหาวิธีกำจัดพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะ..ฆ่าผม ตอนนี้ผมแค่หวังว่าผมจะรู้ว่าที่นี่คือไหนกันกัน..
ผมหลับตาขณะนั่งลงบนพื้นและครุ่นคิด จากนั้นสิ่งที่ผมคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าผม
นี่คือหน้าจอผู้ดูแลระบบของ GM ซึ่งผมใช้ในที่ทำงานมาตลอด!
เมื่อผมลืมตา หน้าจอผู้ดูแลระบบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และเมื่อผมสัมผัสมัน ข้อมูลและหน้าจอต่างๆ ก็ได้ปรากฏขึ้น
“แผนที่….. อุปกรณ์…. สกิล…. เวทมนตร์….. ไอเท็ม มี…..หน้าจอการตั้งค่า …..อมตะ…. ซ่อนเร้น….”
ผมพบว่าการตั้งค่ามีเพียงแค่บัญชีข้อมูลตัวละครและบัญชี GM สำหรับการทดสอบเล่นและตรวจสอบบั๊กเท่านั้น ตอนนี้มีเพียง [Disable All Abnormalities] เท่านั้นที่เปิดใช้งานอยู่
ผมไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร แต่ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี
อย่างแรกสกิล คุณสามารถตั้งค่าสกิลตามที่คุณต้องการได้ แต่มีขีดจำกัดที่สิบ คุณอาจจะสามารถเพิ่มสกิลติดตัวหรือสกิลที่ต้องเรียกใช้งานให้กับตัวเองได้
ถัดไปคือเวทมนตร์ คุณสามารถใช้ทั้งหมดอีกครั้ง แต่… ตอนนี้เวทมนตร์ทั้งหมดกลับไม่สามารถทำงานได้ ไม่ใช่ว่าผมมีมานาไม่เพียงพอแต่ดูเหมือนว่าในคุกจะเป็นพื้นที่ห้ามใช้เวทมนตร์
ถึงแม้ว่าผมจะอยากใช้เวทย์เคลื่อนย้ายแต่ผมก็ไม่สามารถใช้ได้ ดูเหมือนว่าผมคงต้องรอจนกว่าผมจะออกไปจากที่นี่ได้ก่อนถึงจะใช้เวทมนตร์ได้
สิ่งต่อไปที่ผมสังเกตเห็นคืออุปกรณ์ ดูเหมือนว่าผมจะยังมีอุปกรณ์และไอเท็มที่ผมได้มาระหว่างการเล่นปกติ เมื่อผมลองเลือกดาบมิธริลในหน้าจออุปกรณ์ดู จู่ๆ ดาบมิธริลก็โผล่ออกมาจากอากาศ
ผมรีบจับมันทันที เกือยไปแล้ว…! ถ้าส่งเสียงดังล่ะก็ ยามก็จะรู้ตัวว่าผมทำอะไรบางอย่างอยู่
ถึงแม้ว่าผมจะมีดาบปลอมอยู่ที่บ้านก็เถอะ แต่ดาบจริงมันให้ความรู้สึกต่างกันมากๆเลย
ผมรีบหาทางเก็บดาบมิธริล และทันใดนั้นเองจู่ๆ มันก็หายไปอย่างง่ายดาย
ครั้งนี้ ผมลองหาแว่นตาที่ทำตกไว้ก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนมันจะอยู่ใน [Item Box] ล่ะ
แว่นสายตาโลหะผสมไททาเนียม: แว่นตาที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน และทนความร้อนได้ดีเยี่ยม ไม่ทราบวิธีการสร้าง
ความหายาก: R
ต่อไป ผมทดลองเก็บของหลายๆ อย่างในคุกดู แต่ปรากฏว่ามันไม่หายไป
อาจจะเป็นเพราะมันไม่ใช่ทรัพย์สินของผม ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา มียามเดินเข้ามาตรวจผม ผมจึงแกล้งหลับทันที
“ตื่นได้แล้ว! ได้เวลากินข้าวแล้ว!”
ยามเคาะที่ลูกกรงด้วยไม้ในมือของเขา และเสียงดังก้องกังวานไปทั่ว
ผมลุกขึ้นทำเหมือนว่าเสียงเคาะปลุกผมให้ตื่น
“ที่นี่มัน ที่ไหนกัน..?”
“คุกของอาณาจักรแกรนด์ฟางค์”
หลังจากเขาพูดจบ เขาก็ได้ยื่นของที่ดูเหมือนจะเป็นอาหารมาให้ผม หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินกลับไปโดยทันที
ฉันจะจำเรื่องนี้ไว้ ในหน้าจอผู้ดูแลมีนาฬิกาอยู่ ผมจึงหยิบแปรงและกระดาษมาจดไว้
ผมไม่เคยได้ยินชื่ออาณาจักรนี้มาก่อนเลย แม้แต่ในเกมก็ตาม… ช่างเถอะตอนนี้ผมต้องไปกินข้าวกันก่อน ผมหิวมากๆ เลย
ในที่สุด หลังจากที่ผมไม่ได้กินข้าวมานานแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเพียงขนมปังแข็งๆและซุปผักขมๆก็เถอะ… แม้รสชาติมันจะห่างไกลจากราเม็งมากๆ แต่ผมก็ได้ใช้เวลายามเย็นนี้ เพียงคนเดียวในห้องขังของผมยามพระอาทิตย์ตกดิน