Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 235
บทที่ 235
ความเข้ากันไม่ได้ของวิญญาณ
เจียงซิ่วทำหนังสือเดินทางและเงินหาย แม้ว่าหลงหยิงชิงจะไม่เกี่ยวกับการสูญเสียเงินของเขา ผู้ชายคนนี้ก็เป็นดาวแห่งความหายนะของเธอ โชคของเธอจะแย่ลงถ้าเธอไม่ส่งเขาออกไป ดังนั้นเธอจึงสามารถกัดฟันได้ด้วยความแต่เพียงเท่านั้น “ตามฉันมา!”
เจียงซิ่วติดตามเธอด้วยรอยยิ้มและส่งความคิดเห็นออกไปโดยไม่ตั้งใจ “ดูเหมือนว่าสมาชิกครอบครัวของเธอหลายคนอาศัยอยู่ที่นี่”
“ทำไมนายถึงสนใจเรื่องนี้?”
มันมาถึงขั้นตอนที่ผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถสนทนากับเขาได้ เว้นแต่เธอจะทะเลาะกับเขา เจียงซิ่วเองก็หยุดพูด และตามเธอไปยังห้องที่อยู่ลึกเข้าไปในปราสาท
ห้องพักให้ความรู้สึกราวกับอยู่ช่วงตอนยุโรปกลาง เธอมองไปรอบๆ จากนั้นก็ส่งเงิน 500 ยูโรให้กับเจียงซิ่ว “เอาหล่ะได้แล้ว จากนี้ไป ห้ามปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก”
นี่เป็นบางอย่างจริงๆ เธอให้เทพซิ่วของเราออกไป หลังจากให้เงินเพียง 500 ยูโร อย่างไรก็ตาม เจียงซิ่วก็ไม่สนใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว
เจียงซิ่วนำเงินมาแล้วก็หันหลังกลับ แม้ว่า 500 ยูโรจะไม่มากนัก แต่จำนวนเงินก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้ไป และไปถึงเมืองอโกลล์ได้ แต่หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว เจียงซิ่วก็หยุดและถามคำถาม “นี้เป็นสิ่งสุดท้ายแล้ว ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม?”
หลงหยิงชิงกอดอกตัวเองด้วยความใจร้อน “ถามมา”
“เธอเคยเจออะไรแปลกๆ ในช่วงวัยเด็กของตัวเองไหม? นอกจากนี้ ความเจ็บป่วยของเธอจะสงบลงเมื่อเธออาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้ใช่ไหม?”
หลงหยิงชิงมึนงงและตกใจอย่างถึงที่สุด เมื่อเธออายุสี่ขวบ เธอผ่านประสบการณ์ที่น่ากลัว ไข้ของเธอขึ้นสูง และแม้แต่หมอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทุกคนในตระกูลของเธอเชื่อว่าเธอจะต้องตายแน่นอน แต่ปู่ของเธอที่รักเธอมาก ได้พาเธอไปยุโรป เหมือนกับความบังเอิญที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเขาผ่านมาที่นี่และพักหนึ่งคืน เธอไม่ได้ร้องไห้หรือส่งเสียงดัง และความเจ็บป่วยของเธอก็เริ่มดีขึ้นมาก ดังนั้น ตระกูลหลงจึงซื้อสถานที่แห่งนี้ไว้ และหลงหยิงชิงก็ฟื้นตัวได้ไม่นานหลังจากนั้น
เธอรู้จักเรื่องนี้โดยญาติสนิทของเธอ!
“นายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”
เจียงซิ่วยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันสังเกตเห็นว่าจิตวิญญาณของเธอเข้ากับได้กับร่างกายของเธอไม่ได้มากนัก หากฉันไม่เดาผิด จิตวิญญาณของเธอเปลี่ยนไปเมื่อตอนเธอยังเด็ก การสลับวิญญาณจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเด็กไม่ได้ถูกหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ มันเลยเป็นไปได้ว่าวิญญาณที่หลงทางจะบุกรุกร่างกายของเธอเมื่อตอนที่เธอป่วยหนักหรือกำลังจะตาย เธอไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนิสัยตามธรรมชาติของเด็กๆ ที่เปลี่ยนไป หลังจากที่พวกเขาหายจากอาการป่วยหนักแล้ว? นั่นเป็นเพราะการสลับวิญญาณ”
หลงหยิงชิงเยาะเย้ยเขา “ถ้ามีคนมาสลับวิญญาณกับฉัน ทำไมฉันถึงไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้? หยุดพูดไร้สาระ”
“หลังจากวิญญาณเร่ร่อนบุกรุกเข้าร่างกายของเธอ เธอจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เธอเชื่อมาเสมอว่าตัวเองเป็นตัวเอง ถ้าฉันพูดถูก เธอคงจะจำอะไรก่อนที่เธอจะป่วยไม่ได้เลย”
“ตอนนั้นฉันเด็กเกินไป ฉันเลยจำไม่ได้”
“อย่าพยายามหลอกฉัน”
“ว้า ฉันถูกดูแคลนอีกแล้ว” เจียงซิ่วกล่าว
หากจิตวิญญาณของหลงหยิงชิงเปลี่ยนไปจริงๆ มันก็หมายความว่าวิญญาณของเด็กหญิงได้ตายไปนานแล้ว ปัจจุบันตอนนี้ของหลงหยิงชิงก็คือหลงหยิงชิงที่แท้จริง แต่มันก็เป็นมักจะมีความผิดพลาดสำหรับร่างกายเมื่อจิตวิญญาณของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาจะรู้สึกไม่สบายตัว หรือวิงเวียนศรีษะ ไม่ก็เจ็บหน้าอก เนื่องจากความเข้ากันไม่ได้โดยสมบูรณ์ระหว่างจิตวิญญาณและร่างกาย
“ออกไป!”
หลังจากเจียงซิ่วออกไป หลงหยิงชิงก็ตกตะลึง เธอมองไปที่กระจก และรู้สึกว่าเงาสะท้อนในกระจกกลายเป็นไม่คุ้นเคย ราวกับว่าเธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน
“ไอ้ชั่วนั้นต้องการให้ฉันตกใจ!”
หลงหยิงชิงเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนี้แน่ แต่เธอยังมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่าวิญญาณของเธอเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ไม่ว่าวิญญาณตอนที่เธออายุสี่ขวบจะตายไปแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่ก็อาจะเป็นไปได้ว่าผีจะเข้าสิงและยึดร่างกายของหลงหยิงชิงตั้งแต่นั้นมา
“บ๊ะ! นี้ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย หลงหยิงชิง”
ไอชั่ว นายจำเป็นต้องยุ่งกับความคิดของฉัน ก่อนที่นายจะออกไป?
อย่างไรก็ตาม หลงหยิงชิงจดจำตอนที่เธออ่านเกี่ยวกับความเป็นไปได้ได้ในหนังสือกรีกโบราณ ยิ่งไปกว่านั้น ปู่ของเธอไม่เคยอนุญาตให้เธอไปเยี่ยมชมอารามตั้งแต่วัยเด็กของเธอ โดยเฉพาะอารามในยุคยุโรปโบราณ
“มันเป็นไปไม่ได้แน่!”
เจียงซิ่วจริงๆ แล้วต้องการให้หลงหยิงชิงกลัวจริงๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องเกี่ยวกับความไม่เข้ากันระหว่างจิตวิญญาณและร่างกายของเธอนั้นเป็นเรื่องจริง จากหน้าซีดของเธอและริมฝีปากสีแดงสด อาจเป็นไปได้ว่าเธออาจถูกอาคมอีกทอดนึง สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าวิญญาณของเธอถูกปิดผนึกอยู่ แต่กลับกันมันถูกใช้เป็นเครื่องสังเวย
เมื่อหลงหยิงชิงกลับมาที่นี่แล้ว บางคนต้องใช้ทักษะแทรกวิญญาณเพื่อปฏิบัติรักษาเธอและได้รับความทุกข์ทราณแทนตัวเธอ มันเป็นเรื่องที่ถูกควร และวิธีการที่ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่เทพซิ่วก็คิดว่าค่อนข้างดี ดังนั้นมันจึงไม่ควรกลายเป็นแบบนี้
สิ่งที่น่าเศร้าก็คือบุคคลนั้นไม่ได้แยกส่วนวิญญาณที่ตายแล้วออกจากร่างกายของเธอ มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่งคือบุคคลนั้นไม่สามารถลบมันได้ แต่เนื่องจากบุคคลนั้นสามารถใช้ทักษะระดับสูงเช่นการแทรกวิญญาณเพื่อนำวิญาณเข้ามาแทนที่หลงหยิงชิงได้ ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะมีปัญหาหากกำจัดวิญญาณที่ตายไปแล้วออกจากร่างกายของเธอ ซึ่งนั้นก็เหลือความเป็นไปได้เดียว บุคคลนั้นทิ้งส่วนวิญญาณไปตายไปแล้วเพื่อต้องการใช้ร่างกายของหลงหยิงชิงเป็นสื่อกลางสังเวย และรวบรวมพลังชีวิตหรือพลังงานของเธอเพื่อบำรุงเลี้ยงตนเอง
อาหารกลางในโลกนี้ไม่มีฟรีๆ เหตุผลที่หลงหยิงชิงต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการถูกใช้เป็นเครื่องสังเวย
…
ฝนตกลงมาอย่างหนักบนทุ่งหญ้ารอบๆ ปราสาทหลวงอันกว้างใหญ่ ลมทำให้หญ้าพัดไปตามสายฝน มันเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของยุโรปแความกลัวและออร่าที่ลึกลับออกมาจากมัน เมื่อถึงเวลากลางคืน สภาพแวดล้อมรอบข้างก็ยิ่งกลายเป็นหนักอึ่ง
ในตอนสายของกลางดึก เจียงซิ่วรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงตะโกนแปลกๆ ซึ่งดูเหมือนสัตว์ร้าย แต่ก็เหมือนมนุษย์ในขณะที่กำลังฝัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถนอนหลับได้เลย
วันต่อมามีเมฆมาก และถึงแม้ฝนจะไม่ตกแต่มันก็ทำให้ผู้คนกังวลได้ พวกเขาไม่มีความสุขกับมัน เท่าทีพวกเขาเห็น ท้องฟ้าทั้งหมดดูเหมือนจะลดลงมาค่อนข้างต่ำ
เจียงซิ่วเปิดทีวีเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวต่างประเทศกำลังถูกออกอากาศในขณะนี้ อาคารสูงถูกไฟไหม้ในเมืองอโกลล์ และผู้ประกาศข่าวทีวีหญิงพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เจียงซิ่วไม่สามารถเข้าใจได้ เขามองดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตึระฟ้าในทีวี แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากไฟไหม้ ดูเหมือนว่ามันจะถูกตัดโดยบางสิ่งที่แหลมคม และส่งผลให้อาคารส่วนใหญ่ถูกตัดไปอย่างสมบูรณ์ในระดับความสูงเกือบ 30 ชั้น
กว่าสิบตารางเมตรของโครงสร้างอาคารถูกตัดออกในที่สูง…
“หืมม?”
คนใช้คนหนึ่งเคาะประตูจากนั้นก็เข้ามาด้านใน เขาดูเหมือนจะเป็นคนจีนและสามารถพูดภาษาจีนได้คล่องมาก “คุณครับ คุณผู้หญิงบอกให้ฉันมาถามคุณเรื่องการออกเดินทาง”
หึหึ เธอส่งคนมาไล่ฉันออกไป
เจียงซิ่วชี้ไปที่ผู้ประกาศข่าวในทีวีแล้วถาม “เธอกำลังพูดอะไร?”
“โอ้ นี่คือข่าวพิเศษของวันนี้ เธอกำลังพูดถึงสิ่งที่ซับซ้อนเช่นการล่มสลายของอวกาศหรือบางสิ่งบางอย่าง ส่วนของอาคารได้หายไปจากกาลอวกาศของเรา และปรากฏมิติที่สี่ของอวกาศ ปรากฏการณ์บางอย่างหรือบางสิ่งบางอย่าง… มันไร้สาระทั้งหมด เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่เป็นข้อพิสูจน์มัน มันก็จะต้องเป็นเรื่องหลอกลวงในการสร้างโฆษณา นั่นคือทั้งหมด”
เจียงซิ่วมองไปยังการตัดที่เรียบเนียน และปฏิกิริยาแรกของเขาคือมันเป็นผลมาจากการใช้ทักษะดาบหรือกระบี่ แต่ไม่มีใครในที่นี้สามารถใช้สิ่งนั้นได้
“คุณครับ คุณวางแผนที่จะออกไปเมื่อไหร่?”
“ตอนนี้!”
คนรับใช้เชื่อว่าเจียงซิวจะอยู่ที่นี่ต่อ แต่จริงๆแล้ว เจียงซิ่วก็รีบเร่งเช่นกัน แม้แต่อาหารเช้าก็ยังไม่พร้อมสำหรับเขาเมื่อตอนที่พวกเขาลงไป เป็นเจตนาที่ชัดเจน เธอต้องการให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุด
เขานั่งในรถและถูกพาไปที่ทางหลวง มีรถยนต์หลายคันที่ผ่านมาที่นี่และยังมีชาวต่างชาติที่ขับรถระดับสูงอยู่บาง หลังจากนั้นไม่นาน เจียงซิ่วก็โบกรถ และเขาสัญญากับคนขับว่าจะให้เงิน 100 ยูโรสำหรับการพาเขาไปที่อโกลล์ ชายคนนั้นยอมรับข้อเสนอ
หลังจากเดินทางสองชั่วโมง ในที่สุดเขาก็มาถึงอโกลล์เขาจึงโทรหาหวังซินตง และอธิบายสถานการณ์ให้เธอฟัง เธอกล่าว “สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าฉันอยู่กับนาย”
“พูดสิ่งสำคัญ”
“ฉันจะส่งคนไปที่สถานทูตอโกลล์ เพื่อที่จะได้เตรียมหนังสือเดินทางให้นายได้ คนจากตระกูลหวังจะไปรับนายหลังจากนั้น นายสามารถทำข้อตกลงได้เฉพาะหลังจากนั้น”
ค่อนข้างเร็ว บุคคลนั้นมาถึงหน้าเจียงซิ่ว ขณะที่ขับรถมา เขานำหนังสือเดินทางใหม่และวีซ่ามาให้เขา มันเป็นชายอายุ 40 ปี “คุณเจียง นี่คือภาพที่เรารวบรวมมา คนนี้กำลังขายสิ่งที่คุณต้องการ”
เจียงซิ่วหยิบมันมาแล้วก็มองไปที่มัน มันเป็นคนยุโรป และมันค่อนข้างท้าทายที่จะมองหาคนๆ คนเดียวในอโกลล์ ยิ่งไปกว่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ในกอลล์
“ไปที่อาคารมอนทากัว ที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้วันนี้…”
ชายคนนั้นตกตะลึง “ทำไมเราต้องไปที่นั่น?”
เจียงซิ่วไม่แสดงความสุภาพต่อเขาและส่งอ่อร่าเย็นไปยังเขา ชายผู้นั้นตระหนักได้ในทันทีว่าเขาพูดอะไรออกมางั้นแล้วจึงลดศีรษะลง เขาเปิดประตูให้เจียงซิ่ว หลังจากนั้นเขาก็ไปนั่งในที่คนขับ ล็อคเข็มขัดนิรภัยแล้วขับรถไปยังจุดหมายปลายทาง