Gate of God - ตอนที่ 502
ตอนที่ 502 เขากลับมาแล้ว!
เขาไม่กลัวคนเก่ง
เพราะบนโลกนี้มีคนเก่งมากมายอย่างไรก็ตามคนเก่งที่สามารถวางแผนการเช่นนี้ได้
”ข้าไม่ได้ปิดบังอะไรท่านข้าใช้เวลาค้นคว้าเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว ตอนนี้รู้สึกขยับขาไม่ได้ใช่ไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ถามด้วยความสนใจ
”เจ้า..” ไป่ ซิง ต้องการตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถีงแม้มันจะน่าอับอายก็ตามที
อย่างไรก็ตาม
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีบางอย่างมากระแทกหัวอย่างรุนแรง
เมื่อเขาหันกลับมา…
เขาก็เห็นกระบองเหล็กงออยู่ด้านหลัง
”ช่างเป็นหัวที่แข็งแกร่งมาก!”ชายคนนั้นมองไปที่ ไป่ ซิง ก่อนจะหันมามองกระบองด้วยความตกใจ
”…” ไป่ ซิง หันไปมองคนที่มีดวงตาปีศาจสีแดงอยู่บนหน้าผาก เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครลอบโจมตีเขาจากด้านหลังได้
เป็นไปได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ ทำให้เขาเสียสมาธิ?
แต่ด้วยพลังของเขาก็ควรจะรับรู้ได้ถ้ามีคนเข้ามาใกล้
นอกจากนี้…
ทำไมเขาถึงถูกเอากระบองเหล็กฟาดหัว?
ชายคนั้นคิดว่าเขาจะสลบไปเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรือ?ไร้เดียงสาจริงๆ…
ไป่ซิง พบว่ามีบางอย่างแปลกไปเล็กน้อย ราวกับหัวของเขาถูกทิ่มด้วยเข็มเล็กๆไปทั่ว
มันรุนแรงมากจนเขาเริ่มหัวหมุน
”ตึง!”ก่อนที่จะเขาจะสลบลงไปกับพื้น
ไม่!
เขาไม่ได้วางยาพิษ…เขาไม่ได้ทำแค่วางยาพิษ…
ฮ่าฮ่านี้ต้องเป็นเรื่องที่ข้าเอาไปอวดได้ทั้งชีวิตแน่นอน!ข้าได้ฟาดหัวของหัวหน้าดินแดนปีศาจ!” ซู จิว ไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นของตัวเองได้
”งั้นการมาเที่ยวเล่นที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกใช่ไหม?”ฟางเจิ้งจือ ตอบอย่างใจเย็น
”เอ่อ… ” ซู จิว ตัวแข็งค้าง
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา…
ที่จุดสูงสุดของเมืองเงาเลือดมีชายเก้าคนสวยชุดเกราะยืนรออยู่ที่ทางเข้าวังทมิฬ
มันเก่าแก่อย่างเห็นได้ชัด
มีเสาที่คอยรองรับน้ำหนักของวังอยู่จำนวนมากแต่ละเสาถูกยืนล้อมรอบด้วยเหล่าทหารปีศาจ
ไม่นานทหารปีศาจกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมา
”นายน้อยเชิญท่านเข้าไป!่
”รับทราบ!”ชายทั้งเก้าคนพยักหน้าและเข้าไปในวัง
พวกเขาเดินไปถึงห้องห้องหนึ่งก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
มีหญิงสาวนางหนึ่งอยู่กลางห้องนางสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ผมของนางยาวจนถึงเอว
นางไม่เคลื่อนไหวนางมองออกไปข้างนอก มองดูดวงอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆขึ้นมา นางถือกระดาษสีเหลืองอยู่ในมือ
มันมีขนาดเล็กมาก
มีคำไม่กี่คำบนนั้น
มันเป็นเพียงประโยคเดียว
”กินอะไรมาแล้วหรือยัง?”
ไม่มีคำอื่นๆ บนกระดาษแผ่นนั้น ไม่มีจุดบ่งบอกว่าผู้เขียนเป็นใคร
หญิงสาวคนนี้คือหยุน ชิงวู
ในฐานะนายน้อยของเหล่าปีศาจนางมีเรื่องมากมายที่จะต้องทำกระดาษชิ้นนี้ไม่ควรมาอยู่ในมือของนาง
ถึงกระนั้นมันก็ถูกส่งต่อมาจากทหารจนถึงมือนาง
เหตุผลนั้นง่ายมาก
นี่คือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านของไป่ซิง
”ยินดีที่ได้พบนายน้อย!”ชายทั้งเก้าคนคุกเข่าลง
”อืม”หยุน ชิงวู พยักหน้าก่อนจะมองไปยังกระดาษชิ้นเล็กในมือ
”นายน้อยเกี่ยวกับเรื่องนั้น… ”
”นายน้อยท่านมีอะไรงั้นหรือ?”
”ไม่มีใครในดินแดนภูเขาทางใต้ที่สามารถลอบเข้ามาในเมืองเงาเลือดและลักพาตัวไป่ ซิง ไปได้ มีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรเซี่ย… ”
ชายทั้งเก้าคนรอให้หยุน ชิงวู ตัดสินใจ
ข่าวเรื่องที่หนึ่งในหัวหน้าดินแดนได้ถูกลักพาตัวไปจากเมืองเงาเลือดได้ทำให้ดินแดนปีศาจสั่นสะท้าน
ที่สำคัญที่สุดคือ…
สิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมากคือ..
คนที่ลงมือนั้นลงมือตอนกลางวันแสกๆโดยไม่มีสัญญานเตือนใดๆเมืองเงาเลือดนั้นไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด!
”เขากลับมาหลังจากหายไปกว่าปีหนึ่ง!”หยุน ชิงวู พึงพัมกับตัวเองเมินต่อคำถามของปีศาจทั้งเก้า
”เขา?”นายน้อยท่านหมายถึงใคร?” หนึ่งในนั้นถามขึ้นมาด้วยความสับสน
เพราะทุกคนได้เห็นข้อความแล้วมันไม่ได้ระบุไว้ว่าใครเขียน
ถ้าไม่ใช่เพราะมันอยู่ที่บ้านของไป่ซิง…
พวกเขาคงโยนมันทั้งไปทันที
”ใครบางคนที่หายตัวไปนานกว่าหนึ่งปี”หยุน ชิงวู ตอบออกมาอย่างใจเย็น
”หายไปนานกว่าหนึ่งปี!”
พวกเขายังคงมองหน้ากันด้วยความสับสน
”นายน้อยท่านพูดถึง ฟาง เจิ้งจือ?”
”ตลกมาก!ไมมีทางเป็นไปได้! ฟาง เจิ้งจือ อาจจะหายตัวไปนาน แต่เขาก็เป็นเพียงคนพิการ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งอาณาจักรเซี่ยและแดนใต้ต่างไล่ล่าตัวเขา เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้!”
”อืมบางที่อาณาจักรเซี่ยอาจจะประหาร ฟาง เจิ้งจือ ไปแล้วก็ได้ แต่ไม่ได้ประกาศข่าวออกมา!”
พวกเขาต่างเดาไปต่างๆนาๆ
อย่างไรก็ตาม
หยุนชิงวู ไม่ได้ตอบ นางรู้ว่าต่อให้นางพูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ
จึงไม่มีความหมายที่จะพูดออกไป
”หยิงเฟิง”
”ขอรับ!”ชายคนหนึ่งเก้าเท้าออกมา เขาทั้งผอมบางและดูถ่อมตน
อย่างไรก็ตามเมื่อชายคนนี้ก้าวไปข้างหน้าคนที่อยู่รอบข้างต่างถอยหลังไปอัตโนมัติทันที
เป็นเพราะว่า…
นี่คือหยิง เฟิง
เขาเป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของดินแดนปีศาจทมิฬเขาเป็นน้องชายของ หยิง ซาน ละถูกแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าหลังจากคุยกับ หยุน ชิงวู ไม่กี่ประโยค
เพียงหนึ่งปีต่อมาเขาเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าดินแดน
แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดคือดินแดนปีศาจทมิฬได้กลืนกินดินแดนปีศาจดวงดาวไปเป็นที่เรียบร้อยจากดินแดนที่อ่อนแอที่สุดจึงกลายเป็นแข็งแกร่งที่สุดไปในทันที
ไม่มีใครรู้ว่าหยิง เฟิง ทำได้ยังไง
แต่ความจริงก็คือ…
เขาทำไปโดยที่ไม่ได้ถามอะไรหยุน ชิงวู สักคำ
”ใช่ข้าต้องการเดินทางไปอาณาจักรเซี่ย เตรียมการให้ข้าเท่าที่จำเป็น” หยุน ชิงวู ตอบกลับอย่างใจเย็น
”นายน้อยต้องการไปอาณาจักรเซี่ยงั้นเหรอ?!”
”ไม่ได้จะไปไม่ได้นะ! นายน้อย อาณาจักรเซี่ยรู้แล้วว่าท่านเป็นใคร! ท่านรู้ไหมว่ามันเสี่ยงแค่ไหน?”
”ใช่แล้วเรื่องนั้นสำคัญมาก นายน้อย ท่านห้ามไปเด็ดขาด ข้าคิดว่าเราควรไปถามเรื่องนี้กับเจ้าปีศาจ… ”
พวกเขาตกใจกับคำสั่งของหยุน ชิงวู
”พวกเจ้าคิดว่าข้าหยิง เฟิง มีพลังไม่เพียงพอจะอารักขานายน้อยงั้นหรือ?”เสียงของ หยิง เฟิง ดังออกมา
ทันใดนั้น…
ท่าทีของชายทั้งแปดคนก็เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตามไม่มีใครก้าวไปข้างหน้าเพื่อโต้แย้งเขา
”ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ข้าขอสาบานว่านายน้อยจะปลอดภัย นายน้อย พวกเราจะไปกันเมื่อไร?”
”พรุ่งนี้”
”พรุ่งนี้?รับทราบ ข้าจะเตรียมการทันที!”่
…
…
ห้าวันต่อมา… ในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง …
สายลมยังคงพัดรุนแรงอย่างต่อเนื่องกลิ่นคาวเลือดของสงครามได้หายไปหมดแล้ว
ทุ่งหญ้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบถิ่นฐานวานรน้ำแข็งเมื่อดอกไม้เบ่งบาน กลิ่นหอมของมันกระจายไปทั่วบริเวณ
แน่นอนว่าไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เหลืออยู่…
มันอาจจะดูเกินจริง
แต่…
ยังมีดาบอยู่บนหน้าผามันปักลึกลงไปในพื้นดินและถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
แสงอาทิตย์สาดส่องบนผิวน้ำแข็งแต่ก็ไม่มีท่าทีจะละลาย
มันเป็นภาพที่แปลกมาก
มีคนแปลกหน้ายืนอยู่ข้างๆมันร่างที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงินชายเสื้อของเขาพริ้วไหวไปตามสายลม
สำหรับผู้คนแดนใต้…
พวกเขาเคยชินที่เห็นดาบบนหน้าผา
ในปีที่ผ่านมาทหารหลายคนมาหาดาบเล่มนี้ …
พวกเขาพยายามดึงมันขึ้นจากพื้น…
อย่างไรก็ตาม…
ดาบไม่มีท่าทีจะขยับแม้แต่น้อยมันยังคงปักลึกลงไปในผืนดิน และถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
ราวกับดาบกำลังพูดว่า”ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาแตะต้อง!”
แน่นอนว่านักรบดินแดนภูเขาทางใต้ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นพวกเขาแค่สงสัยว่าทำไมน้ำแข็งโดยรอบถึงไม่ยอมละลาย
ดาบชั้นเลิศ!
นั่นเป็นข้อสรุปเดียวที่พวกเขาคิด
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มลืมเรื่องดาบหนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้คนมากมายได้พยายาม และก็ล้มเลิกไป
แต่ตอนนี้…
มีชายคนหนึ่งบนหน้าผา
เขามาที่นี่เพื่อดาบเขายื่นมือไปจับดาบที่ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
จากนั้นมีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น
น้ำแข็งเริ่มละลายมันระเหยขึ้นเป็นหมอกควันสีขาว
จากนั้นมือของเขาก็จับไปที่ด้าม
เขาดึงดาบขึ้นจากพื้น!
ดาบเปลี่ยนเป็นแสงสีม่วงและมาอยู่ในมือของเขา
”ช่างเป็นเวลาที่ยาวนานนัก”ร่างนั้นกระซิบขณะที่เขาจับด้ามดาบด้วยมือข้างหนึ่งแล้วลูบดาบด้วยมืออีกข้าง
”ฮืมม!”ดาบส่งเสียง
รู้สึกเหมือนดาบมีความสุขที่ได้เห็นชายคนนี้อย่างแท้จริงราวกับมังกรจำศีลที่ตื่นขึ้นมาเห็นดวงอาทิตย์ มันตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
”ข้าจะพาเจ้าไปชมวิวต่างๆพวกเราจะขึ้นไปที่สูงกว่านี้”
”ฮืมม!”ดาบส่งเสียง
…
ดินแดนภูเขาทางใต้…เมืองภูเขาเซียน ณ พระราชวัง
วานรน้ำแข็งหัวหน้าถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง เขาเดินผ่านยามเข้าไปถึงห้องบัลลังก์
”ฝ่าบาท!”วานรน้ำแข็งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์นางสวมชุดหนังสีขาว ผิวของนางส่องสว่างภายใต้แสงไฟ
ผมสีดำเงางามพาดอยู่บนไหล่
มงกุฎทองคำบนหัวของนางช่างงดงามมงกุฎที่มีอัญมณีแตกต่างกัน
นางคือฉาน ยู่
ราชินีแห่งดินแดนภูเขาทางใต้!
หลังจากได้ยินสิ่งที่วานรน้ำแข็งพูดนางก็คลี่สาส์นในมือออกและมองเขา
”ท่านลุงรีบร้อนอะไรหรือ?”
”ดาบดาบหายไปแล้ว!”วานรน้ำแข็งตอบอย่างกังวล
”ดาบ?ดาบอะไร?”ฉาน ยู่ สงสัยเล็กน้อย
”ดาบ… ที่ เฟิง ซู … มัน … มันหายไปแล้ว!ท่าทีของวานรน้ำแข็งดูกระวนกระวาย
”เจ้าพูดอะไรนะ?ดาบบนหน้าผา เฟิง ซู หายไปงั้นหรือ!”ท่าที่ของนางเปลี่ยนไป สาส์นในมือล่วงสู่พื้น
”ขอรับ!”วานรน้ำแข็งพยักหน้า
เขารู้ดีว่าทำไมองค์หญิงฉาน ยู่ ถึงตกใจ นอกจากนี้เขายังรู้อีกด้วยว่าดาบหายไปได้ยังไง
หนึ่งปีที่ผ่านมานักรบแดนใต้พยายามดึงดาบขึ้นหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่มีประโยชน์
ดาบนั้นกลายเป็นตราแห่งเกียรติยศ
ใครก็ตามที่สามารถนำมันออกมาจากพื้นได้ย่อมได้รับความเคารพจากคนรอบข้าง
อย่างไรก็ตาม
ดาบหายไปแล้ว
มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีนักรบคนไหนก้าวออกมาป่าวประกาศว่าเขาทำสำเร็จ
ดาบนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมายแห่งเกียรติยศอีกต่อไปมันบ่งบอกถึงเรื่องบางอย่างที่ได้เกิดขึ้น