Gate of God - ตอนที่ 500
ตอนที่ 500 เดินเล่น
…
เมืองเงาเลือดช่างเป็นชื่อที่เหมาะสมมาก มันได้ชื่อนี้เพราะรูปแบบเมือง
โดยทั่วไปเมืองจะมีประตูสี่ด้านและเชื่อโยงทั่วเมืองด้วยกำแพง
อย่างไรก็ตามเมืองนี้ต่างออกไป
มันเป็นป้อมปราการที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ใครก็ตามที่เห็นมันควรจะต้องพยายามหลีกเลี่ยง
แต่…
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนกำแพงเมืองเขาดูแตกต่างจากที่นี่เป็นอย่างมาก เขาสวมชุดแขนยาวสีน้ำเงิน
เขาดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
ความเป็นจริงใครเห็นที่นี่ย่อมรู้สึกตกตะลึงทั้งนั้นป้อมปราการโบราณนี้ครอบคลุ่มทั่วทั้งภูเขา
เป็นวงกลม…
กำแพงตั้งอยู่บริเวณตีนเขาล้อมรอบทั้งภูเขาและเมืองเอาไว้
ถัดออกไปประมาณหนึ่งกิโลมีกำแพงอีกอันล้อมอยู่ อย่างไรก็ตามกำแพงรอบนอกสูงกว่ากำแพงด้านในเกือบสองเมตร
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด…
ยังมีกำแพงถัดออกมาอีกเรื่อยๆแต่ละชั้นที่ห่างออกไป กำแพงจะเพิ่มความสูงขึ้นสองเมตร
”ยิ่งใหญ่มาก!”เด็กหนุ่มคนนั้นมองพร้อมอ้าปากค้าง
ไม่แปลกใจที่เรียกเมืองนี้ว่าเมืองเงาเลือด
เขามองไปยังธงสีแดงที่อยู่ตรงกลางต้นไม้แต่ละต้นเขารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลสีแดง
แน่นอนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเขายืนอยู่บนแผนเป็น
มันทอดยาวจากกำแพงชั้นนอกสุดมาถึงชั้นใจกลาง
เขาสับสนเล็กน้อยเมื่อมองไปยังรอยนี้
มันได้รับการซ่อมแซมอย่างชัดเจนแต่ …
เหมือนทำเสร็จแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้นมันไม่ยากที่จะซ่อมให้เสร็จ
แต่รอยแตกยังคงปรากฎให้เห็นอยู่
มันเป็นจุดดึงดูดความสนใจมาก
”คงเอาไว้เตือนใจสำหรับคนรุ่นใหม่…” เด็กหนุ่มคิดกับตัวเองเขาสามารถยืนยันบางสิ่งได้
คือเมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขามันไม่ได้สูงแต่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ มีประตูสี่บานที่ผนังชั้นนอกสุด
ชั้นที่สองก็มีสี่ประตู
อย่างไรก็ตาม
มันไม่ได้ตรงกับประตูในชั้นแรกมันทำให้คนที่จะเข้าเมืองเสียเวลามาก
มันไม่สะดวกอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามมันเป็นการป้องกันที่ยอดเยี่ยม!
การป้องกันเมืองนั้นมีสองส่วนอย่างแรกแบ่งแยกตามเผ่าพันธ์ุ เผ่าพันธุ์ที่ต่างกันจะเข้าประตูในทางที่ต่างกัน
แน่นอนว่าพวกเขาแบ่งแยกโดยชนชั้นด้วย
อย่างที่สองคือจะมีเวทมนต์ฝังอยู่ที่กำแพงกันผู้บุกรุก
มันทำให้การเข้าเมืองเป็นไปได้ยากไม่เพียงแต่ต้องทำตามกฏเท่านั้น ยังต้องผ่านทหารยามแต่ละประตูไปให้ได้ด้วย
ไม่น่าแปลกใจเลย…
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเข้าไปผ่านรอยแตก
ขณะที่เขากำลังคิดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกใจ
”หยุดหันมาช้าๆ!”
ทหารปีศาจตกใจมากที่เห็นเด็กหนุ่มอยู่บนกำแพงเพื่อชมทิวทัศน์
เขามาจากที่ไหน?มาเที่ยวเล่นงั้นรึ?
เขาไม่รู้กฏของเมืองเงาเลือดหรือ?
ทหารปีศาจจับหอกแน่นเขาไม่ได้โจมตีทันที เพราะชายผู้นั้นดูผ่อนคลายมาก ราวกับเขาอยู่บ้าน
มันทำให้พวกปีศาจระมัดระวังเป็นพิเศษ
ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็หันกลับมาด้วยความไม่พอใจ
ปีศาจคลายมือที่กำหอกแน่นทันที
เขาเห็นว่าที่หน้าผากของเด็กหนุ่มมีดวงตาปีศาจอยู่นั่นหมายความว่าเขาเป็นปีศาจอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม…
ดวงตาปีศาจของเขาแปลกมาก
เดี๋ยวก่อน…
สีม่วง… ดวงตาปีศาจสีม่วง?!
ทหารปีศาจตกตะลึงเขาอยู่ที่นี่มามากกว่าสิบปี และได้เจอเรื่องประหลาดมามากมาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเจอเรื่องที่ทำให้เขาอยากจะอาเจียนเป็นเลือดเท่าวันนี้มาก่อน
”ผู้บุกรกผู้บุกรุก! รีบจับตัวเขาซะ!” ทหารปีศาจพูดติดอ่าง เขารู้สึกไม่สบายใจที่เห็นผู้บุกรุก
เพราะว่าไม่มีดวงตาปีศาจสีม่วง
ดังนั้นผู้บุกรุกรายนี้…
เป็นเพียงแค่คนโง่เท่านั้น!
นั่นคือความคิดแรกที่ปรากฎในใจของเขาจากนั้นเขาก็พบว่าตัวของเขาหมุนติ้ว ราวกับเขาถูกโจมตีจากด้านหลัง
เขาหันหลังกลับไป
มีชายชุดดำยืนอยู่เขามีดวงตาปีศาจสีแดงอยู่บนหน้าผาก
ที่สำคัญคือเขาถือกระบองโลหะสีดำไว้ในมือ
”ชายคนนี้กล้าดียังไง … ถึงกล้าหลอกว่าเป็นปีศาจระดับจุติ… “ทหารปีศาจโกรธขึ้นมาทันที
”จิวเจ้านับอะไรอยู่?”เด็กหนุ่มส่ายหัว ขณะที่เขาหันหนีจากปีศาจ
”นายน้อยเขาคือคนที่สามของวันนี้แล้วนะพวกเราออกมาจากประตูทิศเหนือ ท่านต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”คนรับใช้ตอบกลับ
ในฐานะคนรับใช้ที่ต่ำต้อย…
ในสองปีที่ผ่านมาซู จิวมีความสุขกับชีวิต เขาเดินทางออกจากเมืองฮวายอัน ไปยังแม่น้ำแห่งความสัตย์
ตอนนี้…
เขากำลังติดตามนายน้อยของเขาที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่
เขาวาดดวงตาปีศาจสีแดงบนหน้าผากเพื่อหลอกตา
”ข้าดูสิ่งต่างๆด้านนอกจนเบื่อแล้วมันถึงเวลาที่พวกเราต้องเข้าไปข้างใน” เด็กหนุ่มหายใจแรงขณะหลับตา
”ตกลง”ซู จิว พยักหน้าและไม่ได้แปลกใจกับคำพูดของเขา ริมฝีปากของเขากระตุกราวกับอยากพูดอะไรบางอย่าง
”มีที่อื่นอีกไหม?”เด็กหนุ่มพูด
”นายน้อยเท่าที่ข้ารู้ไม่มีปีศาจที่มีดวงตาปีศาจสีม่วง… ”
”เจ้าคิดว่าสีนั้นเป็นปัญหางั้นหรือ””
”ไม่…ไม่เลยขอรับ!”
”ข้าไม่คิดว่าอย่างนั้นเจ้าไม่คิดว่าสีนี้เด่นกว่าสีอื่นงั้นรึ?”เด็กหนุ่มพยักหน้า
”ขอรับ…มันดึงดูดความสนใจทีเดียว … ” ซู จิว ผงกศีรษะขณะที่ปากของเขากระตุก เขาไม่กล้าที่จะพูดจนจบประโยค
ดึงดูดความสนใจ!
ทุกที่ที่พวกเขาไปพวกเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นสายสืบและผู้บุกรุก! นี่คือเมืองเงาเลือด!
พวกปีศาจไม่คิดจะสนใจ!
”เอาล่ะเข้าไปข้างในกัน” เด็กหนุ่มเริ่มก้าวเดินออกไป
”ขอรับนายน้อย!”ซูจิว เดินตามหลงเด็กหนุ่ม
…
…
ไป่ซิง ไม่คิดว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ต่อหลังจบสงคราม อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่เขากลับมาจากสงครามครั้งนั้น
เขายังคงเป็นหัวหน้าดินแดนดวงดาว
นอกจากนี้หยุน ชิงวู ยังเพิ่มรองหัวหน้าดินแดนให้เขาอีกสองสามคน
ไป่ซิง ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้ แต่หหลังจากผ่านไปหนึ่งปีตำแหน่งหัวหน้าดินแดนของเขายังคงเดิม
ในฐานะหนึ่งในหัวหน้าดินแดนปีศาจจุดยืนของเขาอยู่สูงกว่าปีศาจทั่วไป
นอกจากการฝึกทหารไป่ ซิง ใช้เวลาส่วนมากอยู่ในบ้านของเขา เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง ชมสวน นั่งดูสิ่งรอบๆตัว
เขาไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไร..
แต่เขายังมีชีวิตที่มั่นคง
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก
เด็กหนุ่มคนหนึ่งทำลายกิจวัตรประจำวันของเขา
เขาเป็นเด็กหนุ่มในชุดสีน้ำเงินไป่ ซิง คุ้นเคยกับชุดนี้มาก เขาเคยฝันถึงมันเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม…
เขาไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะมาปรากฎตัวอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกลางวันเช่นนี้
นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
ไป่ซิง ไม่สามารถเข้าใจได้
เมืองเงาเลือดถูกบุกรุกงั้นหรือ?
ถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรแล้วเด็กหนุ่มคนนี้เดินเข้ามาถึงหน้าบ้านของเขาได้ยังไง!
ที่พักของเขาอยู่ภายในกำแพงชั้นที่สามของเมืองเงาเลือด
แม้อย่างนั้น…
คนภายนอกไม่ควรจะเข้ามาถึงนี่ได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือไอ้เด็กนี่นี้มีตาปีศาจอยู่บนหน้าผากของเขาดวงตาปีศาจนี้เป็นสีม่วง
อะไรกันวะเนี่ย?!
ไป่ซิง คิดว่าเขากำลังเจอผี เขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้สามารถรอดพ้นจากการตรวจจับมาได้ตลอดปีที่ผ่านมา
มันราวกับว่าเขาหายไปจากโลกนี้
เด็กหนุ่มที่หายตัวไปนานกว่าหนึ่งปีจู่ๆมาปรากฎตัวที่หน้าบ้านของเขาได้ยังไง นอกจากนี้ดวงตาปีศาจสีม่วงนั้นคืออะไร?
ไป่ซิง ขยี้ตาตัวเอง …
เมื่อเขาลืมตาอีกครั้งเขาก็ตระหนักว่าเด็กหนุ่มนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม ที่เลวร้ายกว่านั้นคือเด็กนั้นกำลังอมยิ้ม
”ฟางเจิ้งจือ?!” หาได้ยากมากที่ ไป่ ซิง จะตกใจ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้เมื่อเห็นเด็กหนุ่มนี้
”อืมข้าเอง” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างใจเย็น
”เจ้า…ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในเมืองเงาเลือด? และทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในบ้านของข้า”ไป่ ซิง รู้ว่านั่นเป็นคำถามที่ดูโง่มาก…
เมื่อมนุษย์เข้ามาในบ้านของตัวเองยามควรจะจับตัวพวกเขาเอาไว้
อย่างไรก็ตาม
มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น…
เขายังคงสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟาง เจิ้งจือ ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
แม้ว่ามันจะเป็นตัวเลือกที่อันตราย…
เขาตัดสินใจสละเวลาคุยกับฟาง เจิ้งจือ
”จะเชื่อข้าไหมล่ะถ้าข้าบอกว่าแค่มาเที่ยวเล่นเฉยๆ?” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ ก่อนจะนั่งลง
”เที่ยวเล่นที่นี่เนี่นนะ?” ดวงตาของ ไป่ ซิง เผยความไม่ไว้ใจออกมา
”ข้าอยากไปที่กลางเมืองเงาเลือดอย่างไรก็ตาม เมื่อข้าเห็นป้ายบอกทางเขียนว่า “บ้านไป่ ซิง” ข้าจึงตัดสินใจเดินเข้ามาทันที สงสัยว่าที่นี่เป็นบ้านของหัวหน้าดินแดนไป่ ซิง หรือเปล่า ข้าเลยลองมาดูสักหน่อย” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ
”อืมข้าเข้าใจแล้ว” ไป่ ซิง พยักหน้า เขาบอกได้เลยว่า ฟาง เจิ้งจือ เดินผ่านประตูเข้ามา
อย่างไรก็ตาม
เขาทำได้ยังไง?ยามบ้านเขาตามบอดงั้นรึ? พวกเขาไม่เห็นดวงตาปีศาจสีม่วงที่หน้าผากเขาหรือ